สมัครมาตรา 39 ผ่านระบบ e-Self Service รู้ผล 2-4 วัน

ทำเนียบ 28 พ.ค.- “รัฐบาลดิจิทัล” หนุนทุกหน่วยงานเพิ่มความสะดวกคนไทยด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ เปิดบริการล่าสุดจาก สปส. ให้ผู้ประสงค์สมัครเป็นผู้ประกันตนมาตรา 39 ดำเนินการผ่านระบบ e-Self Service ได้ รู้ผลใน 2-4 วัน ส่งเงินสมทบได้ทันทีผ่านหลายช่องทางให้เลือก


น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากที่รัฐบาลได้ขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลดิจิทัล เป้าหมายเพื่อสนับสนุนให้หน่วยงานต่างๆ นำระบบอิเล็กทรอกนิกส์เข้ามาเป็นช่องทางให้บริการ เพิ่มความสะดวก ลดภาระแก่ประชาชน รัฐบาลโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ให้ความสำคัญติดตามความก้าวหน้าแต่ละแผนงานอย่างจริงจัง ทำให้ขณะนี้หน่วยงานต่างๆ มีบริการผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์เป็นไปตามแผนและตามที่กฎหมายกำหนด

เช่นกรณีของสำนักงานประกันสังคม(สปส.) เป็นหนึ่งหน่วยงานที่มีการปรับปรุงช่องทางที่ให้บริการแก่ประชาชนอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด สปส. ได้พัฒนาระบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อเป็นช่องการสมัครและขึ้นทะเบียนสำหรับผู้ประกันตนมาตรา39 ให้ผู้สมัครดำเนินการได้เองผ่านช่องทางออนไลน์ หรือ e-Self Service จากเดิมที่ผู้ต้องการขึ้นทะเบียนจะต้องเดินทางไปดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ ณ สำนักงานประกันสังคมพื้นที่ต่างๆ


น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า สำหรับผู้ที่จะสมัครและขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกันตนมาตรา 39 ต้องเคยเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 ส่งเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า12 เดือน และออกจากงานประจำมาไม่เกิน 6 เดือน โดยเมื่อสมัครแล้วจะยังคงสิทธิต่างๆ ของผู้ประกันตนต่อไป อาทิ สิทธิได้รับการรักษาเมื่อเจ็บป่วยหรือประสบอุบัติเหตุ สิทธิคลอดบุตร สิทธิทันตกรรม สิทธิกรณีเสียชีวิต บำเหน็จชราภาพ เป็นต้น

สำหรับขั้นตอนดำเนินการนั้น ให้ผู้ต้องการขึ้นทะเบียนเข้าไปที่เว็บไซต์ www.sso.go.th แล้วสมัครใช้งานระบบสมาชิกผู้ประกันตนเพื่อรับ Username และ Password สำหรับ Login เข้าระบบ จากนั้นเลือกที่หัวข้อ “สมัครมาตรา 39” เพื่อเข้าสู่หน้าจอระบบสมัคร ขั้นตอนที่เหลือก็เพียงกรอกข้อมูลตามขั้นตอนแล้วยืนยันการสมัคร โดยสำนักงานประกันสังคมจะแจ้งผลภายใน 2-4 วัน โดยสามารถตรวจสอบผลผ่านช่องทางเดียวกับตอนสมัครแต่เลือกที่หัวข้อ “สถานะผู้ประกันตน”

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ภายหลังได้รับอนุมัติแล้ว ผู้ประกันตนมาตรา39 สามารถส่งเงินสมทบงวดแรกได้ทันที ผ่านหลายช่องทางตามความสะดวก ได้แก่ ที่สำนักงานประกันสังคมใกล้บ้าน, ชำระด้วยเงินสดผ่านเคาน์เตอร์ธนาคารกรุงศรีอยุธยา กรุงไทย เคาน์เตอร์ไปรษณีย์ทุกสาขา, เคาน์เตอร์เซอร์วิส, เคาน์เตอร์โลตัส, เคาน์เตอร์ CenPay Powered By บุญเติม, เคาน์เตอร์ Boonterm Bill Payment หรือหักจากบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ ของธนาคาร 7 แห่ง ได้แก่ กรุงศรีอยุธยา กรุงเทพ กรุงไทย ไทยพาณิชย์ ทหารไทยธนชาต กสิกรไทย และ ออมสิน ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถสืบค้นข้อมูลเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ www.sso.go.th หรือสอบถามที่สายด่วน 1506 ให้บริการทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทุจริตยาโรงพยาบาลทหารผ่านศึก

รวบ “พ.อ.หญิง-แพทย์หญิง” เครือข่ายทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก

ตำรวจ ปปป. และ ป.ป.ช. จับ “พ.อ.หญิง” และ “ แพทย์หญิง” เครือข่ายทุจริตยาโรงพยาบาลทหารผ่านศึก พบเส้นเงินเชื่อมโยง 10 ล้านบาท

ซบพรรคกล้าธรรม

“เอกราช” จ่อซบ “กล้าธรรม” ยันไม่ถึงขั้นแตกหัก “อนุทิน-ภท.”

“เอกราช” เตรียมย้ายซบ “กล้าธรรม” เพื่อความสบายใจในการทำงาน ยันไม่ถึงขั้นแตกหักกับ “อนุทิน-ภูมิใจไทย” คาดเตรียมขับออกเร็วๆ นี้ เผยผูกพันกับ “ธรรมนัส ” กว่า 10 ปี

ไฟไหม้ท้ายรถบัสทัศนศึกษา นักเรียน-ครู ปลอดภัย

หวิดเกิดเหตุสลด รถบัสทัศนศึกษากำลังกลับโรงเรียน เกิดไฟไหม้ท้าย โชคดีอพยพทัน นักเรียนชั้น ป.6 ทั้ง 35 คน กับครู 7 คน ปลอดภัย

รวบไรเดอร์-วิน จยย.รุมทำร้ายนักท่องเที่ยวต่างชาติ

ไรเดอร์ร่วมกับวิน จยย. รุมทำร้ายนักท่องเที่ยวชาวเยอรมันจนน่วม ตำรวจตามจับได้ 3 คน ยังอ้างรุมทำร้ายโดยไม่รู้ที่มาที่ไป คิดว่าชายต่างชาติทำร้ายคนไทย ทนไม่ได้จึงเข้าช่วย

ข่าวแนะนำ

ศาล รธน.รับวินิจฉัย “ภูมิธรรม-ทวี” แทรกแซง กกต. คดีฮั้ว สว.

ศาล รธน.สั่งรับวินิจฉัย “ภูมิธรรม-ทวี” ฝ่าฝืนจริยธรรม เหตุใช้อำนาจหน้าที่แทรกแซง กกต. กรณีดีเอสไอรับคดีฮั้ว สว. เป็นคดีพิเศษ แต่ไม่สั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ หากผิดหลุดตำแหน่ง ให้ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายใน 15 วัน

ย้ายด่วน หัวหน้า อช.หมู่เกาะสิมิลัน เร่งสอบปมขายตั๋วไม่โปร่งใส

อธิบดีกรมอุทยานฯ สั่งย้ายด่วน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน หลัง ป.ป.ช. สุ่มตรวจสอบการจำหน่ายตั๋วที่เกาะสี่และเกาะแปด โดยไม่แจ้งล่วงหน้า พบการจำหน่ายตั๋วส่อไม่โปร่งใส

Trump says administration is looking into Signal, thinks Waltz should not apologize

“ทรัมป์” ชี้แชทรั่วไม่มีข่าวกรองชั้นความลับ

วอชิงตัน 26 มี.ค.- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ บอกปัดกรณีแชทรั่วไปถึงนักข่าวว่า ไม่มีข้อมูลข่าวกรองชั้นความลับ และไม่มีใครต้องขอโทษ ขณะที่ สว.เดโมแครตรุมตำหนิผู้ที่เกี่ยวข้องเรียกร้องให้ลาออก นายทรัมป์แสดงความหนุนหลังทีมงานด้านความมั่นคงของเขาด้วยการตอบคำถามสื่อในเรื่องนี้ที่ทำเนียบขาวเมื่อวานนี้ตามเวลาท้องถิ่นว่า ไม่มีข้อมูลชั้นความลับถูกเปิดเผยในกลุ่มแชทสนทนาแอปพลิเคชัน ซิกนัล (Signal) ของกลุ่มเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคง ซึ่งนายไมเคิล วอลซ์ ที่ปรึกษาความมั่นคงได้เชิญนักข่าวคนหนึ่งเข้าไปรวมอยู่ด้วยโดยไม่ตั้งใจ นายทรัมป์กล่าวด้วยว่า รัฐบาลจะพิจารณาเรื่องการใช้แอปพลิเคชันสนทนานี้และคิดว่านายวอลซ์ ไม่จำเป็นต้องขอโทษในเรื่องนี้ ขณะที่นายวอลซ์ให้สัมภาษณ์ในรายการของฟ็อกซ์นิวส์ ยืนยันขอเป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องนี้ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องน่าอับอาย กลุ่มแชทที่เขาสร้างขึ้นมีรายละเอียดเรื่องแผนการโจมตีเยเมนจริง แต่ยืนกรานว่าไม่มีข้อมูลชั้นความลับ หลังจากนายเจฟฟรีย์ โกลด์เบิร์ก บรรณาธิการข่าวของนิตยสารดิแอตแลนติก (The Atlantic) ออกมาเปิดเผยว่า ถูกรวมอยู่ในกลุ่มแชทเข้ารหัสโดยไม่รู้ตัวเมื่อวันที่ 13 มีนาคม และได้เห็นโพสต์ของนายปีเตอร์ เฮกเซธ รัฐมนตรีกลาโหมเรื่องแผนการทำสงครามก่อนสหรัฐเปิดฉากโจมตีเยเมนระลอกแรกเมื่อวันที่ 15 มีนาคม ด้านสมาชิกวุฒิสภา (สว.) พรรคเดโมแครตพากันตำหนินางทัลซี แกบบาร์ด ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติและนายจอห์น แรตคลิฟฟ์ ผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองกลางหรือซีไอเอ (CIA) ที่ไปให้ปากคำต่อคณะกรรมการข่าวกรองในวุฒิสภาว่า ฉาบฉวย ไร้ความสามารถ และไม่ให้เกียรติคนทำงานข่าวกรอง นางแกบบาร์ดและนายแรตคลิฟฟ์อยู่ในกลุ่มสนทนาในแอปฯ ซิกนัลที่มีข่าวรั่วในครั้งนี้ […]

โหวตไว้วางใจ

นายกฯ โพสต์ขอบคุณหลังสภาผ่านฉลุยไว้วางใจ

นายกฯ โพสต์ขอบคุณหลังสภาผ่านฉลุยไว้วางใจ ยัน ชี้แจงทุกประเด็น ลั่น ทั้งเสียงหนุน-เสียงไม่ไว้วางใจ จะเป็นพลังให้มุ่งมั่นทำงานเพื่อประชาชน