เดินหน้า รทสช.รูปแบบใหม่ทันยุคสมัย

พรรครวมไทยสร้างชาติ 24 พ.ค.- “พีระพันธุ์-เอกนัฏ” ยันเดินหน้า รทสช.ในรูปแบบใหม่ทันยุคสมัย หนุนคนรุ่นใหม่ขับเคลื่อนการพัฒนาพรรค ย้ำไม่ใช่การ “รีแบรนดิ้ง” เพราะดีอยู่แล้ว



นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) พร้อมด้วย นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค และผู้บริหารพรรค ได้แก่ นายเกรียงยศ สุดลาภา นายดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล (ชัยรุ่งเรือง) ร่วมกันประชุมกับตัวแทนผู้สมัคร ส.ส.กทม. และผู้สมัคร ส.ส.รุ่นใหม่ของพรรค เพื่อสรุปผลการทำงานจากการเลือกตั้งล่าสุดที่ผ่านมา

นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ตนในฐานะหัวหน้าพรรค ขอขอบคุณผู้สมัครทุกคนที่ได้ต่อสู้ร่วมกันในการเลือกตั้งครั้งนี้ แม้ว่าพรรคจะไม่ได้ผู้แทนในพื้นที่กรุงเทพฯ แต่คะแนนเสียงที่ได้รับในหลายพื้นที่ อยู่ในลำดับ 2 หรือ ลำดับ 3 ถือว่าเป็นความสำเร็จของพรรคใหม่ที่เพิ่งจะเริ่มต้นการทำงานเชิงการเมือง


“ผมขอให้กำลังใจกับผู้สมัคร ส.ส.กทม. ทั้งผู้ที่เคยเป็น ส.ส.มาก่อน และผู้สมัครหน้าใหม่ที่มีความตั้งใจและมีอุดมการณ์เดียวกับพรรค หลังจากนี้พรรครวมไทยสร้างชาติ ยังคงเดินหน้าทำงานการเมืองต่อ และยินดีต้อนรับทุกคนที่ยังมุ่งมั่นจะเดินบนเส้นทางสายการเมืองต่อ” นายพีระพันธุ์ กล่าว

นายพีระพันธุ์ กล่าวด้วยว่า ตนในฐานะที่อยู่ในการทำงานด้านการเมือง โดยเฉพาะสนามของกรุงเทพฯ มา 30 ปี ได้เห็นความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองมาหลายรูปแบบ ในการเลือกตั้งมีทั้งขึ้นและลง ถือเป็นเรื่องปกติที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงในแบบต่างๆ จึงอยากให้ทุกคน โดยเฉพาะผู้ที่จะเข้าสู่สนามการเมือง มองเรื่องของความไม่แน่นอนเป็นเรื่องปกติ แม้ว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะแปลกกว่าทุกครั้งก็ตาม ดังนั้น ขอให้ทุกคนใช้ประสบการณ์ครั้งนี้ เพื่อนำมาใช้ในการพัฒนา ปรับปรุงวิธีคิด และวิธีหาเสียง เพื่อให้ทันตามยุคสมัยและวิธีการสื่อสารที่เปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะการบริหารจัดการการสื่อสารในประเด็นต่างๆ แรงกระแทกต่างๆ ทางการเมือง เพื่อให้การทำงานทางการเมืองเป็นไปอย่างเหมาะสม และขอให้นึกถึงอุดมการณ์ที่เข้ามาทำงานเพื่อสังคม ประเทศชาติ และประชาชน เป็นที่ตั้งไว้เสมอ

“ถ้าตั้งใจที่จะมีอาชีพนักการเมืองเพื่อดูแลประชาชน ผมขอให้มุ่งมั่น และขออย่าเอาความผิดพลาดในครั้งแรกมายึดติด และทำให้หมดกำลังใจ แต่ขอให้เอากลับมาเป็นประสบการณ์ บทเรียน เพื่อพัฒนาตัวเองต่อไป และในส่วนของพรรครวมไทยสร้างชาติเอง เราก็จะยังคงทำงานกันต่อไป และจะขอเชิญทุกท่านมาร่วมประชุมเพื่อระดมสมองทำงานกันต่อ เพราะถือว่าทุกคนเป็นเพื่อนร่วมงานที่จะต้องเดินหน้าทำงานด้วยกัน ไม่ว่าใครจะได้ตำแหน่ง หรือไม่ได้ตำแหน่ง แต่ถ้ามีจิตใจในการทำงานก็สามารถทำงานด้วยกันได้ ทุกอย่างอยู่ที่จิตใจ แนวทางของพรรคคือ จะไม่ทิ้งคนที่ตั้งใจทำงาน ทุกคนมีความสำคัญเท่าเทียมกันหมด ไม่ว่าจะประสบความสำเร็จในการเลือกตั้งหรือไม่ก็ตาม เพราะทุกคนต่างร่วมสู้ศึกอย่างเต็มที่มาด้วยกัน” นายพีระพันธุ์ กล่าว


ด้านนายเอกนัฏ กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ยังคงมีผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค มาร่วมประชุมกันอย่างอบอุ่นเหมือนเดิม ไม่เพียงแต่จะมีผู้สมัครในกรุงเทพฯ เท่านั้น ยังมีผู้สมัครรุ่นใหม่จากจังหวัดอื่นๆ มาร่วมพูดคุยในครั้งนี้ด้วย จึงถือได้ว่าทุกคนยังคงมีใจเป็นนักสู้ ตนในฐานะเลขาธิการพรรค ต้องขอขอบคุณทุกๆ คน ที่ร่วมทำงานกันอย่างหนักมาตลอดในสนามการเลือกตั้งครั้งนี้ ถึงแม้ว่าสนามใน กทม. พรรครวมไทยสร้างชาติจะไม่มี ส.ส.เลย แต่หลายพื้นที่ก็พบว่ามีคะแนนมาเป็นอันดับ 2 อันดับ 3 สามารถเอาชนะผู้สมัครพรรคที่เคยคาดว่าจะได้รับการเลือกตั้งไปได้ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจทำงานของทุกคน ที่ลงพื้นที่ตามแนวทางที่พรรคได้ตั้งไว้

นายเอกนัฏ ยังกล่าวว่า หลังจากนี้จะได้นำประสบการณ์ต่างๆ มาถอดบทเรียน เพื่อเติมเต็มในการทำงานต่อไปข้างหน้าให้สมบูรณ์ที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พรรคจะเดินไปในทิศทางของการทำงานในรูปแบบใหม่ ก้าวทันยุคสมัยที่เปลี่ยนไป โดยจะมีทั้งคนรุ่นใหญ่ และคนรุ่นใหม่ มาทำงานร่วมกัน และยืนยันว่าไม่ใช่การรีแบรนดิ้ง เพราะแบรนด์ของพรรครวมไทยสร้างชาติดีอยู่แล้ว สิ่งที่จะต้องทำต่อก็คือ การผสมผสานแนวคิดของทุกรุ่น โดยใช้เวลาที่มีต่อจากนี้ในการทำงาน เพราะที่ผ่านมามีเวลาน้อยในการเข้าสู่สนาม แต่หลังจากนี้จะได้เดินหน้าพัฒนาพรรครวมไทยสร้างชาติร่วมกันต่อไป โดยจะทำงานควบคู่กัน ทั้งเรื่องของนโยบาย และเน้นการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพที่เรียกว่า การสื่อสารยุคใหม่ ที่จะใช้ความสามารถของคนรุ่นใหม่ของพรรคจำนวนมาก ที่มีความรู้ความสามารถหลากหลายด้าน และเปิดโอกาสให้ทุกคนได้แสดงความสามารถตามที่ถนัดอย่างเต็มที่ เชื่อว่าหากนำมาผสมผสานกับการทำงานของคนทุกรุ่นในพรรค จะยิ่งทำพรรครวมไทยสร้างชาติเข้มแข็งในทุกด้านอย่างแน่นอน

“ผมขอขอบคุณทุกท่านที่ร่วมต่อสู้มาด้วยกัน และหลังจากนี้พรรคก็จะเดินหน้าต่อ เพื่อพัฒนาพรรคให้มีความเข้มแข็งมากขึ้นเรื่อยๆ และเราก็เห็นในศักยภาพของคนรุ่นใหม่ที่เราได้เลือกสรรมา และเชื่อว่าทุกท่านจะสามารถมาร่วมกันในการเดินหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติให้เป็นสถาบันทางการเมืองอย่างที่เราตั้งใจไว้ได้อย่างแน่นอน” นายเอกนัฏ กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

รวบบัญชีม้ายกแก๊ง ตระเวนถอนเงินให้คอลเซ็นเตอร์จีนเทา

16 ก.ย. – จับยกแก๊งบัญชีม้า 7 คน ตระเวนถอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์จีนเทา ยึดเงินสดกว่า 5 แสนบาท สารภาพได้ค่าจ้างล้านละ 7,000 บาท เงินที่หลอกผู้เสียหายถูกถ่ายโอนไปยังแก๊งคอลเซ็นเตอร์นอกประเทศแล้วไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาท นายเอกชัย เจ้าของบัญชีม้า พร้อมหญิงสาวทำหน้าที่ประสานงานถอนเงิน ถูกตำรวจภูธรภาค 5 จับกุมได้บริเวณหน้าธนาคารแห่งหนึ่งใน อ.เวียงหนองล่อง จ.ลำพูน ก่อนขยายผลจับกุมนายศรัณย์พงศ์ และนางสาวนันท์ธนัษฐ์ 2 คนไทย ทำหน้าที่ควบคุมเจ้าของบัญชีม้า และผู้ร่วมขบวนการอีก 3 คน ที่นั่งรอในรถกระบะ นายคิโอ ชาวลาว หัวหน้าแก๊งที่ถอนเงินให้จีนเทาเครือข่ายคิงส์โรมันฝั่งลาว พร้อมยึดของกลางเงินสดกว่า 5 แสนบาท สมุดบัญชีเงินฝากอีก 1 เล่ม กลุ่มผู้ต้องหามีพฤติการณ์วนเวียนถอนเงินสดจากธนาคารหลายแห่งใน จ.เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง ตำรวจแจ้งข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันทุจริต หลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ร่วมกันเป็นอั้งยี่ เตรียมรวบรวมหลักฐานขยายผลถึงบอสชาวจีน พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค […]

อัปเดตโผ ครม. ครบ 100% “โสภณ​” มีชื่อนั่งรอง​นายก​ฯ

กทม.16 ก.ย.- อัปเดตโผ ครม. ล่าสุด “โสภณ​ ​ซา​รัมย์​” ผงาดรอง​นายก​ฯ ขณะที่ รมต.สำนักนายกฯ มีถึง 4 เก้าอี้ ด้าน “มัลลิกา” โผล่นั่ง รมช.คมนาคม วันที่ 16 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เซ็นส่งรายชื่อคณะรัฐมนตรี (ครม. ) ซึ่งคาดว่าสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ 36 รายชื่อ ดังนี้ โควตา​คนนอก​ พรรคกล้าธรรม พรรคพลังประชารัฐ กลุ่มสุชาติ กลุ่มการเมืองอื่น

ป่วนไม่เลิก! เขมรบุกทำลายรั้วลวดหนาม “บ้านหนองหญ้าแก้ว”

16 ก.ย.- เขมรป่วนไม่เลิก! บุกทำลายรั้วลวดหนาม บ้านหนองหญ้าแก้ว ทหารกัมพูชายืนประกบสังเกตการณ์ ขณะที่ชาวเน็ตแห่หนุนสร้างกำแพงกั้นถาวร วันที่ 16 ก.ย. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสังคมออนไลน์แห่แชร์ภาพคลิปวิดีโอ พร้อมข้อความโดยอ้างว่าเป็นภาพของชาวเขมรบุกทำลายรั้วลวดหนามของไทย บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว ซึ่งเหตุการณ์เกิดในวันนี้ โดยมีชาวบ้านจากฝั่งกัมพูชาหลายคนเข้ามาใกล้แนวรั้วลวดหนาม พร้อมถือไม้และพยายามรื้อทำลาย ขณะที่ทหารกัมพูชายืนสังเกตการณ์อยู่รอบพื้นที่ ขณะที่ชาวเน็ตแห่แสดงความคิดเห็น สนับสนุนการสร้างกำแพงแทนรั้วลาดหนาม เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก -313 .-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ก่อนทูลเกล้าฯ ครม.

กทม 16 ก.ย.- “อนุทิน” สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ไหว้ศาลหลักเมือง – วัดพระแก้ว ก่อนนำรายชื่อ ครม. ขึ้นทูลเกล้าฯ วันนี้ บอกเสร็จสิ้นภารกิจไปอีกเปราะ ขณะ “บิ๊กเล็ก” ว่าที่ รมว.กลาโหม รอรับ พลาดลื่นคะมำที่บันได นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เดินทางมายังศาลหลักเมือง หลังตรวจสอบรายชื่อคณะรัฐมนตรีที่สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสร็จสิ้นแล้ว โดยมี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รอต้อนรับ โดยจุดแรก นายกรัฐมนตรีได้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์บริเวณหอพระ ซึ่งระหว่างทางที่จะเดินขึ้นไปยังหอพระ พล.อ.ณัฐพล ที่เดินตามข้างหลัง ได้ลื่นล้มทั้งตัวหน้าบริเวณหน้าบันไดทางขึ้นหอพระ คาดว่าเป็นเพราะถุงเท้าทำให้ลื่น แต่ พล.อ.ณัฐพล ได้ลุกอย่างรวดเร็ว และไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร ขณะที่ผู้เห็นเหตุการณ์ร้องอุทานด้วยความตกใจ ต่อมา นายอนุทิน ได้ผูกผ้าแพร 3 สี ถัดจากนั้นได้ถวายพวงมาลัยศาลหลักเมือง และสักการะศาลเทพารักษ์ทั้ง 5 พร้อมเติมน้ำมันตะเกียงพระประจำวันเกิด ขณะที่ประชาชนที่มาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ศาลหลักเมือง ต่างตะโกนให้กำลังใจนายอนุทิน “นายกฯ สู้ๆ” ก่อนที่นายอนุทินจะหันไปยกมือไหว้ขอบคุณ […]