“ชาติชาย”ชี้”พิธา”ไม่ผิดหากถือหุ้นในนาม ผจก.มรดก

สำนักข่าวไทย 6 มิ.ย.- อดีตโฆษก กรธ. ชี้กรณี “พิธา” ถือหุ้นไอทีวีต้องดูข้อเท็จจริง หากถือในฐานะผู้จัดการมรดก ไม่ถือเป็นเจ้าของหุ้นตัวจริง ไม่เข้าข่ายขาดคุณสมบัติ และกรณีนี้เป็นเรื่องเฉพาะตัว ไม่พ่วงลูกพรรคที่รับรอง พร้อมระบุพรรคแกนนำตั้งรัฐบาลมี 151 เสียงย่อมถูกต่อรอง และทุกพรรคต่างอยากได้ตำแหน่งประธานสภา


นายชาติชาย ณ เชียงใหม่ อดีตอธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า)และอดีตโฆษกคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่านายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคก้าวไกล ขายหุ้นไอทีวี 4,200หุ้นแล้วตั้งแต่เดือนพฤษภาคมซึ่งอาจจะไม่มีผลต่อคุณสมบัตินายกรัฐมนตรีว่า ตามรัฐธรรมนูญผู้ที่จะสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจะต้องไม่ถือครองหุ้น ดังนั้นจะต้องดูในวันสมัครรับเลือกตั้ง โดยในวันนั้นหากคุณสมบัติไม่ครบ ก็แสดงว่าเป็นโมฆะ ไม่สามารถสมัครได้  ซึ่งในวันสมัครรับเลือกตั้งนั้น เจ้าตัวต้องเขียนรับรองว่าข้อความที่ข้าพเจ้ากรอกใบสมัครเป็นจริงทุกประการ ฉะนั้นในวันที่ไปสมัครรับเลือกตั้ง หากเจ้าตัวรู้ หรือไม่รอบคอบ ไม่รู้ว่าตัวเองถือหุ้นสื่ออยู่แล้วไปสมัครรับเลือกตั้ง เมื่อกกต.ตรวจพบทีหลัง ก็จะต้องถูกตัดสิทธิ เพราะคุณสมบัติไม่ครบ อย่างไรก็ตามจะต้องดูในรายละเอียดด้วยว่าคนที่ไปสมัครถือหุ้นในนามส่วนตัว หรือหุ้นตกอยู่กับเขาในฐานะผู้จัดการมรดก หากเป็นในฐานะผู้จัดการมรดก ถือเป็นเรื่องคำสั่งศาล ที่สิ่งต่างๆ ที่เป็นมรดกจะอยู่ภายใต้ชื่อเขา แต่ไม่ได้หมายความว่าเป็นเจ้าของมรดกหรือเป็นเจ้าของหุ้น  ก็ถือว่าไม่เข้าข่าย

ส่วนข้อสงสัยว่าหากนายพิธาขายหุ้นก่อนวันเลือกตั้ง กกต.จะต้องส่งเรื่องไปศาลฎีกาหรือศาลรัฐธรรมนูญนั้น อดีตโฆษกกรธ. กล่าวว่า ก่อนอื่นจะต้องดูว่าหุ้นที่มีข้อมูลว่าเป็นของนายพิธานั้นเป็นของนายพิธาโดยส่วนตัว ที่ซื้อมาตั้งแต่แรก หรือเป็นของเขาในนามผู้จัดการมรดก จะต้องแยกออกมา หากเป็นหุ้นในฐานะผู้จัดการมรดก ก็ถือว่าเขาไม่ได้ถือหุ้น และไม่ได้เป็นเจ้าของหุ้น เป็นเพียงแต่ตามกฎหมายให้มาดูแลหุ้นที่เป็นมรดกของพ่อเท่านั้นเอง ซึ่งหากเป็นเช่นนี้ถือว่า นายพิธาไม่เข้าข่ายว่าถือหุ้น และไม่ผิด และไม่ขาดคุณสมบัติการเป็นผู้สมัครส.ส.และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี


“ในความเป็นจริงผมก็ไม่รู้รายละเอียดว่าหุ้นนี้มาจากไหน อย่างไร ถ้าเป็นหุ้นที่เป็นมรดกพ่อเขา และไม่ได้เขียนพินัยกรรมไว้ หรือถ้าเขียนไว้ก็ต้องดูว่ายกให้ใคร และถ้าไม่ได้ยกให้ใคร ลูกหลานก็ต้องมาตกลงกันเองว่าหุ้นมรดกนี้ว่าใครจะเอาไป ซึ่งคงยังไม่ได้จัดการ ผมก็ไม่รู้นะ แต่ถ้าเป็นกรณีว่าเขาเป็นผู้ดูแลหุ้นในฐานะที่เป็นผู้จัดการมรดกและหุ้นยังไม่ได้แบ่ง ก็ถือว่าเขายังไม่ได้เป็นคนถือหุ้นนั้น เป็นแค่ผู้จัดการมรดกเฉยๆ แต่หุ้นเป็นมรดกของพ่อเขา 

ไม่ใช่ของเขา ผมก็ไม่รู้รายละเอียดอะไร ว่ากันไปตามข้อเท็จจริงและตัวบทกฎหมาย ว่าเจตนาของมาตรานี้ก็มีแค่นั้น คือไม่อยากให้นักการเมืองหรือใครมาสมัครเป็นส.ส.ถือหุ้นสื่อ เพราะการถือหุ้นสื่อมีโอกาสที่จะใช้สื่อให้คุณให้โทษกับตัวเอง และคู่แข่งได้ ดังนั้นถ้าเป็นผู้จัดการมรดก ก็ถือว่าไม่ใช่เจ้าของหุ้น “ นายชาติชาย กล่าว

นายชาติชาย กล่าวว่าก่อนจะส่งเรื่องไปให้ศาลใดวินิจฉัย กกต.จะต้องขอหลักฐานจากนายพิธา หรือเรียกนายพิธาไปให้คำชี้แจง เพื่อหาข้อเท็จจริงและวินิจฉัยตรงนี้ก่อน หากมีมูลจึงจะส่งให้ศาลวินิจฉัยต่อ หากไม่มีมูลศาลคงไม่รับคำร้อง


ส่วนเรื่องที่มีการร้องนายพิธา ควรจะต้องวินิจฉัยให้เสร็จก่อนที่จะมีการเลือกนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายชาติชาย กล่าวว่า ไม่จำเป็น เพราะต้องขึ้นอยู่กับกกต.ที่จะส่งเรื่องไป และอยู่ที่ศาลรัฐธรรมนูญ  ซึ่งศาลฯคงต้องดูว่าหากมีมูลก็คงต้องเร่งพิจารณา เพราะจะกระทบต่อการบริหารราชการแผ่นดิน ไม่เช่นนั้นอาจทำให้เกิดความเสียหายต่อส่วนรวม

สำหรับกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าหากศาลวินิจฉัยว่านายพิธาขาดคุณสมบัติเพราะถือหุ้นสื่อ อาจจะกระทบกับผู้สมัครส.ส.ที่เซ็นรับรองในฐานะหัวหน้าพรรคนั้น นายชาติชาย กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับการตีความ  หากเจ้าตัวขาดคุณสมบัติก็ถือเป็นความผิดเฉพาะตัว หากไปรับรองผู้สมัครในฐานะหัวหน้าพรรค ก็ไม่น่าจะมีผลกับคนอื่น เพราะตามรัฐธรรมนูญเขียนไว้เฉพาะตัว หากเจ้าตัวไปทำอะไรผิดก็เป็นเรื่องเฉพาะตัว

นายชาติชาย ยังกล่าวถึงกรณีที่พรรคก้าวไกลอยู่ในกระบวนการจัดตั้งรัฐบาลว่าจะสำเร็จหรือไม่ เป็นเรื่องที่ตอบยาก เพราะอำนาจเป็นเรื่องที่นักการเมืองอยากได้ และอยากเป็นรัฐบาล แต่ละฝ่ายคงจะมีกลเม็ดต่อรองกัน เพราะพรรคอันดับหนึ่งมี 151 เสียง จึงอาจจะต้องยอมพรรคอันดับสอง เพื่อให้จัดตั้งรัฐบาลได้ และเชื่อว่าตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรที่ยังไม่ลงตัวถือเป็น “ปมร้อน” เพราะเป็นตำแหน่งสำคัญที่จะต้องจัดประชุมรัฐสภาเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรี และเป็นคนจัดวาระเข้าสู่สภา ดังนั้นหากกฎหมายอะไรที่ประธานเห็นว่ากฎหมายอะไรที่กระทบต่อบ้านเมือง อาจจะไม่บรรจุเข้าระเบียบวาระได้ จึงทำให้พรรคการเมืองอยากได้ตำแหน่งนี้.- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

มอบตัวแล้วอดีตเจ้าคณะตำบล ยิงเจ้าอาวาสวัดดัง จ.เลย

มหาสารคาม 6 ส.ค. – มอบตัวแล้วอดีตเจ้าคณะตำบล ยิงเจ้าอาวาสวัดในพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย บาดเจ็บ หลังหนีไปกบดานที่บ้านเกิด จ.มหาสารคาม ตำรวจตั้งข้อหาพยายามฆ่า จากกรณี พระอธิการมานพพร อายุ 47 ปี เจ้าอาวาสวัดโพนสว่าง และเจ้าคณะตำบลเขาแก้ว ขับรถยนต์หลบหนีไป หลังใช้ปืนจ่อยิงพระมหาโยธิน เจ้าอาวาสวัดป่าพัฒนาราม และเจ้าคณะตำบลจอมศรี จนได้รับบาดเจ็บ ขณะที่พระครูถาวรเทวธรรม เจ้าคณะตำบลธาตุ และเจ้าอาวาสวัดสวนธรรมเทวราช เจ้าคณะตำบลธาตุ ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ด้วย หลบหนีได้ทันจึงไม่ได้รับบาดเจ็บ เกิดเหตุในวัดพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย เมื่อวันที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา ต่อมาศาลจังหวัดเลยอนุมัติหมายจับในข้อหา “พยายามฆ่าผู้อื่น และมีอาวุธปืน กระสุนปืน พกพาโดยไม่มีเหตุอันควร” วันนี้ ที่ห้องสืบสวน สภ.เมืองมหาสารคาม พระอธิการมานพพร หรือนายมานพพร ผู้ต้องหาก่อเหตุยิงพระ 2 รูป เข้ามอบตัว เนื่องจากถูกตำรวจกดดันอย่างหนัก เบื้องต้นให้การว่า วันเกิดเหตุมีการปรึกษากัน แต่ไม่ได้ทะเลาะ สาเหตุมาจากตนเองโดนกลั่นแกล้งจากทางพระทั้ง […]

แรงงานกัมพูชาแห่กลับประเทศ รัฐบาลขู่ยึดที่ดิน-ถอดสัญชาติ

6 ส.ค. – รัฐบาลกัมพูชาขู่ยึดที่ดินและถอดสัญชาติแรงงานที่ดื้ออยู่ไทย ส่งผลวันนี้ (6 ส.ค.) ชาวกัมพูชาแห่เดินทางกลับประเทศ ทำจุดผ่านแดนถาวรตลาดบ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี รถติดยาว 8 กิโลเมตร ที่จุดผ่านแดนถาวรตลาดบ้านแหลม ต.เทพนิมิต อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ตั้งแต่ช่วง 06.00 น. รถติดยาวเหยียดร่วม 8 กิโลเมตร ทั้งรถเช่าเหมา รถตู้ และรถรับจ้างที่ขนแรงงานชาวกัมพูชากลับประเทศ ส่วนภายในบริเวณตลาดบ้านแหลม ช่วงเวลา 07.00 น.ที่ผ่านมา ยังพบชาวกัมพูชาร่วมกว่า 20,000 คน ขนสัมภาระ ข้าวของ มารอเต็มหน้าด่าน มากกว่า 2-3 วันที่ผ่านมา ทั้งนี้ เป็นเพราะมีกระแสข่าวรัฐบาลกัมพูชาขู่จะออกมาตรการเอาจริงกับแรงงานกัมพูชาที่ยังดื้อไม่ยอมกลับประเทศก่อนวันที่ 10 สิงหาคมนี้ จะยึดที่ดินทำกินและถอดสัญชาติ คาดว่าจุดนี้จุดเดียวคนจะกลับกัมพูชาเฉียดครึ่งแสนคน แรงงานกัมพูชากลับประเทศ นายจ้างกลัวไปไม่กลับที่ตลาดสดแห่งหนึ่งใน อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี พบว่ายังมีแรงงานกัมพูชาก้มหน้าก้มตาทำงานอยู่ แต่มีสีหน้าเคร่งเครียดจากกระแสข่าวที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน แรงงานเล่าว่าไม่อยากกลับกัมพูชา กลับไปก็ไม่มีงานทำ ทางครอบครัวที่กัมพูชาก็โทรมาห่วงว่าคนไทยจะทำร้าย […]

เปิดภาพทหารไทยวางรั้วลวดหนามช่องอานม้า ตรึงกำลังเข้ม

6 ส.ค.- เปิดภาพทหารไทยวางรั้วลวดหนามช่องอานม้า พร้อมตรึงกำลังเข้ม ป้องกันทหารกัมพูชาตัดรั้วลวดหนาม รอบ 2 เมื่อวันที่ 6 ส.ค. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเจ้าหน้าที่ตรวจพบกำลังทหารกัมพูชาเข้ามาดำเนินการตัดลวดหีบเพลง ที่ทางฝ่ายไทยได้วางไว้เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่เขตอธิปไตยของไทย ณ บริเวณพื้นที่ตลาดช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวานนี้ (5 ส.ค.) โดยทางฝ่ายไทยได้ดำเนินการแจ้งให้ยุติการกระทำดังกล่าว พร้อมให้ถอยออกจากพื้นที่ ซึ่งฝ่ายกัมพูชาปฏิบัติตาม และได้ออกจากบริเวณดังกล่าวในทันที ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เข้าดำเนินการกางลวดหีบเพลงให้เข้าสู่สภาพเดิม ปัจจุบันยังคงมีการตรึงกำลังที่ฐานปฏิบัติการในพื้นที่เขตอธิปไตยของไทย-สำนักข่าวไทย

เอาผิด 2 ข้อหา อดีตทหาร BHQ-เรียกภรรยาให้ข้อมูล

บุรีรัมย์ 6 ส.ค. – ผู้การบุรีรัมย์ เค้นสอบอดีตทหารองครักษ์พิทักษ์ฮุนเซน ยืนยันไม่ได้เป็นสายลับ หลังถูกจับพร้อมเครื่องแบบทหาร-อาวุธปืน เบื้องต้นตั้ง 2 ข้อหา พร้อมเรียกภรรยามาให้ข้อมูล จากกรณีตำรวจ สภ.ลำดวน จ.บุรีรัมย์ จับกุมนายวิน ดา ทหารเขมรชุด BHQ องครักษ์พิทักษ์ฮุน เซน ได้ในบ้านพักหลังหนึ่งใน อ.กระสัง ซึ่งเป็นบ้านของภรรยาชาวไทย พร้อมปืนลูกซองไทยประดิษฐ์และเครื่องกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 3 นัด กระสุนปืนขนาด.38 อีก 3 นัด และเครื่องแบบทหารที่มีตราสัญลักษณ์ BHQ หลายรายการ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของทหารกัมพูชา หน่วยรบพิเศษ BHQ ซึ่งเป็นองครักษ์พิทักษ์สมเด็จฮุน เซน จึงควบคุมตัวมาสอบปากคำที่สถานีตำรวจภูธรลำดวน อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ เพราะคาดว่าน่าจะเป็นสายลับเข้ามาฝังตัว ส่งความเคลื่อนไหวทางการทหารไทยให้ฝ่ายกัมพูชา รับเป็นทหารBHQ จริง แต่ไม่ใช่สายลับพล.ต.ต.ณรงค์ศักดิ์ พรหมทา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ลงพื้นที่สอบปากคำนายวิน ดา ด้วยตัวเอง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง […]