ชาวท่ามะกาขานรับนโยบายปราบยาเสพติด ‘เพื่อไทย’

กาญจนบุรี 2 พ.ค.- ‘ชาวท่ามะกา’ ร่วมหมื่นตะโกนขานรับนโยบายปราบยาเสพติด ‘เพื่อไทย’ ‘เศรษฐา’ ยืนยัน ‘กัญชา’ มอมเมาประชาชน อย่าเอาเศรษฐกิจบังหน้าอ้างปลูกแล้วรวย ขณะที่ ‘สุทิน’ บอกเลือกเพื่อไทยเท่านั้นปราบยาเสพติดได้สำเร็จ


พรรคเพื่อไทย จัดการปราศรัยใหญ่เวทีโรงเรียนบ้านบึงวิทยา อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี นำโดย นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย นายพานทองแท้ ชินวัตร ที่ปรึกษาศูนย์ปฏิบัติการเลือกตั้ง ส.ส.พรรคเพื่อไทย นายสุทิน คลังแสง รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายจาตุรนต์ ฉายแสง คณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง พรรคเพื่อไทย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย นางสาวลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รองเลขาธิการและรักษาการโฆษกพรรคเพื่อไทย นายจักรพงษ์ แสงมณี นายทะเบียนพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยผู้สมัคร ส.ส.กาญจนบุรี ประกอบด้วย นายอัครนันท์ กัณณ์กิตตินันท์ ผู้สมัคร ส.ส.เขต1 เบอร์ 1, นายชูศักดิ์ แม้นทิม ผู้สมัคร ส.ส.กาญจนบุรี เขต 2 เบอร์ 7, นางสาวพลอย ธนิกุล ผู้สมัคร ส.ส.กาญจนบุรี เขต 3 เบอร์ 4, นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ ผู้สมัคร ส.ส.กาญจนบุรี เขต4 เบอร์ 5, และนายพนม โพธิ์แก้ว เขต 5 เบอร์ 5 โดยมีพี่น้องประชาชนและเกษตรกรชาวไร่ เข้าฟังปราศรัยชูป้ายส่งเสียงสนับสนุนผู้สมัครพรรคเพื่อไทยอย่างอบอุ่นกว่า 10,000 คน

นายเศรษฐา ทวีสิน ปราศรัยว่าปัญหายาเสพติดที่เป็นเรื่องใหญ่ รัฐบาลปัจจุบันพูดเรื่องความมั่นคง จะมั่นคงได้อย่างไรในเมื่อลูกหลานคนไทยยังติดยาเต็มบ้านเต็มเมือง จุดยืนของพรรคเพื่อไทยคือ ไม่เอากัญชาเสรี เราเอาแค่กัญชาเพื่อการแพทย์เท่านั้น การที่พรรคการเมืองมาเสนอเรื่องกัญชาเสรี มันเป็นการมอมเมาประชาชนและเอาเรื่องเศรษฐกิจมาอ้างว่าถ้าเราปลูกกัญชาเราจะร่ำรวย ซึ่งไม่เป็นความจริง ยกตัวอย่างเรื่องกัญชาเสรีที่ประเทศสหรัฐอเมริกาเขามีมาก่อน 10 ปีที่แล้ว เขาทำกัญชาเสรี ทุกคนแห่มาทำกัญชาหมด ตอนนี้หุ้นบริษัทที่ทำกัญชาตกระเนระนาดเพราะว่าคนแห่มาปลูกกัญชา ทำให้ราคาลดลงขาดทุนหมด เพราะฉะนั้น ค้ากัญชาแล้วไม่มีรวย พรรคเพื่อไทยยืนยันกัญชาเพื่อการแพทย์เท่านั้น


“การเลือกตั้งวันที่ 14 พฤษภาคม พรรคร่วมรัฐบาลมีแต้มต่อ เพราะมี ส.ว.250 คนพร้อมยกมือให้พลเอกประยุทธ์ เริ่มต้นเราก็เป็นรองอยู่ 250 เสียงแล้ว ดังนั้น เลือกพรรคเพื่อไทยทั้งคนทั้งพรรคและนายกรัฐมนตรีจะมาจากพรรคเพื่อไทยเท่านั้น” นายเศรษฐา กล่าว

นายสุทิน คลังแสง กล่าวว่า พี่น้องเกษตรกรชาวท่ามะกา กาญจนบุรี มีรายได้น้อยทำงานหนัก ลำบากทำมาหากินยังไม่พอ ยังต้องมาเหนื่อยใจกับปัญหายาเสพติดยาบ้ากัญชาอีก รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ นอกจากจะไม่ปราบยาเสพติดแล้วยังเอากัญชามาให้ ถ้ายังปล่อยทั้งยาเสพติดยาบ้ากัญชาให้ระบาด เราคงได้เห็นนักเรียนลูกหลานเราแทบจะถือบ้องกัญชาไปโรงเรียนกันแล้ว เลือกตั้งคราวนี้ ถ้าอยากหมดหนี้หมดสิน กินดีอยู่ดีไม่อยากเหนื่อยแบบนี้อีก และอยากให้เพื่อไทยไปปราบยาเสพติด เลือกพรรคเพื่อไทยเท่านั้นทั้ง 2 ใบ ทั้งคนทั้งพรรค

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ปราศรัยช่วงหนึ่งถึงข่าวนายอนุทิน ชาญวีรกุล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ไม่พอใจการปราศรัยของนายเศรษฐา ทวีสิน อ้างว่าจะไปแจ้งความ นี่แสดงให้เห็นชัดว่า ยิ่งเดินมาใกล้วันเลือกตั้ง จะมีเกมสกัดกั้น แจ้งความเอาคดีมาใส่ แต่สกัดอย่างไรก็ไม่อยู่ก็เชื่อเพราะประชาชนเขาต้องการนโยบาย เขาต้องการที่ทำตามนโยบาย เขาต้องการเศรษฐกิจอยู่ดีกินดีเงินในกระเป๋าและคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น ดังนั้น เลือกตั้งคราวนี้ เป็นโอกาสเดียวที่จะสลัดหลุดจากพลเอกประยุทธ์ และถ้าเขาอยู่ต่อ ส.ว.จะแก้กติกาให้เขาอยู่ยาว ดังนั้นพี่น้องชาวกาญจนบุรี ต้องเลือกเพื่อไทยเท่านั้น เลือกเพื่อไทย 2 ใบ ให้แลนด์สไลด์ทั้งกาญจนบุรี .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ล่าหนุ่มโมร็อกโก ฆ่าโหดหมอแซมมี่ เผ่นหนีฮ่องกง

ตำรวจประสานตำรวจสากล เร่งล่าตัวแฟนหนุ่มชาวโมร็อกโก ผู้ต้องสงสัยฆ่าโหดหมอแซมมี่ แพทย์ความงามสาวสอง เจ้าของคลินิกเวชกรรมชื่อดังเชียงใหม่ พบเผ่นหนีไปฮ่องกงแล้ว

ผู้เสียหายร้องตำรวจ ปคบ.ตรวจสอบบริษัท K4 ชวนลงทุนซิม-ตู้เติมเงิน

ผู้เสียหายร้องตำรวจ ปคบ.ตรวจสอบบริษัท K4 ชักชวนลงทุนซิมและตู้เติมเงิน อ้างสิทธิ กสทช. พบมีผู้เสียหาย 5,000 ราย มูลค่าความเสียหาย 2,000 ล้านบาท

รถตู้กลับจากแข่งเรือเสียหลักชนต้นไม้ ดับ 4 เจ็บ 9

สลด! รถตู้กลับจากแข่งเรือยาวที่ จ.ปทุมธานี เสียหลักพุ่งชนต้นไม้ บนถนนสายลำปาง-งาว จ.ลำปาง เสียชีวิต 4 ราย บาดเจ็บ 9 ราย

ตั้ง กก.สอบ 7 ตำรวจ บก.จร.ทำร้ายลูกชายอดีต ตร. พ่อยันเอาเรื่องถึงที่สุด

กองบังคับการตำรวจจราจร ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบวินัยร้ายแรง 7 ตำรวจ บก.จร. รุมทำร้ายลูกชายอดีตตำรวจ พ่อและน้องสาวยืนยันไม่ยอมความ เอาเรื่องถึงที่สุด พร้อมท้าตำรวจทั้ง 7 นาย เอากล้องติดหน้าอกออกมาเปิดเผย

ครอบครัวผู้เสียหายที่โดนตำรวจ 7 นาย รุมทำร้าย เผยอาการยังสาหัส ยันไม่ยอมความ แม้มีกระเช้าปริศนามาให้แล้ว 3 กระเช้า พร้อมท้าตำรวจทั้ง 7 นาย เอากล้องติดหน้าอกออกมาเปิดเผยพฤติกรรมตัวเอง ด้าน รอง ผบช.น. ยันตำรวจทั้ง 7 นาย ต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่กระทำไป

ครอบครัวของผู้บาดเจ็บที่โดนตำรวจ 7 นาย รุมทำร้าย เดินทางไปพบพนักงานสอบสวน และชุดสืบสวนของ สน.บางเขน ก่อนเดินไปชี้จุดที่เจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งด่าน และเป็นจุดเดียวกับที่ตำรวจพาผู้บาดเจ็บเข้ามาจอดรถไว้หลังก่อเหตุทำร้ายร่างกาย เพื่อตรวจสอบว่ารถของผู้บาดเจ็บเป็นรถคันเดียวกับที่ได้ขับแหกด่านหรือไม่ โดยก่อนการชี้จุด พ่อและน้องสาวของผู้ได้รับบาดเจ็บเดินทางมาพร้อมกับร้อยเวร สถานีตำรวจนครบาลบางเขน เจ้าของพื้นที่ เพื่อชี้จุดและให้ข้อมูลกับตำรวจเพิ่มเติม ระหว่างรอตัวผู้บาดเจ็บพักรักษาตัวจนสามารถเข้าให้การกับตำรวจได้

นางสาวธนัชตา น้องสาวผู้บาดเจ็บ บอกว่า พี่ชายยังต้องพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล จุดที่น่าเป็นห่วงคือบริเวณศีรษะทั้งหมด โดยเฉพาะดวงตาขวามีเลือดออก การมองเห็นยังไม่ปกติ ส่วนตามร่างกายมีร่องรอยฟกช้ำ แต่ยังโชคดีที่ไม่มีส่วนใดต้องผ่าตัด

เหตุการณ์ครั้งนี้รู้สึกรับไม่ได้ ยืนยันจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ไม่ว่าจะเข้าข้อกฎหมายข้อไหนพร้อมจะต่อสู้ มองว่าเป็นการกระทำเกินกว่าเหตุ เพราะพี่ชายของตนไปคนเดียวและไม่มีอาวุธ แต่คู่กรณีเป็นถึงตำรวจ และมีด้วยกันถึง 7 นาย ทันทีที่รู้เรื่องตนเองรีบเดินทางมาที่ด่านทันที พยายามสอบถามว่าตำรวจนายไหนเป็นคนทำพี่ชายของตนเอง แต่ไม่ได้รับคำตอบ ซึ่งพี่ชายพยายามบอกแล้วว่าไม่ใช่คนขับรถหนีด่าน

นางสาวธนัชตา ยังฝากถึงตำรวจตั้งด่านทุกนายว่าทุกคนมีกล้องติดหน้าอก ตนเองพยายามขอดูแต่มีการอ้างว่ากล้องเสียบ้าง เปิดไม่ได้บ้าง จึงอยากฝากไปถึงตำรวจตั้งด่านในวันนั้นทุกนายให้เอากล้องติดหน้าอกออกมาเปิดเผย เพื่อเป็นการยืนยันเหตุการณ์ทั้งหมด เพราะเหตุการณ์วันนั้นตนเองก็มีหลักฐาน รวมถึงพยานคือคนที่เข้าด่านตรวจก็เห็นทุกคนว่าเหตุการณ์ตรงนั้นเกิดอะไรขึ้น อยู่ที่ตำรวจจะกล้าหรือไม่กล้า

น้องสาวผู้บาดเจ็บ บอกอีกว่าเมื่อวานนี้ (4 ธ.ค.) มีกระเช้าผลไม้-ดอกไม้ปริศนา ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นของใคร หรือของตำรวจสังกัดใดบ้างนำมาเยี่ยม ขอย้ำว่าไม่ขอรับกระเช้า เพราะไม่สามารถรู้ได้เลยว่านำเอามาให้ด้วยเหตุผลอะไรแอบแฝง

ด้าน พันตำรวจโท ธนชัย เกิดศรี หรือสารวัตรเจี๊ยบ อดีตพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส. ซึ่งเป็นพ่อของผู้บาดเจ็บ เปิดเผยว่า ในฐานะที่ตนเคยเป็นอดีตตำรวจกองบังคับการตำรวจจราจรมาก่อนไปอยู่ บก.ปทส. ตามปกติแล้วตำรวจมีขั้นตอนในการใช้ยุทธวิธีเพื่อจับผู้ต้องหาด้วยเครื่องพัฒนาการอยู่แล้ว ซึ่งไม่จำเป็นต้องใช้ความรุนแรงที่เกินกว่าเหตุแบบนี้ กรณีหากผู้ต้องหามีการต่อสู้หรือขัดขวาง ตำรวจไม่มีสิทธิที่จะไปรุมทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด ซึ่งจะพยายามเลี่ยงการใช้กำลังให้น้อยที่สุด การจับกุมตำรวจต้องมีการแสดงตัวเป็นตำรวจ พร้อมกับแจ้งให้ทราบว่าทำอะไรผิด จากนั้นจะเชิญตัวมาที่ด่านหรือโรงพักในพื้นที่ เพื่อดำเนินการสอบปากคำและพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหาในภายหลัง

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่คาดคิดว่าจะมาเกิดขึ้นในยุคสมัยนี้ เพราะมีโซเชียลเป็นหูเป็นตา ยืนยันว่าจะไม่มีการเจรจาไกล่เกลี่ย แม้ว่าจะให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงลงมาพูดคุยก็ตาม เมื่อวานนี้ทางพยาบาลแจ้งว่ามีตำรวจนำกระเช้ามามอบให้แล้ว 3 กระเช้า แต่ตนไม่รับ เพราะไม่รู้ว่ามาด้วยวัตถุประสงค์อะไร และไม่รู้ว่าเป็นของหน่วยงานใด เนื่องจากพยาบาลแจ้งแค่ว่าเป็นตำรวจเท่านั้น

ส่วนความคืบหน้าคดี พันตำรวจเอก อนันต์ วรสาตร์ ผู้กำกับการ สน.บางเขน ให้ข้อมูลว่า เบื้องต้นพนักงานสอบสวน สอบปากคำน้องสาวและแม่ของผู้บาดเจ็บในฐานะพยาน ส่วนผู้บาดเจ็บตอนนี้แพทย์ยังไม่อนุญาตให้พนักงานสอบสวนเข้าไปสอบปากคำ เนื่องจากยังอยู่ในอาการสาหัส

ส่วนกรณีผู้ก่อเหตุทั้ง 7 นายที่เป็นตำรวจ ตอนนี้ยังไม่มีการสอบปากคำ เนื่องจากพนักงานสอบสวนอยากทราบพฤติการณ์ของกลุ่มผู้ก่อเหตุจากผู้เสียหายก่อน ยืนยันว่าจะไม่มีการช่วยเหลือแม้ว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุจะเป็นตำรวจก็ตาม

ด้าน พลตำรวจตรี ธวัช วงศ์สง่า รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ซึ่งดูแลรับผิดชอบงานจราจร ให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า เบื้องต้นผู้บังคับการตำรวจจราจรกลาง รายงานมาเบื้องต้นว่าผู้ก่อเหตุที่เป็นตำรวจทั้ง 7 นาย บอกว่ามีการเข้าใจผิด คิดว่าจะขับรถแหกด่านจึงมีการตามไป ก่อนที่ผู้เสียหายจะมีการขัดขืน ทำให้ตำรวจทั้ง 7 นาย ต้องใช้กำลังในการระงับเหตุ ยอมรับว่าเป็นการทำเกินกว่าเหตุจริงๆ ตอนนี้ทราบว่ากองบังคับการตำรวจจราจรมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบวินัยร้ายแรงขึ้นแล้ว ส่วนทางคดีอาญาอยู่ที่ สน.บางเขน

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตำรวจทั้ง 7 นาย ต้องชี้แจงและยอมรับกับสิ่งที่ได้กระทำลงไป รวมทั้งอาจจะต้องทบทวนเรื่องยุทธวิธีที่่ใช้ในการระงับเหตุ แต่ยืนยันว่าตำรวจไม่เคยมีวิธีระงับเหตุด้วยการทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด.-414-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ไทยตอนบนอุณหภูมิสูงขึ้น แต่ยังมีอากาศเย็นในตอนเช้า

กรมอุตุฯ รายงานไทยตอนบน อุณหภูมิสูงขึ้นแต่ยังมีอากาศเย็นในตอนเช้า บริเวณยอดดอยและยอดภูอากาศเย็นถึงหนาว ภาคใต้ตอนล่างฝนตกหนักบางแห่ง

นายกฯ ล่องเรือชมความงาม “วิจิตรเจ้าพระยา 2024”

“นายกฯ แพทองธาร” นำ ครม. ล่องเรือชม “วิจิตรเจ้าพระยา 2024” หนุนการท่องเที่ยวช่วงปลายปี อยากเห็นคนไทยออกมาเที่ยวชมเยอะๆ