กกต. 29 พ.ค.-กกต.แจงการยื่นบัญชีรายรับและรายจ่ายเลือกตั้ง ส.ส. เร่งส่งเอกสารภายใน 90 วัน ครบกำหนด 15 ส.ค.
สำนักงาน กกต. ประชาสัมพันธ์ให้ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง และพรรคการเมืองที่ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ จัดทำบัญชีรายรับและรายจ่ายในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร โดย กกต. ประกาศกำหนดจำนวนเงินค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งให้ผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขต แต่ละคนต้องใช้จ่ายไม่เกิน 1,900,000 บาท และพรรคการเมืองที่ส่งผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อ ต้องใช้จ่ายไม่เกิน 44,000,000 บาท โดยให้คำนวณค่าใช้จ่ายที่จ่ายไปตั้งแต่วันที่ยุบสภาจนถึงวันเลือกตั้ง คือ วันที่ 20 มีนาคม 2566 ถึงวันที่ 14 พฤษภาคม 2566)
โดยแยกประเภทของค่าใช้จ่าย ดังต่อไปนี้ (1) ค่าใช้จ่ายในการสมัครรับเลือกตั้ง เช่น ค่าสมัครรับเลือกตั้ง และค่าใช้จ่ายอื่น ที่เกี่ยวข้องกับการสมัครรับเลือกตั้ง (2) ค่าจ้างแรงงาน เช่น ค่าจ้างผู้ช่วยหาเสียง ค่าจ้างในการปิดป้ายโฆษณาหาเสียง ค่าจ้างแจกใบปลิว แผ่นพับ รวมทั้งค่าจ้างแรงงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง และไม่มีพฤติการณ์ที่ส่อไปในการกระทำความผิดกฎหมายเลือกตั้ง
(3) ค่าจ้างทำของ เช่น ค่าจ้างทำเสื้อแจ็กเก็ต หมวก และเสื้อยืด หรืออื่น ๆ สำหรับผู้ช่วยหาเสียง (4) ค่าโฆษณาในสื่อต่าง ๆ (5) ค่าจัดทำป้าย เอกสาร สิ่งพิมพ์ต่าง ๆ ที่ใช้ในการโฆษณาหาเสียง (6) ค่าใช้จ่ายในการหาเสียงทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือค่าบริการทางอิเล็กทรอนิกส์ (7) ค่าจัดซื้อหรือเช่าวัสดุ และอุปกรณ์สำหรับใช้ในการหาเสียงเลือกตั้ง (8) ค่าเช่าสถานที่และค่าตกแต่งสถานที่ (9) ค่าเช่ายานพาหนะ ค่าน้ำมันเชื้อเพลิง และค่าใช้จ่ายในการเดินทาง (10) ค่าสาธารณูปโภค (11) ค่าอาหารและเครื่องดื่มสำหรับผู้ช่วยหาเสียง (12) ค่าอบรมผู้สมัครหรือผู้ช่วยหาเสียง (13) ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง ซึ่งไม่ขัดต่อกฎหมายหรือเป็นเหตุให้การเลือกตั้งไม่สุจริตและเที่ยงธรรม
ทั้งนี้ ให้ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้งแต่ละคน ยื่นบัญชีรายรับและรายจ่ายในการเลือกตั้ง รวมทั้งหลักฐานที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องครบถ้วนตามความเป็นจริง ต่อผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดและกรุงเทพมหานครด้วยตนเอง หรือมอบอำนาจเป็นหนังสือให้ผู้อื่นยื่นแทน
สำหรับพรรคการเมืองให้หัวหน้าพรรคการเมืองยื่นบัญชีรายรับและรายจ่ายในการเลือกตั้ง รวมทั้งหลักฐานที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องครบถ้วนตามความเป็นจริงต่อเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้งด้วยตนเอง หรือมอบอำนาจเป็นหนังสือให้ผู้อื่นยื่นแทน ภายใน 90 วันนับจากวันเลือกตั้ง ซึ่งวันสุดท้ายที่ครบ 90 วัน ตรงกับวันเสาร์ที่ 12 สิงหาคม 2566 แต่เนื่องจากเป็นวันหยุดราชการ จึงให้นับวันอังคารที่ 15 สิงหาคม 2566 ซึ่งเป็นวันทำการแรกต่อจากวันหยุดทำการเป็นวันสุดท้ายของระยะเวลา
การยื่นบัญชีรายรับและรายจ่ายในการเลือกตั้ง ส.ส.เมื่อสำนักงาน กกต.ประจำจังหวัดและกรุงเทพมหานครได้รับยื่นบัญชีรายรับและรายจ่ายในการเลือกตั้งแล้ว ให้ดำเนินการตรวจสอบเอกสารดังกล่าวเบื้องต้น ว่าผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้นั้นมีค่าใช้จ่ายที่จำเป็นต่อการสมัครรับเลือกตั้ง เช่น ค่าสมัคร ค่าใบรับรองแพทย์ ค่าถ่ายรูป แล้วหรือไม่ หรือรายการค่าใช้จ่ายใดไม่มีเอกสารหลักฐานประกอบหรือมีแต่ไม่ครบถ้วน ให้แจ้งผู้สมัครแก้ไขภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด และให้สำนักงาน กกต.ประจำจังหวัดและกรุงเทพมหานคร เปิดเผยรายงานสรุปรายรับและรายจ่ายของผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.แต่ละคน ให้ประชาชนทราบเป็นการทั่วไปภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ครบกำหนดยื่นบัญชีรายรับและรายจ่ายในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร คือภายในวันที่ 14 กันยายน 2566 .- สำนักข่าวไทย