“พล.อ.ประยุทธ์” อ้อน “อย่าให้ลุงตู่สู้คนเดียว” ขอโอกาสกลับมาเป็นนายกฯ อีกครั้ง

กรุงเทพฯ 12 พ.ค. – “พล.อ.ประยุทธ์” อ้อนรวมทุกหัวใจ ช่วยรักษาบ้านเมือง ชูแคมเปญ “อย่าให้ลุงตู่สู้คนเดียว” ขอคะแนนและขอโอกาสให้ “พล.อ.ประยุทธ์” ได้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง


บรรยากาศการปราศรัยใหญ่ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ภายใต้ชื่อ “รวมทุกหัวใจ รวมไทยสร้างชาติ” ขอโอกาสให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง

พรรครวมไทยสร้างชาติชูแคมเปญ ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ มีนโยบายช่วยประชาชน หาเงินได้ ใช้เงินเป็น ขอคะแนนและขอโอกาสให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง


แกนนำพรรครวมไทยสร้างชาติปราศรัยใหญ่โค้งสุดท้าย หลังเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.กทม.ทั้ง 33 เขต ชูแคมเปญ “อย่าให้ลุงตู่สู้คนเดียว ระดมทัพช้างศึก ออกมาช่วยรักษาบ้านเมือง ปราศรัยใหญ่รวมทุกหัวใจ รวมไทยสร้างชาติ” ย้ำทุกนโยบายของพรรคออกมาเพื่อประชาชน หาเงินได้ ใช้เงินเป็น ยืนยันแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีไม่มีใครสู้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้เลย เพราะมีประสบการณ์ในการทำงานบริหารราชการแผ่นดิน มีความซื่อสัตย์ ยึดมั่นในชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
มีความมุ่งมั่น คิดถึงแต่บ้านเมือง ดังนั้น สิ่งที่ทำมาต้องให้ทำต่อ และขอให้เลือกพรรครวมไทยสร้างชาติทั้ง 2 ใบ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรครวมไทยสร้างชาติ ปราศรัยปลุกคนไทยให้บอกปากต่อปาก ช่วยเลือกรวมไทยสร้างชาติ ที่เคยบอกว่าความสงบจบที่ลุงตู่เมื่อปี 2562 แต่ปี 2566 ก็ขอจบที่ลุงตู่ ย้ำประเทศไทยต้องไปต่อ ด้วยความรัก ความสามัคคี เอาชนะทุกอย่าง ตนได้ตรวจร่างกายแล้ว ยืนยันแข็งแรง แต่หัวใจโต

จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ เปิดคลิปวิดีโอ “คุณอยากให้ประเทศไทยไม่เหมือนเดิมจริงหรือ สะท้อนปัญหาสังคมต่างๆ” พร้อมระบุในฐานะคนไทย สิ่งที่จะให้ ประเทศแข็งแกร่งคือทุกคนต้องร่วมมือกัน ตนเองยอมรับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่ายอย่างมีสติ อย่างมีสมอง ตนเองยอมเหนื่อย ยอมเจ็บปวด เมื่อพูดถึงตรงนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้นิ่งน้ำตาคลอเบ้า แล้วพูดต่อว่าเพื่อคนไทย และต้องยอมรับว่าประเทศไทยได้เปลี่ยนแปลงไปกว่าเดิมมากแล้ว มีสิ่งที่ก้าวหน้า มีสิ่งที่เจริญเติบโตขึ้น แน่นอนคนจำนวนมาก 70,000,000 คน แต่ก็มีคนที่ยากลำบากอยู่และมีคนที่เดือดร้อนอยู่ ทุกคนจะต้องร่วมมือกันแก้ไขปัญหา โดยวิธีจะแก้ได้เราต้องมีความรักความสามัคคี จะเป็นบ่อเกิดแห่งความสำเร็จของทุกคน


พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้มีอารมณ์ซาบซึ้งกับพวกเราทุกคน ตนไม่เสียใจที่เป็นทหารมา และได้ดูแลปกป้องแผ่นดินนี้ให้กับพวกเรา ตนเองต้องการให้แผ่นดินผืนนี้เป็นผืนดินที่ปลอดภัยและคนไทยร่วมรักสามัคคีกัน ตนไม่เคยปฏิเสธการเปลี่ยนแปลง และจริงๆ ตอนนี้ประเทศไทยเปลี่ยนไปกว่าเดิมมากแล้ว เป็นการเปลี่ยนแปลงที่สร้างสรรค์ มุ่งพัฒนาประเทศ โดยยังรักษาคุณค่าความดีงามต่างๆ ของสังคมไทยที่สืบต่อกันมาอย่างยาวนาน

สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ช่วงที่ผ่านมาประเทศไทยมีความสงบ มีความมั่นคง มีพัฒนาการเศรษฐกิจ ซึ่งความสงบและความมั่นคงนี้ ทำให้เราสามารถพัฒนาประเทศให้เดินหน้าไปได้ การเมืองมีเสถียรภาพ รัฐบาลมีเวลาในการทำเรื่องดีๆ ที่เป็นเรื่องใหญ่ๆ ต้องทำให้ต่อเนื่อง

“เราเปลี่ยนแบบนั้น ไม่ใช่เปลี่ยนแบบพลิกฟ้าคว่ำดิน” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

สิ่งที่ขับเคลื่อนประเทศไทยให้เดินหน้ามาได้จนถึงจุดนี้คือความเป็นปึกแผ่น เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ความร่วมมือกันของคนไทย คนไทยมีสถาบันที่ยึดเหนี่ยวจิตใจให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ตั้งแต่ระดับเล็กสุด คือ ครอบครัว จนถึงชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ อย่าปล่อยให้ใครมาบั่นทอน หรือสร้างรอยร้าวที่ไม่อาจกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้

“เราไม่ปฏิเสธการเปลี่ยนแปลง แต่ต้องเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สร้างสรรค์ นำไปสู่สิ่งที่ดีงาม สู่สิ่งที่ดีกว่าเป็นประโยชน์สุขของประเทศชาติ อันดีงามที่เป็นจุดแข็งของสังคมไทย ต้องไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงที่เป็นการบ่อนทำลายสถาบันต่างๆ พลิกฟ้าคว่ำดิน ทำลายรากเหง้า ทำลายคุณค่าอันดีงามของสังคมไทยของเรา และเรียกร้องให้คนไทยออกมาช่วยกันปกป้องคุณค่าอันดีงามของประเทศไทย และอย่าให้ตนสู้อยู่คนเดียว เราต้องรวมใจออกมาปกป้องคุณค่าอันดีงามของประเทศของเรา” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้ตนเองเห็นรอยยิ้มของทุกคนแล้วชื่นใจ ทุกคนต้องไม่ปล่อยให้ตัวเองสู้อยู่คนเดียว เชื่อว่าประชาชนจะไม่ปล่อยให้ตัวเองสู้คนเดียว ตนเองต้องเผชิญมาหลายอย่าง แบบที่ตนเองไม่เคยเจอมาก่อน แต่เมื่อมาเจอกับผู้ร่วมอุดมการณ์เดียวกันก็ทำให้ตนเองมีแรงฮึดขึ้นมาว่าจะต้องทำให้ได้ และวันนี้ตนเองคิดว่าทำได้ดีพอสมควร แต่ประเทศไทยมีภาระอีกที่ต้องการแก้ไขและได้รับการดูแล โดยวิธีการที่ถูกต้อง และไม่อาจทำให้ประเทศล่มสลาย ย้ำเสถียรภาพทางการเงินต้องไม่ล่มสลาย ทำงานอย่างเป็นระบบ ถูกต้องตามกฎหมาย ทำให้ประเทศไทยมีความเชื่อมั่นในต่างประเทศ เราทำมาแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ และต้องทำทันที

แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวด้วยว่า วันนี้ตื้นตัน เตรียมการมาพูดเยอะ แต่พูดไม่ออก เพราะที่ผ่านมาพูดมาหลายวัน เชื่อว่าทุกคนได้ยินนโยบายของพรรคหมดแล้ว วันนี้ต้องให้กำลังใจ ส.ส.เขตทุกเขต เลือกทุกเบอร์ ทุกเขต เหนือใต้ อีสาน ให้มี ส.ส.เขต ถ้าไม่เลือก ลุงตู่ก็จะไม่มาอีกแล้ว และถ้าตนไม่อยู่แล้วจะคิดถึงหรือไม่ แต่ตนทั้งคิดถึงประชาชนตลอดเวลา พร้อมยอมรับว่าคิดมาก ปกติไม่กลัวเวที แต่วันนี้ตื่นเต้น ซาบซึ้งกับแรงใจที่ให้มาในวันนี้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบแล้วบ้าน “พระอลงกต” ที่ขอนแก่น ชาวบ้านเผยเป็นคนใจดี

ขอนแก่น 25 ส.ค. – พบแล้วบ้านของ “พระอลงกต” ใน อ.เมือง จ.ขอนแก่น ตรวจสอบพบเป็นบ้านพักข้าราชการของกรมทางหลวง ชาวบ้านเผย “พระอลงกต” เป็นคนใจดี กลับมาแจกเงินทุกปี พอเห็นข่าวรู้สึกตกใจและสงสาร เพราะเที่เคยสัมผัสเป็นคนใจดี ทีมข่าวตรวจสอบข้อมูลเพื่อตามหาบ้านของพระอลงกต รู้ว่าเป็นคน จ.ขอนแก่น ตั้งแต่กำเนิด สืบค้นที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน พบระบุว่าบ้านเกิดของหลวงพ่ออลงกต อยู่ใน อ.เมือง จ.ขอนแก่น ตรวจสอบพบว่าเป็นบ้านพักข้าราชการของกรมทางหลวง และไปพบบ้านของพ่อเฉย พ่อของพระอลงกต ซึ่งทุกคนไม่ได้เรียกว่าพระอลงกต แต่จะคุ้นเคยเรียกกันว่าพระจอร์จ และนิสัยของพระพระอลงกตมีแต่เรื่องราวดีๆ มอบให้กับสังคม พระอลงกตจะแวะเวียนมาบอกบุญเสมอปีละครั้ง ในช่วงวันเกิดที่โรงเรียนแก่นนคร ที่พระอลงกตเคยศึกษา อย่างช่วงที่พ่อเฉย พ่อของพระอลงกต ยังมีชีวิต พ่อเฉยจะทำว่าวให้เด็กๆ ละแวกนี้เล่น เป็นที่รักของคนในชุมชนเช่นกัน พี่สาวของพระอลงกต ขายข้าวแกงอยู่ตรงข้ามบ้านพักข้าราชการ ซึ่งบ้านของครอบครัวพระอลงกต จะอยู่ติดกับรั้วของสำนักงานทางหลวง แต่พอครอบครัวพระอลงกตเกษียณก็พากันย้ายออกไปอยู่ที่อื่น บ้านพักปัจจุบันนี้ไม่มีใครอยู่ และบ้านส่วนตัวก็ไม่มีใครอยู่อาศัยเช่นกัน พระอลงกตออกจากบ้านไปช่วงปี 2527 แต่พระอลงกตจะกลับมาที่บ้านส่วนตัวทุกปี หลังจากเป็นเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ เพื่อมาทำบุญวันเกิดโรงเรียนแก่นนคร มอบทุนการศึกษาให้กับเด็กๆ เสมอ […]

ตำรวจแจ้งข้อหาเมาแล้วขับ “มารี เบรินเนอร์”

กทม. 24 ส.ค.-ตำรวจแจ้งข้อหาเมาแล้วขับ “มารี เบรินเนอร์” ขับรถหรูเจอด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์แล้วไม่ยอมเป่า ส่วนเพื่อนชายที่มาด้วยโวยวายและขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ คาดน่าจะเกิดจากมึนเมา กรณีนักแสดงสาว “มารี เบรินเนอร์” ขับรถหรูเจอด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์แล้วไม่ยอมเป่าวัด ส่วนเพื่อนชายที่มาด้วยได้ลงจากรถมาโวยวายขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ ทาง พ.ต.อ.เจษฎา ยางนอก ผกก.สน.วังทองหลาง เผยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ตำรวจ สน.วังทองหลาง ได้ตั้งด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์ ที่ถนนประดิษฐ์มนูธรรม ช่วงเวลาประมาณ 02.00-04.00 น. ได้ขอตรวจรถยนต์ยี่ห้อปอร์เช่ สีเขียว ปรากฏว่ามี น.ส.มารี เบรินเนอร์ นักแสดงสาว เป็นผู้ขับขี่ และมีนายอัศม์กรณ์ โดยสารมาด้วย ซึ่งนั่งข้างหน้า และมีผู้หญิงมาด้วยอีก 2 คน เมื่อขอตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ นายอัศม์กรณ์ กลับโวยวาย ขัดขวางไม่ให้ตรวจ และมีการด่าทอด้วยคำที่หยาบคาย แต่ไม่ได้มีการทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ ในที่สุดตำรวจได้คุมตัวทั้งหมดมายัง สน.วังทองหลาง พร้อมกับแจ้งข้อกล่าวหาเมาแล้วขับ กับนางสาวมารี เนื่องจากนางสาวมารี ไม่ยินยอมเป่าเครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์ จากนั้นนางสาวมารี ได้ยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสดจำนวน 20,000 บาท […]

“คาจิกิ” ทวีกำลังเป็นพายุไต้ฝุ่น ส่งผลให้ไทยฝนตกเพิ่มทุกภาค

กรุงเทพฯ 24 ส.ค.- กรมอุตุฯ ออกประกาศระบุ ช่วงเช้าที่ผ่านมา พายุโซนร้อน “คาจิกิ” ในทะเลจีนใต้ ได้ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น เตือน 57 จังหวัด เฝ้าระวังฝนตกหนักถึงหนักมาก ตั้งแต่วันที่ 24-27 ส.ค.68 นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า พายุโซนร้อน “คาจิกิ” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น “กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ค่อนไปทางเหนือเล็กน้อย และมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนเข้าสู่อ่าวตังเกี๋ย ก่อนจะขึ้นฝั่งตอนบนของ ประเทศเวียดนาม และ สปป.ลาว ในช่วงวันที่ 25–26 สิงหาคมนี้ ขอบด้านหน้าของพายุ เริ่มส่งผลกระทบต่อไทยตั้งแต่วันนี้ โดยเฉพาะพื้นที่ด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีเมฆฝนเพิ่มขึ้น จากนั้นจะมีฝนตก ก่อนขยายไปยังภาคกลาง รวมทั้ง กรุงเทพฯ และปริมณฑล ภาคตะวันออก และ ภาคใต้ ในช่วงวันถัดไป กรมอุตุนิยมวิทยาเตือนว่า อิทธิพลของพายุ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่มีกำลังแรง จะทำให้มีฝนตกเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะ […]

“จิรายุ” ย้ำคลิป “นั่งลงลูก” ในห้องพิจารณาคดี เป็นคลิปตกแต่งเสียง

ทำเนียบ 24 ส.ค.-“จิรายุ” ย้ำคลิป “นั่งลงลูก” ในห้องพิจารณาคดีศาล รธน. ที่ “ชวน” ได้ยินเป็นคลิปตกแต่งเสียง ฟังกี่รอบก็ชัดว่า “นั่งลงครับ” เตือนประชาชนบิดเบือนข้อมูลใส่ร้าย อย่าโพสต์ ไม่ชัวร์ อย่าแชร์ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี อดีตประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการฯ กล่าวถึง กรณีมีการบิดเบือนคำพูดในวันสืบพยานของนายกรัฐมนตรี โดยหลังจากนายกรัฐมนตรีกล่าวคำสาบานตนแล้ว ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญท่านหนึ่งได้กล่าวคำว่า “นั่งลงครับ” แต่กลับมีกระบวนการนำไปบิดเบือนและตกแต่งเสียง โดยกล่าวหาว่า ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญพูดว่า “นั่งลงลูก“ ซึ่งเป็นการบิดเบือน ขณะเดียวกัน ยังพบว่าอดีตประธานรัฐสภา นายชวน หลีกภัย ได้สัมภาษณ์ให้ความเห็นในกรณีดังกล่าวหลายประเด็น ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่า นายชวน หลีกภัย อาจจะยังไม่ได้ฟังคลิปเต็มๆ จริงๆ ในวันดังกล่าว หรือไม่ก็อาจจะได้ฟังจากคลิปที่ถูกบิดเบือนและตกแต่ง ซึ่งความเป็นจริงการบันทึกเสียงทั้งหมดหรือการกล่าวบนบัลลังก์ คนที่นั่งอยู่ในห้องพิจารณาก็ได้ยินตรงกันว่า “นั่งลงครับ” ทั้งสิ้น นายจิรายุ กล่าว ตนในฐานะเคยดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาลองค์กรอิสระ องค์กรอัยการฯ ติดตามการทำงานกระบวนการยุติธรรมมาโดยตลอด ไม่มีเหตุผลใดๆ ในกระบวนการยุติธรรมที่จะใช้คำพูดในลักษณะเช่นนี้ […]

ข่าวแนะนำ

แจงยิบข้อดี MOU43 กรอบแนวทางสำรวจปักปันเขตแดน

กต. 25 ส.ค.- อธิบดีกรมสนธิสัญญาฯ แจงละเอียดยิบข้อดี MOU43 ใช้เป็นกรอบแนวทางการสำรวจปักปันเขตแดน เพื่อทำแผนที่ใหม่ร่วมกันตามหลักสากล เตือนยกเลิกหนีแผนที่ 1 : 200,000 ไม่พ้น และจะวนมาทำ MOU กันใหม่ นายเบญจมินทร์ สุกาญจนัจที อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ ร่วมกับนายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ อธิบายถึงที่มาของบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบกระหว่างไทยกับกัมพูชา หรือ MOU 43 ว่าเป็นเอกสารพื้นฐานของกรอบการเจรจา ระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลกัมพูชา ว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบกปี 2543 หรือ MOU2543 หรือ MOU43 อธิบดีกรมสนธิสัญญาฯ มั่นใจว่า ประเทศไทยได้เปรียบจาก MOU43 เนื่องจาก MOU43 เป็นการกำหนดกรอบความตกลง และกลไกการปักปันเขตแดน เพื่อร่วมกันสำรวจ-จัดทำหลักเขตแดน เพื่อให้ได้แผนที่ที่นำมาใช้ได้จริง โดยใช้หนังสือสัญญาสยาม-ฝรั่งเศส ค.ศ.1904 และ 1907 เป็นเอกสารประกอบ เนื่องจาก หนังสือสัญญาดังกล่าวได้พูดถึงคณะกรรมการปักปันเขตแดน เพื่อให้ไปทำแผนที่ตามหลักสันปันน้ำ แม่น้ำ และแนวเส้นตรง […]

“ภูมิธรรม” รับหนักใจ “กัมพูชา” ตกลงกันแล้วไปพูดอีกอย่าง

ทำเนียบ 25 ส.ค.- “ภูมิธรรม” บอก ประชุม RBC กองทัพภาค 2 เป็นเรื่องเขตแดน ยอมรับหนักใจ “กัมพูชา” ตกลงกันแล้วไปพูดอีกอย่าง ย้ำไม่ยอมให้ใครรุกล้ำอธิปไตย มองเรื่องเขตแดน ไม่เคยจบง่ายบางประเทศใช้เวลาเป็น 100 ปี อย่าไปกังวลใจ ถ้ายังยืนหยัดผลประโยชน์ชาติ พร้อมยกนาฬิกาข้อมือ ก่อนแซวตัวเอง “วันนี้วันที่เท่าไหร่ ดูเวลาทุกวัน จะพ้นตำแหน่งแล้ว” นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค RBC ไทย-กัมพูชาในส่วนของกองทัพภาคที่2ในวันที่ (27 ส.ค.) จะมีการเสนอเงื่อนไขเหมือนกับการประชุม RBC ของกองทัพภาคที่ 1 หรือแตกต่างกันหรือไม่ว่า ก็ไม่มี เป็นการต่อเนื่อง จากการประชุม RBC ครั้งที่แล้ว แต่อาจจะแตกต่างกันบ้างของแต่ละสภาพพื้นที่และสภาพปัญหา และพื้นฐานจะเป็นการประชุมต่อเนื่องจากครั้งก่อน เป็นเรื่องระดับแม่ทัพไปคุยกัน ส่วนใหญ่เป็นเรื่องเส้นแดน ทำอย่างไรที่จะทำให้ได้ข้อสรุปที่ตรงกันมากที่สุด ส่วนแนวโน้มน่าจะมีสัญญาณที่ดีใช่หรือไม่ เพราะการประชุมครั้งก่อนฝ่ายกัมพูชารับเงื่อนไข แต่การประชุมที่กองทัพภาคที่2 มีเรื่องรั้วลวดหนาม ที่แตกต่างกับกองทัพภาคที่ 1 […]

ชื่นชมผ้าไทยลายกริพเพน

25 ส.ค. – ผ้าไทยลาย “กริพเพน” ออกแบบโดยได้แรงบันดาลใจจากเครื่องบินขับไล่กริพเพน ของกองทัพอากาศไทย ที่ไม่เพียงสะท้อนถึงความงดงามทางวัฒนธรรม แต่ยังประกาศถึงความกล้าหาญและหัวใจนักสู้ของชนชาติไทย เพจกรุงเก่าของชาวสยาม และคุณ Kamon Wan เผยแพร่ภาพผ้าไทยลายเครื่องบินรบกริพเพน โดยกองทัพอากาศ รายงานว่าแนวคิดนี้เกิดขึ้นด้วยแรงบันดาลใจจากเครื่องบินกริพเพน ที่มาร่วมพิทักษ์แผ่นดินไทย ชายแดนไทย-กัมพูชา และถูกถ่ายทอดลงบนผ้าไหมสุรินทร์อันเลื่องชื่อ ผสาน “ความแข็งแกร่ง” ของนักรบกับ “ความงาม” แห่งภูมิปัญญาไทยได้อย่างทรงพลัง ภายใต้คอนเซ็ปต์ “แม่ย่านางกริพเพน” ศิลป์และศรัทธาได้รวมเป็นหนึ่ง ที่ไม่เพียงสะท้อนถึงความงดงามทางวัฒนธรรม แต่ยังประกาศถึงความกล้าหาญและหัวใจนักสู้ของชนชาติไทย นี่คือผลงานที่ย้ำเตือนว่าไทยมิได้มีเพียงกำลังปกป้องผืนแผ่นดิน แต่ยังรักษารากเหง้าวัฒนธรรมอันงดงามไว้คู่กัน เพื่อบอกชัดแก่โลกว่าเราคือประเทศไทยผู้สืบสานวัฒนธรรม ที่จะไม่มีวันให้ใครมาย่ำยี ผู้สื่อข่าวรายงานจากกรุงสตอกโฮล์ม สวีเดน ว่าผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารสวีเดนประจำประเทศไทย และเจ้าหน้าที่ของ SAAB สวีเดน ได้เห็นแล้วปลื้มใจมากที่คนไทยมีความรู้สึกที่ดีกับเครื่องบินกริพเพน และนับเป็นแนวคิดที่สร้างสรรค์ กองทัพอากาศมีกำหนดที่จะลงนามในสัญญาจัดซื้อเครื่องบิน Gripen C/D กับ FMV และ SAAB สวีเดน ในวันนี้ (25 สิงหาคม) นำโดย พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล […]

“คาจิกิ” ขึ้นฝั่งเวียดนามบ่ายนี้ ไทยเตรียมรับฝนหนัก​ 25-27​ ส.ค.

กรุงเทพฯ​ 25 ส.ค.​ – กรมอุตุฯ อัปเดตเส้นทางพายุไต้ฝุ่น “คาจิกิ” คาดขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน ช่วงบ่ายถึงค่ำ วันนี้​ เตือนทั่วไทยฝนฟ้าคะนองเพิ่ม ขณะที่ภาคอีสาน​ตอน​บน​และ​ภาคเหนือ​ เตรียมรับมือฝนถล่ม ช่วง 25​ -​ 27​ ส.ค.​นี้ นายสมควร ต้นจาน ผู้​อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า ศูนย์กลางพายุไต้ฝุ่น​คาจิกิอยู่ห่างจากเมืองวิญ ประเทศเวียดนาม ประมาณ 150 กม. เคลื่อนตัวทางตะวันตกค่อนไปทางเหนือเล็กน้อย คาดว่า​ขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบนช่วง​บ่าย​ถึง​ค่ำ​วันนี้​ และเข้าสู่ สปป ลาว ตามลำดับ เมื่อ​ขึ้นฝั่ง​พายุ​จะ​เริ่ม​อ่อนกำลัง​ลง​ โดยเมื่อเข้า​สู่ประเทศ​ไท​ยจะเป็น​หย่อมความ​กด​อากาศ​ต่ำ​ แต่ไม่รุนแรง​เท่าพายุ​วิภา ทั้งนี้​ ช่วงวันที่ 25–27 ส.ค. 68 ประเทศ​ไท​ยจะมีฝนตก​เพิ่ม​ เริ่มจาก​ขอบของ​พายุ​ ประกอบกับกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดเข้าหาศูนย์กลางของพายุ ส่งผลให้หลายพื้นที่มีฝนตก​หนัก​ถึง​หนัก​มาก​ โดยเฉพาะ​ภาค​ตะวันออก​เฉียง​เหนือ​ตอน​บน​และ​ภาคเหนือ กรม​อุตุนิยม​วิทยา​ขอให้​ประชาชนติดตามประกาศแจ้ง​เตือน​ลักษณะ​อากาศ​อย่างใกล้ชิด.​ 512​ – สำนักข่าว​ไทย​