“องอาจ” ขอช่วยสนับสนุน ปชป. รักษาการเมืองสุจริต

กรุงเทพฯ 29 เม.ย. – ปชป. เปิดเวทีปราศรัย กทม. โซนเหนือ “องอาจ” ขอช่วยสนับสนุนประชาธิปัตย์ เพื่อรักษาการเมืองสุจริต ด้าน “อภิสิทธิ์” ย้ำแม้ไม่มีตำแหน่ง แต่หัวใจอุดมการณ์เหมือนเดิม ขณะที่ “ผู้การแต้ม” ประกาศย้ำต่อสู้ยาเสพติด-คอร์รัปชัน ตาต่อตาฟันต่อฟัน พร้อมย้ำไม่แก้ ม.112


วันที่ 29 เม.ย. เวลา 17.00 น. ที่สนามฟุตบอล ศูนย์เยาวชนหลักสี่ พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเวทีปราศรัยใหญ่ โซนกรุงเทพฯเหนือ นำโดย นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ น.ส.วทันยา บุนนาค ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมือง พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผู้สมัคร ส.ส. กทม.เขตหลักสี่-จตุจักร, นายธีรวิทย์ ภูมิดิษฐ์ ผู้สมัคร ส.ส. กทม.เขตจตุจักร-หลักสี่, นายธนา ชีรวินิจ ผู้สมัคร ส.ส. กทม.เขตดินแดง-พญาไท, นายธัญญ์นิธิ ชวรัตน์นิธิโชติ ผู้สมัคร ส.ส. กทม.เขตดอนเมือง, นายแทนคุณ จิตต์อิสระ ผู้สมัคร ส.ส. กทม.เขตลาดพร้าว-บึงกุ่ม, นายวัทธิกร หรุ่นศิริ ผู้สมัคร ส.ส. กทม.เขตสายไหม, นางปราณี เชื้อเกตุ ผู้สมัคร ส.ส. กทม.เขตสายไหม-บางเขน-ลาดพร้าว, นายพันธ์พิสุทธิ์ นุราช ผู้สมัคร ส.ส. กทม.เขตคันนายาว-บึงกุ่ม และนางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย รองโฆษกพรรคและผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ รวมถึงยังมี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีและอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ร่วมขึ้นปราศรัยเพื่อขอเสียงสนับสนุนให้พรรคและผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคด้วย โดยมีประชาชนร่วมรับฟังจำนวนมาก

นายองอาจ กล่าวว่า ชัยชนะของพรรคประชาธิปัตย์อยู่ที่พี่น้องทุกคน ที่จะช่วยกันลงคะแนนเสียงเลือกพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งในอดีต กทม. เคยมีคนเลือกพรรคประชาธิปัตย์ประมาณ 1 ล้านกว่าเสียง แต่ในการเลือกตั้งปี 62 มีคน กทม. เลือกพรรคประชาธิปัตย์ 3 แสนกว่าเสียง และอีก 6-7 แสนเสียงไปเลือกพรรคการเมืองอื่น วันนี้ตนต้องขอขอบคุณคนทั้ง 6-7 แสนเสียงที่ได้ส่งเสียงกลับมายังผู้สมัครพรรคประชาธิปัตย์ว่าเมื่อปี62เขามีเหตุจำเป็นต้องไปเลือกพรรคการเมืองอื่น แต่การเลือกตั้งครั้งนี้เขาจะกลับมาช่วยพรรคประชาธิปัตย์ และเหตุผลหนึ่งสำคัญที่พี่น้องประชาชนควรสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ เพราะพรรคประชาธิปัตย์จะไปช่วยรักษาการเมืองสุจริต จะเป็นการช่วยการเมืองไทยให้เดินไปได้อย่างมั่นคง


นายองอาจ กล่าวต่อว่า ก่อนจะมีการเลือกตั้งเราจะเห็นการดูด ส.ส.จากพรรคการเมือง และพรรคที่ถูกดูด ส.ส.มากที่สุดคือ พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งด้วยเงินจำนวนมากจึงทำให้ ส.ส.เหล่านั้นตัดสินใจย้ายพรรคไป และนั่นคือกระบวนการเริ่มต้นของการทำการเมืองทุจริต ที่เริ่มต้นการทุจริตตั้งแต่ขายตัวเองเพื่อไปอยู่พรรคการเมือง ดังนั้นเมื่อคนเหล่านี้เข้าไปในสภา ถามว่าเขาก็จะคำนึงถึงประโยชน์ของพี่น้องประชาชนหรือไม่

นายอภิสิทธิ์ ขึ้นปราศรัยโดยระบุว่า วันนี้ดีใจที่ได้มาพบกับพี่น้องที่หลักสี่ หลายครั้งในการทำงานทางการเมืองของตนก็ได้แวะเวียนมาในพื้นที่หลักสี่ และหลายคนคงทราบว่าตนไม่ได้ลงสมัครการเลือกตั้งครั้งนี้ แต่ตนเป็นสมาชิกพรรค และได้เดินทางลงพื้นที่สนับสนุนผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์ และที่ตนมาวันนี้เพื่อมากราบขอบพระคุณพี่น้องทุกคน เพราะว่านักการเมืองอย่างตนเหมือนกับหลายคนในพรรค ที่มีโอกาสไปเป็น เราไม่ใช่คนมีเงิน มีอิทธิพล ที่จะไปสถาปนาเอาสิ่งเหล่านี้มาเป็นของตัวเองได้ แต่เราต้องอาศัยประชาชนที่จะมอบสิ่งเหล่านี้ให้เรา และขอย้ำว่า ตนจะมีหรือมีไม่ตำแหน่ง หัวใจอุดมการณ์เหมือนเดิม วันก่อนไปหลายพื้นที่ มีคนบอกว่า ความหล่อคงที่ ความดีเหมือนเดิม

นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ที่มาวันนี้เพื่อมาขอให้ทุกคนเลือกพรรคประชาธิปัตย์ ด้วยเหตุผลที่ว่าพรรคประขาธิปัตย์เป็นสถาบันการเมืองที่เปิดโอกาสให้ทุกคนได้เข้ามาทำงานอย่างมีอิสระ และสามารถเติบโตได้ พี่น้องที่คิดตามการทำงานของสภามา 4 ปี จะเห็นว่าเป็นการเมืองที่วุ่นวาย แต่พี่น้องจะเห็นบทบาทที่โดดเด่นของนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่สามารถควบคุมความวุ่นวายในสภาได้ ซึ่งความรู้ความสามารถของท่านก็เป็นส่วนหนึ่ง แต่อีกส่วนเป็นเพราะวัฒนธรรมของพรรค ที่เป็นสถาบันการเมือง เป็นพรรคที่เป็นประชาธิปไตยตั้งแต่ภายในพรรค การทำงานโดยจึงคำนึงถึงความยั่งยืน ไม่ได้ทำเพื่อการเลือกตั้งครั้งใดครั้งหนึ่ง นโยบายหลายคนก็บอกว่าทำไมไม่หวือหวา แต่นโยบายที่หวือหวาเร้าใจก็สร้างความเสียหายให้ประเทศมามาก แต่นโยบายของพรรคประชาธิปัตย์นั้นสามารถทำจนดำรงอยู่มาได้จนถึงทุกวันนี้


“ผมไม่รู้หรอกหลังเลือกตั้ง พรรคไหนจะมีกี่เสียง ใครจะจับมือกับใคร ใครจะเป็นรัฐบาล ใครจะเป็นฝ่ายค้าน แต่ผมเชื่อว่ายังมีความสับสนอยู่พอสมควร เพราะกติกาบ้านเมือง ยังมีเรื่องของ ส.ว. 250 คน แต่สิ่งหนึ่งที่ผมพูดได้ คือพรรคอย่างประชาธิปัตย์ จะเป็นฝ่ายค้าน เป็นรัฐบาล สถานการณ์จะเป็นอย่างไร จะยืนหยันความเป็นหลักให้กับบ้านเมือง ให้บ้านเมืองเดินด้วยเหตุด้วยผล ฝ่าฟันปัญหาอุปสรรคต่างๆให้กับพี่น้องประชาชนได้” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

พล.ต.ต.วิชัย กล่าวว่า นโยบายของพรรคประชาธิปัตย์เป็นนโยบายที่มีประโยชน์ ทำได้จริง และไม่ทิ้งปัญหาให้กับลูกหลาน โดยนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์เกิดมาจากโครงการ “ฟัง คิด ทำ” พบว่าประชาชนอยากให้พรรคประชาธิปัตย์ อันดับแรก คือ เรื่อง pm2.5 ที่ถือว่าเป็นอันตรายยิ่งกว่า โควิด-19 หากได้เป็นแกนจัดตั้งรัฐบาล พรรคประชาธิปัตย์ จะผลักดันกฎหมายอากาศสะอาดทันที ถัดมาเป็นเรื่องยาเสพติด ความปลอดภัยเมือง และการสุจริตคอรัปชั่น ของหน่วยงานและคนที่รับราชการ พรรคประชาธิปัตย์ จึงประกาศว่า “ไม่เอากัญชา ทำลายยาบ้า ยาเสพติด การทุจริตคือวิกฤติชาติ” และขอย้ำว่าพรรคประชาธิปัตย์เราจะไม่แก้มาตรา 112 จะยืนหยัดมาตรา 112 ไว้เพื่อปกป้องสถาบันของพวกเรา ไม่เอายาเสพติด และจะไม่เอาการทุจริตคอรัปชั่น

พล.ต.ต.วิชัย ยังได้ขอให้เชื่อมั่นในพรรค นโยบาย และเชื่อมั่นในผู้สมัคร ส.ส.ทุกคน ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์มีความพร้อม ทั้งเรื่องของนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ เป็นพรรคที่อายุยืนยาวที่สุด มีนโยบายที่ทำให้กับประชาชนมาตลอด และขอให้เชื่อมั่นคนที่เป็นแคดิเดตนายกรัฐมนตรี คือ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค เป็น ส.ส. มา 11 สมัย ทำงานให้ประชาชนในฐานะรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี 7 กระทรวง มีความรู้ มีประสบการณ์ในการทำงาน และยังมีความซื่อสัตย์สุจริต .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดเนื้อหาหนังสือแจง UNSC กัมพูชาวางทุ่นระเบิด-เริ่มยิงก่อน

25 ก.ค.- เปิดเนื้อหาหนังสือจากผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติที่นิวยอร์ก เพื่อชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทย ประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ส่งหนังสือชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ระบุว่า ขอแจ้งให้ท่านและสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติทุกท่านทราบ ถึงสถานการณ์อันร้ายแรงที่ส่งผลกระทบต่ออธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย อันเป็นผลจากการรุกรานทางทหารของประเทศกัมพูชา โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 1.     เมื่อวันที่ 16 และ 23 กรกฎาคม ค.ศ. 2025 ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารไทยกำลังลาดตระเวนตามเส้นทางปกติที่กำหนดไว้ ซึ่งอยู่ภายในอาณาเขตของประเทศไทย ทหารได้เหยียบทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 ส่งผลให้ทหาร 2 นาย ได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสส่งผลถึงขั้นพิการถาวร ขณะที่ทหารนายอื่น ๆ ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทุ่นระเบิด PMN-2 ทั้งหมดที่พบอยู่ในสภาพใหม่ ยังมีเครื่องหมายที่มองเห็นได้ชัดเจน หลักฐานบ่งชี้ว่าทุ่นระเบิดเหล่านี้เพิ่งถูกวางใหม่ ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นรัฐภาคีของอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ไทยได้ยื่นรายงานประจำปีเกี่ยวกับความโปร่งใสในการดำเนินการตามพันธกรณีในอนุสัญญาดังกล่าว ตามมาตรา 7 ของอนุสัญญาฯ อย่างต่อเนื่อง รายงานดังกล่าวระบุว่าประเทศไทยได้ทำลายทุ่นระเบิดในคลังทั้งหมดแล้วตั้งแต่ปี ค.ศ. 2003 และต่อมา ได้ทำลายทุ่นระเบิดทั้งหมดที่เก็บไว้เพื่อการฝึกอบรมและการวิจัยในปี ค.ศ. […]

“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน”

ก.มหาดไทย 25 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน” ชี้รับฟังทุกความไม่พอใจ แต่ทุกอย่างเป็นไปตามยุทธวิธี ให้ทหารมีอิสระในการทำงาน มอง “ก่อแก้ว” ขอศาล รธน. คืนอำนาจให้ “แพทองธาร” เป็นความเห็นเหมือนประชาชนจำนวนมาก แต่ให้เป็นตามกระบวนการยุติธรรม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ ระบุถึง อยากให้กองทัพสั่งสอนความเจ้าเล่ห์ของฮุนเซนก่อน ว่า ก็เหมือนประชาชนทั่วไป ที่เวลานี้มีความรู้สึกเช่นนั้น หลายคนแสดงความเห็นให้ทำแบบนู้นแบบนี้ เราก็รับฟังความห่วงใยความไม่พอใจที่เราถูกกระทำ ตนเข้าใจความรู้สึกเหล่านั้น และเห็นว่าเป็นจุดมุ่งหมายเดียวกัน เพราะเรื่องอธิปไตยของประเทศ การรุกล้ำเข้ามา กระทบประชาชนเรายอมไม่ได้ ซึ่งที่ผ่านมาทุกฝ่ายจะเห็นว่าเราประนีประนอม (Compromise) ให้มากที่สุด แต่เมื่อสิ่งดังกล่าวไม่เกิดขึ้น และเป็นปัญหา วันนี้จึงได้สั่งการให้ทหารมีอิสระในพื้นที่ โดยผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นผู้คุมยุทธการ ปฏิบัติได้ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงได้มีการทำความเข้าใจกับ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีการโทรคุยกับผู้บัญชาการทหารสูงสุด […]

เข้าสู่วันที่ 2 กัมพูชาเปิดฉากตั้งแต่เช้ามืด ที่ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 25 ก.ค.-เข้าสู่วันที่ 2 เหตุปะทะไทย-กัมพูชา เริ่มเปิดฉากยิงกันตั้งแต่เช้ามืด บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ขณะนี้เสียงยังดังต่อเนื่อง ก่อนขยายการสู้รบไปตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านอีสานใต้ อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เป็นพื้นที่แรกที่ฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงก่อนด้านปราสาทตาเมือนครับ เช้ามืดวันนี้ ราวตี 5 ครึ่ง ก็เริ่มปะทะกันอีก ขณะนี้ก็มีเสียงดังอย่างต่อเนื่อง เส้นทางจากอำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เข้าสู่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ แม้สายแล้ว ก็มีรถสัญจรไปมาค่อนข้างน้อย เนื่องจากเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยการสู้รบ โดยอำเภอพนมดงรักเป็นหนึ่งใน 4 อำเภอ ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ประกาศให้ผู้ที่ไม่มีความจำเป็นเข้าพื้นที่ร่วมกับอำเภอกาบเชิง บัวเชดและสังขะ โดยตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา ในพื้นที่ตามแนวชายแดนได้ยินเสียงการปะทะด้วยกระสุนปืนใหญ่ดังอย่างต่อเนื่อง ผู้นำหมู่บ้านบันทึกสถิติเฉพาะฝั่งไทยตอบโต้เกินกว่า 100 ลูกแล้ว บ้านหนองแรด ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ที่จรวดหลายลำกล้อง BM 21 ตกเยอะสุด 10 ลูก วานนี้โดยรอบหมู่บ้าน โชคดีไม่ลงบ้านเรือน มีกระจกแตกเล็กน้อยจากแรงอัดลูกจรวดเท่านั้น วันนี้ ยังมีชาวบ้านอยู่นับร้อยคนหลบอยู่ในหลุมหลบภัย จากทั้งหมด […]

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

9 ทันโลก : แจงด่วน! คณะมนตรีความมั่นคง ไทยนี้รักสงบ

25 ก.ค. – นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะร่วมประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ตามที่กัมพูชาร้องขอไว้ รายงาน 9 ทันโลก พาไปติดตามบทบาทและโอกาสของไทยบนเวทีสำคัญนี้ ไทยในฐานะสมาชิกสหประชาชาตินานเกือบ 80 ปี จะได้แสดงบทบาทอีกครั้งในคณะมนตรีความมั่นคง ซึ่งเป็นโอกาสสำคัญในการสื่อสารกับประชาคมโลก ถึงการกระทำของกัมพูชา ซึ่งเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศหลายด้าน รวมถึงกฎบัตรสหประชาชาติที่ไทยยึดมั่น ในห้องประชุมนี้ ไทยในฐานะสมาชิกสหประชาชาติ ลำดับที่ 55 จะทำหน้าที่อีกครั้งในภารกิจด้านสันติภาพ ตั้งแต่เข้าเป็นสมาชิกเมื่อปี 2489 ที่นี่ไทยเคยทำหน้าที่ประธานการประชุมคณะมนตรีความมั่นคง โดยพลอากาศเอก สิทธิ เศวตศิลา และหม่อมหลวง พีระพงศ์ เกษมศรี ทำหน้าที่สองวาระ ในปี 2528 และ 2529 ในเวลาที่สงครามเย็นคุกรุ่น มาในวันนี้ไทยกำลังจะมีโอกาสอันดีที่ได้ใช้ช่องทางการทูตสำคัญ เสาหลักความมั่นคงของสหประชาชาติ ในอีกบทบาทหนึ่งที่ยังคงอยู่บนพื้นฐานการแสวงหาสันติภาพตามกลไกนี้ เมื่อประเทศสมาชิก ในกรณีนี้คือกัมพูชา ร้องขอให้เปิดประชุมเร่งด่วน สมาชิกคณะมนตรีซึ่งมีสมาชิกถาวร 5 ประเทศ และสมาชิกไม่ถาวร 10 ประเทศ พิจารณากรณีที่เป็นภัยคุกคามใดต่อสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ เช่น กรณีการปะทะระหว่างไทยกับกัมพูชา […]

น่านยังอ่วม บางจุดน้ำท่วมสูงเกือบ 2 เมตร

น่าน 25 ก.ค. – เข้าสู่วันที่ 3 น้ำท่วมใหญ่เป็นประวัติการณ์ของเมืองน่าน แม้ระดับน้ำลดลงบ้างแล้ว แต่ในตัวเมือง-เขตเศรษฐกิจยังท่วมสูง บางจุดระดับน้ำเกือบ 2 เมตร ขณะที่ “บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์” นำทีมกู้ภัยฝ่ากระแสน้ำเชี่ยวเข้าช่วยเหลือชาวบ้าน .-สำนักข่าวไทย

มีผลทันที! ประกาศกฎอัยการศึก 8 อำเภอ “จันทบุรี-ตราด”

25 ก.ค.- กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ประกาศใช้กฎอัยการศึกบางพื้นที่ มีผลทันที กองทัพเรือ โดย กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด “ประกาศใช้กฎอัยการศึก” บางพื้นที่ ดังนี้ ตามที่ได้มีประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ลงวันที่ 19 กันยายน 2549 ให้ใช้กฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 19 กันยายน 2549 เวลา 21.05 นาฬิกา ซึ่งต่อมาได้มีพระบรมราชโองการเลิกใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่ และให้ใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่ ลงวันที่ 31 ธันวาคม 2550 นั้น โดยที่ปรากฏว่าประเทศกัมพูชาได้ใช้กำลังและอาวุธรุกรานเข้ามาในราชอาณาจักรไทยตลอดแนวชายแดน จึงมีความจำเป็นโดยมิอาจหลีกเลี่ยงได้ที่ต้องใช้กำลังทหาร ตำรวจ พลเรือน ตลอดจนประชาชนชาวไทยทุกคน เพื่อป้องกันประเทศให้พ้นจากภัยคุกคามอันมีที่มาจากภายนอกราชอาณาจักรดังกล่าว เพื่อรักษาไว้ซึ่งอธิปไตยของชาติและบูรณภาพแห่งดินแดน ตลอดจนชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนชาวไทย และจำเป็นต้องประกาศใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่เพิ่มเติม อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 176 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ประกอบกับมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก พุทธศักราช 2457 จึงให้ใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่เพิ่มเติม ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 จังหวัดจันทบุรี อำเภอเมืองจันทบุรี […]

จรวด BM-21 ตกในพื้นที่สุรินทร์ 6 ลูก เร่งอพยพคนเพิ่ม

สุรินทร์ 25 ก.ค. – กระสุนของฝั่งกัมพูชามาตกไกลกว่าเหตุปะทะปี 2554 ตามที่เจ้าหน้าที่คาดการณ์ ล่าสุดมีจรวด BM-21 จำนวน 6 ลูก ตกในพื้นที่ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ เตรียมอพยพประชาชนไปยังที่ปลอดภัยกว่า .-สำนักข่าวไทย