นักวิชาการมองการเมืองหลังเลือกตั้งสุดวุ่นวาย

กทม. 16 มิ.ย.- “เจษฎ์” ชี้รัฐบาลตั้งช้าไม่แปลก ยกต่างประเทศใช้เวลากว่า 400 วันถึงสำเร็จ มอง ส.ว. 250 เสียง ตัวขัดขวาง เชื่อหากไม่มี ส.ว. เพื่อไทย ไม่มีวันจับมือ ก้าวไกล ด้าน “สิริพรรณ” ห่วงถ่ายโอนอำนาจ หวั่นไม่สันติ ทำประเทศไทยเผชิญหน้าฝนที่ร้อนระอุ


สมาคมแห่งสถาบันพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้ง จัดเสวนาวิชาการ เรื่อง ทิศทางการเมืองไทยภายหลังการเลือกตั้ง ปี 2566 โดยมี ศ.ดร.สิริพรรณ นกสวน สวัสดี อาจารย์ประจำภาควิชาการปกครอง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ รศ.ดร.เจษฎ์ โทณะวณิพก นักวิชาการทางกฎหมาย ร่วมเสวนา

รศ.ดร.เจษฎ์ มองว่าหลังเลือกตั้งจะมีการนำกฎหมายมาใช้เยอะแยะ ที่น่าเห็นใจ เพราะว่ามีการเปลี่ยนกฎหมาย ไปเรื่อยๆ รวมถึงตนเองก็ยัง งง พอเปลี่ยนบ่อย ถึงเวลาใช้จริง ไม่ได้ใช้ตัวแม่บทกฎหมาย แต่มีกลไกที่มากำกับในสิ่งที่เราไม่ได้เป็นคนสร้าง เช่น ระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุข ต้องยอมรับว่า ภายหลัง 2475 มีระบอบดังกล่าวมานานแล้ว ไม่ใช่เราเป็นคนสร้างขึ้นมา ทั้งนี้การเปลี่ยนรัฐธรรมนูญ หรือกฎหมายบ่อย ๆ ไม่ดี อะไรที่ดีอยู่แล้วควรเก็บไว้ อย่าไปแก้ ส่วนไหนเป็นปัญหาก็หยิบมาแก้ไข ส่วนที่ไม่มี แต่เกิดการเปลี่ยนแปลง ก็มีการทำได้ภายหลัง


นายเจษฎ์ ยังกล่าวอีกว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างรอการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งไม่ต้องแปลกใจที่อาจจะล่าช้า เพราะอย่างประเทศเยอรมัน หรือเบลเยียม ยังใช้เวลาถึง 400 กว่าวัน เมื่อเทียบกันแล้ว การจัดตั้งรัฐบาลไทยจึงไม่ได้ล่าช้า แต่ที่เป็นปัญหาคือ แม้จะได้คะแนนเสียงเกินกึ่งหนึ่ง แต่สุดท้าย หากสภาล่าง ไม่ถึงครึ่งก็อยู่ลำบาก ท้ายที่สุดก็จะเกิดกลไกที่ตนมองว่า ไม่ควรเกิดขึ้นคือ การเข้ามารักษาความสงบแห่งชาติ มันจะทำให้บ้านเมืองลุกลามบานปลาย และจบปลายทางด้วยการรัฐประหาร ดึงพรรคพวกเข้ามาบริหาร

“ปัญหามากที่สุดในการจัดตั้งรัฐบาล คือ การมี ส.ว. 250 เสียง จะต้องคอยขัดว่า จะต้องให้ได้ 376 เสียง หากไม่มีเชื่อว่า พรรคเพื่อไทย ไม่มีวันจับมือกับพรรคก้าวไกลเด็ดขาด นี่คือ สิ่งที่อดีต คสช. ได้ทำไว้ เพื่อช่วยเสียงข้างน้อยให้จัดตั้งรัฐบาลได้ และถ้าจะมองถึงขนาดนี้ ก็มองให้ไกลกว่านี้ โดยการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจไปด้วยเลย จะได้ไม่ต้องมีปัญหา หรือจะให้ ส.ว. ร่วมโหวตกฎหมายด้วยเลย ย้ำว่า สิ่งที่ทำให้เกิดปัญหา คือ คสช.“ รศ.ดร.เจษฎ์ กล่าว

ด้าน ศ.ดร. สิริพรรณ มองว่า ทิศทางการเมืองไทยหลังเลือกตั้ง ที่เห็นชัดเจน คือบทบาทของโซเชียลมีเดีย กับการเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 14-15 พ.ค. พบข้อมูลว่า มีคนใช้โซเชียลมีเดีย อย่าง เฟซบุ๊ก อินสตาแกรม ไลน์ ทวิตเตอร์ ทั้งหมด 83 ล้านบัญชี และ 84% ของประชากรไทยมีบัญชีโซเชียล เท่ากับอีก 16% ไม่มีบัญชีโซเชียล ซึ่งอาจจะเป็นเด็ก หรือผู้ที่ไม่ได้สนใจการเมือง และสิ่งที่เห็นได้ชัดเป็นอันดับแรก คือการใช้ # เพื่อแสดงจุดยืนทางการเมือง และเชิญชวนให้คนไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง เป็นการกระตุ้นการมีส่วนร่วมทางการเมือง ขณะเดียวกัน พรรคก้าวไกลเองก็ใช้โซเชียลมีเดียในการกำหนดนโยบาย แต่สิ่งที่อยากจะพูด คือว่า ผลการใช้โซเชียลมีเดีย อีกด้านหนึ่ง คือ เป็นการสร้างความใกล้ชิด สนิทสนมมากขึ้นกับพรรคการเมือง


นอกจากนี้ ประเด็นต่อมา คือ ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในความเป็นชนบทของไทย แต่เดิมหากเราดูผลการเลือกตั้ง จะเห็นว่า พรรคก้าวไกล สามารถชนะทั้งในเมืองและพื้นที่ชนบท ดังนั้นไม่มีชนบทแบบเดิมอีกต่อไปแล้ว และเกิดคำถามว่า ทำไมคนส่วนใหญ่ ถึงย้ายขั้วไปเลือกพรรคก้าวไกล และโดยส่วนใหญ่ของผู้ที่ย้ายขั้วคือ ฝ่ายอนุรักษ์นิยม ซึ่งตนมองว่า เพราะสิ่งที่เขาต้องการ คือ การตอบคำถามในเชิงเศรษฐกิจ ประสิทธิภาพในการบริหาร

ศ.ดร. สิริพรรณ ยังพูดตอนหนึ่งถึงรัฐธรรมนูญว่า ความเป็นธรรมของประชาชน ไม่ใช่ดูว่า จะต้องไปดูหรือแก้มาตราไหน และไม่ใช่ให้การตีความไปอยู่ที่เฉพาะนักกฎหมายหรือนักรัฐศาสตร์ เพราะฟังนักกฎหมาย 10 คน ก็บอกความต้องการไม่ตรงกัน บางครั้งคนเดียวกัน พูดสองครั้งก็ไม่เหมือนกัน และถามว่าทำไมประเทศไทยถึงตกอยู่ในภาวะของการแช่แข็งทางการเมือง เพราะก็ผ่านการเลือกตั้งมาแล้วกว่า 1 เดือน จริงอยู่ที่ต่างประเทศใช้เวลานานกว่านี้ ในการจัดตั้งรัฐบาล เพราะเป็นรัฐบาลผสม แต่ไม่มีประเทศไหนในโลก ที่ กกต. มีระยะเวลาถึง 60 วัน ในการพิจารณาประกาศผลการเลือกตั้ง จึงมองว่า นี่คือ ปัญหา แต่หากถามว่า เป็นความผิดของรัฐธรรมนูญหรือไม่ ก็คงไม่ เพราะรัฐธรรมนูญกำหนดไว้แบบนี้

“เชื่อว่า กกต. ไม่มีลับลมคมใน แต่ประชาชนเรียนรู้กับประวัติศาสตร์การเมืองไทยมายาวนาน จนทำให้เกิดความไม่ไว้วางใจ ซึ่งเป็นพิษสงร้ายแรงต่อรัฐบาลใหม่ที่จะเกิดขึ้น ได้แต่จินตนาการว่า พรรคนั้นจะเปลี่ยนขั้ว พรรคนี้จะไปรวมกับพรรคนั้น นี่คือความบั่นทอนของกติกาที่สร้างต่อตัวสถาบันการเมือง” ศ.ดร.สิริพรรณ กล่าว

ศ.ดร.สิริพรรณ ยังกล่าวถึงประเด็นการถือหุ้นของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล โดยเปรียบเทียบกับกรณีของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ว่า หากจำไม่ผิด กกต. ได้ยื่นคำร้องให้ศาลวินิจฉัย วันที่ 16 พ.ค. 62 ศาลรัฐธรรมนูญใช้เวลา 7 วัน จึงมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งเป็นช่วงก่อนที่มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ก่อนที่จะเลือกประธานสภา แต่กรณีนายพิธา ไม่แน่ใจว่า ถ้าจะยื่นคำร้องไปศาลรัฐธรรมนูญเข้าใจว่า จะต้องมีการถวายสัตย์ก่อน ดังนั้น ศาลรัฐธรรมนูญจะใช้เวลานานแค่ไหน ที่จะพิจารณามีคำสั่งทางใดทางหนึ่ง ถ้าดูครั้งที่ผ่านมา ศาลรัฐธรรมนูญ ให้มีคำสั่งให้นายธนาธร หยุดปฏิบัติหน้าที่ก่อนที่จะมีการเลือกนายกรัฐมนตรี แล้วจึงวินิจฉัยว่านายธนาธร ถือหุ้นและขาดคุณสมบัติ

“กรณีนายพิธา ถือหุ้น ไม่แน่ใจว่า เราจะได้เห็นคำวินิจฉัยก่อนหรือไม่ ดังนั้นประเด็นอยู่ที่การโหวตของสภา ซึ่งรัฐธรรมนูญได้ติดตั้งกลไก โจทย์ที่ใหญ่ที่สุด และไม่ได้โฟกัสว่า นายพิธาจะได้เป็นนายกฯ หรือไม่ แต่กลับมองว่า สิ่งที่ควรให้ความสำคัญ คือ ความท้าทายในการถ่ายโอนอำนาจ อย่างสันติ คือ จากอีกขั้วหนึ่งไปยังอีกขั้วหนึ่ง หลังการเลือกตั้ง ถ้าผ่านเดือนกรกฎาคม สิงหาคม ไปได้อย่างสงบ สันติ หาทางออกได้โดยฉันทามติ อาจจะไม่ใช่ทุกเรื่อง อย่างน้อยที่สุด เริ่มต้นนับหนึ่งคือการถ่ายโอนอำนาจอย่างสันติ ประเทศชาติจะได้ไปต่อได้ แต่ถ้าไม่สามารถผ่านกรกฎาคม สิงหาคมไปได้ คิดว่า เราจะมีหน้าฝนที่ร้อนระอุ” ศ.ดร.สิริพรรณ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]