ชี้ ประธานสภาฯ ต้องทำหน้าที่เป็นกลาง

กรุงเทพฯ 1 มิ.ย. – “จุรินทร์” เชื่อทุกอย่างจะชัดเจนหลัง กกต. รับรองผลการเลือกตั้ง พร้อมย้ำประธานสภาฯ ต้องปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นกลาง จะช่วยขับเคลื่อนนโยบายให้พรรคใดพรรคหนึ่งไม่ได้


นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองในขณะนี้ว่า อยู่ในขั้นตอนการจัดตั้งรัฐบาล ถือว่าเป็นสถานการณ์ปกติ เพียงแต่มีประเด็นที่ดูเหมือนพรรคที่ไปร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลยังมีความไม่ลงตัวในบางเรื่อง สังคมจึงให้ความสนใจ โดยเฉพาะตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่ยังไม่มีข้อยุติ ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องมีการเจรจาทางการเมืองกัน อย่างไรก็ตาม มองว่าสิ่งที่จะทำให้ทุกอย่างชัดเจนและนิ่งขึ้น คือ กกต. ประกาศรับรองผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ

ส่วนที่ตำแหน่งประธานสภาฯ กลายมาเป็นประเด็นแย่งชิงกันของ 2 พรรคใหญ่นั้นนายจุรินทร์ กล่าวว่า อาจจะเป็นประเด็นที่ 2 พรรค ออกมาแสดงความเห็นในลักษณะที่ขัดแย้งกัน แต่ประธานสภาฯ ก็ต้องเลือกกันในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ส่วนที่กังวลว่าจะต้องเป็นของพรรคโน้นพรรคนี้ไม่อย่างนั้นจะไม่สามารถขับเคลื่อนนโยบายพรรคได้ ตนคิดว่าอาจเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน เพราะประธานสภาฯ ต้องปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นกลาง จะไปช่วยขับเคลื่อนนโยบายพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งนั้นทำไม่ได้อยู่แล้ว และรัฐธรรมนูญก็จำกัดขอบเขตอำนาจหน้าที่ประธานสภาไว้ชัดเจน ข้อบังคับการประชุมก็กำหนดไว้ชัดเจน การที่จะปฏิบัติหน้าที่ การทำหน้าที่ในการบรรจุระเบียบวาระการประชุม ทุกอย่างมีกฎเกณฑ์ มีระบบระเบียบทั้งหมดอยู่แล้ว ดังนั้นก็ไม่ต้องไปกังวลว่าจะสามารถที่จะทำอะไรนอกเหนือกฎเกณฑ์ได้


“เป็นเรื่องที่สะท้อนให้เห็นว่าในพรรคการเมืองที่ไปรวมกันจัดตั้งรัฐบาลขณะนี้ ก็ยังมีความไม่ลงตัวกันอยู่ในเรื่องประธานสภา แล้วก็ตำแหน่งประธานสภาก็ไม่น่าจะมีผลต่อการได้มาซึ่งตัวนายกรัฐมนตรี เพราะทุกอย่างต้องเป็นไปตามระเบียบกฎเกณฑ์ และตามรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน คนจะเป็นนายกฯ ต้องได้รับการโหวตในที่ประชุมร่วมรัฐสภา เพราะฉะนั้นก็จะขึ้นอยู่กับผลการลงคะแนน ส่วนประธานสภามีหน้าที่นำชื่อจากผลการลงคะแนนในที่ประชุมร่วมรัฐสภาขึ้นทูลเกล้าฯ จะไปทำเป็นอย่างอื่นก็ไม่ได้ จะเปลี่ยนชื่อก็ไม่ได้ ก็ต้องเป็นไปตามนั้นอยู่แล้ว ผมไม่มีเงื่อนไขอะไรพิเศษหรอก เพราะมีระบบ ระเบียบได้กำหนดบังคับไว้ชัดอยู่แล้ว ถ้าปฏิบัติหน้าที่ไม่เป็นกลางเมื่อไหร่ สมาชิกก็ทักท้วง แล้วก็สังคมก็จะกดดันเองว่า ประธานสภาคนนี้ทำไมถึงไม่ทำหน้าที่เป็นกลาง แล้วอาจจะมีการร้องต่อไปในอนาคตได้ด้วย เพราะประเทศเราการตรวจสอบก็เข้มข้นขึ้น” นายจุรินทร์ กล่าว

สำหรับพรรคประชาธิปัตย์ ได้มีการสรุปบทเรียนหลังการเลือกตั้งอย่างไรบ้างนั้น นายจุรินทร์ กล่าวว่า พรรคก็จะต้องเดินหน้าต่อไป ผลการเลือกตั้งนั้น ไม่แพ้ก็ชนะ ไม่ได้มากก็ได้น้อย ก็เป็นสิ่งที่เราตระหนักได้ และเข้าใจดีอยู่แล้ว แต่สิ่งหนึ่งก็คือ ทุกคนจะต้องมาช่วยกันทำพรรคให้เติบโตต่อไป และเข้าไปนั่งอยู่ในหัวใจประชาชนได้มากขึ้นต่อไปในอนาคต ทั้งนี้ส่วนตัว ไม่ว่าอยู่ในสถานะไหน ก็พร้อมที่จะเข้ามาช่วยสนับสนุนพรรคให้เดินหน้าต่อไป และคงความเป็นสถาบันทางการเมืองที่เป็นที่หวังของประชาชนได้ต่อไปในอนาคต

ส่วนใครจะมเป็นหัวหน้าพรรคนั้น นายจุรินทร์ กล่าวว่าอยู่ที่มติ ส.ส. และกรรมการบริหารพรรค ที่จะต้องเป็นผู้พิจารณาต่อไป โดยเฉพาะเราก็ตกลงกันแล้วว่า ควรจะเป็น ส.ส.ชุดใหม่ เพราะฉะนั้นตอนนี้ยังเดินหน้าอะไรไม่ได้มาก เพราะว่าต้องรอ กกต. ให้การรับรอง ส.ส. ก่อน จากนั้นก็จะมีการเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ แล้วกระบวนการทั้งหมดก็จะเดินหน้าต่อไปตามระบบ


ส่วนเคยได้ยินหรือไม่ว่ามีคนติดต่อประชาธิปัตย์ไปร่วมจัดตั้งรัฐบาล นายจุรินทร์ กล่าวว่า ตนได้ตอบไปชัดแล้วว่า ตอนนี้ต้องให้โอกาสพรรคก้าวไกลที่จะเป็นแกนตั้งรัฐบาล และประชาธิปัตย์จะไม่ไปเป็นอุปสรรคในการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคก้าวไกล นี่คือสิ่งที่ตนประกาศไปชัดเจน และจนนาทีนี้ก็ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง และในฐานะรักษาการหัวหน้าพรรคก็ยังไม่เคยมอบหมายใครไปเจรจาจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคการเมืองใด

ทั้งนี้ รู้สึกหรือไม่ว่าจะมีการเมืองบนท้องถนนอีกครั้ง นายจุรินทร์ กล่าวว่า เราไม่อยากให้เกิดขึ้น และเชื่อว่าคนไทยทุกคนก็ไม่อยากให้เกิดขึ้น อยากให้ทุกอย่างได้เดินหน้าไปตามระบบ ไปตามรัฐธรรมนูญที่ได้กำหนดไว้ เพราะรัฐธรรมนูญก็มาจากการลงประชามติของประชาชน จึงอยากให้ได้เดินไปเป็นการเมืองในรัฐสภา เพียงแต่ไม่ใช่ว่าประชาชนจะให้ความคิดความอ่านไม่ได้ อันนั้นเป็นเรื่องของระบอบประชาธิปไตยปกติที่ประชาชนก็ต้องสามารถแสดงความคิดความเห็นได้อยู่แล้ว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีตครูจำใจสร้างห้องขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา

สลด! อดีตครูวัย 64 ปี จำใจจ้างช่างทำห้องคล้ายกรงขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา-พนันออนไลน์ หลังส่งตัวบำบัดกว่า 10 ครั้ง แต่ออกมาก็เหมือนเดิม

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2 โชคดีบาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่ส่งรักษาตัวที่ รพ.เจ้าพระยา

อาม่าแจ้งความ “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธีสูญ 60 ล้าน

อาม่าวัย 77 ปี โร่แจ้งความเอาผิด “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธี-แนะซื้อวัตถุมงคลแล้วไม่ได้รับของ สูญเงินกว่า 60 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

จนท.รุดช่วยอดีตครูจำใจสร้างห้องขังลูกติดยา

หลายหน่วยงานลงพื้นที่ช่วยอดีตครูจำใจสร้างห้องลูกกรง เตรียมขังลูกชายตกเป็นทาสยาเสพติด-พนันออนไลน์ บำบัดนับสิบครั้งไม่หาย พร้อมทำความเข้าใจผิดกฎหมายหน่วงเหนี่ยวกักขัง ขณะที่ รมว.ยุติธรรม เตรียมพิจารณาออกมาตรการบำบัดซ้ำโดยคำสั่งศาล

ทนายตั้ม

“ทนายตั้ม” ปรากฏตัวแล้ว บอกไม่สบายใจมี ตร.เฝ้าหน้าบ้าน

ปรากฏตัวแล้ว “ทนายตั้ม” พบตำรวจเหตุมีเจ้าหน้าที่ไปเฝ้าที่บ้าน พร้อมแจงปมเงิน 39 ล้านบาท ค่าศิลปินจีน ที่แท้เป็นมิจฉาชีพหลอก “เจ๊อ้อย” ปฏิเสธพบคู่กรณี บอกยังไม่พร้อมคุย

เกาะกูด

“ภูมิธรรม” ย้ำจะรักษาผลประโยชน์ทางทะเลของไทยไว้เท่าชีวิต

“ภูมิธรรม” มอง MOU44 คือกลไกที่ดีที่สุด ก่อนย้อนกลุ่มการเมือง พปชร.ไปถามหัวหน้าพรรคตัวเอง เพราะเป็นคนนำเจรจาในปี 57 ยันไม่เคยยกเลิกในสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ ย้ำรัฐบาลจะรักษาดินแดน-ผลประโยชน์ทางทะเลของไทยไว้เท่าชีวิต