ยื่นสอบ “ก้าวไกล” ปล่อยครอบงำตั้งรัฐบาล  

กกต. 22 พ.ค.-“ศรีสุวรรณ” ยื่น กกต. สอบก้าวไกล ปล่อย “ธนาธร ปิยะบุตร พรรณิการ์” ร่วมหารือตั้งรัฐบาล ส่อผิดถึงขั้นยุบพรรค ยอมรับ “พิธา” เหมาะนั่งนายกฯ แต่นโยบายแก้มาตรา 112 เสี่ยงทำชาติขัดแย้งรุนแรง แนะกลับตัวใหม่ รับฟังความเห็นทุกฝ่ายให้เคลียร์ เปิดหน้ากากโชว์ปากหายดีแล้วหลังถูกชก ยันไม่กลัวถูกทำร้าย เพิ่มการ์ด เดินหน้าร้องเรียนต่อ

เมื่อเวลา 13.00 น.  นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เดินทางไปยื่นเรื่องร้องเรียนเรียนต่อ กกต. ขอให้ตรวจสอบว่าการพฤติกรรมที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นายปิยบุตร แสงกนกกุล และน.ส.พรรณิการ์ วานิชย์ เป็นบุคลลที่ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคเข้าข่ายครอบงำ  ชี้นำการทำงานของพรรคก้าวไกล ขัดมาตรา 28  ของ พ.ร.ป.พรรคการเมือง 2560 หรือไม่     นายศรีสุวรรณ กล่าวว่าหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรคอนาคตใหม่ และตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรค แต่ยังพบว่าบุคคลทั้ง 3  ซึ่งเคยเป็นอดีตกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ กลับมีการเคลื่อนไหว   ทั้งการตั้งคณะก้าวหน้า และมูลนิธิก้าวหน้า  โดยมีสถานที่ตั้งเดียวกับพรรคก้าวไกล  จากนั้นมีการรณรงค์ล่ารายชื่นประชาชน 5 หมื่นชื่อเพื่อแก้ไข พ.ร.บ.การเลือกตั้งท้องถิ่น   ขณะที่พรรคก้าวไกลก็มีการล่ารายชื่อคู่ขนานไปในทางเดียวกัน   แม้ว่ากฎมายดังกล่าวจะถูกตีตก ไม่ผ่านรัฐสภา  แต่บุคคลทั้ง 3 ยังมีการขับเคลื่อนเชิงนโยบาย ผลักดันการกระจายอำนาจ ปฏิรูปท้องถิ่นเรื่อยมาจนถึงการเลือกตั้ง ส.ส.เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม ก็เลี่ยงกฎหมายด้วยการไปเป็นผู้ช่วยหาเสียง และออกหาเสียงทั่วประเทศให้กับพรรคก้าวไกล


เมื่อเลือกตั้งเสร็จ พรรคก้าวไกลมีคะแนนเสียงมาเป็นอันดับหนึ่ง   กำลังจัดตั้งรัฐบาล บุคคลทั้ง 3 ก็ไปร่วมวงจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคการเมืองอื่น   พฤติกรรมเหล่านี้สะท้อนว่าทั้ง 3 คน เข้าไปเกี่ยวพันกับพรรคก้าวไกลอย่างต่อเนื่อง จึงอาจจะเข้าข่ายเป็นการชี้นำ ครอบงำ ก้าวก่าย การทำกิจกรรมของพรรค   ขณะเดียวกันก่อนหน้านี้ นายธนาธรเคยให้สัมภาษณ์ผ่านรายการคุยฟ้าผ่า ทางช่องยูทูป ว่าได้สั่งให้ ส.ส.พรรคก้าวไกลหาเสียงเพื่อผลักดันร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า  โดยพรรคก็ขานรับ  ตนจึงเห็นว่าเป็นเหตุที่ กกต.ต้องวินิจฉัยตามกฎหมาย  จึงนำหลักฐานเป็นคลิปเสียง  พร้อมถอดเทปมายื่นต่อ กกต. เพื่อชี้ให้เห็นว่าทั้ง 3 คน  ไม่ได้มีการตัดขาดกับพรรคก้าวไกล   และหาก กกต.วินิจฉัยว่า ทั้ง 3 มีความผิดตามมาตรา 28 ในส่วนของพรรคก็จะเข้าข่ายยอมให้บุคคลซึ่งไม่ใช่สมาชิกพรรคชี้นำ ครอบงำ  ก็จะเข้าข่ายผิดตามมาตรา 29 เป็นเหตุให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคการเมืองได้

นายศรีสุวรรณ ยืนยันว่า การร้องเรียนต่างๆ เป็นการทำหน้าที่ตรวจสอบตามที่กฎหมายเลือกตั้ง และกฎหมายรัฐธรรมนูญให้สิทธิ ซึ่งประชาชนกว่า 70 ล้านคนก็สามารถทำได้  เพียงแต่ประเด็นที่ตนร้องอาจจะไปขัดหูขัดตาผู้ที่มีอำนาจ  แต่ก็ไม่ได้รู้สึกหวั่นเกรงอะไร  เพราะจะให้คนรักทั้ง 100% ก็ไม่ได้  ก็เหมือนพรรคการเมืองที่มีทั้งคนชอบและไม่ชอบ แต่เรายืนยันว่า ทำหน้าที่ด้วยความบริสุทธิ์ใจ  แต่ต่อไปอาจจะไม่มีการแจ้งหมายงานต่อสื่อมวลชนล่วงหน้า  เพราะไม่อยากให้เกิดการปะทะกัน


ส่วนที่มีผู้มายื่นคัดค้านการร้องเรียนของตนนั้นเป็นสิทธิที่เขาสามารถทำได้  แต่คนที่ทำร้ายตนกฎหมายก็คือกฎหมาย อย่ามาร้องห่มร้องไห้ ตีหน้าเศร้าเพื่อรับเงินบริจาค  ถ้าทำรับรองเจออีกคดีแน่  กล้าทำผิดก็ต้องยอมรับผิด เป็นลูกผู้ชายหน่อย ทั้งนี้ที่ผ่านมาตนร้องมาเป็นร้อยๆ เรื่องแล้ว  จะให้สัดส่วนเรื่องที่ร้องเรียนของแต่ละฝั่งเท่าๆ  กันคงเป็นไปไม่ได้

เมื่อถามว่าเหตุที่มาร้องเพราะมองว่านายพิธา ไม่เหมาะสมเป็นนายกฯ หรือไม่  นายศรีสุวรรณ กล่าวว่านายพิธาเหมาะสมเป็นนายก เพราะเป็นคนรุ่นใหม่ แต่นโยบายของพรรคบ้างเรื่องไม่เป็นที่ยอมรับของสังคมไทย  โดยเฉพาะตรา 112 กระทบใจคนไทยมาก   ซึ่งนายพิธาก็ยืนยันว่าจะเดินหน้าทำเรื่องนี้ เพราะฉะนั้นเรื่องความเหมาะสมก็เรื่องหนึ่ง ทั้งนี้ยืนยันไม่เชียร์ใคร  จะทำหน้าที่ตรวจสอบอย่างเดียว   พรรคก้าวไกลถ้าถอยเรื่อง 112 ได้  คิดว่าจะกลายเป็นฮีโร่ของคนไทยด้วยซ้ำ  ถ้าเขาจะสง่างามควรถอยเรื่องนี้  จากนั้นให้ไประดมความคิดเห็นของคนที่เห็นต่างเพื่อให้ตกผลึกก่อนผลักดันเป็นนโยบาย เพราะหากยังดัน 112 ต่อ คนที่ไม่เห็นด้วย คนจำนวนไม่น้อยที่ไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้  ทั้งในและนอกสภา ก็จะทำให้เกิดความขัดแย้ง  กลัวว่าประเทศไทยจะเป็นยูเครนสอง

“ต่อไปการทำหน้าที่อาจจะต้องเปลี่ยนวิธีการ  วันนี้มีการ์ดมาคอยดูแล เพราะถูกทำร้ายมา 2 รอบ ยอมรับว่าห่วงครอบครัว แต่ภรรยาก็เป็นคนคอยให้กำลังใจ และคอยชี้แนะ  เพราะเป็นคนที่มีแนวคิดเดียวกัน  ซึ่งต้องขอบคุณที่เขาคอยชี้แนะและเป็นกำลังใจให้”  นายศรีสุวรรณ กล่าว


เมื่อถามว่าไม่กลัวปากแตกอีกหรือ   นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า ถ้ากลัวก็ไม่มายืนอยู่ตรงนี้   ไม่มีใครหยุดศรีสุวรรณได้ มีแต่จะทำงานให้หนักขึ้น   ตอนนี้ปากหายแล้ว กินน้ำพริกได้แล้ว หล่อแล้ว     ส่วนกรณีนายวีรวิชญ์  รุ่งเรืองศิริผล หรือลุงศักดิ์ ผู้ที่เคยบุกชก  ระบุว่าจะไม่จ่ายให้แม้แต่บาทเดียวนั้น  ก็เป็นเรื่องของเขา หากไม่มีเงิน ศาลมีคำพิพากษาเมื่อไหร่  ตนก็เอาหมายไปยึดทรัพย์ ขายทอดตลาด  แต่ก็กลัวว่าจะได้ไม่ถึง  และส่วนใครจะจับมือ  เปลี่ยนขั้วอย่างไรนั้นเป็นเรื่องของเขา อย่าทำผิดกฎหมายก็แล้วกัน หากทำผิดกฎหายเมื่อไหร่ ศรีสุวรรณร้องแน่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายศรีสุวรรณมา กกต. โดยมีการ์ดคอยดูแลความปลอดภัยจำนวนหนึ่ง  จากเดิมนัดมายื่นเรื่องร้องเรียนเวลา 10.00 น. แต่เลื่อนออกไปเป็นเวลา 13.00 น.แทน    ภายหลังนายวีรวิชญ์  รุ่งเรืองศิริผล หรือลุงศักดิ์ ผู้ที่เคยบุกชกนายศรีสุวรรณ จรรยา พร้อมด้วยนายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือทนายอั๋น  เดินทางมายื่นคัดค้านการร้องเรียนของนายศรีสุวรรณ พร้อมให้สัมภาษณ์ว่าอยากเจอหน้า .- สำนักข่าวไทย   

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Taiwanese actress Barbie Hsu, who died of influenza at 48 sepia

“ซันไช่” นางเอกจาก F4 ซีรีส์ดังไต้หวันเสียชีวิตแล้ว

ไทเป 3 ก.พ.- ต้าเอส หรือที่ผู้ชมรู้จักในบทบาท “ซันไช่” นางเอกจากเรื่องรักใสใส หัวใจสี่ดวง (Meteor Garden) ซีรีส์ดังของไต้หวันในช่วงปี 2544 เสียชีวิตในวัย 48 ปี เพราะอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสหรือบาร์บี สวี มีชื่อจริงว่า สวี ซีหยวน เป็นที่รู้จักไปทั่วเอเชียจากซีรีส์ดังที่คนมักเรียกกันสั้น ๆ เอฟ 4 (F4) มีข่าวลือแพร่สะพัดในโลกออนไลน์เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ว่า เธอเสียชีวิตแล้ว และยิ่งเป็นกระแสหนักขึ้นไปอีกเมื่อนายหวัง เสี่ยวเฟย อดีตสามีที่เป็นนักธุรกิจได้เปลี่ยนรูปโพรไฟล์ในสื่อสังคมออนไลน์เป็นสีดำ และในเช้าวันนี้น้องสาวของเธอ สวี ซีตี้ ที่รู้จักในวงการบันเทิงว่า เสี่ยวเอส ยืนยันด้วยการส่งถ้อยแถลงถึงสถานีโทรทัศน์ทีวีบีเอส นิวส์ (TVBS News) ว่าพี่สาวของเธอถึงแก่กรรมเพราะปอดอักเสบที่เป็นอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสเกิดเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2519 เริ่มเข้าวงการในฐานะศิลปินคู่กับเสี่ยวเอสในชื่อวง เอสโอเอส  “S.O.S” เมื่อปี 2537 เธอมีลูก 2 คนกับอดีตสามี […]

“เต้ มงคลกิตติ์” หอบกล้องวงจรปิด 34 จุดคดี “แตงโม” มอบดีเอสไอ

นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เข้าพบ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนข้อเท็จจริงคดีการเสียชีวิตของ น.ส.ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม เพื่อมอบหลักฐานและให้ข้อมูลดีเอสไอ หลังรับเป็นเลขสืบสวนที่ 20/2568

“อนุทิน” ยังไม่รู้ ปม “โจ้มหาเฮง” แจ้งความเอาผิดคุณนายผู้ว่าฯ เบี้ยวค่าสลาก

“อนุทิน” บอกยังไม่รู้ ปม “โจ้มหาเฮง” แจ้งความเอาผิดคุณนายผู้ว่าฯ เบี้ยวเงินค่าสลาก ชี้หากจริง ผู้ว่าฯ เหนื่อยแน่

ข่าวแนะนำ

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

PEA ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา 5 จุด

เริ่มแล้ว การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) รับนโยบาย สมช.สั่งตัดไฟฟ้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งเมียนมา 5 จุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้

สมช.เคาะพรุ่งนี้ 9 โมง! ตัดไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมัน 5 จุด

สมช.เคาะตัดไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมัน 5 จุดในเมียนมา โยงแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พรุ่งนี้ 09.00 น. เชื่อ เข้าใจหลังมีการหารือแจ้งให้เตรียมความพร้อมแล้ว ย้ำ ไม่แทรกแซงเรื่องภายใน

ผบช.ภ.2 สั่งย้าย ผกก.สภ.องครักษ์ เซ่นปม จนท.บุกทลายบ่อน

รมว.มหาดไทย ชื่นชมชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง บุกทลายบ่อนนครนายก ขณะที่ ผบช.ภ.2 สั่งย้ายผู้กำกับการ สภ.องครักษ์ เซ่นปมบ่อน พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง ใครบกพร่อง-รับผลประโยชน์ ยืนยันเอาผิดไม่มีละเว้น