“ครอบครัวชินวัตร” ไม่ได้เบรก “ทักษิณ” กลับไทย

พรรคเพื่อไทย  14 มิ.ย.- “แพทองธาร” ยัน ครอบครัวชินวัตรไม่ได้เบรก “ทักษิณ” กลับไทย ระบุเป็นเพียงความเป็นห่วงของแม่ บอก ให้เจ้าตัวตัดสินใจเองกลับเมื่อไหร่


น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกระแสข่าวครอบครัวชินวัตรได้เบรกไม่อยากให้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีกลับประเทศไทยในขณะนี้ ว่า เรื่องนี้ไม่มีอะไรเลย มิติทางการเมืองไม่มีอะไร มีแต่มิติเรื่องครอบครัว หากเป็นเรื่องที่จริงจังขนาดนั้นก็คงไม่ต้องนัดกันกินข้าวนอกบ้าน เพราะคุยที่บ้านก็คงจบได้ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นพูดจริงๆเป็นเพียงแค่ความห่วงใยของคุณแม่ (คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์) เพราะนายทักษิณ เป็นเสาหลักของครอบครัวที่ห่างกันมา 17 ปี แม่ก็เป็นห่วงทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเรื่องของตนเอง เวลาที่ท่านพูดก็พูดในฐานะแม่ของลูกสาว ไม่ได้พูดในฐานะแม่ของแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย เพราะฉะนั้นความเป็นห่วงเป็นใยคุณพ่อ ครอบครัวมีมาเสมอ ซึ่งไม่มีมิติทางการเมืองด้านอื่นจริงๆ ตนได้อ่านข่าวก็มีการวิเคราะห์กันไปมากมาย ตนก็อยากจะบอกว่ามันไม่มีอะไรเลย มีแค่ความเป็นห่วงเท่านั้น

ส่วนสถานการณ์การเมืองขณะนี้อยากให้นายทักษิณ กลับมาอยู่อีกหรือไม่นั้น น.ส.แพทองธาร ระบุว่า เรื่องให้กลับ อยากให้กลับอยู่แล้ว แต่อยากจะให้คุณพ่อเป็นคนตัดสินใจเองว่าจะอยากกลับมาตอนไหน อยากจะกลับมาอย่างไร ส่วนตัวมองว่า คุณพ่อออกไปนานแล้วก็มีความตั้งใจอยากกลับมาหลายๆครั้ง ไม่ว่าจะเป็นปีแรกๆ ปีกลางๆ หรือ 1-2 ปีที่ผ่านมา ท่านอยากกลับมาก อยากกลับมาเลี้ยงหลาน ยิ่งเฉพาะตอนนี้เพิ่งมีหลานคนที่ 7 ก็ยิ่งอยากกลับเลย พร้อมยืนยันว่า ครอบครัวไม่ได้มีการเบรคคุณพ่ออย่างที่มีการเสนอข่าวมา เราพูดแค่ว่าเป็นห่วง ขอให้ดูข้อมูลให้ครบ อยากกลับมาเมื่อไหร่ก็ต้องดู นี่คือข้อความที่คุยกันเสมอว่าดูให้ดี ตัดสินใจให้ดี มันคือความเป็นห่วงของคนในครอบครัว ไม่ใช่การเบรคว่าอย่ากลับมานะ ตอนนี้ยังกลับไม่ได้


“อิ๊งค์ ว่ามันไม่แฟร์กับตัวคุณพ่อด้วยที่ออกไปกว่า 17 ปี เพราะฉะนั้นท่านจะกลับมาเมื่อไหร่ให้เป็นเรื่องที่ท่านตัดสินใจเองจะดีกว่า ชีวิตก็เป็นของท่าน”น.ส.แพทองธาร ระบุ

เมื่อถามย้ำว่านายทักษิณ ก็รับฟังใช่หรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวทันทีว่า รับฟัง คือเราฟังกันอยู่แล้วในครอบครัว ไม่ว่าจะเป็น ระหว่างพี่น้อง พ่อแม่ หรืออะไรก็ตามเราฟังกัน แต่สุดท้ายการตัดสินใจเรื่องของใครก็เป็นเรื่องของคนนั้น เราเป็นอย่างนี้กันอยู่แล้ว

เมื่อถามต่อว่านายทักษิณ ยังคงยืนยันจะกลับเดือน ก.ค.นี้อยู่เหมือนเดิมหรือไม่นั้น น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ล่าสุดคุยกันก็ยังเป็นอย่างนั้น เมื่อถามท่านว่าดูสถานการณ์การเมืองอย่างไร ท่านก็บอกว่าดูอยู่แล้ว เขาก็ไม่ได้อยากจะกลับมาแล้วสร้างความวุ่นวาย เพราะแน่นอนคุณพ่อมีความสำคัญทางการเมือง เพราะฉะนั้นการกลับมาต้องดูความเหมาะสม ถ้าจะเปลี่ยนหรือไม่เปลี่ยนก็ต้องดูความเหมาะสมทางการเมืองต่างๆด้วย


เมื่อถามว่าหากฟังอย่างนี้มีความเป็นไปได้ว่าจะเลื่อนวันกลับหรือไม่ น.ส.แพทองธาร ระบุว่า ไม่ ตอนนี้ยังไม่มี แต่ที่พูดเราก็ต้องดูว่าใกล้ๆจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ซึ่งเป็นสิ่งที่ตนคิดแทน คุณพ่อไม่ได้พูดกับอิ๊งค์ เขาก็ยังไม่ได้บอกว่าจะเลื่อน

ส่วนกรณีที่ครอบครัวออกมาเบรคไม่อยากให้น.ส.แพทองธารเป็นนายกรัฐมนตรี น.ส.แพทองธาร  กล่าวว่า นั่นไง จริงๆแล้ว ไม่ใช่ทางครอบครัวเบรค เป็นเรื่องที่คุณแม่พูดคุยกัยลูกสาวคนเล็ก ที่ในใจท่านก็มีความภูมิใจลูกสาวคนเล็กที่มายืนจุดนี้ แต่ลึกๆท่านก็ยังเห็นตนเป็นเด็ก แต่ในชีวิตจริงตนก็รู้ว่าตนเองไม่ใช่เด็ก การที่คุณแม่เป็นห่วงก็ไม่รู้สึกโกรธอะไรเลยด้วยซ้ำ เพราะเรารู้ว่าเราไม่ใช่เด็ก รู้สึกว่าเขาเป็นห่วง ทั้งตอนที่ท้องแล้วไปหาเสียงท่านก็เป็นห่วงมาก ตนก็ต้อง คอยพูดตลอดว่าตนยังโอเค หาหมอแล้ว ก็จะบอกแม่อยู่ทุกครั้ง เป็นแค่ความเป็นห่วงเท่านั้นไม่มีมิติอื่นจริงๆ

เมื่อถามย้ำว่าส่วนตัวพร้อมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่นั้น หากเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ไม่สามารถเป็นนายกรัฐมนตรีได้ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ถ้าตนไม่พร้อมเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีก็คงจะไม่เป็น ถ้าไม่พร้อมก็คงไม่ให้ชื่อตนไปลง และคุยกันในพรรคถ้าตนไม่พร้อมก็คงไม่ก้าวเข้ามาตรงนี้ เพราะ ถ้าเราไม่พร้อมก็ต้องบอกคนในพรรคว่าเราไม่พร้อม

ส่วนแปลว่าคุณแม่มองข้ามช็อตที่ได้เบรคไม่ให้นั่งตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แสดงว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นหรืออาจมีอุบัติเหตุทางการเมืองกับนายพิธา ถึงได้มีการพูดออกมาในสถานการณ์การเมืองขณะนี้ น.ส.แพทองธาร ยิ้ม พร้อมตอบว่า ส่วนตัวมองว่า สิ่งที่คุณแม่คิดตั้งแต่ตอนแรกก่อนจะเลือกตั้ง ตนก็ต้องมีสิทธิ เพราะเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ถ้าพรรคเพื่อไทยชนะเลือกตั้ง ไม่ว่าทั้งตน นายเศรษฐา ทวีสิน และนายชัยเกษม นิติสิริ ก็มีสิทธิ์เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี หากพรรคเพื่อไทยได้เป็นอันดับ 1 แม่ก็คงคิดถึงตอนนั้นว่ายังจะเป็นแบบนี้อยู่หรือไม่ว่า ถ้าพรรคเพื่อไทยเป็นอันดับหนึ่งจริงตนก็ต้องได้เป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ เราจะคุยอย่างไรกันในพรรค แม่ก็เป็นห่วงตรงนี้เสมอ ตนพูดด้วยความสัตย์จริงว่ามันเป็นแค่นั้นเองในมุมของแม่ ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าในกระแสข่าวมีการระบุว่าที่ยังไม่อยากให้นายทักษิณกลับเพราะอาจจะถูกหลอก น.ส.แพทองธาร ระบุว่า คำว่าถูกหลอกมันคือ ตลอดเวลาที่พ่อของตนไม่อยู่ ประเทศไทยมา 17 ปี มันก็ต้องมีข้อมูลข่าวสารที่ท่านได้รับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องไหนก็ตาม ถูกบ้างผิดบ้าง นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นตลอดระยะเวลา 17 ปี เราไม่ได้คิดว่าใครจะมาหลอกเราเป็นพิเศษ นั่นคือสิ่งที่ครอบครัวบอกว่าให้ดูข้อมูลให้ดี ให้คิดให้ดีว่าจะทำอย่างไร มันเป็นการห่วงใย และเป็นการเตือนสติกันมากกว่า ว่าดูให้ดีว่าจะเกิดอะไรขึ้น นี่คือสิ่งที่เราเตือนกันได้ไม่ใช่ว่ามีใครจะหลอกหรืออะไร.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีต ผกก.ขับรถปาดหน้า-ชัก M16 ขู่อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง

สงขลา 11 พ.ค. – การเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล และนายกเทศมนตรี เดือด ลูกชาย สส.สงขลา ทำร้ายตำรวจคุมหน่วย ส่วน จ.นครศรีธรรมราช อดีตผู้กำกับขับรถปาดหน้าและชักปืน M16 ขู่อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง การเลือกตั้งนายกเทศมนตรีที่วัง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เดือด นายชวลิต เจริญพงษ์ อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง และปัจจุบันเป็นผู้สมัครรองนายกเทศมนตรีที่วัง เบอร์ 2 เข้าแจ้งความที่ สภ.กะปาง ว่าถูก พ.ต.อ.พิรุณ อดีต ผกก.ที่ปรึกษาผู้สมัครนายกเทศมนตรีอีกทีม ขับรถไล่ตามและใช้ปืน M16 ข่มขู่ โดยก่อนเกิดเหตุได้ไปกินข้าวที่ร้านอาหารกับผู้ใหญ่บ้าน ม.1 ต.ที่วัง ได้เจ้อกับลูกน้องคนสนิทของ พ.ต.อ.พิรุณ พร้อมพวก เข้ามาพูดจาข่มขู่ พวกตนจึงหนีขึ้นรถเพื่อตัดปัญหา แต่ปรากฏว่าเมื่ออกจากร้านได้เพียง 10 เมตร พ.ต.อ.พิรุณ ได้ขับรถแวนเชฟโรเลตสีขาวปาดหน้า และลงจากรถพร้อมปืน M16 วิ่งมาที่รถของตน เห็นท่าไม่ดี จึงหักพวงมาลัยขับรถหนีและเข้ามาแจ้งความ ระหว่างนั้น พ.ต.อ.พิรุณ พร้อมพวก […]

เร่งล่ามือฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์ม

ตรัง 11 พ.ค. – เร่งล่าคนร้ายโหดฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์มใน อ.สิเกา จ.ตรัง ล่าสุดตำรวจรู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้ว วันนี้ (11 พ.ค. 68) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สิเกา จ.ตรัง เข้าตรวจสอบภายในสวนปาล์มน้ำมันแห่งหนึ่ง พื้นที่หมู่ 1 หลังได้รับแจ้งมีเหตุฆ่าเผานั่งยาง ที่เกิดเหตุเป็นสวนปาล์มน้ำมัน สภาพรกทึบ ห่างจากถนนสายตรัง-สิเกา ไปตามถนนลูกรังกว่า 5 กม. พบเศษยางรถยนต์นับสิบเส้น และพบชิ้นส่วนคล้ายเศษเนื้อและอวัยวะของมนุษย์ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และหน่วยกู้ภัย เข้าเก็บชิ้นส่วน พบร่างมนุษย์ในกองเถ้าถ่าน 3 ร่าง จึงส่งชันสูตรหาร่องรอยหลักฐานที่เกี่ยวข้อง หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.ภัทรวิชญ์ คีตโมทนียกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง พร้อมเจ้าหน้าที่กองปราบฯ เจ้าหน้าที่ สภ.สิเกา ฝ่ายสืบสวน และฝ่ายปกครอง ร่วมตรวจพื้นที่คลี่คลายคดีและเก็บพยานหลักฐาน โดยในที่เกิดเหตุเป็นร่องสวนปาล์มติดกับขนำร้างคอนกรีตมุงกระเบื้อง ซึ่งเจ้าของสวนสร้างเอาไว้ให้คนงานหลบแดด แต่ไม่มีผู้พักอาศัย พบร่องรอยกองเลือด ปลอกกระสุน แกลลอนน้ำมัน จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เดินตรวจสอบบริเวณโดยรอบ […]

ผบ.ตร. สั่งกองวินัยเตรียมสอบ ปมมติแพทยสภาลงโทษหมอ

ผบ.ตร. รับทราบกรณีแพทยสภาลงโทษหมอ ปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 สั่งกองวินัยเตรียมสอบ หากเป็นแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ

คณะกรรมการแพทยสภา มีมติลงโทษ 3 แพทย์ เซ่นปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14

คณะกรรมการแพทยสภา มีมติลงโทษแพทย์ 3 ท่าน เซ่นปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ โดยว่ากล่าวตักเตือน 1 ท่าน พักใช้ใบประกอบวิชาชีพ 2 ท่าน เผยมติที่ประชุมมีความเห็น “เป็นเสียงส่วนใหญ่มาก มาก มาก”

ข่าวแนะนำ

ตร.ไม่ให้ประกัน “สจ.กอล์ฟ” กับพวก คอตกนอนคุก

สงขลา 12 พ.ค.- ตำรวจไม่ให้ประกัน “สจ.กอล์ฟ” กับพวก คอตกนอนคุก คดีทำร้ายร่างกาย “ด.ต.” คาหน่วยเลือกตั้ง พร้อมนำกำลังค้น 7 จุดหาหลักฐานเพิ่มเติม ความคืบหน้าเหตุการณ์นายสิรดนัย พลายด้วง หรือ สจ.กอล์ฟ สจ.เขต 7 จ.สงขลา ลูกชายนายสมยศ พลายด้วง สส.เขต 3 จ.สงขลาพรรคประชาธิปัตย์ หรือโกถึก ส่งลูกน้องไปรุมทำร้าย ด.ต.นิสาธิต ซึ่งทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยในหน่วยเลือกตั้งที่ 7 ต.พะวง อ.เมือง จ.สงขลา เพราะไม่พอใจที่ถูกห้ามถ่ายรูปในหน่วยเลือกตั้งขณะไปลงคะแนนกับภรรยา ล่าสุดวันนี้ ศาลจังหวัดสงขลาได้ออกหมายจับผู้ต้องหาที่ร่วมกันก่อเหตุแล้วรวม 7 คน ประกอบด้วย 1. นายสิรดนัย หรือสจ.กอล์ฟ อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาที่1 ในฐานะผู้ใช้จ้างวาน2. นายพงษ์เทพ หรือหนึ่งฟรีด้อม อายุ 41 ปี ผู้ต้องหาที่ในฐานะรับคำสั่งจากนายสิรดนัย แล้วสั่งการให้ นายหนุ่มเสกกับพวกรวม […]

ตร.ตรัง เร่งขอศาลออกหมายจับ มือฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ

ตรัง 12 พ.ค.- ตร.ตรัง เร่งขอศาลออกหมายจับมือฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ ขณะที่ญาตินิมนต์พระทำพิธีอัญเชิญดวงวิญญาณกลับบ้าน วันที่ 12 พฤษภาคม 2568 เมื่อเวลา 13.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดตรัง ลงพื้นที่สวนปาล์มน้ำมัน เนื้อที่ 170 ไร่ จุดเกิดเหตุกลุ่มคนร้ายยิงและเผานั่งยางผู้จัดการสวน เพื่อนร่วมงาน และลูกน้องรวม 3 ศพ และจุดพบศพปริศนาถูกเผาและฝังดินอีก 1 ศพ ในพื้นใกล้กัน รวมทั้งหมดเป็น 4 ศพ โดยเป็นการลงพื้นที่ซ้ำ เพื่อตรวจหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมในบริเวณที่เกิดเหตุ โดยเฉพาะบริเวณขนำจุดยิงผู้ตายทั้ง 3 ราย ก่อนนำไปจุดไฟเผา โดยตำรวจพบหัวกระสุนปืนขนาด 11 มม.เพิ่มเติมอีก 1 หัว แต่ทั้งนี้ พบอุปสรรคสำคัญในการทำงานเก็บพยานหลักฐาน เนื่องจากในพื้นที่ได้เกิดฝนตกลงมาเป็นระยะ ๆ ทำให้ร่องรอยพยานหลักฐานบางอย่างถูกทำลาย ซึ่งขณะนี้ทำให้ทราบว่าขณะเกิดเหตุมีการใช้อาวุธปืนหลายขนาด เพราะพบหัวกระสุนปืนในที่เกิดเหตุ ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดียังคงกระจายกำลังกันลงพื้นที่เพื่อสืบสวนหาข่าวในพื้นที่ อ.สิเกา อ.วังวิเศษ จ.ตรัง และต.ทรายขาว […]

ออกหมายจับ สจ.คนดังพร้อมพวก รุมทำร้าย ตร.คาหน่วยเลือกตั้ง

สงขลา 12 พ.ค.- ศาลจังหวัดสงขลาออกหมายจับ สจ.คนดัง พร้อมพวกรวม 7 คน หลังก่อเหตุรุมทำร้าย ‘ด.ต.’ คาหน่วยเลือกตั้ง จ.สงขลา ขณะที่ ผบ.ตร.สั่งเอาผิด พวกทำตัวเหนือกฎหมาย จากกรณีสมาชิกสภา อบจ.สงขลา บุตรชาย สส.สงขลา ก่อเหตุสั่งให้ลูกน้อง 6 คน รุมทำร้ายร่างกาย ด.ต.นิสาธิต สังกัด ตชด.43 ปฏิบัติหน้าที่เจ้าพนักงานรักษาความสงบเรียบร้อยหน่วยเลือกตั้ง บริเวณหน้าหน่วยเลือกตั้งที่ 7 หมู่ 2 ต.พะวง อ.เมือง จ.สงขลาหลัง ส.อบจ.คนดังกล่าว เข้ามาใช้สิทธิที่หน่วย และให้ลูกน้องถ่ายรูป ซึ่งผิดกฎหมายเลือกตั้ง ด.ต.นิสาธิต จึงได้เข้าไปตักเตือน สร้างความไม่พอใจ ก่อนขับรถออกจากหน่วยเลือกตั้ง จากนั้นมีกลุ่มชายชกรรจ์ 5-7 คน เข้ามาที่หน่วยเลือกตั้ง และรุมทำร้าย ด.ต.นิสาธิต บาดเจ็บ ต่อหน้าต่อตาชาวบ้านที่มาใช้สิทธิเลือกตั้ง อ้างว่าลูกพี่ใหญ่ ไม่มีใครกล้าทำอะไร ล่าสุด ศาลจังหวัดสงขลาอนุมัติหมายจับผู้ก่อเหตุทั้งหมด 7 […]

เพลิงไหม้มาราธอน โหมโรงงานเฟอร์นิเจอร์ ยังคุมไม่ได้

12 พ.ค.- ยังไม่ดับ! ไฟไหม้โรงงานเฟอร์นิเจอร์ ย่านลาดกระบัง ต้นเพลิงอยู่ที่ชั้นใต้ดิน ยังไม่สามารถลงไปได้ ผู้ว่าฯ ชัชชาติ รุดลงพื้นที่ สั่งอพยพชาวบ้านใกล้เคียง เร่งช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ ยืนยันสถานการณ์จะคลี่คลายภายในวันนี้ เพลิงไหม้โรงงานเฟอร์นิเจอร์ ซอยฉลองกรุง 55 แขวงลำปลาทิว เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ ลุกโหมมาตั้งแต่ช่วงเย็นวานนี้ ก่อนเจ้าหน้าที่ระดมรถดับเพลิงเข้าควบคุมสถานการณ์ ตลอดทั้งคืน ยังมีไฟปะทุออกจากชั้นใต้ดินของโครงสร้างอาคาร     ล่าสุดเช้าวันนี้ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมทีมวิศวกรผู้ เชี่ยวชาญด้านอาคารโรงงานอุตสาหกรรม ตำรวจ และทีมกู้ภัย เร่งเข้าตรวจสอบความเสียหายรอบพื้นที่โรงงาน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เผยว่า มอบหมายให้ ดร.สุรจิตต์ พงษ์สิงห์วิทยา(ดร.จอร์น) ประธานสภากรุงเทพมหานคร และนายธราพงษ์ เพ็ชรคง ผู้อำนวยการสำนักงานเขตลาดกระบัง ลงพื้นที่ตั้งศูนย์บัญชาการเหตุยังจุดเกิดเหตุ ส่วนแนวทางปฏิบัติการ เตรียมใช้โฟมประกอบน้ำ ฉีดเข้าจุดที่ยังคงมีเพลิงปะทุคาดว่าจะควบคุมสถานการณ์ให้อยู่ในวงจำกัดได้ภายในช่วงเที่ยงวันนี้   ขณะที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงระบุว่า ต้นเพลิงอยู่ที่ชั้นใต้ดิน แต่ยังไม่สามารถลงไปได้ เนื่องจากมีกลุ่มควันและความร้อนสูง จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์พิเศษ หน้ากากออกซิเจน […]