fbpx

ดันนโยบายปฏิรูประบบสาธารณสุขแบบครบวงจร

กทม. 6 พ.ค.-“พล.อ.ประวิตร” ผลักดันนโยบายปฏิรูประบบสาธารณสุขแบบครบวงจร ทันสมัย-ทั่วถึง-เท่าเทียม ตั้งแต่ต้นถึงปลายทาง ลดภาระค่าใช้จ่ายในระยะยาว ดันประเทศไทยก้าวสู่เมืองหลวงแห่งความมั่นคงด้านสุขภาพ

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ประธานยุทธศาสตร์การเมือง พรรคพลังประชารัฐ เปิดนโยบายพรรคหลักของพรรคพลังประชารัฐ เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยก้าวเข้าสู่การสร้าง Medicopois เมืองหลวงแห่งความมั่นคงด้านสุขภาพ ด้วยการปฏิรูปบริการสาธารณสุขแบบครบวงจร ตามนโนบายของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่ให้ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง ส่งเสริมสุขภาพและป้องกันก่อนป่วย ไม่ให้เกิดโรคร้ายแรง ด้วยการดูแลสุขภาพในระดับปฐมภูมิ ลดค่าใช้จ่ายของพี่น้องประชาชนและลดค่าใช้จ่ายของรัฐบาลในระยะยาว หากเจ็บป่วยก็สามารถเข้าถึงการรักษาได้อย่างรวดเร็วด้วยเทคโนโลยีทันสมัยใกล้บ้าน


สำหรับนโยบายการใช้เทคโนโลยีดิจิตอลที่ทันสมัยจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการบริการทางสุขภาพ เช่น Telemedicine พาหมอไปหา เอายาไปส่ง และ Health Link ระบบคลังข้อมูลผู้ป่วยป่วยที่ไหน สามารถรักษาตัวที่นั่น ในกรณีฉุกเฉิน เร่งด่วน เพื่อการเข้าถึงประวัติการรักษาของคนไข้ได้ไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง หรือสั่งตรวจวินิจฉัยซ้ำ

ระบบข้อมูลนี้ ยังเชื่อมโยงถึงระบบฐานข้อมูลเพื่อการจัดการทรัพยากรทางสาธารณสุข เช่น การกระจายยาและเวชภัณฑ์ รวมถึงการเบิกจ่ายของกองทุนต่างๆ ทำให้ลดภาระงานของบุคลากรในการลงข้อมูลซ้ำซ้อน ทำให้มีเวลาในการดูแลผู้ป่วยมากขึ้น


รวมไปถึงการยกระดับมาตรฐานของ รพ.สต. ให้มีคุณภาพเทียบเท่าโรงพยาบาลขนาดใหญ่ หากเจ็บป่วย เข้ารับการวินิจฉัยและรักษาได้ที่ รพ.สต. ใกลับ้านทุกแห่ง มีเทคโนโลยีช่วยเชื่อมต่อการรักษา จากรพ.สต. ถึงโรงพยาบาลใหญ่ ให้มีบทบาทมากขึ้น ทั้งการคัดกรองโรคและส่งเสริมสุขภาพเชิงรุก พร้อมจัดสรรงบประมาณลงสู่ชุมชนเพื่อส่งเสริมสุขภาพอย่างครบวงจร

พร้อมสนับสนุนทุนการศึกษาสำหรับบุตรหลาน อสม. หรือเด็กในชุมชน ให้ได้เรียนแพทย์ เรียนพยาบาล เพื่อกลับมาดูแลพ่อแม่พี่น้องในบ้านเกิดตามมาตรการเชิงรุกป้องกันก่อนป่วย และขยายหมอชุมชน หรือ อสม. ให้เพียงพอกับประชาชนในพื้นที่

สอดคล้องกับการผลิตและฝึกอบรมอาสาสมัครบริบาลท้องถิ่น เพื่อดูแลผู้สูงอายุติดเตียงที่มีอาการ หนัก 200,000 คน ทั่วประเทศ และมีแนวโน้มจะเพิ่มจำนวนมากขึ้นอย่างรวดเร็ว เร่งผลิตและฝึกอบรมอาสาสมัครบริบาลท้องถิ่นจำนวน 100,000 คน เพื่อดูแลผู้สูงอายุติดเตียงและติดบ้าน จำนวน 500,000 – 1,000,000 คน มีการปรับค่าตอบแทน รวมทั้งสนับสนุนอุปกรณ์ทางการแพทย์ เช่น เครื่องดูดเสมหะ ที่นอนลม เครื่องผลิตออกซิเจน อุปกรณ์ทำแผลสายสวน.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบคาชุดแม่ชี หลอกลงทุนมูลค่าเสียหายกว่า 1,300 ล้านบาท

โกงมโหฬาร! สืบนครบาลรวบคาชุดแม่ชี กรรมการบริษัท หลอกลงทุนบริหารเช่าพื้นที่ มีเหยื่อกว่า 3,000 ราย มูลค่าเสียหายกว่า 1,300 ล้านบาท

เตือน​คนรุ่นใหม่ เสี่ยงหนี้เสียพุ่งสูง 6​ แสนล้าน

ศูนย์ข้อมูลเครดิต​บูโร​ เตือน​คนรุ่นใหม่ วัยเริ่มทำงาน Gen Y​ หวั่นเสี่ยงหนี้เสียพุ่งสูง 6​ แสนล้านบาท จับตากลุ่มผ่อนรถอาการหนัก

อินเดียพบสาเหตุและคนรับผิดชอบเหตุรถไฟชนกัน 3 ขบวนแล้ว

นิวเดลี 4 มิ.ย.- รัฐมนตรีกระทรวงการรถไฟของอินเดียแจ้งวันนี้ว่า สามารถระบุสาเหตุและผู้รับผิดชอบเหตุรถไฟชนกันครั้งร้ายแรงที่สุดในรอบ 2 ทศวรรษได้แล้ว นายอัชวีนี เวชนาว รัฐมนตรีการรถไฟอินเดียเผยกับสำนักข่าวเอเอ็นไอ (ANI) ของอินเดียว่า ทางการสามารถระบุสาเหตุของอุบัติเหตุและบุคคลที่ต้องรับผิดชอบได้แล้ว เป็นเรื่องของระบบสัญญาณอิเล็กทรอนิกส์ อุบัติเหตุน่าจะเกิดขึ้นเพราะมีการปรับเปลี่ยนในระหว่างที่มีการใช้ระบบบังคับสัมพันธ์แบบอิเล็กทรอนิกส์ (electronic interlocking) ซึ่งเป็นระบบซับซ้อนที่ออกแบบมาบริหารจัดการการแล่นบนรางเพื่อป้องกันรถไฟชนกัน เขายังไม่ขอให้รายละเอียดในเวลานี้ จนกว่าจะมีรายงานสรุปผลการสอบสวน ซึ่งจะทำให้ทราบว่าใครทำการปรับเปลี่ยนในขณะที่มีการใช้ระบบ และทำได้อย่างไร อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นใกล้เมืองบาลาซอร์ ในรัฐโอดิชา หรือเดิมคือโอริสสา ทางตะวันออกของอินเดียเมื่อวันศุกร์ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 288 คน และคาดว่าจะเพิ่มขึ้น เพราะมีผู้กำลังรับการรักษาตัวในโรงพยาบาลมากถึง 900 คน หลายคนอาการสาหัส ขณะนี้ยังคงมีความสับสนเรื่องลำดับเหตุการณ์ แต่รายงานหลายแห่งอ้างเจ้าหน้าที่การรถไฟว่า รถไฟโดยสารสายด่วนโคโรแมนเดล เอ็กซ์เพรสส์ (Coromandal Express) แล่นจากเมืองโกลกาตา รัฐเบงกอล มุ่งใต้ลงไปยังเมืองเจนไน รัฐทมิฬนาฑู ได้รับสัญญาณผิดพลาดให้แล่นไปยังรางด้านข้าง และชนเข้ากับรถไฟขนส่งสินค้าที่จอดอยู่ ส่งผลให้รถไฟโดยสารสายด่วนอีกขบวนที่แล่นจากเมืองเบงกาลูรู รัฐกรณาฏกะมุ่งเหนือขึ้นมายังเมืองโกลกาตา ชนซากขบวนที่ขวางรางรถไฟอยู่ เป็นเหตุให้ตกรางเช่นเดียวกัน.-สำนักข่าวไทย

สุดจะทน เมียแค้นผัวกระทืบกระจกรถแตก ไม่ขอยุ่งเกี่ยวอีกต่อไป

เมียแค้นผัวที่กระโดดขึ้นรถแล้วกระทืบกระจกหน้ารถจนแตก เมียจึงหนีหายไป ขณะผัวคิดว่าเมียกระโดดสระน้ำตาย ร้อนถึงกู้ภัยมาช่วยงมหานาน 2 ชั่วโมง สุดท้ายปรากฏว่าเมียกลับไปบ้าน และประกาศไม่ขอยุ่งเกี่ยวกันอีก

ข่าวแนะนำ

บุคลากรลาออกจากระบบราชการเป็นเรื่องจริง

ปธ.UHOSNET รับสถานการณ์บุคลากรลาออกจากระบบราชการเป็นเรื่องจริง ไม่ใช่แค่วิชาชีพแพทย์ แต่รวมถึงเภสัชฯ พยาบาล ชี้มาจาก 3 ปัจจัย ภาระงานหนัก คนรุ่นใหม่ทัศนคติเปลี่ยน และภาคเอกชนเปิดรับ ทำให้คนแห่ออกจากระบบ อีกทั้งงบในกองทุนหลักประกันสุขภาพไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย ทำให้ รพ.บริหารตัวแดงขาดทุน ส่งผลระบบใน รพ.ไม่ได้รับการพัฒนา

ห่วงเสียงโหวตนายกฯ หลัง กกต.เตรียมสอย ว่าที่ส.ส.กว่า 20 คน

“ชัยธวัช” ห่วงเสียงโหวตเลือกนายกฯ หลัง กกต.เตรียมสอย ว่าที่ส.ส.กว่า 20 คน เชื่อไม่ทำก้าวไกลตกชั้นเป็นอันดับ 2 มั่นใจว่าที่ ส.ส.ชนะการเลือกตั้งมาด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม

แม่ค้าร้องหาคนรับผิดชอบ ลูกบอลตกใส่กระทะน้ำมันลวกหน้าสาหัส

แม่ค้าขายเฟรนช์ฟรายส์ร้องขอความเป็นธรรม หลังลูกฟุตบอลตกใส่กระทะ น้ำมันกระเด็นลวกใบหน้า อาการสาหัส เรียกร้องผู้จัดแข่งฟุตบอลรับผิดชอบเยียวยา

นายกฯ กล่าวยกย่องชาวนา เนื่องในวันข้าวและชาวนาแห่งชาติ

นายกฯ กล่าวเนื่องใน “วันข้าวและชาวนาแห่งชาติ” ประจำปี 2566 ยกย่องชาวนาในฐานะผู้มีคุณูปการสร้างความมั่นคงทางด้านอาหาร หล่อเลี้ยงคนไทยและทั่วโลกตลอดมา