สำนักข่าวไทย 6 มิ.ย.- อดีตโฆษก กรธ. ชี้กรณี “พิธา” ถือหุ้นไอทีวีต้องดูข้อเท็จจริง หากถือในฐานะผู้จัดการมรดก ไม่ถือเป็นเจ้าของหุ้นตัวจริง ไม่เข้าข่ายขาดคุณสมบัติ และกรณีนี้เป็นเรื่องเฉพาะตัว ไม่พ่วงลูกพรรคที่รับรอง พร้อมระบุพรรคแกนนำตั้งรัฐบาลมี 151 เสียงย่อมถูกต่อรอง และทุกพรรคต่างอยากได้ตำแหน่งประธานสภา
นายชาติชาย ณ เชียงใหม่ อดีตอธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า)และอดีตโฆษกคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่านายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคก้าวไกล ขายหุ้นไอทีวี 4,200หุ้นแล้วตั้งแต่เดือนพฤษภาคมซึ่งอาจจะไม่มีผลต่อคุณสมบัตินายกรัฐมนตรีว่า ตามรัฐธรรมนูญผู้ที่จะสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจะต้องไม่ถือครองหุ้น ดังนั้นจะต้องดูในวันสมัครรับเลือกตั้ง โดยในวันนั้นหากคุณสมบัติไม่ครบ ก็แสดงว่าเป็นโมฆะ ไม่สามารถสมัครได้ ซึ่งในวันสมัครรับเลือกตั้งนั้น เจ้าตัวต้องเขียนรับรองว่าข้อความที่ข้าพเจ้ากรอกใบสมัครเป็นจริงทุกประการ ฉะนั้นในวันที่ไปสมัครรับเลือกตั้ง หากเจ้าตัวรู้ หรือไม่รอบคอบ ไม่รู้ว่าตัวเองถือหุ้นสื่ออยู่แล้วไปสมัครรับเลือกตั้ง เมื่อกกต.ตรวจพบทีหลัง ก็จะต้องถูกตัดสิทธิ เพราะคุณสมบัติไม่ครบ อย่างไรก็ตามจะต้องดูในรายละเอียดด้วยว่าคนที่ไปสมัครถือหุ้นในนามส่วนตัว หรือหุ้นตกอยู่กับเขาในฐานะผู้จัดการมรดก หากเป็นในฐานะผู้จัดการมรดก ถือเป็นเรื่องคำสั่งศาล ที่สิ่งต่างๆ ที่เป็นมรดกจะอยู่ภายใต้ชื่อเขา แต่ไม่ได้หมายความว่าเป็นเจ้าของมรดกหรือเป็นเจ้าของหุ้น ก็ถือว่าไม่เข้าข่าย
ส่วนข้อสงสัยว่าหากนายพิธาขายหุ้นก่อนวันเลือกตั้ง กกต.จะต้องส่งเรื่องไปศาลฎีกาหรือศาลรัฐธรรมนูญนั้น อดีตโฆษกกรธ. กล่าวว่า ก่อนอื่นจะต้องดูว่าหุ้นที่มีข้อมูลว่าเป็นของนายพิธานั้นเป็นของนายพิธาโดยส่วนตัว ที่ซื้อมาตั้งแต่แรก หรือเป็นของเขาในนามผู้จัดการมรดก จะต้องแยกออกมา หากเป็นหุ้นในฐานะผู้จัดการมรดก ก็ถือว่าเขาไม่ได้ถือหุ้น และไม่ได้เป็นเจ้าของหุ้น เป็นเพียงแต่ตามกฎหมายให้มาดูแลหุ้นที่เป็นมรดกของพ่อเท่านั้นเอง ซึ่งหากเป็นเช่นนี้ถือว่า นายพิธาไม่เข้าข่ายว่าถือหุ้น และไม่ผิด และไม่ขาดคุณสมบัติการเป็นผู้สมัครส.ส.และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี
“ในความเป็นจริงผมก็ไม่รู้รายละเอียดว่าหุ้นนี้มาจากไหน อย่างไร ถ้าเป็นหุ้นที่เป็นมรดกพ่อเขา และไม่ได้เขียนพินัยกรรมไว้ หรือถ้าเขียนไว้ก็ต้องดูว่ายกให้ใคร และถ้าไม่ได้ยกให้ใคร ลูกหลานก็ต้องมาตกลงกันเองว่าหุ้นมรดกนี้ว่าใครจะเอาไป ซึ่งคงยังไม่ได้จัดการ ผมก็ไม่รู้นะ แต่ถ้าเป็นกรณีว่าเขาเป็นผู้ดูแลหุ้นในฐานะที่เป็นผู้จัดการมรดกและหุ้นยังไม่ได้แบ่ง ก็ถือว่าเขายังไม่ได้เป็นคนถือหุ้นนั้น เป็นแค่ผู้จัดการมรดกเฉยๆ แต่หุ้นเป็นมรดกของพ่อเขา
ไม่ใช่ของเขา ผมก็ไม่รู้รายละเอียดอะไร ว่ากันไปตามข้อเท็จจริงและตัวบทกฎหมาย ว่าเจตนาของมาตรานี้ก็มีแค่นั้น คือไม่อยากให้นักการเมืองหรือใครมาสมัครเป็นส.ส.ถือหุ้นสื่อ เพราะการถือหุ้นสื่อมีโอกาสที่จะใช้สื่อให้คุณให้โทษกับตัวเอง และคู่แข่งได้ ดังนั้นถ้าเป็นผู้จัดการมรดก ก็ถือว่าไม่ใช่เจ้าของหุ้น “ นายชาติชาย กล่าว
นายชาติชาย กล่าวว่าก่อนจะส่งเรื่องไปให้ศาลใดวินิจฉัย กกต.จะต้องขอหลักฐานจากนายพิธา หรือเรียกนายพิธาไปให้คำชี้แจง เพื่อหาข้อเท็จจริงและวินิจฉัยตรงนี้ก่อน หากมีมูลจึงจะส่งให้ศาลวินิจฉัยต่อ หากไม่มีมูลศาลคงไม่รับคำร้อง
ส่วนเรื่องที่มีการร้องนายพิธา ควรจะต้องวินิจฉัยให้เสร็จก่อนที่จะมีการเลือกนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายชาติชาย กล่าวว่า ไม่จำเป็น เพราะต้องขึ้นอยู่กับกกต.ที่จะส่งเรื่องไป และอยู่ที่ศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งศาลฯคงต้องดูว่าหากมีมูลก็คงต้องเร่งพิจารณา เพราะจะกระทบต่อการบริหารราชการแผ่นดิน ไม่เช่นนั้นอาจทำให้เกิดความเสียหายต่อส่วนรวม
สำหรับกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าหากศาลวินิจฉัยว่านายพิธาขาดคุณสมบัติเพราะถือหุ้นสื่อ อาจจะกระทบกับผู้สมัครส.ส.ที่เซ็นรับรองในฐานะหัวหน้าพรรคนั้น นายชาติชาย กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับการตีความ หากเจ้าตัวขาดคุณสมบัติก็ถือเป็นความผิดเฉพาะตัว หากไปรับรองผู้สมัครในฐานะหัวหน้าพรรค ก็ไม่น่าจะมีผลกับคนอื่น เพราะตามรัฐธรรมนูญเขียนไว้เฉพาะตัว หากเจ้าตัวไปทำอะไรผิดก็เป็นเรื่องเฉพาะตัว
นายชาติชาย ยังกล่าวถึงกรณีที่พรรคก้าวไกลอยู่ในกระบวนการจัดตั้งรัฐบาลว่าจะสำเร็จหรือไม่ เป็นเรื่องที่ตอบยาก เพราะอำนาจเป็นเรื่องที่นักการเมืองอยากได้ และอยากเป็นรัฐบาล แต่ละฝ่ายคงจะมีกลเม็ดต่อรองกัน เพราะพรรคอันดับหนึ่งมี 151 เสียง จึงอาจจะต้องยอมพรรคอันดับสอง เพื่อให้จัดตั้งรัฐบาลได้ และเชื่อว่าตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรที่ยังไม่ลงตัวถือเป็น “ปมร้อน” เพราะเป็นตำแหน่งสำคัญที่จะต้องจัดประชุมรัฐสภาเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรี และเป็นคนจัดวาระเข้าสู่สภา ดังนั้นหากกฎหมายอะไรที่ประธานเห็นว่ากฎหมายอะไรที่กระทบต่อบ้านเมือง อาจจะไม่บรรจุเข้าระเบียบวาระได้ จึงทำให้พรรคการเมืองอยากได้ตำแหน่งนี้.- สำนักข่าวไทย