กรุงเทพฯ 10 มิ.ย. – “เชาว์” ชี้ กกต. ไต่สวน “พิธา” ผิด ม.151 ไม่น่ากังวล เหตุต้องพิสูจน์ชัดมีเจตนาฝ่าฝืนกฎหมาย แต่ปมถือหุ้นสื่อยังมีหลายข้อโต้แย้ง ยกกรณี “ธนาธร” อัยการเคยสั่งไม่ฟ้องมาแล้ว ทั้งที่ ศาล รธน. วินิจฉัยมีคุณสมบัติต้องห้าม มองข้ามช็อต ด่านหิน “พิธา” อยู่ที่ศาล รธน.
นายเชาว์ มีขวด อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ Facebook Chao Meekhuad เรื่อง วิบากกรรมพิธา เรื่องใหญ่ อาจไม่ใช่มาตรา 151 ระบุว่า ตามที่ กกต. มีมติเอกฉันท์ไม่รับ 3 คำร้องกรณีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ถือหุ้นสื่อไอทีวี เนื่องจากเป็นคำร้องที่ยื่นมาในระยะเวลาที่เกินกำหนด แต่ยังมีมติรับพิจารณาตามมาตรา 151 เหตุรู้อยู่แล้วว่าไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง เนื่องจากมีลักษณะต้องห้าม แต่ยังฝ่าฝืน มีการวิพากษ์วิจารณ์กันว่า กกต. ใช้ยาแรงจัดหนัก นายพิธาน่าจะไม่รอด แต่ตนกลับเห็นตรงกันข้าม เพราะว่าความผิดตามมาตรา 151 พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. พ.ศ. 2561 ต้องเป็นความผิดที่มีเจตนาที่ชัดเจน ซึ่งกฎหมายใช้คำว่า “รู้อยู่แล้วว่าไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง” เพราะฉะนั้นคำว่า “รู้อยู่แล้ว” ต้องเป็นข้อเท็จจริงที่ตายตัวรับฟังเป็นยุติ ไม่สามารถดิ้นได้ไม่ว่าโดยวิธีใด เช่น การเคยต้องคำพิพากษา หรือคุณสมบัติเกี่ยวกับการศึกษา แต่กรณีการถือหุ้นของนายพิธาถือเป็นประเด็นที่ยังไม่ยุติ ยังมีข้อสงสัยอยู่หลายประการ โดยเฉพาะนายพิธายืนยันว่าตนถือหุ้นดังกล่าวในนามผู้จัดการมรดก และเคยยื่นบัญชีทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช. แล้วด้วย และประเด็นสำคัญคือ ไอทีวียังประกอบกิจการสื่ออยู่หรือไม่ ประเด็นนี้แค่นายพิธาให้การต่อสู้ว่าตนเองเข้าใจว่าไอทีวีไม่ได้เป็นสื่อ เพราะหยุดประกอบกิจการมานานแล้ว ก็จะหลุดพ้นความผิดในมาตรานี้ทันที เพราะขาดเจตนา มิเช่นนั้นนายพิธาคงจัดการโอนหุ้นที่อยู่ในมือให้เสร็จก่อนวันสมัคร ซึ่งทำได้โดยง่าย คงไม่โง่ฝ่าฝืนลงสมัครรับเลือกตั้งทั้งๆ ที่รู้ว่ามีความผิด
“ถ้าพิจารณาเทียบเคียงกับกรณีขอนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ก่อนหน้านี้จะเห็นว่าอัยการยกคำร้องหลังจากที่นายธนาธรถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่ามีคุณสมบัติต้องห้ามจากการถือครองห้นสื่อจริง จนพ้นสภาพความเป็น ส.ส. ไป และ กกต. ก็ชงเรื่องต่อว่านายธนาธรมีความผิดตามมาตรา 151 รู้อยู่แล้วว่าไม่มีคุณสมบัติแต่ยังลงสมัครรับเลือกตั้ง สุดท้ายอัยการก็มีคำสั่งไม่ฟ้อง
โดยชี้ว่าคดีอาญาต้องมีหลักฐานนำสืบจนปราศจากข้อสงสัย ทำให้คดียุติไป ตนคิดว่าด่านต่อไปของนายพิธิไม่ใช่เรื่องที่ กกต. รับพิจารณาความผิดตามมาตรา 151 เพราะการที่ กกต. ตีตกคำร้องทั้ง 3 คำร้อง ในเรื่องการถือหุ้นไอทีวี ว่าขาดคุณสมบัติหรือไม่ ยังไม่ยุติ เพราะภายหลังจาก กกต. รับรอง ส.ส. แล้ว ยังมีช่องสามารถยื่นคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยได้อีก ตามมาตรา 82 ของกฎหมายรัฐธรรมนูญ” นายเชาว์ ระบุทิ้งท้าย .-สำนักข่าวไทย