ครม.ให้ส่ง กกต.พิจารณาใช้งบกลางแก้ไฟแพง

ทำเนียบรัฐบาล 25 เม.ย.-นายกฯ เผยที่ประชุมครม. อนุมัติขยายช่วยเหลือค่าไฟฟ้ากลุ่มเปราะบางอีก 4 เดือน และอีก 1 เดือนสำหรับผู้ใช้ไฟทั่วไป เตรียมส่งกกต.ขอใช้งบกลางแก้ปัญหา


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ว่า วันนี้มีหลายเรื่องต้องพิจารณา โดยเฉพาะการใช้งบประมาณที่ต้องพิจารณาเป็นพิเศษ ซึ่งหลายคนรอฟังว่า รัฐบาลจะดูแลเรื่องพลังงานอย่างไร ที่ผ่านมาให้ย้อนกลับไปดูว่ารัฐบาลดูแลค่าไฟอย่างไร สำหรับผู้ใช้ไม่เกิน 150 กับ 300 หน่วย และวันนี้เพิ่มการดูแลในส่วนผู้ใช้ไฟ 500 หน่วย ซึ่งความเป็นไปของเรื่องพลังงานมีรายละเอียดปลีกย่อยมากมาย ในส่วนของพลังงานทดแทน พลังงานหมุนเวียนยังอยู่ในขั้นตอนการก่อสร้าง ไม่ได้เอามาใช้จ่ายบวกรวมตรงนี้ เป็นเรื่องของอนาคตเป็นคนละเรื่องกัน ซึ่งจะชี้แจงรายละเอียดเพิ่มเติมภายหลัง รวมถึงในส่วนคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ขอให้ไว้วางใจซึ่งกันและกัน เราพยายามทำให้ดีที่สุดแล้ว

“เป็นข้อกังวลเหมือนกัน โดยเฉพาะพรรคการเมืองต่าง ๆ หาเสียงเรื่องพลังงานว่าจะลดเท่านั้น เท่านี้ ถ้ามาดูข้อเท็จจริง มีรายละเอียดอีกมาก ทั้งเรื่องเหตุผลและความเป็นจริง สิ่งสำคัญที่สุดคือการพยายามทำให้ประเทศไทยเจริญเติบโตทางด้านการรักษาสิ่งแวดล้อมด้วย ซึ่งที่เราอนุมัติช่วยเหลือค่าไฟ 2 งวดมันทำให้เกิดภาระ” นายกรัฐมนตรี กล่าว


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ส่วนที่บอกว่าผลิตไฟฟ้าสำรองเกิน 50-60% ไม่ใช่ตัวเลขนั้น ขอให้เข้าใจ และอย่าไปหาเสียงทำให้เกิดความตื่นตระหนก  ทำให้การบริหารทำไม่ได้ ซึ่งวันนี้ที่ประชุมครม. เห็นชอบ อนุมัติ เพิ่มเติมให้ต่อขยายช่วยกลุ่มเปราะบางอีก 4 เดือน และเพิ่มเติมในกลุ่มที่ใช้ไฟฟ้า 500 หน่วยขึ้นไป ลด 150 บาท และค่าเฉลี่ยทั้ง 2 ฝ่ายทั้งประชาชนและอุตสาหกรรมค่าไฟจะเท่ากัน จากเดิมที่เสียสละจ่ายหน่วยยละ 5 บาท เป็นภาระของภาคอุตสาหกรรม ซึ่งนายกฯก็ดูแลหมด พร้อมบอกว่าการดูแลคนส่วนใหญ่มันลำบากเหมือนกัน แต่ละประเภทมีคนเท่าไหร่ ก็ต้องมุ่งเป้าว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร สำหรับงบประมาณที่ใช้ในการช่วยเหลือค่าไฟฟ้าในเดือนพฤษภาคมนี้ ใช้งบ 3,500 ล้านบาท ซึ่งที่ผ่านมาใช้ไปแสนกว่าล้าน รวมถึงเรื่องการลดภาษี หากต่อไปอีกก็จะใช้กว่าหมื่นล้านบาท

“วันนี้ครม.มีมติเห็นชอบร่วมกันและจะนำส่งกกต. พิจารณา เพื่อนำงบกลางมาใช้ช่วยเหลือประชาชน ซึ่งสถานการณ์ค่าพลังงานยังไม่แน่นอน ราคาขึ้นลงอยู่แบบนี้มาตลอด ต้องดูว่าจะทำอย่างไร ต้องแก้ปัญหาไป ซึ่งงบประมาณก็จำกัดพอสมควร หนี้ที่เกิดจากพยุงราคาพลังงานซึ่งเป็นการดำเนินการของรัฐวิสาหกิจ ยืนยันรัฐบาลจะให้ความเป็นธรรมกับทุกภาคส่วนที่ร่วมบริหารจัดการพลังงาน เพราะรัฐบาลไม่สามารถจะลงทุนทั้งหมดได้ จึงให้เอกชนเข้ามาลงทุนด้วย แต่ต้องเป็นไปตามกฎหมาย กติกาที่มีอยู่ สิ่งใดที่เป็นปัญหาด้านกฎหมาย กระทรวงพลังงานก็ได้ดูแลในเรื่องสัญญาต่าง ๆ ให้กรมอัยการพิจารณาดูแล้ว ขณะนี้ได้รับรายงานมาแล้วว่าเป็นธรรมหรือไม่เป็นธรรม” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การช่วยเหลือค่าไฟจะแบ่งเป็น 2 ส่วน โดยจะเป็นการช่วยเหลือค่าไฟในหน้าร้อน 1 เดือน คือเดือนพฤษภาคม ซึ่งจากสภาพอากาศร้อนทำให้การใช้ไฟฟ้าสูงกว่าปกติ โดยเฉพาะการเร่งความเย็นของแอร์ ซึ่งชี้แจงมาแล้วว่าใช้เพิ่ม 2-3 เท่า หลายคนบอกเปิดแอร์เหมือนเดิม ซึ่งการเร่งแอร์ให้เห็นขึ้นค่าไฟก็เพิ่มขึ้นเป็น 2-3 เท่า ดังนั้น การที่จะเอาบิลค่าไฟฟ้ามาดู อย่าเอามาเทียบเฉพาะด้านขวามือ ให้ดูทั้งหมด กรุณาเสนอให้ครบ โดยให้ดูบิลฝั่งซ้ายที่เป็นหน่วยวัดไฟฟ้าด้วยว่าเดือนนี้กับเดือนที่ผ่านมาค่างกันอย่างไร ไม่เช่นนั้นก็จะเข้าใจกันผิด


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มีอะไรจะถามอีกหรือไม่ พอแล้วเรื่องพลังงานปวดหัว ขอบคุณสื่อและประชาชนทุกคน วันนี้พูดในนามรัฐบาล และขอขอบคุณ พรรคร่วมรัฐบาลและรองนายกรัฐมนตรี และบรรดารัฐมนตรีที่ส่วนใหญ่เข้ามามาประชุมครม. แต่บางคนจำเป็นและได้ลาประชุมซึ่งเป็นเรื่องปกติ แต่ละคนมีภารกิจแตกต่างกันไป อย่างไรก็ตาม ทุกคนต้องได้รับบันทึกการประชุม ไม่ว่าจะอยู่หรือไม่ เพราะถือเป็นมติครม.ในการขับเคลื่อนด้วยกัน.-สำนักข่าวไทย    

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ

กทม. 23 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ เฝ้าระวัง “พายุดีเปรสชัน” มีแนวโน้มทวีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อน กระทบไทย 24-27 ส.ค.นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนตกสะสมที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบน และเวียดนามตอนบน สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และจะขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบน ในช่วงวันที่ 25–26 ส.ค. 68 ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 24–27 ส.ค. 68 -สำนักข่าวไทย

โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊ก ขรก.มหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน

ทำเนียบ 23 ส.ค.- โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊กข้าราชการมหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน ด้าน “เชษฐา” เป็นอธิบดี ปภ. ราชกิจจานุเบกษา ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย พ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 6 ราย ดังนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.2568 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 22 ส.ค.2568 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี -สำนักข่าวไทย

จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองโกงเงินอุดหนุน ก่อนหนีกบดานลาว

22 ส.ค. – ตำรวจภูธรภาค 1 จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมือง โกงเงินอุดหนุน 17.6 ล้านบาท หนีกบดานลาว ก่อนจนมุมถูกจับกุมได้ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1), พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1, พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระพุทธบาท, ตม.จว.หนองคาย, กกต.จว.หนองคาย ร่วมกันจับกุม นายพีระวิทย์ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2562 นายพีระวิทย์ เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง รับเงินอุดหนุนพรรคการเมือง เพื่อพัฒนาพรรคการเมือง จำนวนประมาณ 17.6 ล้านบาท โดยไม่มีการทำหลักฐานการเบิกจ่าย ทำให้ กกต. เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายพีระวิทย์ และเหรัญญิกพรรค ต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.พระพุทธบาท โดยเลื่อนการเข้าให้ปากคำและแสดงหลักฐานการเบิกจ่ายเงิน และต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองได้หลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกหมายจับในข้อหา […]

“ธีรรัตน์” สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บาย 24 ชม. รับพายุคาจิกิ

กทม. 22 ส.ค.- “ธีรรัตน์” สั่งการผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บายรับมือผลกระทบ “พายุคาจิกิ” ตลอด 24 ชั่วโมง ย้ำ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนรับรู้และเตรียมพร้อมอย่างต่อเนื่อง นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาวะอากาศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับผลกระทบพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ซึ่งพบว่าพื้นที่บางส่วนมีความเสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังซ้ำซาก ระหว่างวันที่ 24 – 28 สิงหาคม 2568 ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ 45 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร นางสาวธีรรัตน์ ได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด 45 จังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต รวมถึงกรุงเทพมหานคร กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้จัดทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อเข้าเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่หากพบว่ามีความเสี่ยง ในส่วนพื้นที่ชายฝั่ง ให้สั่งห้ามนักท่องเที่ยวเล่นน้ำและห้ามเดินเรือทุกชนิดหากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรง “ให้ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

5 ครอบครัวผู้เสียชีวิตจากระเบิดกัมพูชา ทำพิธีลอยอังคาร

ชลบุรี 24 ส.ค. – 5 ครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุกัมพูชายิงจรวดตกใส่ ทำพิธีลอยอังคาร ส่งดวงวิญญาณกลางอ่าวสัตหีบ โดยกองเรือยุทธการอำนวยความสะดวก 5 ครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดของกัมพูชา เมื่อวันที่ 25 กรกฏาคม ประกอบด้วย ครอบครัวประชัน ซึ่งสูญเสียนางสาวรุ่งรัศ เด็กหญิงทักษพร และเด็กชายพงศภัค ครอบครัวเด็กชายกิตติศักดิ์ คำวัง ครอบครัวนางสาวอรุณรัตน์ วันศรี ครอบครัวนายสมศรี ลาภบุญ และครอบครัวนางสาวสาวิตรี อ่อนทรวง นำอัฐิผู้เสียชีวิต เดินทางจากจังหวัดศรีสะเกษ มายังกองเรือยุทธการ ตำบลสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เพื่อทำพิธีลอยอังคาร ส่งดวงวิญญาณ โดยกองเรือยุทธการอำนวยความสะดวก สนับสนุนที่พัก รวมทั้ง จัดเรือกร.702 นำครอบครัวผู้เสียชีวิตไปประกอบพิธีกลางอ่าวสัตหีบ พิธีเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและสมเกียรติ ทุกคนต่างบอกว่า แม้จะผ่านมา 1 เดือน แต่ก็ยังทำใจไม่ได้ โดยเฉพาะครอบครัวประชัน ที่ต้องภรรยาและลูกอีก 2 คนไปพร้อมกัน.-สำนักข่าวไทย

ทบ. ตรวจสอบสาเหตุพลทหารเสียชีวิตที่ปราสาทตาเมือนธม

24 ส.ค. – กองทัพบกได้รับรายงานการเสียชีวิตของกำลังพลบริเวณปราสาทตาเมือนธม ปัจจุบันอยู่ระหว่างการตรวจสอบสาเหตุ พร้อมให้การช่วยเหลือเยียวยาตามสิทธิอย่างครบถ้วน กองทัพบกขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวของ พลทหาร พิทยุตท์ โสดา กำลังพลสังกัด กองพันทหารราบที่ 21 หน่วยเฉพาะกิจที่ 2 ซึ่งเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2568 เวลา 18.15 น. โดยพบร่างผู้เสียชีวิตภายในห้องสุขา บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ พลทหารพิทยุตท์ โสดา อายุ 20 ปี เป็นทหารกองประจำการ รุ่นปี 1/67 จากการสมัครใจเข้ามารับราชการในโครงการพลทหารออนไลน์ ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่ง พลปืนเล็ก หมู่ปืนเล็กที่ 2 หมวดปืนเล็กที่ 1 สังกัด กองร้อยทหารราบที่ 211 กองพันทหารราบที่ 21 หน่วยเฉพาะกิจที่ 2 จากการตรวจสอบเบื้องต้น ผู้เสียชีวิตไม่มีโรคประจำตัว ไม่มีประวัติเสพยาเสพติด ไม่มีภาวะความเครียด […]

แจงปมเลขบัตรประชาชน “หลวงพ่ออลงกต” ซ้ำคนตาย

กทม. 24 ส.ค.-กรมการปกครอง แจงปม “เลขประจำตัวประชาชน” หลวงพ่ออลงกต ซ้ำกับคนตาย ส่วนการเปิดพร้อมเพย์ เลขบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ตาย ซึ่งตรงกับบัญชีกองทุนอาทรประชานาถ เป็นการดำเนินการโดยธนาคารพาณิชย์ กรณีมีรายงานว่า หลวงพ่ออลงกต วัดพระบาทน้ำพุ ซึ่งมีชื่อเดิมว่า นายอลงกต พูลมุข มีชื่อซ้ำกับ นายอลงกต พลมุข ที่มีภูมิลำเนาที่ อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา และได้เสียชีวิตไปแล้วนั้น รวมทั้งวันเดือนเกิดยังตรงกัน ต่างกันเพียงปีเกิด ล่าสุดเฟซบุ๊ก กรมการปกครอง fanpage ได้โพสต์ข้อความถึงประเด็นดังกล่าว โดยระบุว่า “กรมการปกครอง ชี้แจงกรณีเลขบัตรประจำตัวประชาชนของหลวงพ่ออลงกต ตามที่ปรากฏข้อมูลจากสื่อมวลชนว่า ‘หลวงพ่ออลงกต มีเลขประจำตัวประชาชนตรงกับนายอลงกต พลมุข ซึ่งเป็นบุคคลที่เสียชีวิตแล้ว’ นั้น สำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง ได้ตรวจสอบฐานข้อมูลทะเบียนราษฎรของกรมการปกครอง พบว่า พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือ หลวงพ่ออลงกต เลขประจำตัวประชาชน x-xxxx-xxx036-50-7 ชื่อจริง อลงกต พูลมุข นามสกุล พูลมุข มีสระอู เกิดปี […]

“คาจิกิ” ทวีกำลังเป็นพายุไต้ฝุ่น ส่งผลให้ไทยฝนตกเพิ่มทุกภาค

กรุงเทพฯ 24 ส.ค.- กรมอุตุฯ ออกประกาศระบุ ช่วงเช้าที่ผ่านมา พายุโซนร้อน “คาจิกิ” ในทะเลจีนใต้ ได้ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น เตือน 57 จังหวัด เฝ้าระวังฝนตกหนักถึงหนักมาก ตั้งแต่วันที่ 24-27 ส.ค.68 นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า พายุโซนร้อน “คาจิกิ” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น “กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ค่อนไปทางเหนือเล็กน้อย และมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนเข้าสู่อ่าวตังเกี๋ย ก่อนจะขึ้นฝั่งตอนบนของ ประเทศเวียดนาม และ สปป.ลาว ในช่วงวันที่ 25–26 สิงหาคมนี้ ขอบด้านหน้าของพายุ เริ่มส่งผลกระทบต่อไทยตั้งแต่วันนี้ โดยเฉพาะพื้นที่ด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีเมฆฝนเพิ่มขึ้น จากนั้นจะมีฝนตก ก่อนขยายไปยังภาคกลาง รวมทั้ง กรุงเทพฯ และปริมณฑล ภาคตะวันออก และ ภาคใต้ ในช่วงวันถัดไป กรมอุตุนิยมวิทยาเตือนว่า อิทธิพลของพายุ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่มีกำลังแรง จะทำให้มีฝนตกเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะ […]