กรุงเทพฯ 4 พ.ค. – “ชัยวุฒิ” ลงพื้นที่ตลาดวัดแขก ช่วย “สฤษดิ์” หาเสียง แนะเด็กรุ่นใหม่ให้มองโลกความเป็นจริง ไม่เสพสื่อมีเดียมากจนเกินไป และพิจารณาให้รอบคอบ
วันที่ 4 พ.ค.66 ที่ตลาดวัดแขก ถนนสีลม ซอย 20 นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ลงพื้นที่ขอคะแนนเสียงให้ ดร.สฤษดิ์ ไพรทอง ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขต 1 เบอร์ 11 มีประชาชนขอถ่ายรูปและรับฟังปัญหา พร้อมชูนโยบายลดค่าครองชีพ การฟื้นตัวของการค้าขาย เศรษฐกิจ และปรับโครงสร้างพลังงาน
นายชัยวุฒิ กล่าวว่า วันนี้มาเดินตลาดวัดแขก พบว่าประชาชนสนับสนุนนโยบายพรรค พปชร. ในเรื่องการลดค่าครองชีพ ค่าแก๊สหุงต้ม จะลดให้เหลือ 250 บาท/ถัง ซึ่งเป็นนโยบายที่ประชาชนชอบมาก เนื่องจากพ่อค้าแม่ค้าต้องใช้แก๊สในการประกอบอาหาร และมีเรื่องของค่าไฟฟ้า ที่เป็นปัญหาใหญ่ ทุกคนต้องคอยติดตามเรื่องการปรับลดและปรับโครงสร้างราคาพลังงาน โดยจะทำให้เหลือ 2.50 บาท/หน่วย สำหรับครัวเรือน รวมถึงค่าน้ำมันและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่สำคัญจะต้องมีนโยบายเติมเงินให้กับประชาชน เพราะตอนนี้ประเทศไทยพบกับปัญหาสินค้าราคาแพง ประชาชนก็อยากได้เงินลงทุน เพื่อไปทำทุนเพิ่ม โดยทางพรรค พปชร.จะช่วยเหลือคนที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ คนละ 30,000 บาท เพื่อไปทำทุนประกอบอาชีพ
นายชัยวุฒิ กล่าวต่อว่า ในส่วนนโยบายที่จะทำเร่งด่วนที่สุด คือ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และลดราคาพลังงาน เพื่อลดค่าใช้จ่ายของประชาชน เรื่องนี้ประชาชนได้ประโยชน์ทุกคน ในเรื่องลดค่าใช้จ่าย และจะทำให้สินค้าราคาถูก ลดภาวะเงินเฟ้อ และแก้ไขปัญหาเงินเฟ้อไปในตัว ที่สำคัญความสงบสุขและเสถียรภาพในการทำงานเป็นสิ่งสำคัญที่สุด และขอให้ประชาชนดูเรื่องนี้ด้วย เพราะการเลือกตั้งครั้งนี้ หากประชาชนเลือก “ผู้แทน” แล้วไปทำนโยบายที่ไกลเกินไป ทำไม่ได้และทำให้เกิดความขัดแย้ง ซึ่งจะทำให้บ้านเมืองมีปัญหาได้ นี่คือสิ่งที่พรรค พปชร. เป็นห่วงมาก อยากให้บ้านเมืองสงบสุข พร้อมหาทางออกให้ทุกคนมาร่วมพูดคุยกัน ต้องการแก้ไขปัญหาด้านไหนก็มาพูดคุยกันดีๆ เพื่อหาทางออก ส่วนตัวเชื่อว่า คนไทยที่คิดต่างกัน สามารถหาทางออกด้วยกันได้แน่นอน และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี จะมาช่วยประสานให้ทุกอย่างเดินหน้าต่อไปได้
ส่วนประเด็นไข่ต้ม ที่มีบางพรรคการเมืองนำมาใช้โจมตีในเวทีดีเบต เรื่องนี้มองว่าเป็นการบูลลี่หรือไม่ นายชัยวุฒิ ตอบว่า เราไม่สามารถห้ามคนให้คิดได้ ทุกคนมีความเชื่อที่ต่างกัน แม้ความจริงจะมีหนึ่งเดียว ซึ่งความเชื่อของสิ่งนั้นมองต่างกันได้ เนื่องจากได้ข้อมูลที่ไม่ตรงกัน เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ต้องคุยกัน ที่จริงแล้วเรื่องไข่ต้ม ส่วนตัวอยากสะท้อนให้เห็นว่า ความจริงมีหนึ่งเดียว ทุกคนรับประทานไข่ต้มทุกวัน และไข่ต้มเป็นอาหารทั่วไป ไม่มีชนชั้น แต่ก็มีการไปบูลลี่ ทำให้ไข่ต้มกลายเป็นสิ่งไม่ดี “ผมจึงออกมาเซฟไข่ต้ม” ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องการเมืองอะไร เพียงแต่ต้องการสะท้อนให้เด็กรู้จักความพอเพียง เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ รู้จักชีวิตที่ไม่ต้องหรูหราหรืออยู่สบายทุกวัน อยู่ง่ายกินง่าย ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ควรจะสอนกัน ถูกไหม แต่บางคนไปบูลลี่ ทำให้มันเป็นสิ่งที่เสียหาย ส่วนตัวอยากให้มองที่หลักคิดความเป็นคนไทย และนี่คือคอนเซปต์ของไข่ต้มที่อยากให้ทุกคนเข้าใจ
“เด็กรุ่นใหม่ไม่เข้าใจเรื่องเหล่านี้ ติดค่านิยม วัตถุนิยมมากเกินไป เห็นแก่ได้ เห็นแก่ตัวมากเกินไป แล้วไม่ทำหน้าที่ตัวเองให้ดี เกิดปัญหาอะไร ได้แต่โทษฟ้าโทษดิน โทษสิ่งรอบตัว แต่ไม่เคยนึกถึงว่าตัวเราทำอะไรดีพอหรือยัง นี่คือสิ่งที่อยากให้ทุกคนช่วยกันคิดให้ประเทศชาติดีขึ้น ถ้าทุกคนช่วยกันทำหน้าที่ให้ดี ประเทศเดินหน้าได้แน่นอน เนื่องจากคนไทยมีทรัพยากรที่พร้อมทุกๆ อย่าง พร้อมเป็นประเทศที่ทำให้ทุกคนอยู่อย่างมีความสุขได้แน่นอน” นายชัยวุฒิ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า พรรคการเมืองบางพรรคต้องการยกเลิกมาตรา 112 แต่ปัจจุบันกลับบอกว่า แค่ต้องการแก้ไขมาตรา 112 เรื่องนี้มีความคิดเห็นอย่างไร นายชัยวุฒิ มองว่า เรื่องนี้ไม่ได้มีผลกระทบต่อประชาชน และคนส่วนใหญ่ก็ไม่เห็นด้วยกับเรื่องเหล่านี้ เพียงแต่ไม่ควรนำเรื่องนี้มาเป็นประเด็นทางการเมือง ส่วนในระยะต่อไป การเมืองหลังเลือกตั้ง ต้องมาพูดคุยกันกับเรื่องนี้ว่าจะเอาอย่างไรต่อไป ที่สำคัญการที่มีประเด็นทางการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง จะทำให้รู้สึกอึดอัด ไม่สบายใจของหลายฝ่าย
ทั้งนี้ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า การลงพื้นที่หาเสียง มันก็ต้องโจมตีกันเป็นเรื่องปกติ บางคนทำธุรกิจประสบความสำเร็จ ร่ำรวย ธุรกิจไม่มีปัญหาอะไรเลย แต่เวลาลงพื้นที่หาเสียงไปบอกว่า ธุรกิจไม่ดีๆ รัฐบาลทำล้มเหลว ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา หาเสียงต้องพูดจาดราม่า พูดจริงบ้าง เท็จบ้าง มั่วบ้าง เพื่อเรียกคะแนนนิยม ส่วนตัวเชื่อว่า คนไทยเวลาติดตามสื่อโซเชียลมีเดีย ต้องใช้วิจารณญาณ ประกอบกับดูข้อเท็จจริงด้วย ไม่ใช่ดูแต่สื่อ ต้องดูโลกความเป็นจริงด้วย อย่างที่ตนมาเดินตลาดวัดแขก พ่อค้าแม่ค้าขายของกัน ขายหมดกันแล้วมั้ง ประชาชนมาซื้อของเต็มไปหมด มันไม่ได้มีปัญหาขนาดนั้นหรอก นักท่องเที่ยวก็เข้ามาแล้ว คนรักเมืองไทย อยากมาเที่ยวเมืองไทย มีแต่คนบอกว่ามาเที่ยวเมืองไทยดี สวยงาม สงบสุข และค่าครองชีพไม่ได้แพง เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ตนว่าเราต้องมองความเป็นจริง อย่าไปดูในโซเชียล หรือไปฟังอะไรที่มันเป็นดราม่ามากเกินไป โดยเฉพาะดราม่าการเมือง น่ากลัวกว่าดราม่าในละครชีวิตจริงเสียอีก
อย่างไรก็ตาม อยากฝากความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในกรุงเทพมหานครว่า พรรค พปชร.จะเป็นพรรคหลัก ที่จะมาดูแลชาวกรุงเทพฯ ให้มีชีวิตที่ดีขึ้น มีนโยบายดีๆ หลายอย่างที่จะมาช่วยประชาชน ซึ่งมั่นใจได้ว่า พรรค พปชร.จะดูแลบ้านเมืองนี้ให้สงบสุข ประชาชนอยู่ดีกินดี และสามารถเดินหน้าไปได้อย่างแน่นอน. – สำนักข่าวไทย