พรรคก้าวไกล 9 มิ.ย.- สมาพันธ์กัญชาฯ ยื่นหนังสือค้าน “ก้าวไกล” กลับไปเป็นยาเสพติด พร้อมเสนอให้มีกฎหมายมาอุดรอยรั่วแยกชัดใช้สันทนาการ และใช้ทางการแพทย์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มสมาพันธ์กัญชาเพื่อประชาชน โดยนายรัฐพล แสนรักษ์ ผู้ประกอบการร้านจำหน่ายกัญชา และผู้ประสานงานสมาพันธ์กัญชาเพื่อประชาชน เข้ายื่นหนังสือต่อนายวรภพ วิริยะโรจน์ ว่าที่ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และทีมเศรษฐ และนโยบาย พรรคก้าวไกล และร่วมหารือการดำเนินนโยบายกัญชา โดยให้เหตุผลที่เลือกมาวันนี้เพร่ะเป็นวันครบรอบการปลดล็อกกัญชาออกจากยาเสพติด แสดงจุดยืนคัดค้านการนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด
นายรัฐพล กล่าวว่าพวกตนหารือร่วมกับพรรคก้าวไกล 2 ประเด็น คือการดำเนินนโยบายที่ต้องมีความชัดเจนว่า เป็นไปในทิศทางใด และจะเสนอให้มีกฎหมายควบคุมการใช้กัญชาให้แยกชัดเจนระหว่างการใช้ เพื่อสันทนาการ และใช้เพื่อทางการแพทย์
ทั้งนี้ ทางสมาพันธ์ฯ ขับเคลื่อนเรื่องกัญชามากว่า 10 ปี โดยมองว่า การนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด โดยที่ไม่มีมาตรการรองรับ อาจจะเป็นผลเสียกับสังคมมากกว่า โดยเฉพาะผู้ที่เคยทำถูกกฎหมาย จะถูกผลักให้คนเป็นอาชญากรรม มีความเสี่ยงถูกดำเนินคดีทางอาญาทั้งในฐานะผู้ใช้ ผู้ค้า และผู้ผลิต
ส่วนกรณีที่ 8 พรรคร่วมมีการลงนามใน MOU จะนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด นายรัฐพล ยังย้ำจุดยืนว่า คัดค้าน และมองว่า มีทางออกที่ดีกว่า เช่นการนำกฎหมายมาบังคับใช้ ดีกว่านำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด ด้านนายวรภพ ว่าที่ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และทีมเศรษฐ และนโยบาย พรรคก้าวไกล กล่าวว่า เรื่งกัญชาจำเป็นต้องมองใน 2 มิติ และต้องทำให้สมดุลกัน ระหว่างการคุ้มครองเด็กและยาวเชน และผู้ที่ทำถูกต้องตามกฎหมายยังสามารถดำเนินกิจการต่อได้ ซึ่งจะต้องหาทางออกร่วมกันให้ได้.
ขณะเดียวกัน ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี นายประสิทธิ์ชัย หนูนวล แกนนำเครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย พร้อมเครือข่ายสนับสนุนกัญชาทางการแพทย์ จัดกิจกรรมวันกัญชาไทย ซึ่งทางเครือข่ายร่วมกันกำหนดให้วันที่ 9 มิถุนายน เป็นวันกัญชาไทยนับจากนี้ พร้อมจัดเสวนาแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นว่า กัญชาควรจะควบคุมด้วยพระราชบัญญัติ หรือดึงกลับไปเป็นยาเสพติด เพื่อที่จะนำข้อเสนอยื่นถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยมีการตั้งโต๊ะล่ารายชื่อ ยืนยันเจตนารมณ์ไม่นำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด และหลังจากนี้จะเดินสายทั้งประเทศเพื่อนำรายชื่อประชาชนมอบให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขคนใหม่
นายประสิทธิ์ชัย กล่าวว่า กัญชานั้นมีข้อดีถึง 90% ที่สามารถนำไปผลิตเป็นยารักษาโรค ซึ่งถือเป็นความมั่นคงทางยา ขณะที่ข้อไม่ดีประมาณ 10% ที่เกี่ยวกับการเสพ ซึ่งถือเป็นข้อได้ ดังนั้นทางภาคีเครือข่าย จึงเห็นด้วยที่จะเสนอการควบคุมกัญชาโดยพระราชบัญญัติ และไม่เห็นควรนำกลับไปเป็นยาเสพติดเนื่องจากจะเป็นการจำกัดเสรีภาพ ที่ประชาชนนั้นจะเข้าถึงความมั่นคงทางยา แต่ขณะเดียวก็ไม่ได้เห็นกับการทำให้กัญชานั้นเสรี
นายประสิทธิ์ชัย กล่าวว่า ขอฝากถึงพรรคก้าวไกล และอีก 7 พรรคร่วมในการจัดตั้งรัฐบาล ที่ได้รับเลือกมาจากระบอบประชาธิปไตยควรจะ รับฟังความคิดเห็นจากประชาชน และนำมา พิจารณา ในกลไกของสภาฯ อย่าพยายามดึงกลับไปเป็นยาเสพติด โดยเป็นการใช้กฎหมายแบบเผด็จการ แบบจำกัดเสรีภาพมากำหนดอนาคตกัญชา ซึ่งตรงกันข้ามกับระบอบประชาธิปไตยที่พวกท่านได้รับการเลือกตั้งเข้ามา .-สำนักข่าวไทย