เชียงใหม่ 27 เม.ย. – “ศิธา” ควง “จินนี่” ขึ้นปราศรัยครั้งแรก ที่ ม.เชียงใหม่ เดือด “เอาเผด็จการไปลาบ” ชูเรียนฟรีจนจบ ป.ตรี ไม่เป็นหนี้ กยศ.
วันที่ 27 เม.ย. 2566 ณ ศาลาอ่างแก้ว มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ พรรคไทยสร้างไทย นำโดย น.ต.ศิธา ทิวารี แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดเชียงใหม่ อาทิ นายภวฤทธิ์ กาญจนเกตุ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 , ด.ต.ดร.เกษมสันต์ ยศรุ่งโรจน์ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2, น.ส.วิภาพรรณ วงษ์สว่าง ผู้สมัคร ส.ส.เขต 3, ดร.บุญทา ชัยเลิศ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 4, น.ส.ณัฐชา โปธายี่ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 9 เปิดเวทีปราศรัยในแคมเปญ “เอาเผด็จการไปลาบ” พร้อมลงนามสัตยาบันลาบเผด็จการ เพื่อตอกย้ำจุดยืนฝ่ายประชาธิปไตยของพรรคไทยสร้างไทย ว่าจะไม่เป็นนั่งร้านให้เผด็จการได้มีอำนาจต่อไป ไม่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร เป็นนายก และไม่จับมือกับพรรครวมไทยสร้างชาติและพรรคพลังประชารัฐในการจัดตั้งรัฐบาล มีประชาชนและนักศึกษาเข้าร่วมรับฟังการปราศรัยอย่างคึกคักมากกว่า 2,000 คน
พร้อมเปิดตัว น.ส.ยศสุดา ลีลาปัญญา หรือ จินนี่ บุตรสาวคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เป็นผู้ช่วยหาเสียงพรรคไทยสร้างไทย ขึ้นเวทีปราศรัยครั้งแรก โดยได้กล่าวถึงนโยบายการศึกษาของพรรคไทยสร้างไทย ในการให้เด็กไทยเรียนฟรีจนจบปริญญาตรี ไม่เป็นหนี้ กยศ. พร้อมลดเวลาเรียน 3 ปี อายุ 18-19 ปี ก็เรียนจบปริญญา สามารถเข้าสู่ตลาดแรงงานได้เร็วขึ้น มีรายได้เร็วขึ้น และลดภาระผู้ปกครอง
“พรรคไทยสร้างไทย จะดูแลการศึกษาให้คนไทยเรียนจบปริญญาตรีอย่างมีคุณภาพ มีคูปองสำหรับดูแลเด็กแรกเกิดถึง 6 ปี เดือนละ 3,000 บาท มีคูปองการศึกษาให้เรียนฟรีจนจบปริญญาตรี เพื่อให้เด็กไทยมีคุณภาพ เรียนในสิ่งที่อยากเรียน จบมามีงานทำ ไม่ใช่เรียนหนักแล้วไปตกงานในอนาคต” น.ส.ยศสุดา กล่าว
นอกจากนี้ น.ต.ศิธา ยังได้ตอบคำถามนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กรณีอธิการบดี คณบดี หรืออาจารย์ปิดกั้นการแสดงออกของนักศึกษา โดยกล่าวว่า พรรคไทยสร้างไทย จะผลักดันให้มีเอกสิทธิ์คุ้มครองนักศึกษา ที่แสดงออกซึ่งสิทธิเสรีภาพในพื้นที่มหาวิทยาลัย เหมือนอย่างเอกสิทธิ์ ส.ส. ในสภา และจะแก้กฎหมายกำหนดให้มหาวิทยาลัยต้องเปิดพื้นที่ให้นิสิต นักศึกษา ได้แสดงความคิดเห็น และแสดงออกซึ่งสิทธิเสรีภาพ
“สิ่งที่ผู้ใหญ่รู้เมื่อก่อน ทุกวันนี้เสิร์ชหาในกูเกิลแปปเดียวก็เจอ แต่สิ่งที่เด็กรู้วันนี้ ผู้ใหญ่เสิร์ชหาที่ไหนก็ไม่เจอ ดังนั้น ผู้ใหญ่ต้องฟังเด็ก เพราะผู้ใหญ่อีก 20-30 ปี ก็ลงโลงกันหมด แล้วประเทศนี้ก็จะกลายเป็นของเด็ก เราต้องรับฟัง แลกเปลี่ยนความเห็น และหาทางออกร่วมกัน และนี่คือสาเหตุว่าทำไมผมกับคุณหญิงสุดารัตน์ และผู้ร่วมอุดมการณ์ จึงออกมาก่อตั้งพรรคไทยสร้างไทย เพื่อเป็นสะพานเชื่อมระหว่างคนรุ่นเก่ามากประสบการณ์และคนรุ่นใหม่ไฟแรงเก่งๆ เพื่อสร้างประเทศไทยที่ดีที่สุด” น.ต.ศิธา กล่าว .-สำนักข่าวไทย