“พล.อ.ประยุทธ์” อ้อน “อย่าให้ลุงตู่สู้คนเดียว” ขอโอกาสกลับมาเป็นนายกฯ อีกครั้ง

กรุงเทพฯ 12 พ.ค. – “พล.อ.ประยุทธ์” อ้อนรวมทุกหัวใจ ช่วยรักษาบ้านเมือง ชูแคมเปญ “อย่าให้ลุงตู่สู้คนเดียว” ขอคะแนนและขอโอกาสให้ “พล.อ.ประยุทธ์” ได้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง


บรรยากาศการปราศรัยใหญ่ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ภายใต้ชื่อ “รวมทุกหัวใจ รวมไทยสร้างชาติ” ขอโอกาสให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง

พรรครวมไทยสร้างชาติชูแคมเปญ ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ มีนโยบายช่วยประชาชน หาเงินได้ ใช้เงินเป็น ขอคะแนนและขอโอกาสให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง


แกนนำพรรครวมไทยสร้างชาติปราศรัยใหญ่โค้งสุดท้าย หลังเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.กทม.ทั้ง 33 เขต ชูแคมเปญ “อย่าให้ลุงตู่สู้คนเดียว ระดมทัพช้างศึก ออกมาช่วยรักษาบ้านเมือง ปราศรัยใหญ่รวมทุกหัวใจ รวมไทยสร้างชาติ” ย้ำทุกนโยบายของพรรคออกมาเพื่อประชาชน หาเงินได้ ใช้เงินเป็น ยืนยันแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีไม่มีใครสู้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้เลย เพราะมีประสบการณ์ในการทำงานบริหารราชการแผ่นดิน มีความซื่อสัตย์ ยึดมั่นในชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
มีความมุ่งมั่น คิดถึงแต่บ้านเมือง ดังนั้น สิ่งที่ทำมาต้องให้ทำต่อ และขอให้เลือกพรรครวมไทยสร้างชาติทั้ง 2 ใบ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรครวมไทยสร้างชาติ ปราศรัยปลุกคนไทยให้บอกปากต่อปาก ช่วยเลือกรวมไทยสร้างชาติ ที่เคยบอกว่าความสงบจบที่ลุงตู่เมื่อปี 2562 แต่ปี 2566 ก็ขอจบที่ลุงตู่ ย้ำประเทศไทยต้องไปต่อ ด้วยความรัก ความสามัคคี เอาชนะทุกอย่าง ตนได้ตรวจร่างกายแล้ว ยืนยันแข็งแรง แต่หัวใจโต

จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ เปิดคลิปวิดีโอ “คุณอยากให้ประเทศไทยไม่เหมือนเดิมจริงหรือ สะท้อนปัญหาสังคมต่างๆ” พร้อมระบุในฐานะคนไทย สิ่งที่จะให้ ประเทศแข็งแกร่งคือทุกคนต้องร่วมมือกัน ตนเองยอมรับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่ายอย่างมีสติ อย่างมีสมอง ตนเองยอมเหนื่อย ยอมเจ็บปวด เมื่อพูดถึงตรงนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้นิ่งน้ำตาคลอเบ้า แล้วพูดต่อว่าเพื่อคนไทย และต้องยอมรับว่าประเทศไทยได้เปลี่ยนแปลงไปกว่าเดิมมากแล้ว มีสิ่งที่ก้าวหน้า มีสิ่งที่เจริญเติบโตขึ้น แน่นอนคนจำนวนมาก 70,000,000 คน แต่ก็มีคนที่ยากลำบากอยู่และมีคนที่เดือดร้อนอยู่ ทุกคนจะต้องร่วมมือกันแก้ไขปัญหา โดยวิธีจะแก้ได้เราต้องมีความรักความสามัคคี จะเป็นบ่อเกิดแห่งความสำเร็จของทุกคน


พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้มีอารมณ์ซาบซึ้งกับพวกเราทุกคน ตนไม่เสียใจที่เป็นทหารมา และได้ดูแลปกป้องแผ่นดินนี้ให้กับพวกเรา ตนเองต้องการให้แผ่นดินผืนนี้เป็นผืนดินที่ปลอดภัยและคนไทยร่วมรักสามัคคีกัน ตนไม่เคยปฏิเสธการเปลี่ยนแปลง และจริงๆ ตอนนี้ประเทศไทยเปลี่ยนไปกว่าเดิมมากแล้ว เป็นการเปลี่ยนแปลงที่สร้างสรรค์ มุ่งพัฒนาประเทศ โดยยังรักษาคุณค่าความดีงามต่างๆ ของสังคมไทยที่สืบต่อกันมาอย่างยาวนาน

สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ช่วงที่ผ่านมาประเทศไทยมีความสงบ มีความมั่นคง มีพัฒนาการเศรษฐกิจ ซึ่งความสงบและความมั่นคงนี้ ทำให้เราสามารถพัฒนาประเทศให้เดินหน้าไปได้ การเมืองมีเสถียรภาพ รัฐบาลมีเวลาในการทำเรื่องดีๆ ที่เป็นเรื่องใหญ่ๆ ต้องทำให้ต่อเนื่อง

“เราเปลี่ยนแบบนั้น ไม่ใช่เปลี่ยนแบบพลิกฟ้าคว่ำดิน” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

สิ่งที่ขับเคลื่อนประเทศไทยให้เดินหน้ามาได้จนถึงจุดนี้คือความเป็นปึกแผ่น เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ความร่วมมือกันของคนไทย คนไทยมีสถาบันที่ยึดเหนี่ยวจิตใจให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ตั้งแต่ระดับเล็กสุด คือ ครอบครัว จนถึงชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ อย่าปล่อยให้ใครมาบั่นทอน หรือสร้างรอยร้าวที่ไม่อาจกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้

“เราไม่ปฏิเสธการเปลี่ยนแปลง แต่ต้องเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สร้างสรรค์ นำไปสู่สิ่งที่ดีงาม สู่สิ่งที่ดีกว่าเป็นประโยชน์สุขของประเทศชาติ อันดีงามที่เป็นจุดแข็งของสังคมไทย ต้องไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงที่เป็นการบ่อนทำลายสถาบันต่างๆ พลิกฟ้าคว่ำดิน ทำลายรากเหง้า ทำลายคุณค่าอันดีงามของสังคมไทยของเรา และเรียกร้องให้คนไทยออกมาช่วยกันปกป้องคุณค่าอันดีงามของประเทศไทย และอย่าให้ตนสู้อยู่คนเดียว เราต้องรวมใจออกมาปกป้องคุณค่าอันดีงามของประเทศของเรา” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้ตนเองเห็นรอยยิ้มของทุกคนแล้วชื่นใจ ทุกคนต้องไม่ปล่อยให้ตัวเองสู้อยู่คนเดียว เชื่อว่าประชาชนจะไม่ปล่อยให้ตัวเองสู้คนเดียว ตนเองต้องเผชิญมาหลายอย่าง แบบที่ตนเองไม่เคยเจอมาก่อน แต่เมื่อมาเจอกับผู้ร่วมอุดมการณ์เดียวกันก็ทำให้ตนเองมีแรงฮึดขึ้นมาว่าจะต้องทำให้ได้ และวันนี้ตนเองคิดว่าทำได้ดีพอสมควร แต่ประเทศไทยมีภาระอีกที่ต้องการแก้ไขและได้รับการดูแล โดยวิธีการที่ถูกต้อง และไม่อาจทำให้ประเทศล่มสลาย ย้ำเสถียรภาพทางการเงินต้องไม่ล่มสลาย ทำงานอย่างเป็นระบบ ถูกต้องตามกฎหมาย ทำให้ประเทศไทยมีความเชื่อมั่นในต่างประเทศ เราทำมาแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ และต้องทำทันที

แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวด้วยว่า วันนี้ตื้นตัน เตรียมการมาพูดเยอะ แต่พูดไม่ออก เพราะที่ผ่านมาพูดมาหลายวัน เชื่อว่าทุกคนได้ยินนโยบายของพรรคหมดแล้ว วันนี้ต้องให้กำลังใจ ส.ส.เขตทุกเขต เลือกทุกเบอร์ ทุกเขต เหนือใต้ อีสาน ให้มี ส.ส.เขต ถ้าไม่เลือก ลุงตู่ก็จะไม่มาอีกแล้ว และถ้าตนไม่อยู่แล้วจะคิดถึงหรือไม่ แต่ตนทั้งคิดถึงประชาชนตลอดเวลา พร้อมยอมรับว่าคิดมาก ปกติไม่กลัวเวที แต่วันนี้ตื่นเต้น ซาบซึ้งกับแรงใจที่ให้มาในวันนี้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ทบ.จัดพิธีพระราชทานเพลิงศพ 4 ทหารหาญ พร้อมปูนบำเหน็จ

กทม. 30 ก.ค.-กองทัพบกสดุดีทหารกล้า จัดพิธีพระราชทานเพลิงศพ 4 ทหารหาญ พร้อมปูนบำเหน็จ ขอพระราชทานยศทหารเลื่อนขั้นอย่างสมเกียรติ วันที่ 30 ก.ค. 68 กองทัพบกร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรมและส่วนราชราชการพื้นที่ จัดพิธีพระราชทานเพลิงศพทหารกล้าที่สละชีพเพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ จากเหตุการณ์พื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยใน พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้มอบให้คณะผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองทัพบก ร่วมเป็นเกียรติในพิธีพระราชทานเพลิงศพของทหารหาญ จำนวน 4 นาย ดังนี้ 1.ส.อ.จิรายุ สิงห์อ้น ตำแหน่งพลลาดตระเวน กองร้อยลาดตระเวนระยะไกลที่ 6 (ร้อย ลว.ไกล 6) กองพลทหารราบที่ 6 ซึ่งเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ (25 ก.ค.68) ณ วัดตลาดราชมงคล อ.จตุรพักตรพิมาน จ.ร้อยเอ็ด โดยมี พล.อ. ณัฐวุฒิ นาคะนคร รองผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธานในพิธีพระราชเพลิงศพ โดยกองทัพบกได้ดำเนินการปูนบำเหน็จพิเศษ 7 ขั้น ขอพระราชทานยศทหารเป็นร้อยโท […]

ทบ.ยันไทยมีแผนพานานาชาติดูจุดเขมรถล่มเหมือนกัน

กทม. 30 ก.ค.-กองทัพบก ยันไทยมีแผนพานานาชาติดูจุดเขมรถล่มเหมือนกัน ประชาคมโลกต้องเห็นความเสียหาย ทั้งบ้านเรือน-โรงเรียน-โรงพยาบาล เร็วๆ นี้ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีฝ่ายกัมพูชานำคณะผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศ เข้าดูพื้นที่บริเวณจุดปะทะ บริเวณช่องอานม้า จ.อุบลราชธานีว่า จุดที่ฝ่ายกัมพูชานำคณะผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศลงไปดูพื้นที่ปฏิบัติการทางทหาร บริเวณจุดที่เคยมีการปะทะกันนั้น เป็นบริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่ช่องอานม้า จ.อุบลราชธานี จึงเห็นมีภาพปรากฏถึงความเสียหายที่เกิดจากการใช้อาวุธจากทั้งสองฝ่าย ซึ่งคงเป็นเรื่องปกติ เป็นสิ่งที่เข้าใจได้ในบริบทของพื้นที่ทางยุทธการ และบริเวณนั้นเป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายทางทหาร สำหรับฝ่ายไทยมีแผนจะจัดกิจกรรมในลักษณะดังกล่าวเช่นกัน โดยฝ่ายไทยจะไม่เน้นการสร้างภาพลวงแบบฉาบฉวย แต่จะเน้นสื่อสารเชิงคุณภาพ สิ่งที่จำเป็นจะต้องสื่อถึงประชาคมโลกคือ ความเสียหายต่อบ้านเรือน โรงเรียน โรงพยาบาล ที่ฝ่ายทหารกัมพูชาจงใจพุ่งเป้าโจมตีไปยังเป้าหมายเหล่านั้น จนมีพลเรือน ประชาชน เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก ทั้งที่พื้นที่ดังกล่าวอยู่ลึกไกลเข้ามาภายในประเทศไทย และห่างจากพื้นที่สู้รบเข้ามาในไทยไกลมากถึง 10-30 กิโลเมตร พล.ต.วินธัย กล่าวว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการละเมิดอธิปไตยของไทย รวมถึงขัดต่อหลักปฏิบัติทางทหารตามกฎหมายสากล และหลักมนุษยธรรมระหว่างประเทศ โดยเฉพาะการเจตนาละเมิดอนุสัญญาระหว่างประเทศหลายฉบับ ที่ห้ามการโจมตีพื้นที่ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการรบ กองทัพบกไทยขอยืนยันอีกครั้งว่า เราปฏิบัติการเฉพาะต่อเป้าหมายทางทหารเป็นหลักเท่านั้น และยึดมั่นในกติกาสากล โดยขอย้ำว่า ฝ่ายไทยไม่ได้รุกรานใคร แต่เรามีสิทธิชอบธรรมในการปกป้องประชาชนและผืนแผ่นดินของเรา.-313.-สำนักข่าวไทย

เปิดภาพโรงพยาบาลไทยเสียหายหนัก หลังถูกกัมพูชาโจมตีด้วยอาวุธหนัก

ทำเนียบ 30 ก.ค.-โฆษกรัฐบาล เปิดภาพโรงพยาบาลไทยเสียหายหนัก หลังถูกกัมพูชาโจมตีด้วยอาวุธหนัก พร้อมประณามกัมพูชาละเมิดมนุษยธรรมร้ายแรง นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) ประณามการกระทำของรัฐบาลและกองทัพกัมพูชาอย่างรุนแรง กรณีการใช้อาวุธโจมตีเป้าหมายที่เป็นสถานพยาบาลของไทยในหลายพื้นที่ ซึ่งเป็นการกระทำที่ขัดต่อหลักมนุษยธรรมขั้นพื้นฐานและเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างชัดเจน พร้อมกันนี้นายจิรายุ ยังเปิดภาพโรงพยาบาลบางส่วนที่ได้รับความเสียหาย ได้แก่ โรงพยาบาลพนมดงรักเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) คำโปรย, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) โคก, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ซำเม็ง “ประเทศไทยขอเรียกร้องให้ประชาคมโลกจับตามองและประณามการกระทำดังกล่าว ซึ่งต่างจากประเทศไทยที่ยึดมั่นในหลักมนุษยธรรมอย่างเคร่งครัด โดยปฏิบัติการเฉพาะต่อเป้าหมายทางทหารเท่านั้น เพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสียแก่พลเรือ” โฆษกรัฐบาล ระบุ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังระบุว่า ข้อมูลล่าสุดจากกระทรวงสาธารณสุข ณ วันที่ 30 กรกฎาคม 2568 เวลา 10.00 น. พบว่า จากการโจมตีโดยไม่เลือกเป้าหมายของกัมพูชา ได้ส่งผลให้มีพลเรือนเสียชีวิตแล้ว 15 ราย ในพื้นที่จ.อุบลราชธานี และศรีสะเกษ บาดเจ็บสาหัส 12 […]

เหตุพลุระเบิด เสียชีวิตเพิ่มเป็น 10 คน

สุพรรณบุรี 30 ก.ค. – เหตุพลุระเบิด จ.สุพรรณบุรี พบผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย ที่โรงพยาบาล รวมเสียชีวิต 10 ราย บาดเจ็บ 1 ราย สั่งการตั้งศูนย์ ศปก. ที่วัดโพธิ์ท่าทราย ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย คืบหน้าเหตุพลุระเบิดที่จังหวัดสุพรรณบุรี ล่าสุด พล.ต.ต.วัชรินทร์ ประสพดี ผู้บังคับการภูธรจังหวัดสุพรรณบุรี เปิดเผยว่า ขณะนี้มียอดผู้เสียชีวิต จำนวน 10 ราย เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 9 ราย และเสียชีวิตที่โรงพยาบาล 1 ราย และมีผู้บาดเจ็บ 1 ราย ขณะนี้ได้สั่งการตั้งศูนย์ ศปก. ที่วัดโพธิ์ท่าทราย ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย รวมถึงประสานชุด EOD เข้าเก็บกู้ดินปืน เนื่องจากตรวจสอบพบหลุมขนาดใหญ่สีดำจำนวน 2 หลุม และดินปืนจำนวนหนึ่ง อีกทั้งยังพบร่างผู้เสียชีวิต ชิ้นส่วนจำนวนหนึ่งบริเวณที่เกิดเหตุ ส่วนข้อมูลการตรวจสอบ พบว่าบ้านหลังนี้มีการลักลอบผลิตพลุไล่นก.-สำนักข่าวไทย