เร่งช่วย นร.-นศ.จากซูดานได้เรียนต่อ-มีงานทำ

ทำเนียบรัฐบาล 19 พ.ค.-รองโฆษกรัฐบาล เผยนายกฯ สั่งหน่วยเกี่ยวข้องเร่งดูแลนักเรียน นักศึกษาจากซูดาน ให้ได้รับการศึกษาที่ต่อเนื่องจนจบการศึกษา ส่วนที่จบแล้วให้ได้ทำงาน


น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลยังคงติดตามและดูแลคนไทยและครอบครัว 218 คนที่เดินทางกลับบ้าน หลังจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในสาธารณรัฐซูดานอย่างใกล้ชิด ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้กำชับให้ดูแลอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะนักเรียน นักศึกษา ให้กลับเข้ารับการศึกษาและมีงานทำโดยเร็วที่สุด สำหรับนักเรียน นักศึกษาไทยที่เดินทางกลับจากซูดานได้รับการดูแลจากศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) โดยส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาที่กำลังศึกษาอยู่ และจบการศึกษาแล้ว

“จากข้อมูลของนักศึกษาที่ไปเรียนต่อในซูดาน พบว่าส่วนใหญ่ไปศึกษาต่อในสาขาแพทย์ กฎหมายอิสลามและทางศาสนา ซึ่งเมื่อวันที่ 16 พ.ค.ที่ผ่านมา ศอ.บต.ได้ประชุมร่วมกับนักศึกษาและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามความคืบหน้า รับฟังปัญหาและความต้องการ เพื่อให้ความช่วยเหลือและได้รับการศึกษาต่อเนื่องจนจบการศึกษา ในส่วนของผู้ที่จบการศึกษาแล้วให้ได้รับการประกอบอาชีพต่อไปโดยเร็ว ซึ่งหลังจากนี้ ศอ.บต. เตรียมประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถาบันการศึกษาทั้งในและนอกพื้นที่ เพื่อพิจารณาให้ได้ศึกษาต่อในคณะสาขาที่ต้องการและเหมาะสม รวมทั้งจะประสานไปยังผู้ประกอบการในการรับผู้ที่สำเร็จการศึกษาให้มีงานทำต่อไป ซึ่งจากการสำรวจตัวเลขมีนักศึกษาอยู่ประมาณ 220–224 คน เป็นนักศึกษาไทย 150 คน อยู่ในพื้นที่ภาคใต้ 100 คน เนื่องจากเมื่อช่วงสถานการณ์โควิดที่ผ่านมา มีนักศึกษาเดินทางกลับมาบางส่วนแล้วด้วย” รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว


น.ส.รัชดา กล่าวว่า ศอ.บต.ได้รับฟังความต้องการ ข้อห่วงกังวลของนักศึกษา พบว่านักศึกษาที่จบการศึกษาแล้วมีความกังวลเกี่ยวกับใบวุฒิการศึกษาและใบคะแนน ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวทำให้ไม่ได้รับการประทับตรารับรองจากกระทรวงศึกษาธิการของซูดาน กระทรวงการต่างประเทศของซูดาน และสถานทูตไทยได้ทันเวลา ทำให้ไม่สามารถสมัครงานได้ จึงประสงค์ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประสานไปยังมหาวิทยาลัยที่ซูดาน เพื่อออกเอกสารให้ และระหว่างนี้ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกใบรับรองยืนยันการสำเร็จการศึกษา เพื่อยืนยันการเรียนจบให้นำไปใช้สมัครงานต่อไปได้

“นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ความช่วยเหลือนักเรียน นักศึกษาที่ได้รับผลกระทบอย่างเต็มที่ โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพร้อมให้การช่วยเหลือโดยเร็วที่สุด ทั้งในส่วนของการขอใบรับรองการจบการศึกษา การเทียบโอน และทุนการศึกษา” รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว.-สำนักข่าวไทย        


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

นายกฯหารือบริษัทยา

นายกฯ ถกบริษัทยา Astrazeneca พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทย

บริษัทยาระดับโลก Astrazeneca หารือ นายกฯ ยืนยันไทยยังเป็นพันธมิตรที่ดีมายาวนาน พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทยอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ นายกฯ มั่นใจการแพทย์ของไทยติดระดับในโลก ยืนยันหลายประเทศทั่วโลกบินมารักษาในประเทศไทยจำนวนมาก

ค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน

ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค.

กรมควบคุมมลพิษ เผยวันนี้ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค. ประสานทุกหน่วยงานยกระดับการแก้ไขปัญหา พร้อมเตือนประชาชนเฝ้าระวังสุขภาพและปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข

หวยอลวน12ล้าน

หวย 12 ล้านพาวุ่น “ผู้กองเข้ม” แจ้งความ “ยายแหล่”

หวยอลวนมาอีกแล้ว หลังยายแหล่ แม่ค้าร้านลาบก้อย ที่เพิ่งถูกสลากฯ เป็นเศรษฐีใหม่ 12 ล้านบาท แต่มีตำรวจรายหนึ่ง ไปแจ้งความ ว่าถูกยายแหล่ ยักยอกทรัพย์

แอปฯ “ล่าเหรียญ” ฟีเวอร์ ทำชาวบ้านเดือดร้อน

แอปพลิเคชัน “Jagat” ฟีเวอร์ ทำวัยรุ่นว้าวุ่น แห่ล่าเหรียญแลกเงินที่กระจายอยู่ตามสถานที่ต่างๆ ทำชาวบ้านและผู้ประกอบการเดือดร้อน ตำรวจเตือนการแชร์พิกัดตำแหน่งอาจเป็นช่องทางให้มิจฉาชีพเฝ้าติดตามและฉวยโอกาสขโมยทรัพย์สินได้ และอาจเสี่ยงเจอข้อหาบุกรุก