ร้อง กกต.สั่งเพื่อไทยตรวจสอบสมาชิก “อนุรักษ์”

กกต. 26 เม.ย. – “ศรีสุวรรณ” ร้องเลขาฯ กกต. สั่งพรรคเพื่อไทย ห้ามสมาชิกฝ่าฝืนกฎหมายคอร์รัปชัน หลังศาลตัดสิน “อนุรักษ์” มีความผิดคดีเรียกรับเงิน และห้ามดำรงตำแหน่งทางการเมือง-เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง


นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นคำร้องต่อเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง ในฐานะที่เป็นนายทะเบียนพรรคการเมือง เพื่อขอให้แจ้งไปยังคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย เพื่อให้ควบคุมและกำกับดูแลสมาชิกพรรคเพื่อไทยกระทำการอันเป็นการฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญและหรือกฎหมาย หลังศาลฎีกามีคำพิพากษาจำคุกนายอนุรักษ์ ตั้งปณิธานนท์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดมุกดาหาร สังกัดพรรคเพื่อไทย

ทั้งนี้ เนื่องจากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้อ่านคําพิพากษาเมื่อวันที่ 25 เมษายน หมายเลขดำที่ อม.4/2565 โดยพิพากษาจำคุก 6 ปี  นายอนุรักษ์มีความผิดตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต มาตรา 173 และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 กรณีถูกกล่าวหาว่าโทรศัพท์ไปเรียกรับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด จากนายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาลในขณะนั้น จำนวน 5 ล้านบาท ซึ่งกรณีดังกล่าวสื่อมวลชนได้รายงานแพร่หลายเป็นการทั่วไปแล้ว


ก่อนหน้านี้ในกรณีเดียวกันนี้ เมื่อวันที่ 6 มกราคม ศาลฎีกามีคำพิพากษาให้นายอนุรักษ์พ้นตำแหน่ง ส.ส.มุกดาหาร พรรคเพื่อไทย เหตุฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง จากกรณีดังกล่าวด้วย โดยให้พ้นจากตำแหน่ง ส.ส.มุกดาหาร พรรคเพื่อไทย นับตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม 2564 ซึ่งเป็นวันที่ศาลฎีกามีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดไป และไม่มีสิทธิดำรงตำแหน่งทางการเมืองใดๆ และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งเป็นเวลา 10 ปี นับตั้งแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษา

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า ตามมาตรา 22 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง กำหนดไว้ชัดเจนว่าคณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองและกรรมการบริหารพรรคการเมือง มีหน้าที่ควบคุมและกํากับดูแลมิให้สมาชิกกระทําการอันเป็นการฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ กฎหมาย และนายทะเบียนพรรคการเมืองมีหน้าที่ที่จะต้องแจ้งให้คณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองทราบว่าสมาชิกกระทําการอันอาจมีลักษณะเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย ให้คณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองมีมติหรือสั่งการให้สมาชิกยุติการกระทํานั้นโดยพลัน และกําหนดมาตรการหรือวิธีการที่จําเป็นเพื่อไม่ให้สมาชิกผู้ใดกระทําการอันอาจมีลักษณะดังกล่าวอีก แล้วแจ้งให้นายทะเบียนพรรคการเมืองทราบภายใน 7 วัน นับแต่วันที่มีมติ กรณีดังกล่าวสมาคมฯ จึงต้องร้องเรียนให้เลขาฯ กกต. ซึ่งเป็นนายทะเบียนพรรคการเมืองให้เร่งดำเนินการตาม ม.22 ตามกฎหมายดังกล่าว หากคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยไม่ดำเนินการก็อาจถูกสั่งให้พ้นจากตำแหน่งทั้งคณะได้.-สำนักข่าวไทย 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตึกถล่มพบเสียชีวิตเพิ่ม

พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่าง

พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ในพื้นที่โซน B และโซน C มีซากอาคารถล่มทับร่างอยู่ ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่างและค้นหาผู้สูญหายใต้ซากอาคารต่อเนื่อง

ชายวัย 50 ไหว้ขอโทษ ไม่มีเจตนากุเรื่องเมียท้อง 4 เดือน ติดใต้ซากตึก สตง.

ชายวัย 50 ปี ยกมือไหว้ขอโทษ ไม่มีเจตนากุเรื่องภรรยาท้อง 4 เดือน ติดใต้ซากอาคาร สตง.ถล่ม ด้านรอง ผบช.น. เตือนอย่าใช้โอกาสที่มีผู้ประสบเหตุสร้างความสงสารหลอกเอาทรัพย์สิน มีความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน

ออกแล้ว! ผลตรวจเหล็ก 28 ชิ้น ตึก สตง.ถล่ม พบไม่ได้มาตรฐาน 13 ชิ้น

ผลตรวจตัวอย่างเหล็ก 28 ชิ้น ตึก สตง.ถล่มจากแผ่นดินไหว พบได้มาตรฐาน 15 ชิ้น ไม่ได้มาตรฐาน 13 ชิ้น ยังไม่สรุปเป็นสาเหตุตึกถล่ม ชี้ต้องดูหลายองค์ประกอบ

ข่าวแนะนำ

ตึกถล่ม

วันที่ 6 ปรับแผนใช้เครนยักษ์ยกปูนค้นหา 72 ชีวิต

เข้าสู่วันที่ 6 ทีมงานกู้ซากตึกถล่ม ปรับแผนค้นหา 72 ชีวิต ด้านญาติผู้สูญหายยังคงรอความหวัง บางส่วนจุดธูปปักลงดิน ขอแม่ธรณีเปิดทางช่วยทุกคนรอดชีวิต

นายกฯ เยี่ยมญาติตึกถล่ม

นายกฯ เยี่ยมให้กำลังใจญาติผู้ประสบภัยตึกถล่มที่ศูนย์พักคอย

นายกฯ เข้าเยี่ยมให้กำลังใจญาติผู้ประสบภัยตึกถล่มที่ศูนย์พักคอย “ขอให้ดูแลตัวเอง อย่าพึ่งป่วย”

กิจการร่วมค้าซีไอเอส

สั่งฟัน “กิจการร่วมค้าซีไอเอส” จ่อยกเลิกสัญญาจ้างสร้างเทอร์มินัลใหม่

“มนพร” รมช.คมนาคม สั่งฟัน “กิจการร่วมค้าซีไอเอส” เตรียมยกเลิกสัญญาจ้างสร้างเทอร์มินัลใหม่ “สนามบินนราธิวาส” พร้อมขึ้นแบล็คลิสต์เป็นผู้ทิ้งงาน ห้ามรับงานภาครัฐ หลังพบสร้างช้ากว่าแผน 60.76% งานอืดรวม 631 วัน มอบ ทย. ลุยตรวจสอบวัสดุอุปกรณ์ จี้ให้รายงานกลับมาภายใน 3 วัน ยันทุกโปรเจกต์ต้องผ่านมาตรฐาน-การตรวจเช็กจากวิศวกร

จำคุกชาวจีน

ศาลสั่งจำคุก 4 ชาวจีน ขนเอกสาร ตึก สตง.ถล่ม

ศาลพิพากษาจำคุก 4 ชาวจีน เข้าไปขนเอกสาร จากพื้นที่ อาคาร สตง. ถล่ม คนละ 2 เดือน ปรับ 6,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี