พรรคเพื่อไทย-19 มิ.ย.- “ปานปรีย์” ชี้รัฐบาลรักษาการไม่ควรจัดประชุมถึงสถานการณ์เมียนมา ควรรอรัฐบาลใหม่ กังวลอาเซียนถูกมองว่าแตกแยก
นายปานปรีย์ พหิทธานุกร ที่ปรึกษาคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่กระทรวงการต่างประเทศ เชิญรัฐมนตรีต่างประเทศของอาเซียนร่วมประชุมอย่างไม่เป็นทางการ เพื่อหารือถึงสถานการณ์ของเมียนมา โดยจัดขึ้นในวันนี้ (19 มิ.ย.) ว่า การจัดประชุมดังกล่าวไม่ควรเกิดขึ้น ต้องรอให้รัฐบาลใหม่ที่กำลังจัดตั้ง ได้ดำเนินการนโยบายการต่างประเทศ เพราะสถานะของรัฐบาลในปัจจุบันเป็นรัฐบาลรักษาการ อีกทั้งการจัดประชุมกะทันหันเกินไป ออกหนังสือเชิญประเทศสมาชิกก่อนการจัดประชุมเพียง 5 วันเท่านั้น และหากจำเป็นต้องจัดประชุมไม่เป็นทางการ ต้องมีเหตุการณ์ที่จะกระทบจนเกิดความเสียหายรุนแรงต่อประเทศไทย เช่น มีการรุกล้ำเข้ามาในราชอาณาจักร เกิดสงคราม หรือเกิดปัญหาด้านความมั่นคงที่รุนแรง และกระทบต่ออธิปไตย เป็นต้น
“พรรคเพื่อไทย มองว่านโยบายการต่างประเทศ รัฐบาลใหม่จะให้ความสำคัญกับอาเซียนเป็นหลัก เพราะอาเซียนถือเป็นเวทีสำคัญในการแก้ไขปัญหาในระดับภูมิภาค กลุ่มอาเซียนเป็นที่ติดตามของชาวโลก จากการเติบโตทางเศรษฐกิจที่เข้มแข็ง จีดีพีอาเซียนอยู่ที่ 3.6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ และคาดว่าในปีนี้ จีดีพีอาเซียนจะเติบโต 5% จากการคาดการณ์ของธนาคารพัฒนาเอเชีย มีประชากรประมาณ 700 ล้านคน การค้า การลงทุน จะเลี้ยวมาอาเซียน ดังนั้น ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน (Unity) จึงมีความสำคัญสูงสุด ซึ่งเราจะผลักดันให้ประเทศไทยและอาเซียน ยืนอยู่ในตำแหน่งที่สำคัญและเหมาะสมในเวทีโลก” นายปานปรีย์ กล่าว
นายปานปรีย์ กล่าวอีกว่า เป็นที่น่าสังเกตว่า รัฐบาลที่นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นเจ้าภาพจัดประชุมอย่างไม่เป็นทางการระหว่างอาเซียน-เมียนมา มาแล้ว 2 ครั้ง ซึ่งไม่มีความคืบหน้า ครั้งนี้จัดเป็นครั้งที่ 3 จึงถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ โดยในความรู้สึกส่วนตัวมองว่าเป็นเรื่องผิดปกติ เพราะการประชุมข้ามประเทศ ต้องใช้ระยะเวลาในการเตรียมงานนานพอสมควร และต้องมีความมั่นใจในระดับหนึ่งว่า ผู้นำระดับสูงของแต่ละประเทศจะตอบรับเข้าร่วมประชุม ซึ่งการทำงานในลักษณะดังกล่าว โดยหลักควรหารือและขอความเห็นจากอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นประธานอาเซียนก่อน แต่พบว่า อินโดนีเซียปฏิเสธการเข้าประชุม รวมถึงสิงคโปร์ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม ต่างปฏิเสธที่จะเข้าร่วม เพราะการประชุมจัดขึ้นอย่างกะทันหัน ทั้งที่ในเวลานี้เราต้องการความเข้มแข็งของอาเซียน เพราะถือเป็นภูมิภาคที่มีความสำคัญของโลก
“การจัดการประชุมอย่างไม่เป็นทางการระหว่างอาเซียน-เมียนมา ยังไม่จำเป็นต้องทำในตอนนี้ ข่าวเผยแพร่ออกไปทั่วโลก ผู้นำหลายประเทศไม่มา อาจทำให้ชาวโลกมองว่า อาเซียนเห็นไม่ตรงกัน และอาจถูกมองไปได้ว่า อาเซียนมีความเห็นที่แตกแยกในประเด็นของเมียนมา ไม่ตรงกับกับฉันทามติที่เคยมีมาก่อนหน้านี้ได้” นายปานปรีย์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย