แนะ “พิธา” อยากเป็นนายกฯ ที่ดีต้องตรงไปตรงมา

ทำเนียบรัฐบาล 1 มิ.ย.-“ธนกร” ยันรทสช.ไม่ยุ่งเรื่องตั้งรัฐบาล แต่เอาใจช่วย อยากเห็นนโยบาย 100 วัน ไม่ใช่เวลารัฐบาลแห่งชาติ สอนมวย “พิธา” ต้องปรับตัว ตรงไปตรงมา ชี้คำพูด การกระทำหมายถึงตัวตน แนะอยากเป็นนายกฯ ที่ดี ให้ดู “พล.อ.ประยุทธ์” เป็นตัวอย่าง ให้เกียรติทุกคน


นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.)ให้สัมภาษณ์กรณีนายจเด็จ อินสว่าง สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) เสนอแนวคิดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ และเตรียมเสนอในกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภาเพื่อตอบโจทย์การเมืองในเวลานี้ ว่า การจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติเป็นเรื่องที่ไกลมาก แต่เข้าใจว่า สมาชิกวุฒิสภาเป็นผู้ใหญ่ของบ้านเมือง อาจจะหวังดีกับบ้านเมือง แต่ไม่ใช่อยู่ ๆ จะตั้งรัฐบาลแห่งชาติ

“นายจเด็จอาจมองว่าหากประเทศติดหล่มหรือมีปัญหาขัดแย้งรุนแรงมาก ซึ่งก็เคยมีข้อเสนอแบบนี้มาหลายหนแล้ว ผมมองว่าอยากให้เป็นรัฐบาลแบบปกติ ตามระบอบประชาธิปไตย เพราะวันนี้เพิ่งเลือกตั้งมา ต้องให้เกียรติพรรคอันดับหนึ่งจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งเชื่อว่าเขาจัดตั้งรัฐบาลได้ แต่หากจับตั้งไม่ได้ก็ให้พรรคอันดับสองจัดตั้งไป ดังนั้น ควรเป็นรัฐบาลปกติตามระบอบประชาธิปไตยน่าจะเหมาะสมกว่า”นายธนกร กล่าว


เมื่อถามถึงคความเป็นไปได้กรณีเกิดการติดล็ก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและพล.อ.ประวิตร ววษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จะเข้ามาแก้ปัญหาแทนได้หรือไม่ นายธนกร กล่าวว่า เป็นเรื่องไกลไป เชื่อว่าวันนี้สถานการณ์บ้านเมืองยังปกติ ไม่ได้มีความขัดแย้งใด ๆ แต่อนาคตเราก็ไม่ทราบ ตอนนี้อยากให้บรรยากาศการจัดตั้งรัฐบาลเป็นไปด้วยดี

“พรรครวมไทยสร้างชาติขออยู่นิ่ง ๆ ใช้เวลาทำให้พรรคเป็นที่นิยมมากขึ้น และได้คุยกับนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่เห็นตรงกันว่าช่วงนี้ว่าควรใช้เวลาอยู่กับพรรครวมไทยสร้างชาติให้มากขึ้น และเฝ้ามองการจัดตั้งรัฐบาลด้วยการเอาใจช่วย ซึ่งเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาผมได้เจอกันในงานของสื่อมวลชนแห่งหนึ่งก็ได้ให้กำลังใจกับนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ไปด้วยเช่นกัน” นายธนกร กล่าว

ส่วนการออกมาเคลื่อนไหวของนายจเด็ด อินทร์ว่าง สมาชิกวุฒิสภา เป็นการส่งสัญญาณวงในว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นหรือไม่ นายธนกร กล่าวว่า ไม่มีหรอก เพราะนายจเด็ดเป็นผู้ใหญ่ พูดมีเหตุผลทุกครั้ง และมีโอกาสได้ฟังอภิปรายในสภาฯ ก็หลายครั้ง เป็นคนที่พูดตรงไปตรงมา คิดว่าท่านหวังดีกับประเทศ และอาจจะมองไปถึงอนาคต เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ มีการจุดพลุ จุดประเด็นมาหลายครั้งแล้ว


เมื่อถามย้ำว่าพรรครวมไทยสร้างชาติไม่ได้คาดว่าการจัดตั้งรัฐบาลจะเอนมาฝั่งขั้วอำนาจเดิมใช่หรือไม่ นายธนกร กล่าวว่า เราไม่คาดหวังอะไรอยู่แล้ว พรรครวมไทยสร้างชาติมี 36 เสียง พร้อมที่จะทำหน้าที่ฝ่ายค้านอยู่แล้ว

“สิ่งหนึ่งที่อยากฝากคือ ในข้อมูลของสื่อมวลชนและแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ ที่ระบุว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม มั่นใจว่าพรรครวมไทยสร้างชาติจะได้เป็นรัฐบาลแน่นั้น ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง พล.อ.ประยุทธ์ไม่เคยพูดเรื่องนี้ เพราะท่านเป็นสุภาพบุรุษทางการเมือง บอกเสมอว่าตามกลไกระบอบประชาธิปไตยให้พรรคอันดับหนึ่งเขาว่าไป ยืนยันว่าพล.อ.ประยุทธ์ไม่เคยพูด และที่มีข่าวออกมาว่าพล.อ.ประยุทธ์ขอให้คนในพรรครทสช.ใจเย็น ๆ ไม่มีครับ ไม่เป็นความจริง ท่านไม่เคยพูดประเด็นนี้เช่นกัน ท่านบอกว่าต้องให้พรรคอันดับหนึ่งจัดตั้งไป ยืนยันว่าท่านไม่เคยพูด ต้องให้ความเป็นธรรมท่านด้วย การสื่อสารแบบนี้คลาดเคลื่อน” นายธนกร กล่าว

เมื่อถามว่า หากคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) จัดให้เลือกตั้งใหม่จะทำให้ส.ส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติมีจำนวนเพิ่มขึ้น และจับขั้วกับพรรคพลังประชารัฐจัดตั้งรัฐบาลได้หรือไม่ นายธนกร กล่าวว่า เป็นเรื่องของข้อกฎหมาย สิ่งที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีพูดนั้น เข้าใจว่าท่านเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย ก็ให้ความเห็นว่า หากคำร้องเป็นแบบนี้ การวินิจฉัยจะกระทบแบบนี้ แต่สุดท้ายเป็นเรื่องที่ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัย คงไม่ไปก้าวล่วง กลไกต่าง ๆ วันนี้เดินหน้าไปแล้ว ต้องรอกกต. พิจารณาไต่สวน ก่อนส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา และสุดท้ายก็อยู่ที่คำวินิจฉัยของศาลรธน. ซึ่งเชื่อว่าน่าจะยึดหลักกฏหมายและข้อเท็จจริง

เมื่อถามว่าพรรครวมไทยสร้างชาติวิเคราะห์หรือไม่ว่าจะปล่อยให้พรรคก้าวไกลจัดตั้งรัฐบาลแล้วสอยทีหลัง หรือจะเปลี่ยนแปลงก่อนโดยจับขั้วใหม่จัดตั้งรัฐบาล นายธนกร กล่าวว่า เราไม่วิเคราะห์ แต่เราเอาใจช่วย เพราะในระบอบประชาธิปไตยพรรคที่ได้เสียงอันดับหนึ่งต้องจัดตั้งรัฐบาล เวลาที่เหลืออยู่พล.อ.ประยุทธ์บอกแล้วว่าจะต้องทำงานให้เต็มที่จนนาทีสุดท้าย ดังนั้น จึงเห็นได้ว่าพล.อ.ประยุทธ์ไม่ค่อยพูดเรื่องการเมือง เพราะไม่อยากก้าวล่วงและพูดให้เป็นประเด็น ต้องปล่อยให้พรรคก้าวไกลเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลไป ซึ่งตนดูแล้วก็ไม่ง่าย น่าจะเจออุปสรรคหลายอย่าง ขอเอาใจช่วย

เมื่อถามย้ำว่าหากคำวิเคราะห์ของนายวิษณุเป็นความจริงคือการเลือกตั้งโมฆะทั้งหมด หรือจะโมฆะเฉพาะพรรคก้าวไกล นายธนกร กล่าวว่า เป็นเรื่องของอนาคตตอบไม่ได้ ต้องรอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย แต่นายวิษณุเป็นกูรูด้านกฎหมาย ท่านมีความเชี่ยวชาญ ก็ต้องดู แต่ความเห็นนั้นเป็นความเห็นส่วนตัว ก็ต้องรับฟังไว้ สุดท้ายก็ต้องอยู่ที่ศาลรัฐธรรมนูญ

ส่วนกรณีพรรคก้าวไกลประสานข้อมูลจากหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อเป็นการเปลี่ยนถ่ายรัฐบาลนั้นเหมาะสมหรือไม่ นายธนากร กล่าวว่า ต้องดูว่าเหมาะสมหรือไม่ เพราะวันนี้รัฐบาลยังอยู่ ข้าราชการอาจจะอึดอัดก็ได้ ส่วนกรณีที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ระบุข้าราชการขอมาพบเองนั้น มันไม่ใช่ นายกรัฐมนตรีได้สอบถามจากข้าราชการ ไม่มีใครไปขอพบเลย

“พอไปดูข้อเท็จจริงพรรคก้าวไกลต่างหากที่เป็นคนไปขอพบกับหน่วยงานของราชการ เช่น อบจ. เทศบาล ซึ่งเป็นหน่วยงานราชการส่วนท้องถิ่น เห็นได้ว่าสิ่งที่พูดกับสิ่งที่ทำมันต่างกัน ผมไม่อยากก้าวล่วงท่านหรอก แต่บางครั้งก็ต้องพูดตรงไปตรงมา เพราะประชาชนจับตาอยู่ เป็นถึงว่าที่นายกรัฐมนตรี การพูด การกระทำของท่านมันจะหมายถึงตัวตนของท่าน คิดว่าตัวท่านเองวันนี้ก็ต้องปรับตัวเหมือนกัน ถ้าท่านจะเป็นนายกฯ ที่ดีก็ต้องปรับตัว” นายธนกร กล่าว

เมื่อถามย้ำว่า นายพิธาบิดเบือนใช่หรือไม่ นายธนกร กล่าวว่า ไม่ใช่บิดเบือน แต่ข้อมูลไม่ตรงกัน พล.อ.ประยุทธ์เป็นหลักในการ เป็นนายกรัฐมนตรีที่ดีได้ว่าเป็นอย่างไรก็ขอให้ดูพล.อ.ประยุทธ์ เพราะพล.อ.ประยุทธ์ให้เกียรติทุกคน

“ที่มีหนังสือจากพรรคก้าวไกลเชิญสมาคมอบจ. แห่งประเทศไทยมาเข้าพบและพูดคุย ก็นี่ไง ก็ใช่ไงครับ ก็ก้าวไกลบอกว่าหน่วยงานราชการเชิญท่านมา แต่ กลับกลายเป็นว่าท่านเป็นคนเชิญหน่วยงานมาหารือเอง เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร แต่อยากให้พูดตรงไปตรงมา เพราะประชาชนชอบแบบตรงไปตรงมา ไม่ใช่เรื่องเสียหาย ต้องดูความตรงไปตรงมาและความเหมาะสม ผมเอาใจช่วยอยู่แล้ว อยากให้พรรคก้าวไกลเป็นรัฐบาล อยากเห็นนโยบาย 100 วันของท่าน มันทำได้หรือไม่อย่างไร เมื่อเข้ามาเป็นรัฐบาล” นายธนกร กล่าว

เมื่อถามว่า การใช้มวลชนกดดัน สร้างกระแสมีผลอะไรหรือไม่ นายธนกร กล่าวว่า ตนไม่อยากมองอย่างนั้น แต่หลายฝ่ายมองแบบนั้น ซึ่งไม่อยากให้ไปเคลื่อนไหวกดดัน ไม่ว่าจะเป็นมวลชนหรือโซเชียลมีเดีย เพราะตอนนี้ในโซเชียลมีเดียก็เคลื่อนไหวกดดันคนที่เห็นต่าง ซึ่งตอนนี้มวลชนที่เป็นเครือข่ายของพรรคก้าวไกลก็เริ่มออกมาแล้วว่าต้องแสดงพลังหากไม่ได้ดั่งใจ คิดว่าถ้าเป็นแบบนี้บ้านเมืองก็จะเดินไปสู่ความขัดแย้งอีก ไม่ต้องการให้เป็นแบบนี้ คิดว่าสิ่งที่พล.อ.ประยุทธ์ทำมา มาไกลมากแล้ว เรามีความสงบ เศรษฐกิจเริ่มดีขึ้น หลายอย่างดีขึ้น สื่อมวลชนได้ใช้ชีวิตตามปกติ หากมีม็อบอะไรขึ้นมาจะไปไกลกว่านั้นอีก คิดว่ามันไม่ควร.-สำนักข่าวไทย   

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Cambodia PM Hun Manet in military uniform

กัมพูชาเสนอศาลโลกตัดสินดินแดนพิพาทกับไทย

พนมเปญ 2 มิ.ย.- ผู้นำกัมพูชาเสนอให้นำข้อพิพาททางดินแดนกับไทยให้ศาลโลกตัดสิน และได้สั่งการให้เจบีซีเร่งจัดการหารือกับไทยเรื่องปักปันเขตแดน ด้านกระทรวงต่างประเทศกัมพูชาได้ยื่นหนังสือประท้วงไทยเรื่องเหตุปะทะที่มีทหารกัมพูชาเสียชีวิต เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ขแมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้โพสต์ถ้อยแถลงในสื่อสังคมออนไลน์เมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า เขาได้ตัดสินใจตามที่รับฟังรายงานสรุปจากนายทหารที่ประจำการตามแนวชายแดนไทย หลังจากที่เขากลับจากการปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ โดยได้สั่งการให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมกัมพูชา-ไทยหรือเจบีซี (JBC) เร่งจัดการประชุมกับฝ่ายไทยเพื่อเดินหน้าการสำรวจและปักปันเขตแดนระหว่าง 2 ประเทศ ถ้อยแถลงระบุด้วยว่า กัมพูชากำลังเตรียมบรรจุประเด็นใหม่ไว้ในวาระการประชุมเจบีซี คือ การเสนอให้นำข้อพิพาทยาวนานเรื่องปราสาทตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด ตาเมือนควาย และพื้นที่มอมเบ เข้าสู่การตัดสินชี้ขาดของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลกที่กรุงเฮกในเนเธอร์แลนด์ นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเตือนว่า การยั่วยุเมื่อไม่นานมานี้ของกลุ่มสุดโต่งเล็ก ๆ ได้จุดชนวนความตึงเครียดและโหมกระพือกระแสรักชาติขึ้นใน 2 ประเทศ เขาหวังว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะสามารถทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุทางออกสุดท้ายให้แก่พื้นที่พิพาทอ่อนไหวเหล่านี้ กัมพูชายังคงมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาชายแดนด้วยกลไกทางเทคนิคและหลักการทางกฎหมาย แต่ก็สงวนสิทธิที่จะปกป้องบูรณภาพทางดินแดนด้วยทุกวิถีทาง รวมถึงการใช้อาวุธ หากมีความพยายามใช้กำลังทหารรุกรานดินแดนของกัมพูชา ด้านกระทรวงกิจการต่างประเทศและความร่วมมือสากลของกัมพูชาได้ยื่นหนังสือทางการทูตประท้วงไทย ซึ่งมีการเปิดเผยเนื้อหาเมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า กองทัพไทยเปิดฉากยิงทั้งที่ไม่มีการยั่วยุจากที่ตั้งทางทหารของกัมพูชาในหมู่บ้านเตโชมรกต อำเภอจอมกระสานต์ จังหวัดพระวิหารเมื่อราวเวลา 05.30 น.วันที่ 28 มีนาคม ส่งผลให้ทหารกัมพูชาถูกสังหารอย่างไม่เป็นธรรม 1 นาย และเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพทางดินแดนของกัมพูชา กระทรวงต่างประเทศของกัมพูชาขอประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำดังกล่าวว่า ผิดกฎหมาย รัฐบาลกัมพูชาเรียกร้องให้สอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยทันทีและถี่ถ้วน และต้องนำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษ.-814.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ กัมพูชา สั่งระดมทหารประชิดชายแดนไทย

1 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สั่งระดมกำลังทหารประชิดชายแเดนไทย ขณะเดินทางเยือนญี่ปุ่น พร้อมติดตามสถานการณ์บริเวณชายแดนติดกับไทยอย่างใกล้ชิด หนังสือพิมพ์ขะแมร์ ไทมส์ รายงานว่า ฌอง-ฟรองซัว ตัน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ให้สัมภาษณ์สื่อในประเทศ ระบุว่านับตั้งแต่เกิดเหตุความขัดแย้งตามมแนวชายแดนระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจเยือนญี่ปุ่น ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จนกระทั่งเดินทางกลับมายังกัมพูชา เมื่อคืนที่ผ่านมา และได้สั่งการด้วยตัวเองให้ระดมกำลังทหารเพิ่มเติมเข้าประชิดชายแดนด้านที่ติดกับไทย เพื่อปกป้องอธิปไตยและพรมแดนกัมพูชา พร้อมกับยืนยันว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนด้านที่ติดกับไทย กลับมาสงบเรียบร้อยตามปกติแล้ว นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ยังได้ติดต่อและสั่งการตามสายงานลงไปยังรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และเสนาธิการกองทัพบก ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และแจ้งความคืบหน้าให้ทราบอย่างต่อเนื่อง หลังเกิดการปะทะกันครั้งล่าสุดระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย พร้อมกับเรียกร้องประชาชนชาวกัมพูชาเชื่อมั่นการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพและรัฐบาลกัมพูชา ในการปกป้องดินแดน และหาหนทางแก้ไขความขัดแย้งบริเวณชายแดนติดกับไทย โดยยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ และหลังจากนี้ คณะกรรมการพรมแดนของกัมพูชา มีกำหนดพบหารือในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับรายละเอียดข้อขัดแย้ง และนำเสนอเพื่อเข้าสู่การเจรจาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

“โอปอล สุชาตา” คว้ามงกุฎ Miss World 2025

อินเดีย 1 มิ.ย.-“โอปอล สุชาตา” สาวงามตัวแทนจากไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎ Miss World 2025 มาครองได้สำเร็จ เวทีการประกวด Miss World 2025 ครั้งที่ 72 ณ HITEX Convention Center เมืองไฮเดอราบัด รัฐเตลังคานา ประเทศอินเดีย โดย “โอปอล สุชาตา ช่วงศรี” สาวงามตัวแทนจากประเทศไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎมิสเวิลด์มาครองได้สำเร็จ โดยการประกวดในปีนี้มีนางงามจาก 108 ประเทศทั่วโลก เข้าร่วม ทั้งนี้ในรอบ 8 คนสุดท้าย มีนางงามที่ผ่านเข้ารอบได้แก่ บราซิล มาร์ตินีก เอธิโอเปีย นามิเบีย โปแลนด์ ยูเครน ฟิลิปปินส์ และประเทศไทย ซึ่งจนกระทั่ง รอบ 4 คนสุดสุดท้าย มาร์ตีนิก เอธิโอเปีย และ โปแลนด์ ทั้ง 4 […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 4 มิ.ย. – กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองและฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 60% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส.-สำนักข่าวไทย

จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล

นายกฯ เป็นประธานถวายเครื่องราชสักการะ-จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี

สนามหลวง 3 มิ.ย.-นายกรัฐมนตรี และคู่สมรส เป็นประธานพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2568 เวลา 19. 49 น. ณ เวทีใหญ่ ท้องสนามหลวง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายปิฎก สุขสวัสดิ์ คู่สมรส เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2568 โดยมีผู้แทนประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญพร้อมคู่สมรส คณะรัฐมนตรีพร้อมคู่สมรส ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทหาร ตำรวจ พลเรือน ภาคเอกชน และภาคประชาชน เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เมื่อนายกรัฐมนตรีและคู่สมรสเดินทางถึงพิธีท้องสนามหลวง ขึ้นสู่เวที นายกรัฐมนตรี ผู้แทนประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ทำวันทยหัตถ์หน้าพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี แล้ววางพุ่มทอง พุ่มเงิน จากนั้นนายกรัฐมนตรีถวายธูปเทียนแพ จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล […]

ตรวจความพร้อมรบ

แม่ทัพภาค 1 ตรวจความพร้อมรบ พล.ร.9 พร้อมเสริมกำลังทัพภาค 2

กาญจนบุรี 3 มิ.ย.- แม่ทัพภาคที่ 1 ตรวจความพร้อมรบ พล.ร.9 กองกำลังสุรสีห์ ตามแผนเผชิญเหตุ ทบ. พร้อมเสริมกำลังทัพภาค 2 ชายแดนไทย-กัมพูชา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเย็นที่ผ่านมา ที่สนามฝึกทางยุทธวิธี พล.ร.9 จ.กาญจนบุรี พล.ท.อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาค 1 เดินทางไปตรวจความพร้อมหน่วย ตามแผนเผชิญเหตุของกองทัพบก ทั้งหน่วย กรมทหารราบเฉพาะกิจ กองทัพภาคที่ 1 และกองพันพร้อมรบเคลื่อนที่เร็ว RDF กองทัพภาคที่ 1 โดยมี พล.ต.อัษฎาวุธ ปันยารชุน ผบ.พล.ร.9 ให้ต้อนรับ พล.ร.9 ได้รับมอบหมายจากกองทัพบก ให้จัดกำลังเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติของกองทัพบก ในการใช้กำลังตามแผนเผชิญเหตุของกองทัพบก เข้าในพื้นที่ที่รับผิดชอบ และให้การสนับสนุนเสริมกำลังรบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่รับผิดชอบกองทัพภาคที่ 1 โดยหน่วยเตรียมกำลังได้ตรวจสภาพความพร้อมรบตามขั้นตอน เพื่อตรวจสอบความพร้อมของกำลังพลและยุทโธปกรณ์ในการปฏิบัติภารกิจในทุกพื้นที่ที่ได้รับมอบภารกิจจากกองทัพบก ทั้งนี้ แม่ทัพภาคที่ 1 ได้ให้โอวาสกำลังพล ในการเตรียมความพร้อมในทุกภารกิจที่ได้รับมอบหมายจากกองทัพบก โดยขอให้มีความพร้อมอยู่ตลอดเวลา ในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ และพร้อมดูแลพี่น้องประชาชน […]

หลวงปู่ศิลา

“หลวงปู่ศิลา” มอบเงินบริจาคให้ มทภ.2 สนับสนุนภารกิจกองกำลังชายแดน

นครราชสีมา 3 มิ.ย.-“หลวงปู่ศิลา” มอบเงินบริจาคให้ มทภ.2 สร้างที่พักในฐานตามแนวชายแดน พร้อมอุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ ในการดูแลประเทศชาติ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระราชวัชรธรรมโสภณ (หลวงปู่ศิลา สิริจันโท) เจ้าอาวาสวัดพระธาตุหมื่นหิน จ.กาฬสินธุ์ และคณะศิษย์และมูลนิธิธรรมะอุทยาน พร้อมทั้งคณะศิษยานุศิษย์ มอบเงินบริจาค จำนวน 2,017,860 บาท และข้าวสารจำนวน 1,500 กิโลกรัม ให้กับกองทัพภาคที่ 2 เพื่อสนับสนุนช่วยเหลือกองกำลังทหารชายแดน โดย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เป็นผู้รับมอบ ที่กองบัญชาการ ค่ายสุรนารี จ.นครราชสีมา สำหรับเงินทั้งหมดนี้ จะได้นำไปจัดสร้างที่พักในฐานที่มั่นของกองกำลังสุรนารี ที่ปฏิบัติภารกิจอยู่ตามแนวชายแดน รวมถึงจัดซื้ออุปกรณ์และยุทโธปกรณ์ต่างๆ ที่ยังขาดอยู่ ในการปกป้องอธิปไตยของประเทศ รวมถึงการจัดหาเครื่องมือต่างๆที่สามารถใช้ได้ภายในฐานปฏิบัติการเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับทหาร ที่ปฏิบัติภารกิจอยู่แถวชายแดน. -313 สำนักข่าวไทย