“บิ๊กตู่” นำทัพ รทสช.บุกชลบุรี อ้อนอย่าให้ต่อสู้โดดเดี่ยว

ชลบุรี 2 พ.ค. – “พล.อ.ประยุทธ์” พร้อมแกนนำพรรครวมไทยสร้างชาติ บุกชลบุรี ช่วยผู้สมัคร ส.ส.ทั้ง 10 เขตเลือกตั้งหาเสียง อ้อนอย่าให้ต้องต่อสู้อย่างโดดเดี่ยว ลั่นต้องได้ ส.ส.ยกทั้งจังหวัดและทั้งประเทศ ขณะที่ “สุชาติ” เปิดใจทำไมต้องย้ายมาอยู่กับ “ลุงตู่”


เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2566 เวลา 18.00 น. พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์ พรรครวมไทยสร้างชาติ และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมด้วย นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค ดร.ธนกร วังบุญคงชนะ รองหัวหน้าพรรค และคณะผู้บริหารพรรค ลงพื้นที่ จ.ชลบุรี เพื่อช่วยขอคะแนนเสียงให้ผู้สมัคร ส.ส.ชลบุรี ทั้ง 10 เขตเลือกตั้ง ภายใต้การนำของนายสุชาติ ชมกลิ่น รองหัวหน้าพรรค ซึ่งรับผิดชอบภาคกลางและภาคตะวันออก

ทั้งนี้ จุดแรก พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมด้วยแกนนำพรรค เดินตลาดหนองมน ขอเสียงสนับสนุนจากพ่อค้าแม่ค้า และประชาชนที่มาจับจ่ายซื้อของในตลาด โดยได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น


จากนั้นในเวลา 18.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ ได้มาขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ หน้าศาลากลางจังหวัดชลบุรี ท่ามกลางประชาชนพร้อมใจใส่เสื้อเหลืองมาร่วมรับฟังกว่า 20,000 คน

สำหรับผู้สมัคร ส.ส.ชลบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ มี 10 เขต ประกอบด้วย
เขต 1 น.ส.ณภัสนันท์ อรินทคุณวงษ์ เบอร์ 9
เขต 2 นายคงพัชร ไขรัศมี เบอร์ 4
เขต 3 นายสุรพงศ์ นำชัยรุจิพงศ์ เบอร์ 2
เขต 4 นายจิรวุฒิ สิงโตทอง เบอร์ 6
เขต 5 นายรณเทพ อนุวัฒน์ เบอร์ 7
เขต 6 นายสมเจตน์ เกตุวัตถา เบอร์ 9
เขต 7 นายรุ่งเพชร แจ่มเจริญ เบอร์ 1
เขต 8 นายมานพ ประกอบธรรม เบอร์ 2
เขต 9 นายนิรันดร์ วัฒนศาสตร์สาธร เบอร์ 4
เขต 10 นายสมชาติ คุณปลื้ม เบอร์ 1

นายสุชาติ ชมกลิ่น รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ปราศรัยเปิดใจว่า เหตุผลที่มาอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติ เพราะลุงตู่ไม่โกง พอได้ทำงานด้วยก็รู้ว่าลุงตู่เก่ง ช่วงโควิดระบาดได้ตัดสินใจอย่างเด็ดขาดและฉับพลัน การแก้ปัญหาอยู่อันดับต้นๆ ของโลก ถ้าเรามีผู้นำประเทศ เราอยากได้คนที่ตัดสินใจเอง หรือต้องไปถามคุณพ่อที่อยู่ต่างประเทศ เวลาเกิดวิกฤติ ต้องการคนตัดสินใจอย่างเด็ดขาด


ทั้งนี้ พี่น้อง จ.ชลบุรี ต้องจำอย่าลืมว่า ช่วงวิกฤติโควิด ใครช่วยคนชลบุรีที่เดือดร้อน มาตรา 40 คนที่มีรายได้น้อย อาชีพอิสระ มอเตอร์ไซค์รับจ้าง รัฐบาลลุงตู่ไม่เคยทอดทิ้ง ได้รับเงินช่วยเหลือกันทุกคน แล้ววันนี้คนชลบุรีจะทิ้งลุงตู่ลงคอหรือ นโยบายพรรครวมไทยสร้างชาติจับต้องได้ คิดกลั่นกรองตามวินัยการเงินการคลัง ไม่ใช่คิดแต่แจกเงินดิจิทัล คนรวยก็ได้รับแจกไม่ตรงกลุ่มเป้าหมาย ใช้เงินถึง 5 แสนกว่าล้าน ถ้าเงินจำนวนนี้มาหมุนเวียนในประเทศ เขาก็จะบอกว่า เกิดจากการบริหารดี แต่แท้จริงเป็นจีดีพีเทียม ข้าวผัดกะเพราจะจานละ 100 บาทแน่นอน

นายสุชาติ กล่าวว่า เหตุที่ตนตัดสินใจลงปาร์ตี้ลิสต์ เพราะต้องการเป็นผู้แทนของคนชลบุรีทั้งจังหวัด ถ้าลงเขตจะเป็น ส.ส.ในเขตเลือกตั้งเดียว ขอให้เลือกตนไปเป็นคนรับใช้ของคนชลบุรี ไม่ใช่เลือกไปเป็นเจ้านายเหมือนใครบางคน เหตุผลที่ตนไปปราศรัย มีแต่คนชลบุรีใส่เสื้อเหลือง เพราะชลบุรีเป็นเมืองหลวงของคนเสื้อเหลือง ทุกคนเคยลำบากเหมือนปี 52-53 มาแล้ว ท่านต้องจำภาพเหล่านั้นไว้ด้วยว่า อะไรเกิดขึ้นในประเทศไทย

ด้านนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ปราศรัยว่า คนชลบุรีเป็นคนจริงใจ เป็นนักสู้กับความไม่ถูกต้อง สู้กับทุกสิ่งที่ทำให้ประเทศชาติล่มจม ชลบุรีเป็นเมืองหลวงของเสื้อเหลือง เพราะพวกเราเป็นนักสู้เพื่อปกป้องประเทศ และปกป้องแผ่นดินนี้ พรรครวมไทยสร้างชาติได้ตั้งพรรคขึ้นมาเพียงไม่กี่เดือน ทำพรรคอย่างจริงใจเมื่อสิงหาคม ปี 65 จากที่เดินเตาะแตะ พรรครวมไทยสร้างชาติจะเป็นพรรคที่เป็นอนาคตของประเทศไทยในวันข้างหน้า

ทั้งนี้ วันที่ 14 พฤษภาคม ไม่ใช่แค่วันเลือกตั้ง แต่เป็นวันชี้ชะตาอนาคตของประเทศ สมัยก่อนประเทศชาติมีภัยคุกคาม เราออกไปสู้รบได้ แต่วันนี้ภัยคุกคามมันแฝงเข้ามาทางการเมือง เพราะเขารู้ว่าการเมืองจะเปลี่ยนแปลงประเทศนี้ได้ ตนคนหนึ่งที่ไม่ยอมให้ใครมาเปลี่ยนแปลงสถาบันหลักของชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ จะยืนหยัดปกป้องแผ่นดินนี้ด้วยชีวิต ตนมั่นใจในเลือดความเป็นนักสู้ของคนชลบุรี จะร่วมกับพรรครวมไทยสร้างชาติ สู้เพื่อแผ่นดินนี้ วันที่ 14 พฤษภาคม มีบัตร 2 ใบ ต้องเลือกผู้สมัครของพรรค ตามเบอร์แต่ละเขต ส่วนเบอร์พรรคต้องเลือกเบอร์ 22 เพื่อไปหนุนลุงตู่เป็นนายกรัฐมนตรี

นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ตนโชคดีที่ได้ร่วมทำงานกับ พล.อ.ประยุทธ์ มาหลายปี ตนอยู่การเมืองมา 30 ปี ไม่เคยเห็นใครทำงานทุ่มเทเหมือน พล.อ.ประยุทธ์ และดีใจที่วันนี้ได้มาร่วมงานกับลุงตู่อีกครั้ง

จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ขึ้นปราศรัยในเวลา 19.00 น. ว่า ตนเรียนหนังสือที่กรุงเทพฯ จบโรงเรียนนายร้อย และมาบรรจุครั้งแรกเป็นร้อยตรี ที่ จ.ชลบุรี ที่นี่คือแหล่งที่เพาะความแข็งแรงของตน ทำให้ตนมีวันนี้ เมื่อเห็นทุกคนมีความสุข อย่าปล่อยให้ตนต้องต่อสู้อย่างโดดเดี่ยว อย่าปล่อยให้ใครมาทำร้ายประเทศ อย่าให้ใครมาด้อยค่าประเทศ

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า คนไทยทุกคนต้องได้รับการดูแลจากพรรครวมไทยสร้างชาติ ถ้าได้เป็นรัฐบาล เราแบ่งแยกไม่ได้ เพราะแผ่นดินนี้เป็นของคนไทยทั้งหมด เราต้องรักแผ่นดินผืนนี้ วันนี้ตนมาขอกำลังใจจากทุกคน เรากำลังมีปัญหา เราต้องไม่สร้างความขัดแย้ง แบ่งเป็นฝักเป็นฝ่าย ครอบครัวต้องไม่แบ่งแยก การเปลี่ยนแปลงแบบนี้อันตราย เราต้องสามัคคีกัน ตนมาอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติ เพราะต้องการสร้างความสงบสุขและสร้างสิ่งดีๆ ให้กับประเทศไทย ขออย่างเดียวอย่าแตกแยก ต้องสามัคคีกัน ถ้าไม่สามัคคีกัน ประเทศเดินต่อไปไม่ได้ จึงขอฝากตนไว้กับมือของเราทุกคน การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการต่อสู้กับความก้าวหน้าที่ประเทศเรามีความก้าวหน้าอยู่แล้ว ชลบุรีตนได้ทำอะไรไว้จำนวนมาก ทั้งสนามบิน ถนน ท่าเรือ และโครงการ EEC

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ใครจะเรียกตนอะไรก็ได้ ทั้งลุงตู่ ทั้งพี่ตู่ ทั้งน้องตู่ เพราะตนยังแข็งแรงอยู่เสมอ เลือดนักสู้ยังอยู่ในกายทุกหยด ผู้สมัคร ส.ส.พรรครวมไทยสร้างชาติ ในชลบุรีมี 10 เขต ต้องได้ทั้งจังหวัด และได้ทั้งประเทศด้วย เพราะเรามาเหนือเมฆ เพราะเรามีนโยบายต่างๆ เป็นจำนวนมาก และดูจากการทำงานของตนที่ผ่านมา ตนจะดูแลคนทั้งประเทศ ไม่ใช่ดูแลเฉพาะคนที่รักตนอย่างเดียว เพราะนี่คือประเทศไทย ต้องดูแลเยาวชนให้เติบโตขึ้นมา เป็นครอบครัวที่สมบูรณ์ ส่วนครอบครัวใหญ่คือประเทศไทย ตนจะเข้ามาปกป้อง เพื่อเป็นแผ่นดินทองให้ได้ จะต้องหารายได้เข้าประเทศให้ได้ 4 ล้านล้านบาท และนำนักลงทุนจากต่างประเทศเข้ามามากๆ เพื่อให้ประเทศมีรายได้ ไม่ใช่รับกระเป๋าซ้าย จ่ายกระเป๋าขวา จนเงินหมด. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

กระดูกเทียมไทเทเนียม นวัตกรรมไทยช่วยทหารกล้าชายแดน

กรุงเทพฯ 16 ส.ค.-สินค้า IP ไทยสุดเลิศ ผลิตกระดูกเทียมและอุปกรณ์ช่วยผ่าตัด ช่วยเหลือทหารแนวหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ต่อยอดส่งออกสร้างรายได้ให้กับประเทศไทยในระยะยาว นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กรมทรัพย์สินทางปัญญา ร่วมกับบริษัท เมติคูลี่ จำกัด ผู้ผลิตกระดูกเทียมและอุปกรณ์ช่วยผู้ป่วยผ่าตัด ช่วยเหลือทหารแนวหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา จำนวน 4 ราย ซึ่งรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี และโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าตามลำดับ เพื่อให้ทหารกล้าของไทยฟื้นฟูสภาพร่างกายให้กลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีโดยเร็ว “ความร่วมมือครั้งนี้ เริ่มจากกระทรวงพาณิชย์ลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานีเยี่ยมผู้ประสบภัย ชายแดนไทย–กัมพูชา เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2568 จากนั้นได้ประสานกับ เมติคูลี่ ซึ่งได้รับเลือกจากกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ให้เป็น IP Champion ในสาขาสิทธิบัตรการประดิษฐ์ประจำปีนี้ มอบแผ่นปิดกะโหลกเทียมไทเทเนียมออกแบบเฉพาะบุคคล และกระดูก มือเทียมไทเทเนียมเฉพาะบุคคลให้ทางโรงพยาบาลเพื่อให้นายทหารที่ผ่านการผ่าตัดเปิดกะโหลกศีรษะ 3 ราย และผ่าตัดข้อมือ 1 ราย ได้รับการรักษาที่มีความแม่นยำสูง ด้วยการออกแบบกระดูกที่มีขนาดจำเพาะกับสรีระผู้ป่วย ทำให้ผู้ป่วยฟื้นฟูร่างกายได้ดีขึ้น และสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้อย่างปกติ โดยกระทรวงฯ ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากกองบัญชาการกองทัพภาคที่ 2” […]

“นราธิวาส” จับยาไอซ์ลอตใหญ่ 900 กก. ซุกรถขนผัก

กทม.16 ส.ค.-“ภูมิธรรม” เผย “นราธิวาส” จับยาไอซ์ลอตใหญ่ 900 กก. ซุกรถขนผัก สั่งการเร่งขยายผลต่อเนื่อง พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากว่าที่ร้อยตรี ตระกูล โทธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ว่าจากการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล ที่มุ่งปราบปรามยาเสพติดอย่างเด็ดขาด ในวันนี้ทางจังหวัดนราธิวาสร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ได้มีการแกะรอย และตรวจค้นรถกระบะที่มีการลักลอบขนส่งยาเสพติด บริเวณอำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส สามารถตรวจจับยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) ซุกซ่อนอยู่ในรถกระบะขนผัก จำนวน 30 กระสอบ น้ำหนักรวมประมาณ 900 กิโลกรัม และได้ทำการควบคุมตัวตัวผู้ต้องหาไว้ได้แล้ว นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า ตนได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม และนายเดชอิศม์ ขาวทอง รมช.มหาดไทย ลงพื้นที่จังหวัดนราธิวาส เพื่อติดตามการดำเนินงานและร่วมแถลงผลการจับกุมในวันที่ 16 ส.ค.นอกจากนี้ยังได้ให้กำลังใจผ่านผู้ว่าราชการจังหวัด ไปยังเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกท่านที่ทำหน้าที่อย่างเข้มข้น ตั้งใจ จนสามารถจับกุมกรณีการลักลอบขนส่งยาเสพติดล็อตใหญ่นี้ได้ และได้ให้ติดตามเพื่อขยายผลการจับกุมต่อไป.-319.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลย้ำเกษตรกรเร่งขึ้นทะเบียน-ปรับปรุงข้อมูลทางทะเบียน รับเงินช่วยเหลือ

ทำเนียบฯ 16 ส.ค. – รัฐบาลย้ำเกษตรกรเร่งขึ้นทะเบียนและปรับปรุงข้อมูลทางทะเบียนปีการผลิต 2568/69 พร้อมรอรับเงินช่วยเหลือตามนโยบายรัฐบาล นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) เห็นชอบโครงการพัฒนาศักยภาพการผลิตข้าวของเกษตรกรปลูกข้าวปีการผลิต 2568/69 และนาปรังปีการผลิต 2568 โดยจะจ่ายเงินช่วยเหลือชาวนา ไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 10 ไร่ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากปัญหาต้นทุนการผลิตสูงและราคาข้าวที่ตกต่ำ ซึ่งเกษตรกรที่ทำนาปรังและนาปี จะได้รับเงินหลังจากลงทะเบียนและตรวจสอบสิทธิแล้วเสร็จ ทั้งนี้ คาดว่าจะเกษตรกรที่ทำนาปรังจะได้รับเงินเร็วที่สุดภายในเดือนกันยายน 2568 ส่วนเกษตรกรที่ทำนาปี จะได้รับในช่วงปลายปีนี้ หรือต้นปีงบประมาณ 2569 รัฐบาลโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ขอเชิญชวนเกษตรกรทั่วประเทศ เร่งดำเนินการขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ประจำปีการผลิต 2568/69 โดยเกษตรกรสามารถขึ้นทะเบียนเกษตรกรผ่านช่องทางการบริการของรัฐโดยไม่มีค่าใช้จ่ายดังนี้ วิธีที่ 1 แจ้งกับเจ้าหน้าที่ สำหรับเกษตรกรรายเดิม แปลงเดิม สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอทุกแห่ง หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีความพร้อม และร่วมเป็นหน่วยสนับสนุนที่เกษตรกรมีพื้นที่การเกษตรอยู่ รวมถึงแจ้งข้อมูลผ่านผู้นำชุมชนหรือตัวแทนอาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน (อกม.) หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ส่วน เกษตรกรรายใหม่ และรายเดิม แต่เพิ่มแปลงใหม่ […]

“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท

รัฐสภา 15 ส.ค.-“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท ตั้งคำถามหลายรัฐวิสาหกิจมีผลกำไรดี จะมาตั้งของบอีกทำไม นายวีระ ธีระภัทรานนท์ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในเรื่องของรัฐวิสาหกิจ ว่า ในเอกสารงบประมาณที่เป็นงบประมาณรายจ่าย มาตรา 29 มีรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งของบประมาณรวมกันทั้งสิ้น 79,298 ล้านบาท แต่ค่าใช้จ่ายของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด 1.43 แสนล้านบาท ซึ่งในรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งที่ของบประมาณมาตนไม่ค่อยติดใจ เพราะมีรัฐวิสาหกิจจำนวนหนึ่งไม่มีรายได้ อีกส่วนเป็นรัฐวิสาหกิจมีรายจ่ายมากกว่ารายได้ บางรัฐวิสาหกิจมีหนี้สินจำนวนมาก เช่น ขสมก. การรถไฟแห่งประเทศไทย นายวีระ ฝากไปถึงคนที่ต้องจัดการรัฐวิสาหกิจว่า รัฐวิสาหกิจที่มีปัญหารัฐบาลต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดว่า รัฐวิสาหกิจเหล่านั้นคงอยู่ต่อไปในสภาพแบบนั้น หรือ จะดำเนินการแปรรูปให้เอกชนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อไม่ให้เกิดภาระการคลังในอนาคตอย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบัน สำหรับกรณี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูกิจการ โดยที่รัฐบาลยังถือหุ้นใหญ่อยู่ประมาณ 40% แต่ไม่มีสถานะภาพเป็นรัฐวิสาหกิจอีกต่อไป […]

ข่าวแนะนำ

“ไมเคิล” ตอบรับคำเชิญ “จิรายุ” จ่อข้ามมาไทยพิสูจน์ข้อเท็จจริง

17 ส.ค.- “ไมเคิล อัลฟาโร” ล็อบบี้ยิสต์อเมริกัน โพสต์ตอบรับคำเชิญ “จิรายุ” เตรียมข้ามฝั่งมาไทย อ้างค้นหาความจริงปมขัดแย้งชายแดน จ่อทำรายงานส่งถึง “ทรัมป์” ช่วงเช้าที่ผ่านมา เพจ “ไทยคู่ฟ้า” โพสต์สรุปสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า “เที่ยงคืนถึงเช้านี้ พื้นที่ 7 จังหวัดประเทศไทย สถานการณ์ปกติ ไทยยังตรึงกำลังเพื่อรักษาอธิปไตยอย่างต่อเนื่อง” โดยนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) เปิดเผยว่า สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้ง 7 จังหวัด เหตุการณ์ปกติ กองทัพไทยยังคงวางกำลังตามแนวที่มั่นทั้ง 11 พื้นที่ และวางรั้วลวดหนามอย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาอธิปไตยของไทยไม่ให้ใครล่วงล้ำเข้ามา แม้ในขณะนี้ กัมพูชายังคงมีความพยายามบิดเบือนข้อเท็จจริง ในรูปแบบต่างๆ เช่น การสร้างข่าวปลอม จ้างอินฟูลฯ การจัดฉาก สร้างสถานการณ์ใส่ร้ายประเทศไทย การจ้างวานบุคคลสมมติ จึงขอฝากความห่วงใยไปถึงประชาชนและสื่อมวลชนที่ติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ให้ใช้วิจารณญาณและตรวจสอบข้อมูลจากส่วนราชการ ก่อนเชื่อหรือแชร์ต่อไป นายจิรายุ ยังกล่าวด้วยว่า ส่วนกรณีนายไมเคิล อัลฟาโร ล็อบบี้ยิสต์อเมริกัน […]

ศูนย์ทุ่นระเบิดจบภารกิจหนุนชายแดน เก็บกู้สรรพาวุธตกค้างกว่า 800 ลูก

17 ส.ค. – ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดฯ สิ้นสุดภารกิจวันนี้ (17 ส.ค. 68) หลังสนับสนุนการเก็บกู้ระเบิดจากเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเก็บกู้สรรพาวุธตกค้างกว่า 800 ลูก ในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนอีสานใต้ ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ หรือ TMAC สิ้นสุดภารกิจวันนี้ (17 ส.ค. 68) หลังสนับสนุนการเก็บกู้ระเบิดจากเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ตั้งแต่วันที่ 1-16 สิงหาคมที่ผ่านมา TMAC ได้เก็บกู้สรรพาวุธที่ตกค้างกว่า 800 ลูก ในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนอีสานใต้ ได้แก่ บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ประกอบด้วย กระสุน BM-21 ลูกปืนใหญ่ ปืน ค จรวด ก่อนหน้าสถานการณ์ตึงเครียด กัมพูชาขัดขวางการเก็บกู้ทุ่นระเบิด ไม่จริงใจแก้ปัญหา ทั้งที่เป็นประเทศภาคีอนุสัญญาออตตาวา ที่ห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล สำหรับอำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี มีบ้านเรือนได้รับความเสียหายจากเหตุปะทะ 81 หลังคาเรือน […]

ตรวจสอบ รร.ประถม “พระอลงกต” ไม่ปรากฏชื่อ

ขอนแก่น 17 ส.ค.- กองปราบจ่อประชุมคณะทำงานคดี “หมอบี” เชื่อเจ้าตัวไม่หนี ขณะที่ทนายวัดพระบาทน้ำพุเลื่อนแถลงข่าว อ้างเอกสารชี้แจงยังไม่เรียบร้อย ตรวจสอบโรงเรียนประถม “พระอลงกต” ไม่ปรากฏชื่อ กรณีเพจดังตั้งข้อสงสัยวุฒิการศึกษาพระอลงกต เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ อ้างว่าปี 2518 ยังเรียน มศ.2 จะจบวิศวฯ ปี 2519 ได้อย่างไร ผู้สื่อข่าวสอบถามแหล่งข่าวในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) ให้ข้อมูลว่ากรณีพระอลงกต ระบุว่าจบการศึกษาที่โรงเรียนระดับประถม(นันทวิทยาลัย) ปรากฏว่าไม่มีชื่อโรงเรียนนี้อยู่ในสังกัดสำนักงานเขตของพื้นที่ทั้ง 26 อำเภอ ใน จ.ขอนแก่น หรือถ้ามี ก็อาจจะปิดตัวไปแล้ว   ส่วนระดับมัธยมศึกษานั้น ข้อมูลยืนยันว่า พระอลงกต ศึกษาจบระดับชั้น มศ.2 ที่โรงเรียนแก่นนครวิทยาลัย จังหวัดขอนแก่นจริง มีศิษย์เก่าทั้งระดับชั้นเดียวกัน และรุ่นพี่รุ่นน้องต่างยืนยันว่า พระอลงกต จบจากโรงเรียนแก่นนครวิทยาลัยจริง ในปี 2518 แต่ยังสงสัยในระดับปริญญาตรีว่าจะจบจริงหรือไม่   เชื่อ “หมอบี” ยังไม่หลบหนี พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ […]

รวบแล้ว “ลุงคลั่ง” ใช้ไม้หน้าสามตีหลานสาวดับ

ตรัง 17 ส.ค.- ตำรวจ สภ.ห้วยยอด รวบลุงคลั่งใช้ไม้หน้าสามฟาดหลานสาวแท้ๆ เสียชีวิตคาบ้านพัก สารภาพอ้างแค้นใจสะสมมานาน มีปากเสียงบ่อยครั้ง ตำรวจ สภ.ห้วยยอด จ.ตรัง คุมตัวนายสุริยัณห์ อายุ 44 ปี ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุใช้ไม้หน้าสาม กระหน่ำตี น.ส.ปาริชาติ หรือน้องเชียร์ อายุ 21 ปี นักศึกษาพยาบาลชั้นปีที่ 3 ซึ่งเป็นหลานสาวแท้ๆ ของตัวเองจนเสียชีวิตภายในบ้านพัก จากนั้นหลบหนีขึ้นไปบนเขา คลองมวน  ต.หนองปรือ อ.รัษฎา เจ้าหน้าที่สนธิกำลังเข้าปิดล้อมภูเขา ก่อนจับกุมตัวได้พร้อมของกลางไม้หน้าสามเปื้อนเลือด ความยาวประมาณ 60 เซนติเมตร  สอบสวนนายสุริยัณห์ รับสารภาพว่าลงมือก่อเหตุจริง โดยอ้างว่ามีปัญหากับหลานสาวมานาน มักมีปากเสียงบ่อยครั้ง วันเกิดเหตุได้บุกเข้าไปในห้อง ใช้ไม้หน้าสามฟาดเข้าที่ท้ายทอยของหลานสาว 6–7 ครั้งจนเสียชีวิต ก่อนหลบหนีออกจากบ้าน ผู้ต้องหาระบุว่า เคยทำงานเป็นช่างสักตามเกาะท่องเที่ยว เช่น เกาะพะงัน และเกาะพีพี แต่มีปัญหาจึงกลับมาอยู่บ้าน มีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติด และเคยถูกส่งตัวเข้าบำบัดหลายครั้ง ขณะถูกสอบสวนยังสามารถโต้ตอบคำถามได้ปกติ แต่ไม่มีท่าทีสำนึกผิดกับสิ่งที่ทำลงไป สำหรับศพของ “น้องเชียร์” ล่าสุด […]