กรุงเทพฯ 12 พ.ค. – พรรคภูมิใจไทยเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ครั้งสุดท้ายที่ลาน SHOW DC พระราม 9 บรรยากาศคึกคัก ท่ามกลางการตรึงกำลังรักษาความเรียบร้อย หลังนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ประกาศจะมาร่วมสังเกตการณ์ ขณะ “อนุทิน” หัวหน้าพรรค มั่นใจจะได้จำนวน ส.ส. มากขึ้นกว่าเดิม
การปราศัยใหญ่ของพรรคภูมิใจไทย เริ่มต้นขึ้นแล้วเมื่อเวลา 17.00 น.ที่ผ่านมา ท่ามกลางผู้สนับสนุนกว่า 5,000 คน ที่พรรคได้จัดเก้าอี้รองรับไว้เต็มพื้นที่ลานหน้าโชว์ดีซี
เริ่มเปิดเวทีปราศรัยด้วยการแนะนำผู้สมัครของพรรค จาก 33 เขต ของกรุงเทพมหานคร ก่อนจะให้ผู้สมัครแต่ละเขตขึ้นปราศรัยถึงนโยบายต่างๆ ของพรรคและผลงานของผู้สมัครที่ผ่านมา ว่าในแต่ละเขตแต่ละคนได้ดำเนินการอะไรมาแล้วบ้าง และสิ่งที่จะดำเนินการต่อไป เพื่อตอกเสาเข็มและปักธงในพื้นที่ กทม. สำหรับพรรคภูมิใจไทย
การปราศรัยในครั้งนี้จะเป็นการตอบโจทย์ว่าเพราะเหตุใดนายอนุทิน ชาญวีรกูล จะต้องเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งนายอนุทินได้ให้สัมภาษณ์ว่า เน้นการหาเสียงโดยไม่ได้สนใจพรรคการเมืองที่เป็นคู่แข่ง และยังไม่มีจับมือกับพรรคใด ขอให้รอหลังการเลือกตั้ง ทั้งนี้ มั่นใจว่าจะได้กลับมาเป็นรัฐบาล เพราะจากที่ผ่านมาพรรคเป็นพรรคร่วมรัฐบาลที่ไม่สร้างปัญหา พรรคภูมิใจไทยเป็นพรรคที่อยู่เหนือความขัดแย้งที่จะทำงานให้กับประชาชนด้วยผลงานและนโยบายต่างๆ ให้สำเร็จทุกเรื่อง และเรายังมีประสบการณ์ ความสัมพันธ์ที่ดีทั้งหน่วยงานราชการ ข้าราชการประจำ และการทำงาน รวมถึงความสัมพันธ์ในพรรคร่วมรัฐบาลเป็นไปด้วยดี เรารักษากติกา เคารพกฎหมาย ไม่ขัดแย้งกับใคร ทั้งนี้ มั่นใจว่าพรรคจะมี ส.ส. มากกว่าเดิม
อย่างไรก็ตาม ในเรื่องการดูแลความปลอดภัย หลังนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ จะมาสังเกตการณ์การปราศัย นายอนุทิน กล่าวว่า ยินดีต้อนรับ แต่ขอให้มาอย่างอารยะ อย่าทำตัวเป็นกุ๊ย
การประกาศจะมาของนายชูวิทย์ ทำให้ต้องคุมเข้มพื้นที่ปราศรัย โดย พ.ต.อ.จรินทร์ รำลึก ผู้กำกับการ สน.มักกะสัน กล่าวว่า ทางตำรวจได้รับการประสานงานจากพรรคภูมิใจไทยว่าจะมีการจัดเวทีปราศรัยใหญ่ ซึ่งจะมีกลุ่มคนจำนวนมากมาร่วมด้วยประมาณ 5,000 คน ทางผู้บัญชาการตำรวจนครบาล 1 ได้สั่งการให้ตำรวจควบคุมฝูงชน 170 นาย สนับสนุนการปฏิบัติของ สน.มักกะสัน อีก 130 นาย เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนที่มาร่วมฟังปราศรัย และดูแลความปลอดภัยให้กับผู้สมัคร ส.ส. ที่มาในวันนี้
พ.ต.อ.จรินทร์ ย้ำว่าหน้าที่ของเราคือการให้ผู้สมัครปราศรัยดำเนินไปด้วยความสงบที่สุด ส่วนการแสดงความคิดเห็นเป็นสิทธิของแต่ละบุคคล ตำรวจมีหน้าที่ให้ทุกคนเกิดความปลอดภัย เดินทางกลับไปโดยไม่มีเรื่องใดๆ เกิดขึ้น.-สำนักข่าวไทย