ทำเนียบ 27 พ.ค. – โฆษกรัฐบาลเผยฯ นายกฯ ยินดี อาหารไทยติดอันดับอาหารต่างถิ่นยอดนิยมของชาวจีน จากเว็บไซต์ “เตี่ยนผิง” (Dianping) ย้ำความสำเร็จของวัฒนธรรมอาหารไทยในตลาดโลก
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับทราบและยินดีกับอาหารไทย ได้รับการชื่นชมว่าเป็นผู้นำด้านอาหารในทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และติดอันดับ 4 ของอาหารต่างถิ่นยอดนิยมของชาวจีน รองจากอาหารตะวันตก อาหารญี่ปุ่น และอาหารเกาหลี จากรายงานการจัดอันดับร้านอาหารห้ามพลาดประจำปี 2565 ของเว็บไซต์เตี่ยนผิง (dianping) ซึ่งเป็นเว็บไซต์นำเสนอไลฟ์สไตล์คนเมืองในจีน สะท้อนความสำเร็จของเอกลักษณ์วัฒนธรรมอาหารไทยที่ได้รับการยอมรับต่อเนื่อง สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจสอดรับกับการขับเคลื่อนนโยบายครัวไทย สู่ครัวโลก
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า จากข้อมูลระบุว่าในช่วงสามปีที่ผ่านมา จำนวนร้านอาหารไทยในปักกิ่งเพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่า มีขนาดทั้งเล็กและใหญ่กระจายตัวอยู่ทั่วเมือง และเสิร์ฟอาหารไทยสารพัดเมนูตั้งแต่ตำรับชาววังจนถึงสตรีทฟู้ด โดยเฉพาะเมนูต้มยำกุ้ง ซึ่งสำนักข่าวซินหัว (Xinhua) ได้เปิดเผยบทสัมภาษณ์ของคุณสุขุมาล ตู้ คนไทยที่ได้เปิดธุรกิจร้านอาหารไทยในเขตทงโจว กรุงปักกิ่ง ประเทศจีนมากว่า 20 ปี ทั้งร้านในชื่อ “ครัวคุณแม่” “สองพี่น้อง” และล่าสุด “นกเอี้ยงและควาย” (Bird & Buffalo) ซึ่งได้รับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT จากกระทรวงพาณิชย์ เมื่อปลายปี 2022 เพื่อยืนยันว่า การประกอบอาหาร วัตถุดิบ และรสชาติของร้านนี้มีความ “ไทยแท้” โดยคุณสุขุมาลฯ กล่าวว่า มีลูกค้าแวะเวียนมาอย่างต่อเนื่อง โดยบางวันมีลูกค้าเข้ามาที่ร้านมากกว่า 50 โต๊ะ แม้ที่ตั้งร้านจะไกลจากใจกลางเมืองปักกิ่ง อีกทั้งยังเคยมีลูกค้าขับรถมาไกลกว่า 60 กิโลเมตร เนื่องจากอยากรับประทานต้มยำกุ้ง รวมทั้งยังซื้อน้ำซุปต้มยำกลับบ้านอีก 5 กิโลกรัมด้วย
นอกจากนี้ การค้าและการแลกเปลี่ยนระหว่างไทยและจีนยังมีพัฒนาการต่อเนื่อง ด้วยอานิสงส์จากแผนริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (Belt and Road Initiative: BRI) โดยชาวจีนสนใจอาหารไทยเพิ่มขึ้น ไปจนถึงการแวะเช็คอินร้านอาหารไทยและซื้อวัตถุดิบกลับไปทำกับข้าวด้วยตนเองที่บ้าน เนื่องจากปัจจุบันสามารถหาวัตถุดิบอาหารไทยในจีนได้สะดวก ทำให้สามารถฝึกทำอาหารไทยที่บ้านได้ ประกอบกับความเชื่อมั่นจากการให้ตราสัญลักษณ์ Thai SELECT จากหน่วยงานไทย ซึ่งถือเป็นการเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคตามคุณสมบัติและหลักเกณฑ์ว่า ร้านอาหารดังกล่าว จะต้องใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพ ร้านมีความสะอาด ถูกสุขอนามัย บรรยากาศภายในร้านสะท้อนความเป็นไทย รวมถึงเป็นการส่งเสริมผู้ประกอบการร้านอาหารไทยเพื่อยกระดับคุณภาพร้านอาหารให้มีมาตรฐาน สร้างโอกาสทางการตลาดให้เป็นที่รับรู้ในหมู่ผู้บริโภคอีกด้วย
“นายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่าอาหารไทยจะเป็นอีก Soft power สำคัญในการเผยแพร่ความนิยมของเอกลักษณ์วัฒนธรรมไทยผ่านมิติด้านอาหาร โดยเฉพาะในประเทศจีน ซึ่งถือเป็นตลาดใหญ่ที่สำคัญโดยไทยมีความได้เปรียบจากการเป็นผู้ผลิตและส่งออกวัตถุดิบต่าง ๆ สอดรับกับนโยบายครัวไทยสู่ครัวโลกของไทยซึ่งรัฐบาลผลักดันมาโดยตลอด เป็นการขยายโอกาสทางการตลาดให้แก่ผู้ประกอบการไทย ทั้งการสนับสนุนธุรกิจร้านอาหารไทยในต่างประเทศ ตลอดจนการผลิตและส่งออกวัตถุดิบของไทยให้เป็นที่รู้จักและเข้าถึงผู้บริโภคในแต่ละประเทศมากขึ้น” นายอนุชา กล่าว .-สำนักข่าวไทย .-สำนักข่าวไทย