กรุงเทพฯ 10 พ.ค. – “บิ๊กตู่” บุกช่อง 9 เปิดใจ “เหตุใดต้องไปต่อ?” พูดคุยในสตูดิโอครั้งแรกในรายการฟังหูไว้หู เผยเกรงบ้านเมืองจะมีปัญหา เป็นห่วงลูกหลาน
เมื่อวานนี้ (9 พ.ค.) พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และแคนดิเดตนายกฯ พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้มาเปิดใจกับรายการฟังหูไว้หู ถึงสำนักข่าวไทย ซึ่งเป็นที่แรกที่จะมาพูดคุยในสตูดิโอ
พลเอกประยุทธ์ ได้เปิดใจว่า ในฐานะนายกรัฐมนตรี กับ แคนดิเดตนายกฯ ไม่ได้ปรับเปลี่ยนตนเองมากนัก ยังมุ่งเน้นการทำงานเหมือนเดิม พร้อมจะลงพื้นที่ทุกภาค เพื่อไปพูดคุยพบปะประชาชนให้มากขึ้น ส่วนตลอด 8 ปีที่ผ่านมา ยืนยันว่าทำงานอย่างเต็มที่แล้ว ส่วนความเป็นห่วงตอนนี้เป็นเรื่องของความมั่นคงปลอดภัย ความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองมากกว่า เพราะถ้าเกิดปัญหาอะไรขึ้น จะเป็นผลถึงต่างประเทศด้วย ในเชิงการลงทุน แต่คาดว่าคนไทย น่าจะพร้อมลงมือกันอยู่แล้ว
ส่วนการตัดสินใจเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง พลเอกประยุทธ์ เปิดเผยว่า การตัดสินใจในครั้งนี้ เพราะเกรงว่าบ้านเมืองจะมีปัญหา เท่าที่สังเกตการณ์ เริ่มมีหลายอย่างที่เกิดขึ้น เช่น การประท้วง จึงเป็นห่วงลูกหลานและบ้านเมือง เลยตัดสินใจลงเล่นการเมืองอย่างเต็มตัว ประกอบกับมีหลายคน อยากให้ทำงานอยู่ตรงจุดนี้ต่อไป เพราะที่ผ่านมา มีความสามารถอย่างเต็มที่ และยังมีผลงานที่ค้างอยู่ซึ่งต้องทำต่อ
ส่วนกระแสของกรณีพรรคอื่น ออกมาเปิด วลีเด็ด” มีเราไม่มีลุง “เรื่องนี้ พลเอกประยุทธ์ บอกว่า ก็เป็นเรื่องของเขา ไม่เกี่ยวกับเรา วันนี้ ผมก็อยู่ตรงจุดนี้ อยู่ในสนามการเลือกตั้ง ผมจะไม่พูดอะไรที่ไม่เกี่ยวข้อง ส่วนตัวคิดว่า เขาไม่ชอบผมหรือว่าอาจจะกลัวผมก็เป็นได้
ส่วนกรณีที่ นายทักษิณ ชินวัตร ออกมาโพสต์ข้อความว่า จะเดินทางกลับบ้านมาเลี้ยงหลานภายในเดือนกรกฎาคมนี้ พลเอกประยุทธ์ ตอบกลับว่า เป็นเรื่องของเขา เพราะช่วงเวลานั้น จะเป็นนายกฯ ที่รักษาการอยู่แล้ว ส่วนตัวไม่ได้เป็นศัตรูกับเขา ส่วนปัญหาของเขา ต้องแก้ปัญหาด้วยตัวเอง ถ้าตามหลักแล้ว นายทักษิณ สามารถเดินทางกลับมาได้ตั้งนานแล้ว แต่ต้องยอมรับกฎ-กติกา ซึ่งรวมถึงคุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีด้วย เพราะทุกคนมีสิทธิกลับบ้านหมด ผมไม่ได้มีหน้าที่ไปยุ่งเกี่ยวกับกระทรวงยุติธรรม แล้วยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรม
ก่อนทิ้งท้ายรายการ พิธีการได้สอบถาม พลเอกประยุทธ์ ว่า จะต้องระวังระมัดตัวอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ พลเอกประยุทธ์ ตอบว่า ผมไม่เคยไปเรียกเงินใครสักบาท และไม่เคยจะไปคอร์รัปชันใคร จึงไม่ต้องระมัดระวังตัวอะไรเป็นพิเศษ .-สำนักข่าวไทย