ยื่นสอบ “ก้าวไกล” ปล่อยครอบงำตั้งรัฐบาล  

กกต. 22 พ.ค.-“ศรีสุวรรณ” ยื่น กกต. สอบก้าวไกล ปล่อย “ธนาธร ปิยะบุตร พรรณิการ์” ร่วมหารือตั้งรัฐบาล ส่อผิดถึงขั้นยุบพรรค ยอมรับ “พิธา” เหมาะนั่งนายกฯ แต่นโยบายแก้มาตรา 112 เสี่ยงทำชาติขัดแย้งรุนแรง แนะกลับตัวใหม่ รับฟังความเห็นทุกฝ่ายให้เคลียร์ เปิดหน้ากากโชว์ปากหายดีแล้วหลังถูกชก ยันไม่กลัวถูกทำร้าย เพิ่มการ์ด เดินหน้าร้องเรียนต่อ

เมื่อเวลา 13.00 น.  นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เดินทางไปยื่นเรื่องร้องเรียนเรียนต่อ กกต. ขอให้ตรวจสอบว่าการพฤติกรรมที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นายปิยบุตร แสงกนกกุล และน.ส.พรรณิการ์ วานิชย์ เป็นบุคลลที่ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคเข้าข่ายครอบงำ  ชี้นำการทำงานของพรรคก้าวไกล ขัดมาตรา 28  ของ พ.ร.ป.พรรคการเมือง 2560 หรือไม่     นายศรีสุวรรณ กล่าวว่าหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรคอนาคตใหม่ และตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรค แต่ยังพบว่าบุคคลทั้ง 3  ซึ่งเคยเป็นอดีตกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ กลับมีการเคลื่อนไหว   ทั้งการตั้งคณะก้าวหน้า และมูลนิธิก้าวหน้า  โดยมีสถานที่ตั้งเดียวกับพรรคก้าวไกล  จากนั้นมีการรณรงค์ล่ารายชื่นประชาชน 5 หมื่นชื่อเพื่อแก้ไข พ.ร.บ.การเลือกตั้งท้องถิ่น   ขณะที่พรรคก้าวไกลก็มีการล่ารายชื่อคู่ขนานไปในทางเดียวกัน   แม้ว่ากฎมายดังกล่าวจะถูกตีตก ไม่ผ่านรัฐสภา  แต่บุคคลทั้ง 3 ยังมีการขับเคลื่อนเชิงนโยบาย ผลักดันการกระจายอำนาจ ปฏิรูปท้องถิ่นเรื่อยมาจนถึงการเลือกตั้ง ส.ส.เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม ก็เลี่ยงกฎหมายด้วยการไปเป็นผู้ช่วยหาเสียง และออกหาเสียงทั่วประเทศให้กับพรรคก้าวไกล


เมื่อเลือกตั้งเสร็จ พรรคก้าวไกลมีคะแนนเสียงมาเป็นอันดับหนึ่ง   กำลังจัดตั้งรัฐบาล บุคคลทั้ง 3 ก็ไปร่วมวงจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคการเมืองอื่น   พฤติกรรมเหล่านี้สะท้อนว่าทั้ง 3 คน เข้าไปเกี่ยวพันกับพรรคก้าวไกลอย่างต่อเนื่อง จึงอาจจะเข้าข่ายเป็นการชี้นำ ครอบงำ ก้าวก่าย การทำกิจกรรมของพรรค   ขณะเดียวกันก่อนหน้านี้ นายธนาธรเคยให้สัมภาษณ์ผ่านรายการคุยฟ้าผ่า ทางช่องยูทูป ว่าได้สั่งให้ ส.ส.พรรคก้าวไกลหาเสียงเพื่อผลักดันร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า  โดยพรรคก็ขานรับ  ตนจึงเห็นว่าเป็นเหตุที่ กกต.ต้องวินิจฉัยตามกฎหมาย  จึงนำหลักฐานเป็นคลิปเสียง  พร้อมถอดเทปมายื่นต่อ กกต. เพื่อชี้ให้เห็นว่าทั้ง 3 คน  ไม่ได้มีการตัดขาดกับพรรคก้าวไกล   และหาก กกต.วินิจฉัยว่า ทั้ง 3 มีความผิดตามมาตรา 28 ในส่วนของพรรคก็จะเข้าข่ายยอมให้บุคคลซึ่งไม่ใช่สมาชิกพรรคชี้นำ ครอบงำ  ก็จะเข้าข่ายผิดตามมาตรา 29 เป็นเหตุให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคการเมืองได้

นายศรีสุวรรณ ยืนยันว่า การร้องเรียนต่างๆ เป็นการทำหน้าที่ตรวจสอบตามที่กฎหมายเลือกตั้ง และกฎหมายรัฐธรรมนูญให้สิทธิ ซึ่งประชาชนกว่า 70 ล้านคนก็สามารถทำได้  เพียงแต่ประเด็นที่ตนร้องอาจจะไปขัดหูขัดตาผู้ที่มีอำนาจ  แต่ก็ไม่ได้รู้สึกหวั่นเกรงอะไร  เพราะจะให้คนรักทั้ง 100% ก็ไม่ได้  ก็เหมือนพรรคการเมืองที่มีทั้งคนชอบและไม่ชอบ แต่เรายืนยันว่า ทำหน้าที่ด้วยความบริสุทธิ์ใจ  แต่ต่อไปอาจจะไม่มีการแจ้งหมายงานต่อสื่อมวลชนล่วงหน้า  เพราะไม่อยากให้เกิดการปะทะกัน


ส่วนที่มีผู้มายื่นคัดค้านการร้องเรียนของตนนั้นเป็นสิทธิที่เขาสามารถทำได้  แต่คนที่ทำร้ายตนกฎหมายก็คือกฎหมาย อย่ามาร้องห่มร้องไห้ ตีหน้าเศร้าเพื่อรับเงินบริจาค  ถ้าทำรับรองเจออีกคดีแน่  กล้าทำผิดก็ต้องยอมรับผิด เป็นลูกผู้ชายหน่อย ทั้งนี้ที่ผ่านมาตนร้องมาเป็นร้อยๆ เรื่องแล้ว  จะให้สัดส่วนเรื่องที่ร้องเรียนของแต่ละฝั่งเท่าๆ  กันคงเป็นไปไม่ได้

เมื่อถามว่าเหตุที่มาร้องเพราะมองว่านายพิธา ไม่เหมาะสมเป็นนายกฯ หรือไม่  นายศรีสุวรรณ กล่าวว่านายพิธาเหมาะสมเป็นนายก เพราะเป็นคนรุ่นใหม่ แต่นโยบายของพรรคบ้างเรื่องไม่เป็นที่ยอมรับของสังคมไทย  โดยเฉพาะตรา 112 กระทบใจคนไทยมาก   ซึ่งนายพิธาก็ยืนยันว่าจะเดินหน้าทำเรื่องนี้ เพราะฉะนั้นเรื่องความเหมาะสมก็เรื่องหนึ่ง ทั้งนี้ยืนยันไม่เชียร์ใคร  จะทำหน้าที่ตรวจสอบอย่างเดียว   พรรคก้าวไกลถ้าถอยเรื่อง 112 ได้  คิดว่าจะกลายเป็นฮีโร่ของคนไทยด้วยซ้ำ  ถ้าเขาจะสง่างามควรถอยเรื่องนี้  จากนั้นให้ไประดมความคิดเห็นของคนที่เห็นต่างเพื่อให้ตกผลึกก่อนผลักดันเป็นนโยบาย เพราะหากยังดัน 112 ต่อ คนที่ไม่เห็นด้วย คนจำนวนไม่น้อยที่ไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้  ทั้งในและนอกสภา ก็จะทำให้เกิดความขัดแย้ง  กลัวว่าประเทศไทยจะเป็นยูเครนสอง

“ต่อไปการทำหน้าที่อาจจะต้องเปลี่ยนวิธีการ  วันนี้มีการ์ดมาคอยดูแล เพราะถูกทำร้ายมา 2 รอบ ยอมรับว่าห่วงครอบครัว แต่ภรรยาก็เป็นคนคอยให้กำลังใจ และคอยชี้แนะ  เพราะเป็นคนที่มีแนวคิดเดียวกัน  ซึ่งต้องขอบคุณที่เขาคอยชี้แนะและเป็นกำลังใจให้”  นายศรีสุวรรณ กล่าว


เมื่อถามว่าไม่กลัวปากแตกอีกหรือ   นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า ถ้ากลัวก็ไม่มายืนอยู่ตรงนี้   ไม่มีใครหยุดศรีสุวรรณได้ มีแต่จะทำงานให้หนักขึ้น   ตอนนี้ปากหายแล้ว กินน้ำพริกได้แล้ว หล่อแล้ว     ส่วนกรณีนายวีรวิชญ์  รุ่งเรืองศิริผล หรือลุงศักดิ์ ผู้ที่เคยบุกชก  ระบุว่าจะไม่จ่ายให้แม้แต่บาทเดียวนั้น  ก็เป็นเรื่องของเขา หากไม่มีเงิน ศาลมีคำพิพากษาเมื่อไหร่  ตนก็เอาหมายไปยึดทรัพย์ ขายทอดตลาด  แต่ก็กลัวว่าจะได้ไม่ถึง  และส่วนใครจะจับมือ  เปลี่ยนขั้วอย่างไรนั้นเป็นเรื่องของเขา อย่าทำผิดกฎหมายก็แล้วกัน หากทำผิดกฎหายเมื่อไหร่ ศรีสุวรรณร้องแน่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายศรีสุวรรณมา กกต. โดยมีการ์ดคอยดูแลความปลอดภัยจำนวนหนึ่ง  จากเดิมนัดมายื่นเรื่องร้องเรียนเวลา 10.00 น. แต่เลื่อนออกไปเป็นเวลา 13.00 น.แทน    ภายหลังนายวีรวิชญ์  รุ่งเรืองศิริผล หรือลุงศักดิ์ ผู้ที่เคยบุกชกนายศรีสุวรรณ จรรยา พร้อมด้วยนายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือทนายอั๋น  เดินทางมายื่นคัดค้านการร้องเรียนของนายศรีสุวรรณ พร้อมให้สัมภาษณ์ว่าอยากเจอหน้า .- สำนักข่าวไทย   

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

“ขัตติยา” ชี้ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก.

กทม. 10 ส.ค.-“ขัตติยา” สส.เพื่อไทย ชี้โพลฯ ประชาชนเชื่อมั่นกองทัพสูง แต่ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก. น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อและรองโฆษกพรรคเพื่อไทย โพสต์ X ถึงผลสำรวจล่าสุดของนิด้าโพล ที่ให้ความไว้วางใจกองทัพสูงกว่ารัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศ ว่าอยากชวนมองภาพให้ครบว่า ทุกหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ล้วนทำงานร่วมเป็นทีมเดียวกัน ภายใต้ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ศูนย์นี้จัดตั้งขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน โดยรวมเอาหลายภาคส่วนเข้ามาทำงานร่วมกัน ทั้งกระทรวงกลาโหม สภาความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการทหารบก ทุกฝ่าย คือทีมไทยแลนด์ ที่แบ่งบทบาทหน้าที่และประสานงาน เพื่อเป้าหมายเดียวกัน คือ การรักษาอธิปไตยของประเทศ และปกป้องความปลอดภัยของชีวิตประชาชน แม้กองทัพจะมีบทบาทสำคัญเป็นด่านหน้าในพื้นที่ชายแดน แต่ก็ไม่ได้ทำงานแยกเดี่ยวหรือเป็นอิสระจากภาคส่วนอื่นๆ หากทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับทุกหน่วยงานภายใต้ร่มของ ศบ.ทก. ในสถานการณ์ที่ท้าทายเช่นนี้ ไม่มีหน่วยงานใดสามารถทำงานบรรลุเป้าหมายได้เพียงลำพัง ความสำเร็จต้องเกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วน.-314.-สำนักข่าวไทย

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

สภาถกงบฯ 69 วันแรก “พิชัย” แจงหั่นงบ 8,920 ล้าน

รัฐสภา 13 ส.ค. – ที่ประชุมสภาฯ เริ่มถกงบฯ 69 วันแรกแล้ว “พิชัย” แจงรายงาน กมธ. เหตุหั่นงบ 8,920 ล้านบาท เพราะไม่สอดคล้องภาาวะปัจจุบัน-การเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบาย ในการประชุมสภาฯ เป็นพิเศษ เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 วงเงิน 3.78 ล้านล้านบาท วาระสอง ซึ่งกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ พิจารณาแล้วเสร็จเป็นวันแรก โดยมีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ เป็นประธานการประชุม นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ในฐานะประธานกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างงบประมาณรายจ่ายประจำปี งบประมาณ พ.ศ. 2569 ว่า คณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ได้พิจารณาร่างงบประมาณ 69 เรียบร้อยแล้ว โดยคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ให้ความสำคัญกับการดำเนินภารกิจเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศให้สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล ยุทธศาสตร์ชาติ แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ นโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยความมั่นคแห่งชาติ เป้าหมายพัฒนาที่ยั่งยืน รวมทั้งแผนปฏิบัติราชการของกระทรวง โดยพิจารณาตามความจำเป็นและภารกิจของหน่วยรับงบประมาณ และแผนพัฒนาพื้นที่ตามความต้องการของประชาชน […]

“พี สะเดิด” เปิดใจเป็นมะเร็งเต้านมนานเกือบ 20 ปี แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย

กรุงเทพฯ 13 ส.ค. – “พี สะเดิด” เจ้าของเพลงฮิต “จี่หอย” เผยเป็นมะเร็งเต้านมมานานเกือบ 20 ปี ตัดสินใจหยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเองแข็งแกร่งต่อสู้กับโรค จนค่ามะเร็งดีขึ้น แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย “พี สะเดิด” นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง อายุ 46 ปี เปิดใจว่าป่วยเป็นมะเร็งเต้านม มาเกือบ 20 ปีแล้ว รักษาโรคนี้โดยที่ไม่บอกใครเลย เพราะกลัวครอบครัวเป็นห่วง ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้าอก และพบว่าก้อนเนื้อมันขึ้นเรื่อยๆ ขนาดเท่าลูกมะนาว คิดว่าเป็นเพราะไม่ดูแลตัวเอง ทำงานหนัก กิน-นอนไม่เป็นเวลา แต่เพราะเป็นคนที่ตรวจสุขภาพตลอดทุก 6 เดือน พอเช็กดูเลยรู้ว่ามีเชื้อมะเร็งเต้านม หมอบอกว่าโอกาสน้อยที่จะเห็นผู้ชายเป็นมะเร็งเต้านม จะเป็นหนึ่งในล้าน หรือหนึ่งในสิบล้าน พี สะเดิด บอกว่าตอนแรกก็กลัว เลยตัดสินใจหันหน้าเข้าทางธรรม และปรับปรุงตัวเองควบคู่กันไป กินของที่มีประโยชน์ หยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเราแข็งแกร่งต่อสู้กับโรคมะเร็งของตัวเอง จนตอนนี้อยู่ทุกระยะค่ามะเร็งดีขึ้น ค่อยๆ ลดลงมา จนเหลือ 0 […]

“มาริษ” เมินกัมพูชาร้องยูเอ็น เย้ยไม่มีการถกเรื่องนี้

ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 13 ส.ค.- “มาริษ” เมินกัมพูชาร้องยูเอ็นอ้างไทยละเมิดข้อตกลงหยุดยิง เย้ยไม่มีการถกเรื่องนี้ เชื่อยูเอ็นเข้าใจ เผยคุยมิตรประเทศ บอก พฤติกรรมเขมรวางทุ่นระเบิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า เร่งประชุมร่วมรัฐภาคี-หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมเก็บหลักฐานให้คณะทำงานดูข้อมูลจริงจากพื้นที่ ขอช่วยผลักดันเขมรร่วมวงเก็บกู้ทุ่นระเบิด-ทำตามอนุสัญญาออตตาวา นายมาริษ เสงี่ยมพงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีที่รัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชาส่งจดหมายร้องเลขาฯ UN และ UNSC อ้างไทยละเมิดอธิปไตยและข้อตกลงหยุดยิงว่า เป็นการกล่าวอ้าง ซึ่งตนยังไม่เห็นหลักฐานที่ชัดเจน ของกัมพูชาว่าเราละเมิดตรงไหน ในขณะที่ทางกัมพูชาเองใช้วิธีที่ไม่จริงใจต่อความพยายามในการแก้ไขปัญหา ตามกรอบข้อตกลงหยุดยิงที่ได้ทำร่วมกันไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการยั่วยุด้วยสงครามข่าวสาร ไม่ว่าจะเป็นการใช้ โอกาสในการมาฝังลูกระเบิดสังหารบุคคลในดินแดนของประเทศไทย ในขณะที่ประเทศไทยมีหลักฐานที่ชัดเจน ที่ชี้ให้เห็นว่ากัมพูชาไม่มีความจริงใจในการแก้ไขปัญหาให้เป็นไปตามความตกลงหยุดยิงระหว่างกัน อย่างไรก็ตามการที่กัมพูชาส่งหนังสือไปถึงยูเอ็น ทางฝ่ายยูเอ็นก็ไม่ได้มีการเปิดประชุมเพื่อพิจารณาในเรื่องนี้ ในขณะเดียวกัน ไทยก็ได้มีหนังสือชี้แจง เลขาธิการสหประชาชาติไปในทุกโอกาส และทุกกรณีที่มีการขัดแย้งเกิดขึ้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกล่าวด้วยว่า ในเรื่องของอนุสัญญาออตตาวา ทางกระทรวงการต่างประเทศได้มีหนังสือผลักดันในเรื่องนี้ไปถึง ทูต ญี่ปุ่น ประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก และเจนีวา ในฐานะที่เป็นประธานของรัฐภาคีอนุสัญญาออตาวา 3 ฉบับและอีกหนึ่งฉบับก็กำลังจะส่งตามไป เพื่อกดดันหรือผลักดันให้รัฐภาคี ดำเนินตามมาตรการ อนุสัญญาออตตาวาโดยเร็ว ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบขอข้อมูลหลักฐาน ที่ชัดเจนซึ่งตรงนี้รัฐบาลโดยกระทรวงการต่างประเทศ และกองทัพได้ร่วมมือกันอย่างดี และสนับสนุน […]

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางพื้นที่บริเวณอีสาน-ตะวันออก-ใต้ฝั่งตะวันตก

กรุงเทพฯ 13 ส.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางพื้นที่บริเวณภาคอีสาน ภาคตะวันออก ภาคใต้ฝั่งตะวันตก โดยเฉพาะบริเวณ จ.จันทบุรี ตราด ระนอง พังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดจันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย เนื่องจากมีร่องมรสุมพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือ ประเทศลาว เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศลาว และประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนบนและทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง […]