“เศรษฐา” ลั่นพร้อมเป็นนายกฯ คนที่ 30 ผู้นำความเปลี่ยนแปลง

กรุงเทพฯ 5 พ.ค. – “เศรษฐา” ประกาศก้องกลางกรุงเทพฯ ‘พร้อมเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30’ พร้อมเป็นผู้นำแห่งความเปลี่ยนแปลง เตือนต้องอย่าให้ซ้ำรอยปี 2562 พลาดไป 17 ที่นั่ง จนประเทศตกสู่หลุมดำ ต้องชวนกา ‘เพื่อไทย’ ให้แลนด์สไลด์ไปด้วยกัน


วันที่ 5 พฤษภาคม 2566 เวลา 19.00 น. พรรคเพื่อไทย เปิดแคมเปญใหญ่สู้ศึกเลือกตั้ง 2566 ‘เลือกเพื่อไทยให้แลนด์สไลด์ ประเทศเปลี่ยนทันที’ โดยนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ได้กล่าวแสดงความพร้อมเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย คนที่ 30 พร้อมพาประเทศไปสู่ความเปลี่ยนแปลง ทั้งเศรษฐกิจ สังคม สิทธิเสรีภาพ และพาไทยกลับไปยืนบนเวทีโลกอย่างสง่างาม เพื่ออนาคตที่ดีของลูกหลานในวันข้างหน้า

นายเศรษฐา เริ่มต้นกล่าวว่า ในวันนี้ ตนเองรู้สึกเห็นใจคนรุ่นใหม่ และคนกรุงเทพฯ ที่ต้องต่อสู้อย่างปากกัดตีนถีบ เติบโตมาโดยที่ไม่มีโอกาสได้ทำตามความฝัน เพราะมีปัญหารอบตัวเต็มไปหมดทั้งค่าครองชีพที่สูงสวนทางรายได้ที่ลดลง สิ่งแวดล้อมเป็นพิษ ตลอดจนกฎระเบียบและกฎหมายต่างๆ สิ่งเหล่านี้ขัดขวางความฝันของคนรุ่นใหม่ คนกรุงเทพฯ ที่อยากจะเป็น


นายเศรษฐา กล่าวต่อว่า ถ้าตนเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศ สิ่งที่ต้องทำจะต้องทำหลายอย่างเริ่มต้นไปในเวลาเดียวกัน เพราะปัญหาวันนี้รุมเร้าเข้ามาทุกด้าน เริ่มต้นจากเรื่องปากท้อง ค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า ค่าพลังงาน ซึ่งตนเองก็ไม่เข้าใจว่า ค่าไฟแพงขึ้นทุกวัน ทำไมเขาไม่แก้ แต่พอจะเลือกตั้งค่อยคิดจะมาแก้ ยังไม่นับเรื่องค่าแรงขั้นต่ำของแรงงานที่อยู่กับที่ แทบไม่ได้ขยับขึ้น ทั้งที่รายจ่ายและค่าครองชีพ เรื่องน้ำสะอาด อากาศบริสุทธิ์ ซึ่งเราจะผลักดันเรื่อง พ.ร.บ.อากาศสะอาด ให้ทุกคนได้สิทธิพื้นฐานด้านการหายใจ

นอกจากนี้ เรื่องสิทธิเสรีภาพ ตนน้อยใจเมื่อได้ยินนักการเมืองผู้ใหญ่ไล่คนออกนอกประเทศที่เขาอยากมีส่วนร่วม ถ้าเขาไปได้ หมายความว่าเขาเป็นคนมีศักยภาพ และประเทศเรากำลังสูญเสียทรัพยากรสำคัญไป ดังนั้น เราควรให้เสรีภาพ ให้พื้นที่ปลอดภัยในการพูดคุยแสดงความเห็นในกรอบของกฎหมาย และถ้ารัฐบาลไหนบอกว่าลูกหลานชังชาติ รัฐบาลนั้นต่างหากควรออกไป และเรื่องนี้ยังเกี่ยวเนื่องกับการเกณฑ์ทหาร เพราะการเกณฑ์ทหารคือการลิดรอนสิทธิของพี่น้องที่เขาควรได้ไปเป็นครู วิศวกร แพทย์ หรือชาวสวนชาวไร่ ไม่ใช่ต้องมาถูกบังคับ ดังนั้น ควรยกเลิกเกณฑ์ทหาร เปลี่ยนเป็นสมัครใจ เพื่อสร้างทหารมืออาชีพที่มีเกียรติ

ในส่วนของนโยบายการพัฒนากรุงเทพมหานคร นายเศรษฐา กล่าวว่า กรุงเทพฯ เป็นศูนย์กลางความเจริญ เศรษฐกิจ ความหลากหลายทางวัฒนธรรม อัตลักษณ์ รวมถึงเรื่องเสรีภาพและความเท่าเทียม ผู้นำประเทศที่ผ่านมาไม่เคยสนใจไปพูดคุยเจรจาการค้าการลงทุนกับผู้นำหรือนักลงทุนต่างประเทศ เพื่อเปิดตลาดหารายได้ใหม่ให้ประเทศเลย ยกตัวอย่างไนจีเรีย ที่เขากำลังจะเป็นประเทศมหาอำนาจ เพราะมีประชากรมากถึง 300 ล้านคน ในอีก 10 ปีข้างหน้า เราต้องคิดว่าเราจะค้าขายอะไรกับเขา ไม่ใช่มีหน้าที่แค่ไปเชิญมาประชุม กินผัดไทย ถ่ายภาพ แล้วก็กลับ


ประเด็นเรื่องกฎหมายที่ไม่เอื้อต่อการลงทุน ก็เป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องแก้ที่ระบบราชการ เราจะทำราชการให้เป็นรัฐบาลและราชการดิจิทัล มีจุดบริการประชาชน One Stop Service ยกตัวอย่าง ทูตอิสราเอลท่านเล่าว่า มีนักลงทุนสนใจมาสร้างโรงงานด้าน Food Tech ธุรกิจเนื้อที่สะกิดจากวัวและมาเจริญเติบโตในแล็บ ซึ่งเป็นธุรกิจใหม่ที่ตลาดโลกต้องการ เขายื่นเรื่องขออนุญาต อย. จนเขารอไม่ได้ต้องย้ายฐานไปตั้งโรงงานที่สิงคโปร์ นี่คือปัญหาพื้นๆ ที่เจอ ที่เราต้องแก้

นอกจากนี้ ในด้านต่างประเทศ ได้พบทูตมากกว่า 23 ประเทศ เขาต่างบอกว่าอยากมาลงทุนในประเทศไทย แต่เขาคอยดูก่อนว่า ใครจะเป็นรัฐบาล เตรียมจะทำจดหมายเชิญไปเยือนเพื่อพูดคุยแลกเปลี่ยนด้านการค้า ซึ่งคณะพรรคเพื่อไทยหลายท่านก็ได้พูดคุยหารือกันหลายเรื่อง รวมถึงเรื่องประมง ICC ซึ่งเราก็จะเจรจาแก้ไขปัญหาเมื่อเป็นรัฐบาล

ในเรื่องการกระจุกตัวของชุมชนเมือง นายเศรษฐา ให้ความเห็นว่า ความเจริญต้องไม่กระจุกอยู่ แต่ต้องกระจายออกไป เริ่มต้นที่นโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท ที่จะเริ่มต้นกระจายเม็ดเงินสร้างความเจริญให้ท้องถิ่น ไม่ใช่แค่จังหวัดใหญ่ แต่รวมถึงจังหวัดรอง ทั้งด้านเศรษฐกิจและท่องเที่ยว และเมืองควรมีระบบขนส่งสาธารณะในราคาที่เหมาะสม คือนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท เพราะทุกวันนี้ราคาสูง คนชั้นกลางพอจ่าย แต่คนชั้นล่างไม่มีโอกาสได้เข้าถึง ทั้งที่ขนส่งสาธารณะควรเป็นสาธารณะให้ทุกคนได้จริง

ท้ายสุดคือ เรื่องจุดยืนของประเทศไทยในสายตาของนานาชาติ ประเทศไทยเป็นประเทศเล็ก มีเอกราช แต่เราต้องมีผู้นำมีความสามารถออกไปเจรจาไม่ใช่แค่การค้า แต่ไปแสดงจุดยืนบนเวทีโลกได้ ทั้งในเรื่องแนวทางสันติภาพ การไม่รุกรานประเทศอื่น รวมถึงเรื่องสิทธิมนุษยชนด้วย

เราไม่มีเวลาให้ใครก็ตามเข้ามาลองของ ต้องเป็นผู้นำตัวจริงเท่านั้น ถึงเวลาที่เราต้องการผู้นำที่มีประสบการณ์ พรรคที่มีนโยบายเข้าใจปัญหาประชาชน วันนี้ผมมีความพร้อมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย แต่ผมไม่ได้อยากเป็นนายกรัฐมนตรีที่ได้ชื่อว่าเป็นนายกรัฐมนตรี ผมมายืนตรงนี้ มาที่นี้ ผมอยากเป็นนายกรัฐมนตรีที่นำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลง ถ้าผมไม่สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงได้ ผมไม่เป็นดีกว่า ผมจะเป็นนายกรัฐมนตรีที่จะนำมาซึ่งอนาคตที่ดีกว่าของลูกหลานทุกคน ประสบการณ์ 30 ปีในวงการธุรกิจ สร้างบริษัทจนเป็นแนวหน้าของประเทศ ผมมีความพร้อม ผมมาอยู่พรรคเพื่อไทยที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน วันนี้พรรคเพื่อไทยมีทั้งคนที่มีประสบการณ์ มีคนรุ่นใหม่ที่เอาประชาชนเป็นที่ตั้ง 4 ปีที่แล้ว เราพลาดไป 17 ที่นั่ง เป็นจุดเปลี่ยนประเทศที่ทำให้ประเทศตกสู่หลุมดำ จนทำให้ จนแล้ว จนอยู่ จนอีก วันที่ 14 พฤษภาคม พรรคเพื่อไทย พร้อมทุกมิติ เป็นวันคืนอำนาจอธิปไตยให้ประชาชนคนไทยทุกคน นโยบายดีๆ ที่พูดไปจะเป็นไปไม่ได้ ถ้าพรรคเพื่อไทยไม่ได้รับการเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์” นายเศรษฐา กล่าว. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

“วัดพระบาทน้ำพุ” แจงเงินวัด เข้าแล้วออกไปไหน

ลพบุรี 8 ส.ค. – หลังจากมีกระแสข่าวเกี่ยวกับวัดพระบาทน้ำพุ ก็มีเสียงสะท้อนออกมาหลายแง่มุม ขณะที่บางส่วนตั้งคำถามเกี่ยวกับเงินวัดที่มีการเปิดรับบริจาค และการดูแลผู้ป่วยเอชไอวี ว่ายังมีความจำเป็นหรือไม่.-สำนักข่าวไทย

บุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.-กำนัน ทุจริตที่ดินเอื้อนายทุน

สระบุรี 8 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” นำกำลังบุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.สระบุรี-กำนัน ร่วมกันทุจริตออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. 600-700 ไร่ เอื้อประโยชน์นายทุนสร้างบ้านพักหรู พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วย นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายฯ รมว.เกษตรและสหกรณ์ นำกำลังเข้าจับกุมนายวิชยุตม์ อายุ 42 ปี นายช่างสำรวจชำนาญงาน ขณะกำลังนั่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ในห้องทำงาน ที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดสระบุรี และนายสิปปกร อายุ 57 ปี กำนัน ต.หนองย่างเสือ อ.หมวกเหล็ก ตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าหน้าที่รัฐร่วมกันปฏิบัติหรือเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าพนักงานแต่กลับร่วมกันกระทำการรับรองเอกสารอันเป็นเท็จ หลังพบใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบเอื้อประโยชน์ให้กับนายทุนเข้าบุกรุกหรือครอบครองที่ป่าไม้ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้มีการตรวจสอบพบคาเฟ่ รีสอร์ตหรูแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ก่อสร้างบุกรุกผืนป่า จึงเร่งขยายตรวจสอบที่ไปที่มาของการเข้าครอบครองที่ดินดังกล่าว กระทั่งพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐบางส่วนใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้กับนายทุน ด้วยการออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.4-01 เพื่อใช้อ้างสิทธิเข้าครอบครอง […]

ยิงกำนันเล้น

ออกหมายจับ “ไอ้ ด.” มือปืนขาเป๋ ยิงถล่มกำนันเล้น ตร.ไล่ล่ากระชั้นชิด

ตรัง 8 ส.ค. – ออกหมายจับ ไอ้ ด. มือปืนขาเป๋ ยิง M16 ถล่มดับกำนันเล้น จ.ตรัง เผยปมสังหารจากคนเคยช่วยเหลือกลับขัดแย้ง-ขู่ฆ่า ผู้การตรังเผยแกะรอยเบาะแสไล่ล่าเป็นประโยชน์ ติดตามตัวแบบหายใจรดต้นคอ ลั่นต้องจับให้ได้ ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตรังเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 ว่า จากกรณีคนร้ายชายในชุดดำสวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า ใช้อาวุธสงคราม M16 ยิงถล่มนายบัณฑิต รองพล หรือ กำนันเล้น อายุ 57 ปี กำนันตำบลนาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง และประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอห้วยยอด จนเสียชีวิต กระสุนเจาะประตูรถฝั่งคนขับพรุน 15 นัด ปลอกกระสุนขนาด 5.56 ตกกระจายเกลื่อน เหตุเกิดช่วงเวลาประมาณ 01.00 น. วันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา บริเวณหน้าบ้านของนายบัณฑิต พื้นที่หมู่ 9 ต.นาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งเป็นช่วงระหว่างที่นายบัณฑิตเดินทางกลับจากงานเลี้ยงงานแต่งงาน […]

“บุ๋ม ปนัดดา” พร้อมชน “มาลี”

กรุงเทพฯ 8 ส.ค. – ฮือฮาและเป็นที่พูดถึงอย่างมาก สำหรับการแต่งตั้ง “ดร.บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี” นั่งโฆษก ศบ.ทก.จิตอาสา ด้าน “บุ๋ม” เปิดใจ เป็นคนชัดเจน ตรงไปตรงมา พร้อมชน “มาลี” ลั่นไม่กลัวเฟคนิวส์.-สำนักข่าวไทย