ภูเก็ต 26 พ.ค.-“โรม” ยังเชื่อใจ “เพื่อไทย” ไม่แตกคอพรรคร่วม หลังขัดแย้งกันเรื่องเก้าอี้ “ประธานสภาฯ” ลั่น “ก้าวไกล” ไม่ทำร้าย-เอาเปรียบใคร ยังไม่คิดถึงขั้นเป็นเกมถูกลอยแพ
นายรังสิมันต์ โรม ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะโฆษกพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ผ่านทางโทรศัพท์ถึงประเด็นตำแหน่งประธานสภาฯ หลังเกิดกระแสความขัดแย้งกับพรรคเพื่อไทย ว่า ตอนนี้มีหลายความเห็น แต่ในส่วนของพรรคก้าวไกล เชื่อมั่นว่าการมีตำแหน่งประธานสภาฯ จะเกิดประโยชน์ หากเป็นคนของพรรคก้าวไกล
“หากให้พูดตรงไปตรงมา พรรคก้าวไกลมีหลายวาระที่ตัองการผลักดัน ซึ่งไม่ใช่เรื่องของพรรคก้าวไกลเพียงอย่างเดียว แต่เป็นเรื่องของสังคม เช่น การยกเลิกการเกณฑ์ทหาร การทำให้กฎหมายเปลี่ยนประเทศสามารถดำเนินการได้ รวมถึงกลไกที่จะทำให้โครงสร้างของสภามีคุณภาพมากยิ่งขึ้น อย่างเรื่องของงบประมาณของสำนักงบสภาฝ่ายกฎหมายที่เราอยากจะยกระดับ นอกจากนี้พรรคก้าวไกลยังมีโครงการที่จะผลักดันสภาเด็กและเยาวชน ซึ่งเป็นกลไกที่อยากทำให้การเมืองเปลี่ยนไป” นายรังสิมันต์ กล่าว
นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ต้องขอบคุณพี่น้องประชาชนที่สนใจ แต่เรายืนยันว่า แม้จะเป็นพรรคการเมืองใหม่ แต่ก็สามารถทำได้ ถ้าเราดูตำแหน่งประธานสภาฯ ต้องเป็นคนที่มีอายุเท่านั้น เป็น ส.ส.มาหลายสมัย เราไม่เห็นด้วย คิดว่าสิ่งที่ดีที่สุดเป็นเรื่องของการเตรียมความพร้อม การเตรียมการทำงานที่จะทำให้ออกมามีคุณภาพมากที่สุด แต่ถึงที่สุดไม่ว่าจะเป็นองค์กรไหนก็แล้วแต่ ต้องเป็นคนที่มีความหลากหลายรุ่น สิ่งสำคัญในส่วนของสภาฯ มีข้อบังคับและกฎเกณฑ์กติกาอยู่ ประธานสภาต้องทำให้การประชุมเป็นไปอย่างราบรื่น ตำแหน่งประธานสภาฯ ไม่ได้มีแค่การประชุม พรรคก้าวไกลมีแผนชัดเจน สามารถตอบคำถามพี่น้องประชาชนได้ ว่าถ้าได้ตำแหน่งประธานสภาฯ เราจะทำอะไรเพื่อพี่น้องประชาชน และทำอย่างไรให้ประเทศนี้เปลี่ยนแปลง
เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยประกาศผ่านทวิตเตอร์ และเฟซบุ๊กว่าตำแหน่งประธานสภาฯ ไม่ใช่วาระของพรรคการเมืองใดการเมืองหนึ่ง จะส่งผลกระทบต่อพรรคร่วมรัฐบาลและความเชื่อใจต่อพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า เรื่องความเชื่อใจเราเชื่ออยู่แล้วในตัวพรรคร่วม ไม่เช่นนั้นคงไม่ร่วมกัน ขอยืนยันว่าพรรคก้าวไกลไม่ต้องการทำร้ายใครหรือเอาเปรียบใคร ส่วนที้ทำไปทั้งหมดต้องการทำเพื่อความเปลี่ยนแปลงซึ่งประชาชนสามารถตรวจสอบได้ และหากไม่ได้ทำ ประชาชนก็ลงโทษเราได้ผ่านการเลือกตั้ง ซึ่งถือเป็นกลไกของวิถีประชาธิปไตย เราต้องการเข้าไปเปลี่ยนแปลง เรามีตำแหน่งไม่ใช่เพื่อตำแหน่ง แต่มีตำแหน่งเพื่อเข้าไปเปลี่ยนแปลง ตำแหน่งประธานสภามีความสำคัญ และที่สำคัญคือความเป็นกลางและทำให้เสียงข้างน้อยมีสิทธิมีเสียงเกิดความรืบรื่นในการตรวจสอบถ่วงดุล
เมื่อถามว่ายืนยันหนักแน่นหรือไม่ว่าหลักการตำแหน่งประธานสภาต้องมาจากพรรคอันดับ1 นายรังสิมันต์ กล่าวว่า เรามองหลายมิติ ถ้าพรรคก้าวไกลได้ที่นั่ง 141ที่ แล้ว เพื่อไทยได้กลับกันเป็น151ที่นั่ง พรรคก้าวไกลจะไม่บอกเลยว่าจะขอตำแหน่งประธานสภาฯ เพราะเราเข้าใจดีว่า พรรคการเมืองที่เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลจะได้ตำแหน่งประธานสภาฯ ด้วย คิดว่าถึงที่สุดอายุหรือสมัยส.ส.ไม่ได้เป็นตัวชี้วัด จำนวนสมัยของพรรคก้าวไกลที่ได้เป็น ส.ส.อาจจะไม่เท่าพรรคการเมืองอื่น แต่สามารถทำได้
ส่วนเก้าอี้ประธานสภาฯ จะเป็นตัวการันตีความเป็นรัฐบาลของพรรคก้าวไกลด้วยหรือไม่ เนื่องจากหลายคนกังวลว่าก้าวไกลจะถูกลอยแพ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ยังไม่คิดถึงขั้นนั้น บนพื้นฐานที่ทำงานอยู่ ทุกคนที่เข้ามา เราให้ความไว้วางใจอย่างเต็มที่ เพราะท้ายที่สุดต้องคุยกันหลายเรื่อง ยืนยันว่าข้อกล่าวหาว่าพรรคก้าวไกล กินรวบทุกตำแหน่ง ไม่เป็นความจริง.-สำนักข่าวไทย