นครราชสีมา 28 เม.ย.-“สุวัจน์” นำทีม ชพก. ขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่โคราช ชูนโยบายเศรษฐกิจ 12 ด้าน และโคราชโนมิกส์ คนแห่ฟังแน่น ประกาศจุดยืนหนุนพักอันดับ 1 เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล
วันที่ 28 เมษายน 2566 เวลา 17.00 น. นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรค, พร้อมผู้สมัคร ส.ส.นครราชสีมา ทุกเขต อาทิ นายเทวัญ ลิปตพัลลภ ผู้สมัคร ส.ส. เขต1 เบอร์ 5 นายวัชรพล โตมรศักดิ์ ผู้สมัคร ส.ส. เขต 2 เบอร์ 6 นายสมศักดิ์ กาญจนวัฒนา ผู้สมัคร ส.ส.เขต 3 เบอร์ 1 นายสมบัติ กาญจนวัฒนา ผู้สมัครส.ส. เขต 4 เบอร์ 4 และวิว” เยาวภา บุรพลชัย รองโฆษกพรรคฯ ผู้สมัครส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ เปิดเวที่ปราศรัยใหญ่ หน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา มีพี่น้องประชาชนชาวโคราชมารับฟังการปราศรัยใหญ่กว่า 20,000 คน
โดยก่อนการปราศรัย นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า ได้พาคณะมากราบสักการะคุณย่าโม พระชัยเมือง และพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 หน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา เพื่อความเป็นศิริมงคล และก่อนขึ้นเวที่ปราศรัย นายสุวัจน์ พร้อมผู้สมัครทั้ง 16 เขต ได้กล่าวทักทายพบปะพี่น้องประชาชนอย่างใกล้ชิด
โดยนายสุวัจน์ นำเสนอนโยบายของพรรคชาติพัฒนากล้า”งานดี มีเงิน ของไม่แพง” โดยเฉพาะของจังหวัดนครราชสีมา มีนโยบาย”โคราชโนมิกส์”ซึ่งเป็นนโยบายเฉพาะในการพัฒนาโคราชและภาคอีสาน เอาเศรษฐกิจยุคทองกลับมา ประกอบด้วยนโยบาย 5 ด้าน คือ 1.นโยบายการสร้างภาคอีสานให้เป็นระเบียงเศรษฐกิจใหม่ของโคราช 2.นโยบายการสร้างระบบคมนาคมที่เข้มแข็งและทันสมัย 3.นโยบายการสร้างให้โคราชอีสานเป็นดินแดนแห่งเมืองท่องเที่ยวที่เป็นอินเตอร์ 4.นโยบายโคราชอีสานเป็นเมืองผลิตอาหารให้กับโลก และ สุดท้าย 5.นโยบายการแก้ไขปัญหาที่พี่น้องประชาชนประสบมากๆ คือ น้ำท่วม น้ำแล้ง และน้ำประปาไม่เพียงพอ หรือนโยบายโคราชเมืองน้ำไม่ท่วม น้ำไม่แล้ง ประปาเพียงพอ รวมทั้งเรื่องกัญชาเสรีไม่ 100% ต้องมีการควบคุมดูแล
ส่วนนโยบายภาพรวม”งานดี มีเงิน ของไม่แพง” สร้างแพลตฟอร์มเศรษฐกิจใหม่ โดยเปิดนโยบายทั้งหมด 12 เรื่อง อันดับแรก คือ ปรับโครงสร้างราคาน้ำมัน เพื่อจะทำให้แก๊ส ค่าไฟ ถูกลง น้ํามันแพงมาจากปัจจัย 3 อย่าง คือ 1.การกําหนดราคาน้ํามันดิบ คือ น้ํามันดิบ เราไปซื้อจากต่างประเทศอันนี้เราควบคุมไม่ได้ 2.ค่าการตลาด คือ ปั๊มน้ํามัน จะมีค่าเด็กปั้ม มีค่าใช้จ่าย 3.ที่เราสามารถควบคุมได้คือ ค่าการกลั้น หมายความว่าโรงกลั่นในประเทศไทย มีอยู่ 6 โรงทั่วประเทศ สมัยก่อนโรงกลั่นน้ํามันในประเทศ กำไรปีประมาณ 3,000 ล้าน แต่ช่วงที่น้ำมันแพงๆ ไม่ใช่ปีนะ 6 เดือนกำไรหมื่น 5,000 ล้าน เพราะราคาที่ตั้งเป็นราคาที่เราไปอิงจากสิงคโปร์ ดังนั้น ถ้าวันนี้พรรคชาติพัฒนากล้าได้มีโอกาสไปดูแลพี่น้องเราจะบอกเลิกไปอิงราคาสิงคโปร์ ต้องอิงราคาเมืองไทย ฉะนั้น น้ำมันจะราคาถูกลงแน่นอน จะถูกลงขนาดไหนจะว่ากันอีกที แต่ไม่มีทางที่จะถึง 33-35 บาท ต้องต่ำกว่า 30 แน่นอนพอน้ำมันถูกแก๊สก็จะถูกก็จะทำให้ต้นทุนลดลง ก็จะทำให้ค่าไฟ ที่พวกเราเสียทุกวันนี้ลดลงเหมือนกัน
- มอเตอร์เวย์ทั่วไทย 4 ทิศ 2,000 กม. 3.ท่องเที่ยวนำไทย เพิ่มนักท่องเที่ยว 2 เท่า 80 ล้านล้านคน 4.หาเงินใหม่ให้ประเทศ 5 ล้านล้าน 5.ลดภาษีบุคคล เงินเดือน 40,000 บาทแรกไม่ต้องเสียภาษี 6.ยกเลิกแบล็กลิสต์บูโร รื้อระบบสินเชื่อ 7. Gov-Tech ราชการในมือถือ รวดเร็ว ปลอดคอร์รัปชั่น รื้อระบบราชการ 8.เกษตรสร้างชาติ เพิ่มมูลค่าด้วยเทคโนโลยี-อุตสาหกรรม 9.สร้างเด็กไทย 3 ภาษา ไทย-ต่างประเทศ-Coding 10.ทุนธุรกิจสร้างสรรค์ สูงสุดรายละ 1,000,000 บาท ไม่จำกัดวุฒิและวัย 11.สูงวัยไฟแรง งานใหม่ 5 แสนตำแหน่ง 12.อารยสถาปัตย์ ปรับปรุงบ้าน 50,000 ให้ผู้สูงวัยและผู้พิการ
นายสุวัจน์ กล่าวว่า ในส่วนของจุดยืนของพรรคชาติพัฒนากล้า ตอนนี้เรายังไม่ได้พูดถึงเรื่องของการไปจับมือกับพรรคใดพรรคหนึ่งในการจัดตั้งรัฐบาล เพราะยังไม่ได้มีการเลือกตั้ง แต่ภายหลังจากการเลือกตั้งเสร็จสิ้นแล้วถ้าหากพรรคการเมืองใดมีคะแนนมาเป็นอันดับที่ 1 ก็ถือว่าเป็นพรรคการเมืองที่มีความชอบธรรมในการเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เพราะถือว่าเป็นฉันทามติ ของประชาชนส่วนใหญ่แล้ว ซึ่งพรรคชาติพัฒนากล้าก็พร้อมที่จะสนับสนุนพรรคนั้นเพื่อทำให้รัฐบาลมีเสถียรภาพและสามารถบริหารประเทศชาติ ด้วยความราบรื่น ต่อไป.
สำหรับจุดแข็งของการหาเสียงของพรรคชาติพัฒนากล้านั้น นายสุวัจน์ ย้ำว่าเราพยายามที่จะตอกย้ําความเป็นไปได้แล้วการเกิดขึ้นจริงและสิ่งที่จะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาเศรษฐกิจที่อยู่ภายใต้นโยบายเศรษฐกิจของพรรค ในเรื่องนโยบายในการที่จะสร้างงานใหม่ๆ เพื่อให้งานไปสร้างเงินให้กับพี่น้องประชาชน หรือว่านโยบายที่จะลดค่าครองชีพ ค่าไฟ ค่าน้ํามัน โดยเฉพาะเรื่องโคราชโนมิกส์ เราได้รับการขานรับซึ่งจะนำไปสู่การลงทุนครั้งใหญ่ของภาคอีสาน เรามีอุตสาหกรรมเกิดขึ้นพี่น้องแรงงานก็ไม่ต้องย้ายถิ่น และโครงสร้างพื้นฐานที่รัฐสร้างไว้แล้วก็ไปเร่งให้เสร็จโดยเร็วทุกอย่างก็จะเกิดขึ้นจริงๆ ก็จะชูเรื่องของนโยบายสร้างความชัดเจนของนโยบาย และจะต้องเน้นในเรื่องของการปราศรัยพบกับพี่น้องประชาชน ให้มากขึ้น เพื่อให้พี่น้องประชาชนที่ยังไม่ทราบได้ความชัดเจนมากขึ้น.-สำนักข่าวไทย