นครราชสีมา 26 เม.ย.-“สุวัจน์” เล่าตำนานเส้นขนมจีนโคราชสู่ตลาดโลก สำรวจราคาสินค้า ความรู้สึกคนโคราช ยิ้มรับ โคราชโนมิกส์ มั่นใจชนะเลือกตั้ง 66
นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า ลงพื้นที่ช่วย นายเทวัญ ลิปตพัลลภ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 เบอร์ 5 หาเสียงพบปะพี่น้องประชาชนที่ตลาดแม่กิมเฮง จ.นครราชสีมา พบว่า ราคาสินค้าอุปโภคบริโภค ข้าวสาร ไข่ เนื้อหมู ผักสด ยังอยู่ในราคาที่ประชาชนจับจ่ายได้ เช่น ไข่ไก่ฟองละ 3-4 บาท หมู กก.ละ 170 บาท
นายสุวัจน์ กล่าวว่า พี่น้องประชาชนตลาดใหญ่ของเมืองคือ ตลาดประปากับตลาดแม่กิมเฮง ส่วนใหญ่พ่อค้าแม่ค้าพูดเหมือนกันหมด คือ อยากให้เศรษฐกิจดีๆ อยากให้คนมาซื้อของเยอะๆ และบ่นเรื่องค่าไฟเลยทำให้จำได้ เบอร์ 5 ประหยัดไฟ ทำให้ค่าไฟราคาถูกสินค้าเบอร์ห้า คือ พี่น้องประชาชนสะท้อนปัญหาเหล่านี้ คิดว่า อะไรที่ช่วยลดภาระให้พี่น้องประชาชนได้จะรีบทำ
โดยเฉพาะเรื่องค่าไฟ เป็นต้นทุนกับทุกชีวิต เป็นต้นทุนกับค่าสินค้าทุกอย่าง ถ้าค่าไฟถูก น้ำมันถูก สินค้าทุกอย่างก็ลดลง นี้ก็เป็นนโยบายที่ทุกพรรคตอนนี้ก็คิดเห็นตรงกัน ต้องแก้ไขเรื่องค่าไฟ พรรคชาติพัฒนากล้าก็เลยได้หยิบยกประเด็นนี้
“ถึงเวลาแล้วที่จะต้องทําเรื่องพลังงานกันอย่างจริงจัง ในการที่จะปรับโครงสร้างเรื่องราคา เพราะว่าโครงสร้างของราคาน้ำมันกับโครงสร้างราคาไฟฟ้าใช้กันมานานแล้ว และเมื่อสถานการณ์มาถึงวิกฤตเป็นจุดที่เป็นปัญหาของประเทศแล้วทุกคนเห็นตรงกัน ตนว่าหน้าที่ของพวกเราหลังจากการเลือกตั้ง ต้องมาทําเรื่องนี้กันอย่างจริงจัง เรื่องการปรับโครงสร้างทําอย่างไร ว่าโครงสร้างอะไรที่จะทําให้น้ํามันถูกลง โครงสร้างราคา โครงสร้างการผลิตอะไรที่ทําให้การไฟฟ้าถูกลง ต้องทําด้วยเพื่อดึงเศรษฐกิจขึ้นมา อย่าลืม ถ้าเกิดว่าพลังงานราคาถูกก็ต้อนรับนักลงทุน พลังงานราคาถูกก็ต้อนรับนักท่องเที่ยว ทุกอย่างเกี่ยวพันกันหมดกับระบบเศรษฐกิจ อย่างวันนี้เดินตลาด สะท้อนเลยว่า ทุกคนจะพูดว่าค่าไฟแพง” นายสุวัจน์ กล่าว
เมื่อถามถึงประเด็นการหาเสียงกับนโยบายประชานิยม นายสุวัจน์ มองว่า ทุกคนพยายามที่จะนําเสนอนโยบายในการที่จะเข้าไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชนโดยตรงว่าถ้าทําอย่างนี้เป็นการช่วยโดยตรงอย่างรวดเร็วเพียงแต่ว่าเราก็ต้องดูกันให้รอบคอบว่างบประมาณภาระหนี้สิน เงินในมือของรัฐบาลมีมากน้อยเพียงใด ไม่มีปัญหาเลยในการที่จะเข้าไปช่วยเหลือประชาชนต้องดูโครงสร้างทางเศรษฐกิจ สภาพทางการเงินของประเทศสภาพคล่องของประเทศ
แต่ในส่วนของพรรคชาติพัฒนากล้านั้น คิดว่าการที่จะช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ดีที่สุด คือ ส่งงานให้พี่น้องประชาชน แล้วงานก็สร้างเงินและก็จะยั่งยืน พรรคเลยคิดนโยบายที่เป็นงานใหม่ๆ ให้มันเกิดขึ้น งานในภาคเกษตร งานในภาคท่องเที่ยว งานในภาคการผลิตอาหาร งานในภาควัฒนธรรม Soft Power โดยเฉพาะเรื่องท่องเที่ยววันนี้ถือว่าเป็นพระเอกในการกอบกู้เศรษฐกิจของประเทศ ขณะเดียวกันก็ต้องจัดการในเรื่องของแพงกันอย่างจริงจัง
นายสุวัจน์ กล่าวว่า ในสมัยที่ตนเป็นรัฐมนตรีอุตสาหกรรมขณะนั้น ขนมจีนบ้านประโดกผลิตขนมจีนอย่างเดียว ยังไม่ได้เป็นร้านขายขนมจีน แต่ตอนหลังได้มีการพัฒนาจากผลิตขนมจีน เป็นร้านขายขนมจีนมีน้ำยาขนมจีนด้วย และต่อมาก็พัฒนาเป็นขนมจีนแพ็คสำเร็จรูปพร้อมรับประทานแล้วส่งไปขายต่างประเทศไปสู่ตลาดโลก
“วันนี้ขนมจีนบ้านประโดก กลายเป็นจุดท่องเที่ยวของเมืองโคราช ใครมาก็ต้องมากินขนมจีนบ้านประโดก เมื่อวานไปเยี่ยมพวกกลุ่มที่ขายขนมจีนก็มาบอกว่าตรงสี่แยกที่จะมาทำโครงการทางลอดอุโมงค์ เรียกว่าสี่แยกโคกไผ่ อยากให้เปลี่ยนเป็นสี่แยกขนมจีน จะได้เป็นจุดขายของขนมจีนบ้านประโดก ตอนนี้ก็มีชื่อเสียง ขนมจีนเป็นสัญลักษณ์ของโคราช โคราชขนมจีนบ้านประโดก โคราชชาติพัฒนา กินขนมจีน กินแล้วมีแรง กินแล้วอายุยืน ถ้าเกิดกินขนมจีนแล้วค่าไม่แพงก็ดีนะ” นายสุวัจน์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย