กรุงเทพฯ 4 มิ.ย. – “พิธา” ร่วมพาเหรด “บางกอกไพรด์” วางกุหลาบอาลัยคนเสื้อแดงหน้าวัดปทุมฯ เขียนข้อความ “ด้วยรักและอาลัย เพื่อประชาธิปไตยเต็มใบ เราจะทำให้สำเร็จไปด้วยกัน” พร้อมกล่าวสัญญากลางเวทีตั้งรัฐบาลเมื่อไร “สมรสเท่าเทียม” ผ่านแน่ ลั่นไม่ใช่เป็นแค่เดินพาเหรด แต่เป็นคุณค่าที่เชื่อมั่น ด้านแฟนคลับแห่กรี๊ดแน่น ประชิดตัวตะโกน “ส้มรักพ่อ-นายกฯ พิธา”
4 มิ.ย.2566 นายพิธาลิ้ม เจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เดินร่วมงานพาเหรดบางกอกไพรด์ โดยเข้าขบวนร่วมกับนางสาวศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรค, นางสาวพรรณิการ์ วานิช ผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล และว่าที่ ส.ส. กว่า 40 คน เช่น นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์, นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร, นายศุภณัฐ มีนชัยนันท์
ทั้งนี้ น.ส.รักชนก ศรีนอก ว่าที่ ส.ส.เขตบางบอน ที่ใช้แคมเปญหาเสียงโดยการขี่จักรยาน ได้ขี่จักรยานนำขบวนด้วย ขณะที่ประชาชนตะโกน ส้มรักพ่อ นายกฯๆ และส่งเสียงกรี๊ดหลายครั้ง หลายคนรออยู่บนสะพานลอยและสกายวอล์กเชื่อมรถไฟฟ้าบีทีเอส ซึ่งนายพิธาและแกนนำได้โบกมือทักทายและกล่าวขอบคุณ
บางช่วงมีมวลชนวิ่งเข้ามาหานายพิธา จนทำให้เจ้าหน้าที่พรรคก้าวไกลและผู้จัดต้องทำกำแพงมนุษย์ เพื่อรักษาความปลอดภัย
จากนั้นเมื่อถึงหน้าวัดปทุมวนาราม นายพิธาได้เดินออกจากขบวนไปวางดอกกุหลาบสีแดงบนผ้าสีแดง พร้อมเขียนข้อความอาลัยถึงวีรชนคนเสื้อแดงที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมเมื่อปี 2553 ว่า “ด้วยรักและอาลัย เพื่อประชาธิปไตยเต็มใบ ที่พวกเราจะทำให้สำเร็จไปด้วยกัน”
จากนั้นนายพิธาเดินทางมาถึงลานหน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ พร้อมแกนนำพรรคการเมืองต่างๆ กล่าวบนเวทีการที่เรามารวมตัวกันที่นี่เป็นคือการส่งสัญญาณไปทั่วโลกว่าประเทศของเราขับเคลื่อนด้วยความรัก ไม่ใช่ความกลัว และเรากำลังส่งสัญญาณไปทั่วโลกว่า ความหลากหลายคือจุดแข็งของแผ่นดินนี้ ไม่ใช่จุดอ่อน และเรากำลังส่งสัญญาณไปว่าความรักก็คือความรัก แล้วความรักต้องชนะ และตนกับนางสาวแพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย กับอีก 6 พรรคที่เหลือ สัญญาว่าหากเราจะตั้งรัฐบาลได้เมื่อไร กฎหมายสมรสเท่าเทียมผ่านแน่นอน
“รวมถึงการรับรอง ไม่ว่าจะเป็นเพศอะไร เชื้อชาติอะไร หรือศาสนาอะไร ประเทศของเรายินดีต้อนรับทุกคน อย่างปลอดภัย อย่างมีอิสระ และพวกคุณทุกคนเป็นตัวของตัวเองได้แน่นอน” นายพิธา กล่าว
นายพิธา กล่าวต่อว่า เมื่อวันนั้นมีตนและนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ร่วมมือกันเมื่อไร พอกันทีกับคนที่รักในอาชีพของตนเองแต่ไม่สามารถเป็นตัวของตัวเองได้ คนที่เป็นครูไม่สามารถเป็นครูได้ เพียงเพราะเพศสภาพ และเพศกำเนิดไม่ตรงกัน พอกันทีกับคนที่เพศเดียวกัน สร้างบ้านสร้างครอบครัวด้วยกันไม่ได้ เพียงเพราะเพศสภาพของเขาไม่เหมือนกับคนทั่วไป
“พอกันทีกับบทสนทนาอันกระอักกระอ่วนของผู้ปกครองและพ่อแม่ตัวเองบนโต๊ะอาหาร เพียงเพราะว่าเสียงข้างในไม่ตรงกับเสียงที่พูดออกมาจากปาก และแล้ววันนั้นวันที่เราจะส่งสัญญาไปทั่วโลกว่า Pride Month ไม่ใช่เป็นแค่เดือน ไม่ใช่เป็นแค่การเดินพาเหรด แต่เป็นคุณค่าที่พวกเราเชื่อร่วมกันของสังคม เวลาอีกนิดเดียวเท่านั้นตั้งรัฐบาลได้เมื่อไร เราขึ้นวาระประชุมคณะรัฐมนตรี เอาเข้าประชุมสภาฯ” นายพิธา กล่าว
นายพิธา กล่าวว่า ตนไม่แน่ใจว่าจะราบรื่นแค่ไหน แต่ตนขอสัญญากับทุกคนในที่นี้ว่าจะคุ้มค่าแน่นอน เพราะเมื่อถึงเวลานั้นเรามาเปลี่ยนประเทศไทยไปด้วยกัน เปลี่ยนเอเชียไปด้วยกันเปลี่ยนโลกนี้ไปด้วยกัน
ภายหลังการกล่าวบนเวทีเสร็จ ทุกพรรคการเมือง นายพิธา ได้ร่วมยืนสงบนิ่งบนเวทีเป็นเวลา 1 นาที ก่อนเปิดแฟลชโทรศัพท์มือถือแสดงสัญลักษณ์.-สำนักข่าวไทย