แฟนคลับเสื้อแดงยื่นข้อเสนอเพื่อไทย ถอนตัวร่วมรัฐบาล

พรรคเพื่อไทย 28 พ.ค.- แฟนคลับเพื่อไทย รวมตัวยื่น 5 ข้อเสนอ เรียกร้องพรรคเพื่อไทยถอนตัวร่วมรัฐบาล หลังพรรคถูกกดดัน แนะควรใช้เวที 8 พรรคเจรจา


วันนี้ (28 พ.ค.) กลุ่มแฟนคลับพรรคเพื่อไทย คนเสื้อแดง นำโดยนายนิยม นพรัตน์ ได้นัดหมายรวมพลคนเสื้อแดงกิน “มินต์ช็อก” พร้อมยื่นข้อเรียกร้องให้ถอนตัวออกจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล และเมื่อถึงเวลาพรรคเพื่อไทยได้มอบหมายให้นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ เป็นตัวแทนมารับหนังสือ โดยทางกลุ่มแฟนคลับพรรคเพื่อไทย ได้อ่านแถลงการณ์ว่า ทางกลุ่มสนับสนุนพรรคเพื่อไทย ในการจัดตั้งรัฐบาล แต่ก็มีบางกลุ่ม บางฝ่ายบิดเบือน จึงทำให้สมาชิกแฟนคลับพรรคเพื่อไทย รู้สึกไม่สบายใจ เพื่อลดความขัดแย้ง ทางแฟนคลับจึงมีข้อเสนอ 5 ข้อ ประกอบด้วย

  1. ทบทวนตัวเอง ออกจากการร่วมรัฐบาล
  2. ให้เกียรติพรรคอันดับหนึ่งรวบรวมเสียงข้างมากจัดตั้งรัฐบาล
  3. ให้โหวตสนับสนุนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคที่ได้อันดับหนึ่ง
  4. โหวตสนับสนุนร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน
  5. หากพรรคอันดับหนึ่งไม่สามารถรวมเสียงข้างมากจัดตั้งรัฐบาลได้ ก็ให้พรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นพรรคอันดับสอง รวบรวมเสียงจัดตั้งรัฐบาลเพื่อผลักดันนโยบายที่ได้หาเสียงไว้

ทั้งนี้ ขอให้พรรคโปรดรับฟังข้อเสนอ แต่หากพรรคตัดสินใจอย่างไร ทางกลุ่มก็พร้อมรับฟังและเคียงข้างสนับสนุนต่อไป


นายอนุสรณ์ กล่าวภายหลังรับหนังสือว่า ขอขอบคุณต่อข้อห่วงใยและข้อเสนอแนะ พรรคเพื่อไทยเป็นสถาบันทางการเมือง หัวใจคือประชาชน ซึ่งการมายื่นหนังสือถือเป็นสิทธิตามระบอบประชาธิปไตย และจะนำหนังสือนี้เสนอต่อผู้บริหารพรรคตามขั้นตอน ถือว่าเป็นการเปิดพื้นที่เสรี เป็นธรรม ใช้ดุลพินิจเจรจา โดยไม่กังวลทัวร์ลงพรรค แต่พรรคเพื่อไทยกลัวทัวร์ที่ไม่มีคุณภาพ มาตรฐาน และจริยธรรม เพราะการแสดงความเห็นต้องสร้างสรรค์ ตรงไปตรงมา ไม่บิดเบือนหรือด้อยค่าพรรคเพื่อไทย ทั้งนี้หากมีการแสดงความคิดเห็นและมีกระบวนการบิดเบือน ดิสเครดิตให้พรรคเพื่อไทยเสียหาย พรรคจะฟ้องร้องเพื่อปกป้องสิทธิ

ด้านนายนิยม ตอบข้อซักถามสื่อมวลชนถึงการมายื่นหนังสือในวันนี้ ห่วงจะกระทบความสัมพันธ์พรรคร่วมรัฐบาลทั้ง 8 พรรคหรือไม่ ว่า พรรคถูกทำให้กลายเป็นคนร้ายต่อสังคม ทั้งที่ 8 พรรคร่วมรัฐบาลต้องให้เกียรติ ไม่ใช่มาขี่คอพรรคเพื่อไทย ไม่เป็นธรรมกับพรรคที่ตนเชียร์ ควรคุยกันในโต๊ะเจรจา ไม่ใช่ออกมาพูด ที่เราให้ถอนตัว เพราะอยากให้ทุกพรรคทบทวนว่าหากขาดพรรคใดไปแล้วจะเดินไปอย่างไร ไม่ใช่โยนพรรคเพื่อไทย แต่เราต้องไปด้วยกันอย่างมีเกียรติและศักดิ์ศรี ซึ่งนายอนุสรณ์ ได้เสริมว่า การยื่นหนังสือในวันนี้ถือเป็นสิทธิของประชาชนที่เลือกพรรคเพื่อไทย และเป็นข้อเสนอแนะ ซึ่งเป็นคนละประเด็นในการร่วมรัฐบาล .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อขอให้ติดคุกจริง

ตรวจสอบสิทธิ์เงินหมื่น

ตรวจสอบสิทธิ์เงินหมื่นคนอายุ 60+ ผ่านแอป “ทางรัฐ” ได้แล้ว

“จิรายุ” ย้ำเงินหมื่นเฟส 2 มอบคนอายุ 60+ รัฐบาลพร้อมโอนไม่มีเปลี่ยนแปลงแล้ววันจันทร์ที่ 27 ม.ค.นี้แน่นอน สามารถตรวจสอบสิทธิ์ผ่านแอป “ทางรัฐ” ได้แล้ววันนี้ ส่วนคนไม่มีสมาร์ทโฟนฝากลูกหลานช่วยด้วย

นายกฯหารือบริษัทยา

นายกฯ ถกบริษัทยา Astrazeneca พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทย

บริษัทยาระดับโลก Astrazeneca หารือ นายกฯ ยืนยันไทยยังเป็นพันธมิตรที่ดีมายาวนาน พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทยอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ นายกฯ มั่นใจการแพทย์ของไทยติดระดับในโลก ยืนยันหลายประเทศทั่วโลกบินมารักษาในประเทศไทยจำนวนมาก

ค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน

ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค.

กรมควบคุมมลพิษ เผยวันนี้ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค. ประสานทุกหน่วยงานยกระดับการแก้ไขปัญหา พร้อมเตือนประชาชนเฝ้าระวังสุขภาพและปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข