ตรวจสอบนโยบายหาเสียงพรรคการเมือง-ย้ำทำแผนแจงที่มาเงินทุน

กรุงเทพฯ 25 เม.ย. – ป.ป.ช. ส่งเกณฑ์ชี้วัดป้องกันทุจริตเชิงนโยบายให้ กกต. นำไปตรวจสอบนโยบายหาเสียงพรรคการเมือง วอนคิดก่อนเลือก อย่าเห็นแก่ผลประโยชน์เล็กน้อย อาจได้ไม่คุ้มเสีย ย้ำพรรคต้องทำแผนแจงที่มาเงินทุน แผนสำรองหาเสียงที่จับต้องได้ เลี่ยงทุจริต


วันนี้ (25 เม.ย.) นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวถึงกรณีประธาน ป.ป.ช. ทำหนังสือถึง กกต. เกี่ยวกับแนวมาตรการในการตรวจสอบนโยบายหาเสียงของพรรคการเมือง ที่ขณะนี้ กกต. กำลังตรวจสอบนโยบายที่ใช้งบประมาณแผ่นดินที่ต้องให้พรรคการเมืองอธิบาย ประกอบด้วย เกณฑ์ชี้วัดความเสี่ยงต่อการทุจริตเชิงนโยบาย โดยพรรคจะต้องอธิบายถึงแหล่งที่มาของงบประมาณที่กำหนดนโยบาย นโยบายที่ใช้หาเสียง ว่าเป็นนโยบายของไทยหรือต่างประเทศที่เคยกำหนดไว้ก่อนหรือไม่ นำตัวอย่างมาจากต่างประเทศหรือเคยมีการใช้ประกาศหาเสียงมาแล้ว ผลการดำเนินตามนโยบายที่เคยหาเสียงเป็นอย่างไร ประสบความสำเร็จหรือล้มเหลว เปรียบเทียบกับหลักเกณฑ์นโยบายหาเสียงที่ได้พัฒนาขึ้นมา มีการกำหนดกลุ่มเป้าหมาย ผู้มีส่วนได้เสียไว้ชัดเจนหรือไม่ หรือกลุ่มเป้าหมายนั้นมีแนวโน้มได้รับประโยชน์หรือเสียประโยชน์ทั้งทางตรง ทางอ้อม จากนโยบายดังกล่าวอย่างไร และนโยบายที่พัฒนาเป็นนโยบายที่เกิดในช่วงที่พรรคมาเป็นฝ่ายบริหารของประเทศก่อนหน้านั้นและได้วางนโยบายก่อนการเลือกตั้งหรือไม่

ส่วนเกณฑ์การชี้วัดผลกระทบ ความคุ้มค่า ความเป็นไปได้ และความเสี่ยงของนโยบาย ความเป็นไปได้นั้นต้องมีคณะทำงานวิเคราะห์ผลกระทบจากนโนบายทั้งด้านเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม ฐานะทางการเงิน และการเงินการคลัง ทั้งระยะสั้น ระยะยาว และต้องพิจารณาความคุ้มค่าเป็นไปได้ ความเสี่ยงนโยบาย การมีส่วนร่วมจากภาควิชาการ ประชาสังคม รวมถึงต้องศึกษาผลกระทบเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อมชุมชน การเมือง ความมั่นคงของประเทศ รวมถึงความสัมพันธ์หลักของประเทศ กระทบต่อการดำเนินงานหน่วยงานเจ้าของโครงการ และจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบ ความคุ้มค่าความเสี่ยงทุจริตเชิงนโยบาย รวมถึงจัดทำแผนรองรับนโยบายตามที่จำเป็น เพราะหากดำเนินโครงการแล้วเกิดผลกระทบ เกิดความเสี่ยง ต้องมีแผนสำรองเพื่อให้ปรับปรุงนโยบาย อีกทั้งต้องศึกษาผลกระทบกับผู้มีส่วนได้เสียจากนโยบายโดยตรง ส่วนนโยบายที่ไม่มีการใช้จ่ายงบประมาณ แต่มีผลกระทบหรือมีแนวโน้มส่งผลกระทบต่อสถานะวินัยการเงินการคลัง การบริหารประเทศอย่างมีนัยสำคัญ จะต้องมีการวิเคราะห์ความเสี่ยงอย่างละเอียด และจะต้องเผยแพร่ผลการศึกษาต่อสาธารณะและเปิดรับฟังความคิดเห็น รวมถึงตอบข้อซักถามด้วย


นอกจากนี้ยังมีเกณฑ์ชี้วัดแนวนโยบายเจตจำนงทางการเมืองของพรรคในการต่อต้านทุจริตคอร์รัปชัน ซึ่งพรรคจะต้องมีแนวนโยบายที่แสดงออกเจตจำนงทางการเมืองอย่างชัดเจน ปัจจุบันไม่ค่อยพบในการหาเสียง ส่วนใหญ่จะพบนโยบายประชานิยม ลด แลก แจก แถม ให้ แต่ไม่มีแผนปรับปรุงแก้ไขปัญหาการทุจริต วิธีการ รวมถึงความร่วมมือกับภาครัฐ เอกชน ส่วนราชการ และระบุแผนการต่อต้านการทุจรติอย่างชัดเจน งบประมาณ กระบวนการวิเคราะห์การทุจริต แนวทางหรือการสนับสนุนการป้องกันการทุจริต รวมถึงสร้างความเข้มแข็งการบริหารราชการแผ่นดิน เปิดให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม

ขณะที่เกณฑ์ชี้วัดความโปร่งใสในการพัฒนานโยบายของพรรคการเมือง ซึ่งจะต้องมีการเปิดโอกาสให้ประชาชนในการจัดทำนโยบาย จัดทำร่างแผนพัฒนานโยบายที่จับต้องได้ มีข้อมูลเชื่อมโยงแผนยุทธศาสตร์ชาติ และแผนแม่บทตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ ซึ่งจะต้องจัดจัดทำเป็นรายงานฉบับสมบูรณ์ส่งกลับไปให้ กกต. ตรวจสอบ วิเคราะห์นโยบาย ก่อนเผยแพร่รับฟังความคิดเห็นจากสาธารณชน เพื่อเป็นการยืนยันว่านโยบายที่ใช้ในการหาเสียงจับต้องได้ เป็นรูปธรรม มีที่มาของแหล่งเงินทุน รวมถึงแผนรองรับความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นจากนโยบายลด แลก แจก แถม จะสุ่มเสี่ยงต่อการทุจริตหรือไม่ หรืออาจจะนำนโยบายไปฉกฉวยหาผลประโยชน์อย่างไร เชื่อว่าจะเป็นอีกมาตรการหนึ่งในการป้องกันการทุจริตเชิงนโยบาย หรือป้องกันความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต

นายนิวัตไชย ยังแสดงความห่วงใยนโยบายในการหาเสียง โดยเฉพาะแหล่งเงินทุนที่จะนำมาใช้ในการจัดทำนโยบาย วงเงินที่จะใช้ และจะหาเงินมาจากไหน เพื่อให้สอดคล้องกับอัตราภาษีที่จัดเก็บได้ จึงอยากให้รับฟังความคิดเห็นของนักวิชาการ นักเศรษฐกิจ ในเรื่องของวินัยการเงินการคลังที่ระบุในกฎหมาย ต้องใช้เงินอย่างระมัดระวัง มีเงินสำรอง ไม่สามารถใช้เงินทุนสำรองไปใช้จ่ายเกินกรอบ เพราะทุกวันนี้ยังมีการกู้ยืมเงินจากต่างประเทศ จึงอยากฝากทั้งนักการเมืองและประชาชน ช่วยกันติดตามสอดส่องนโยบายของพรรค อย่ามองแค่ผลประโยชน์ส่วนตัว แต่ต้องผลประโยชน์ส่วนรวมของประเทศ


“ขออย่ามองว่าเขาให้ร้อยบาท แต่สุดท้ายเราต้องเสียเพิ่มหนึ่งหมื่นบาท ไม่คุ้มกับสิ่งที่ได้รับ ประเทศชาติที่เสียหายก็มีผลกระทบต่อท่านในอนาคต วันนี้ท่านอาจจะได้ แต่วันหน้าท่านอาจจะเสียมากกว่านี้ ประชาชนเองต้องช่วยกัน การทุจริตคอร์รัปชันจะโทษใครไม่ได้ วันนี้เป็นหน้าที่ท่านที่จะต้องเลือกคนดีเข้ามาบริหารประเทศ ถ้าเลือกคนไม่ดีเข้ามาจะโทษ ป.ป.ช. ไม่ได้ว่าคนนี้เลือกเข้ามาแล้วทุจริต เป็นหน้าที่ ป.ป.ช. ต้องลงไปปราบปราม ไม่ได้ ถ้าจะโทษต้องโทษท่านที่เลือกเข้ามา เพราะฉะนั้นก่อนเลือก คิดวิเคราะห์ให้ดีๆ ก่อน อย่าเห็นแก่ผลประโยชน์ที่ได้รับเล็กๆ น้อยๆ” นายนิวัติไชย กล่าว .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

PEA ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา 5 จุด

เริ่มแล้ว การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) รับนโยบาย สมช.สั่งตัดไฟฟ้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งเมียนมา 5 จุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้

บุกจับกำนันหญิงแหนบทองคำ ฉ้อโกง 41 ล้าน

ตำรวจพิษณุโลกเปิดปฏิบัติการ “หักขาไก่” นำ 10 หมายจับ รวบตัว “กำนันหญิงแหนบทองคำ” ประธานกองทุนหมู่บ้าน กับคณะกรรมการกองทุนฯ ร่วมฉ้อโกงประชาชน หลังชาวบ้าน 140 ราย แจ้งความ มูลค่าความเสียหาย 41 ล้านบาท

ชาวเมียวดีหวั่นถูกตัดไฟฟ้า เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์

ชาวบ้านเมียวดี ฝั่งเมียนมา ตรงข้ามชายแดนแม่สอด จ.ตาก หวั่นไทยตัดไฟฟ้า กระทบวงกว้าง เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์-เครื่องปั่นไฟ รับมือ ด้าน PEA ชี้ตัดไฟเมียนมาอาจสูญเปล่า หากไม่พิจารณาให้ครบถ้วน

ข่าวแนะนำ

นายกฯ​ ยกคณะเยือนจีน หารือความร่วมมือรอบด้าน

นายกรัฐมนตรี​ ยกคณะเยือนจีนอย่างเป็นทางการ หารือความร่วมมือรอบด้าน แก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์-อาชญากรรมข้ามชาติ ย้ำไทยปลอดภัย พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนตลอดปี สานต่อ​รถไฟความเร็วสูง-แลนด์บริดจ์ ขณะที่เตรียมรับแพนด้ายักษ์คู่ใหม่​ และจะไปให้กำลังใจนักกีฬาไทยแข่งเอเชียนเกมส์ฤดูหนาว

ยายวัย 85 ดีใจได้เงินคืน ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกโอน 2 ล้าน

อายัดบัญชี อดีตข้าราชการครูวัย 85 ปี ดีใจได้เงินคืน หลังถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ ก.คลัง หลอกโอนเงิน 2 ล้านบาท

รถทัวร์ชนต้นไม้

รถทัวร์ กทม.-เชียงใหม่ ตกร่องถนนชนต้นไม้ ดับ 2 เจ็บกว่า 30

รถโดยสารกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ขับส่ายไปมา ก่อนเสียหลักตกร่องกลางถนนพุ่งชนต้นไม้ใหญ่ เสียชีวิต 2 ราย เจ็บกว่า 30 คน สาเหตุอยู่ระหว่างตรวจสอบ