“เศรษฐา” ขอประชาชนเชื่อมั่นเพื่อไทยเก่งเศรษฐกิจ

กรุงเทพฯ 24 เม.ย. – กระหึ่มสะพานพระราม 8 เพื่อไทยปลุกคนกรุงหยิบปากกาฆ่าเผด็จการ อย่าให้ใครมายึดอำนาจประชาชนอีก ด้าน “เศรษฐา” ขอประชาชนเชื่อมั่นเพื่อไทยเก่งเศรษฐกิจ-ยาเสพติด จะถูกแก้ทันทีที่เป็นรัฐบาล


(24 เมษายน 2566) พรรคเพื่อไทยจัดงานปราศรัย “คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อคนกรุงเทพฯ” ณ บริเวณใต้สะพานพระราม 8 เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร นำโดยนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ขึ้นกล่าวปราศรัยภายใต้หัวข้อ “พลิกฟื้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ของกรุงเทพฯ”

นายเศรษฐา กล่าวว่า ปัญหาค่าไฟ ค่าพลังงาน ค่าน้ำมัน เป็นปัญหาใหญ่ของพี่น้องประชาชนในขณะนี้ หลายคนประสบปัญหาค่าไฟแพง ถ้าเพื่อไทยเป็นรัฐบาล การประชุมคณะรัฐมนตรีครั้งแรก ค่าไฟลดแน่นอน มีพรรคร่วมรัฐบาลมาหาเสียงบอกว่าจะลดราคาค่าไฟให้ ขอให้พี่น้องอย่าเออออ เขาเป็นรัฐบาลอยู่แล้ว ถ้าทำได้คงทำไปแล้ว ทำไมต้องคอยให้เป็นรัฐบาลใหม่อีกครั้ง ดังนั้น ขอให้พี่น้องมีความเชื่อและไว้ใจในพรรคเพื่อไทย เพราะเราคิดใหญ่ ทำเป็น พร้อมย้ำถ้าได้พรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ต่อรถเมล์อีก 10 บาท จ่ายครบจบที่ 30 บาทเท่านั้น เพิ่มรายได้เกษตรกร 3 เท่าภายในเวลา 4 ปี ที่เราเป็นรัฐบาล ค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท และปีแรกปรับขึ้นทันที 400 บาท เงินเดือนปริญญาตรี 25,000 บาทต่อเดือน เติมเงินให้ทุกครอบครัวถึง 20,000 บาททุกเดือน และเงินดิจิทัล 10,000 บาท สำหรับคนไทยอายุ 16 ปีขึ้นไป ไม่เพียงเป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชน ร้านค้าในชุมชน เอสเอ็มอี ก็ได้ประโยชน์ค้าขายไปด้วย พร้อมยกระดับ 30 บาทรักษาทุกโรค ทำนัดล่วงหน้าได้ บัตรประชาชนใบเดียวรักษาที่ไหนก็ได้


“ไม่ต้องกลัวพรรคเพื่อไทยไม่มีเงิน เรามีวินัยการเงินการคลัง จัดสรรงบประมาณส่วนนี้มาได้แน่นอน มีพรรคการเมืองบอกว่าเราทำไม่ได้ อย่าไปเชื่อ เราคิดใหญ่ ทำเป็น และทำสำเร็จมาแล้ว นี่คือนโยบายที่เราคำนึงถึงความเดือดร้อน ความไม่สะดวกสบายของพี่น้องประชาชนเป็นหลัก แต่นโยบายดีๆ เหล่านี้จะเกิดขึ้นได้เมื่อพี่น้องชาวกรุงเทพฯ ให้ความไว้วางใจผู้สมัคร ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทยทั้ง 33 คน ล้วนเป็นคนที่พรรคคัดสรรมาอย่างดี รู้ซึ้งถึงความต้องการของพี่น้องประชาชน ขยันทำงาน มีความตั้งใจจริง ขอให้เลือกทั้งคนทั้งพรรคของพรรคเพื่อไทยเข้าสู่สภาฯ” นายเศรษฐา กล่าว

ร้อยตำรวจเอกเฉลิม อยู่บำรุง แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวทักทายพี่น้องประชาชนที่มาร่วมฟังปราศรัย พร้อมกล่าวว่า ที่ผ่านมาเกือบ 10 ปี หลังการทำรัฐประหารของ คสช. ไม่ได้แก้ปัญหาความเป็นอยู่ให้พี่น้องประชาชน แต่พอถึงช่วงหาเสียงเลือกตั้งครั้งใหม่กลับมาบอกประชาชนจะแก้ปัญหา แต่ตัวเองเป็นรัฐบาลไม่เคยแก้ ย้ำเลือกตั้งครั้งนี้แบ่งใจให้ใครไม่ได้ ต้องเลือกเพื่อไทยยกแผง ให้เพื่อไทยได้เข้าไปแก้ไขปัญหายาเสพติดที่วิกฤติขึ้นทุกๆ ปี ภายใต้การบริหารของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา รวมถึงปัญหาพนันออนไลน์ และธุรกิจใต้ดินต่างๆ ที่รัฐบาลนี้ไม่สามารถแก้ได้ ต่างเป็นปัญหาที่ตนและอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ล้วนเคยแก้ไขมาแล้วในสมัยรัฐบาลพรรคไทยรักไทย โดยเฉพาะปัญหายาเสพติด ที่มีแต่พรรคเพื่อไทยเท่านั้นที่เคยทำสำเร็จ

ในปี 2562 การคอร์รัปชันไทยเข้าขั้นวิกฤติ มีการแจ้งทุจริตเกิน 10,000 เรื่อง จากข้อมูลข้อ ป.ป.ช. แต่รัฐบาลในตอนนั้นกลับชอบหยิบยกประเด็นคดีความในอดีตของพรรคเพื่อไทยมากล่าวหาว่าเราคอร์รัปชัน ทั้งๆ ที่คดีเหล่านั้นถูกยกฟ้องไปแล้ว แต่ตัวเองเป็นรัฐบาลกลับเงียบกริบ


ขอให้ประชาชนมั่นใจในพรรคเพื่อไทย ให้เราได้เป็นรัฐบาลพรรคเดียวเพื่อทำให้นโยบายต่างๆ สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ไม่ใช่แค่เพียง 250 หรือ 300 ที่นั่ง ถ้าพรรคเพื่อไทยได้ 320 ที่นั่ง ตนจะขอกราบแทบเท้าประชาชน

นายดนุพร ปุณณกัณฑ์ ประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง กทม. พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การเลือกตั้งในวันที่ 14 พฤษภาคมนี้ จะชี้ทิศทางของประเทศว่าจะไปทางไหน ต้องเลือกพรรคการเมืองที่เหมาะสมกับทิศทางนั้น ถ้าปัญหาปากท้อง เศรษฐกิจ คือปัญหาใหญ่ของพี่น้องในทุกบ้าน ทุกตรอกซอกซอย ต้องเลือกพรรคเพื่อไทยที่เก่งเศรษฐกิจ เพราะเราแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีที่ประสบความสำเร็จด้านเศรษฐกิจ เรามีผลงานพลิกฟื้นวิกฤติเศรษฐกิจที่จมลึกให้ลุกขึ้นยืนมาได้หลายครั้ง ตั้งแต่สมัยพรรคไทยรักไทย ถ้าปัญหาของพี่น้องคือยาเสพติด เราก็เคยปราบยาเสพติดจริงจัง พาลูกหลานไปบำบัดนำกลับคืนสู่ครอบครัว รัฐบาลมีเวลาเท่ากับพี่น้องประชาชนคือปีละ 365 วัน แต่ถ้าเรามีนโยบายที่ดีที่คิดไว้แล้ว มีแผนงานที่ดีที่เตรียมไว้แล้ว เมื่อเราเป็นรัฐบาลก็ลงมือทำงานได้ และทำงานอย่างหนักทุกวัน เราเชื่อว่าเศรษฐกิจพี่น้อง กระเป๋าเงินของพี่น้อง จะต้องพลิกฟื้นกลับขึ้นมามีเงินมีทอง เรามีเวลา เราจะลงมือทำงาน ไม่ใช่เอาเวลาลางานไปถีบเรือเป็ดอยู่สวนลุมพินี

นายดนุพร กล่าวอีกว่า รัฐบาลปัจจุบันนี้ไร้ศักยภาพ ไร้ประสิทธิภาพ การเลือกตั้งครั้งนี้เราแพ้ไม่ได้ ความเดือดร้อนของพี่น้องรอไม่ได้แม้แต่วันเดียว เพราะพี่น้องหิวข้าวทุกวัน การฆ่ารัฐบาลเผด็จการที่ดีที่สุดคือการฆ่าด้วยประชาธิปไตยเท่านั้น

“พลเอกประยุทธ์มาบอกว่าตนเหมือนคนขับเครื่องบินที่แก่ประสบการณ์ กัปตันต้องอายุเยอะหน่อย ขอโทษครับ ตยไม่ได้เลือกคุณให้มาขับเครื่องบิน ถ้าเลือกได้จะไม่มีนายกฯ ชื่อประยุทธ์ และสิ่งที่เขาทำคือ ขับเครื่องบินมาจอด แล้วเอารถถังปืนกลมาบังคับคนให้ไปขึ้นเครื่องบินที่เขาขับ เราจะยอมอีกไหม ถ้าไม่ยอม 14 พฤษภานี้ อย่าแบ่งคะแนนให้ใคร มุ่งมั่นตั้งใจเข้าคูหากาเพื่อไทยทั้ง 2 ใบเท่านั้น” นายดนุพร กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไฟไหม้รถยนต์ อดีต สส.ศิริโชค วอดทั้งคัน

สงขลา 5 ก.ค.-“ศิริโชค” อดีต สส.ปชป. เผยเหตุระทึก รถยนต์ PHEV ไฟลุกไหม้วอดทั้งคันกลางดึก ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ ภาพคลิปเหตุการณ์ไฟไหม้รถยนต์ส่วนตัวของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งจอดอยู่บริเวณบ้านพักที่ อ.นาทวี จ.สงขลา ช่วงตี 3 เมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา (5 ก.ค.68) โดยเพจเฟซบุ๊ก “ศิริโชค โสภา” ได้โพสต์คลิปเหตุการณ์ พร้อมระบุข้อความว่า “อุทาหรณ์สยอง! ผมตื่นมากับเปลวเพลิงกลางดึก-ไฟลุกท่วมรถ PHEV ทั้งคัน ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ! เช้ามืดวันนี้ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมเสียง “ปะทุ” ดังสนั่นกลางความเงียบของตีสาม…เมื่อรีบวิ่งออกมาดู สิ่งที่ผมเห็นคือเปลวไฟสีส้มแดงกำลังลุกโชนอย่างบ้าคลั่งจากรถยนต์ PHEV ที่จอดนิ่งหน้าบ้าน ตอนนั้นผมไม่ได้เสียบชาร์จไว้ด้วยซ้ำ-จอดไว้เฉยๆ แต่จู่ๆ ไฟกลับลุกขึ้นมาเอง โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าแม้แต่นิดเดียว รถดับเพลิงต้องใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะควบคุมเพลิงได้ และเมื่อไฟดับลง… สิ่งที่เหลืออยู่คือซากรถที่ไหม้เกรียมทั้งคันนี่ไม่ใช่แค่ความเสียหาย แต่คือคำเตือนที่น่ากลัวสำหรับผู้ใช้รถ EV และ PHEVแม้ไม่ได้ชาร์จ แม้จอดนิ่ง แบตเตอรี่ก็ยังมีโอกาสลุกไหม้ได้เองโดยไม่ทันตั้งตัว ไฟฟ้าเงียบ-แต่มันเผาผลาญทุกอย่างได้ในพริบตา ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ […]

ตาขับรถทับศีรษะหลานวัย 1 ขวบ ดับสลด

สุราษฎร์ธานี 5 ก.ค. – สุดสลด ตาขับรถกระบะไม่ทันดู เหยียบศีรษะหลานสาว วัย 1 ขวบ 5 เดือนเสียชีวิตคาที่ ตายายร้องไห้แทบขาดใจ สุดสลด ตาขับรถกระบะไม่ทันดู เหยียบศีรษะหลานสาว วัย 1 ขวบ 5 เดือนเสียชีวิตคาที่ หลังจากที่ตากลับจากซื้อของที่ตลาด เมื่อมาถึงบ้านซึ่งเปิดเป็นร้านขายของชำในอำเภอพระแสง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ขนของลงจากรถเสร็จ ระหว่างจะนำรถไปจอดไม่ทันสังเกตว่าหลานวิ่งอ้อมรถมา รู้อีกทีล้อรถหน้าด้านคนขับเหยียบเข้าที่ศีรษะของหลานแล้ว ทำให้หลานเสียชีวิตทันที เมื่อเห็นร่างหลาน ตาและยายร้องไห้แทบขาดใจ เพราะเลี้ยงหลานคนนี้มาตั้งแต่เล็กๆ ก่อนนำร่างส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลพระแสงต่อไป.- สำนักข่าวไทย

อ.อ๊อด ชี้เป็นเหตุการณ์ที่ไม่ปกติ กรณีรถยนต์ไฟฟ้า อดีตสส.สงขลา ไฟไหม้

นครปฐม 5 ก.ค. – อาจารย์อ๊อด นักวิชาการสาขาเคมีอินทรีย์ แสดงความคิดเห็นว่า กรณีรถยนต์ไฟฟ้าของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา เกิดไฟไหม้ ถือเป็นเหตุการณ์ไม่ปกติ และแบตเตอรี่อาจจะมีปัญหา จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก Sirichok Sopha หรือ นายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ แชร์ประสบการณ์ โดยระบุข้อความว่า “เช้ามืดวันนี้ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมเสียง “ปะทุ” ดังสนั่นกลางความเงียบของตีสาม…เมื่อรีบวิ่งออกมาดู สิ่งที่ผมเห็นคือเปลวไฟสีส้มแดงกำลังลุกโชนอย่างบ้าคลั่งจากรถยนต์ PHEV ที่จอดนิ่งหน้าบ้าน รถคันนี้ซื้อจากศูนย์หาดใหญ่เมื่อ 2 ปีก่อน ผมใช้งานตามปกติ และที่สำคัญคือ ตอนนั้นผมไม่ได้เสียบชาร์จไว้ด้วยซ้ำ-จอดไว้เฉยๆแต่จู่ๆ ไฟกลับลุกขึ้นมาเอง โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าแม้แต่นิดเดียวรถดับเพลิงต้องใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะควบคุมเพลิงได้ และเมื่อไฟดับลง… สิ่งที่เหลืออยู่คือ ซากรถที่ไหม้เกรียมทั้งคันนี่ไม่ใช่แค่ความเสียหาย แต่คือคำเตือนที่น่ากลัวสำหรับผู้ใช้รถ EV และ PHEVแม้ไม่ได้ชาร์จ แม้จอดนิ่ง แบตเตอรี่ก็ยังมีโอกาสลุกไหม้ได้เองโดยไม่ทันตั้งตัวไฟฟ้าเงียบ-แต่มันเผาผลาญทุกอย่างได้ในพริบตา” รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ หรือ อาจารย์อ๊อด นักวิชาการสาขาเคมีอินทรีย์ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายนวัตกรรมและกิจการเพื่อสังคม […]

สพฐ. จัดทีมนิติกรช่วยครูการเงิน

กทม. 5 ก.ค.-สพฐ. จัดทีมนิติกรช่วยครูการเงิน กรณีถูกชี้มูลร่วมลงชื่อเบิกจ่ายค่าอาหารกลางวัน วันที่ 4 กรกฎาคม 2568 ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดเผยว่า ตามที่มีรายงานข่าวผ่านสื่อสังคมออนไลน์ กรณีข้าราชการครูผู้รับผิดชอบงานการเงินของโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรี ได้ร้องขอความเป็นธรรมภายหลังถูกชี้มูลความผิดร่วมกับอดีตผู้อำนวยการโรงเรียน จากการลงนามในเอกสารเบิกจ่ายค่าอาหารกลางวัน โดยยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดนั้น สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาต้นสังกัด และยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่มีคำสั่งลงโทษทางวินัยออกโดยเขตพื้นที่ฯ แต่อย่างใด สำหรับการดำเนินการในขั้นต่อไป สพฐ. ได้จัดเตรียมนิติกรจากส่วนกลาง เพื่อสนับสนุนการให้คำปรึกษาทางกฎหมายและการรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ครูสามารถใช้สิทธิในการอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ตามมาตรา 99 แห่งพระราชบัญญัติ ป.ป.ช. พ.ศ. 2561 ได้อย่างเต็มที่ เลขาธิการ กพฐ. ระบุว่า กรณีนี้สะท้อนถึงความจำเป็นที่ต้องทบทวนบทบาทภาระงานของครูในภารกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับการจัดการเรียนการสอน โดยเฉพาะงานด้านการเงินและพัสดุ ซึ่งมีความซับซ้อนและมีความเสี่ยงเชิงกฎหมายสูง สพฐ. จึงอยู่ระหว่างการปรับปรุงระบบสนับสนุนภายในโรงเรียน เพื่อให้โครงสร้างงานสนับสนุนมีความเหมาะสมกับวิชาชีพครูมากยิ่งขึ้น “ข้าราชการครูที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุจริตจะไม่ต้องเผชิญกระบวนการตามลำพัง สพฐ. พร้อมอยู่เคียงข้างและสนับสนุนในทุกขั้นตอน เพื่อให้สามารถใช้สิทธิและเข้าถึงความเป็นธรรมได้อย่างมั่นใจครับ” เลขาธิการ กพฐ. กล่าว.-416.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ศิริโชค” เชื่อรถถูกเผาโยงการเมือง ตร.เร่งหาเบาะแสคนร้าย

6 ก.ค.- “ศิริโชค” ฟันธงเหตุรถยนต์ถูกลอบวางเพลิงมาจากเรื่องการเมือง ด้านตำรวจเร่งหาเบาะแสคนร้าย ส่วนบริษัทเจ้าของรถออกหนังสือชี้แจงสาเหตุไฟไหม้ ความคืบหน้าเหตุการณ์ไฟไหม้ รถ GWM HAVAL H6 PHEV ของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ 4 สมัย ซึ่งจอดอยู่ในบริเวณบ้านพักที่ อ.นาทวี จ.สงขลา เมื่อช่วงตี 3 วานนี้ (5ก.ค.68) ทำให้รถเสียหายทั้งคันและได้เข้าแจ้งความกับตำรวจสภ.นาทวี เพื่อให้ตรวจสอบว่าเป็นความบกพร่องของรถหรือลอบวางเพลิง ล่าสุดในทางคดีมีการยืนยันชัดเจนแล้วว่า เป็นการจงใจลอบวางเพลิง โดยหลังจากที่วานนี้ พนักงานสอบสวน สภ.นาทวี และตำรวจพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบหาสาเหตุเพลิงไหม้รถยนต์คันนี้ ปรากฏว่าพบมียางรถยนต์จำนวน 6 เส้นถูกเผาเหลือแต่เส้นใยเหล็ก พร้อมด้วยตับสิเหรงที่ใช้มุงหลังคา ซึ่งน่าจะเป็นเชื้อเพลิงในการจุดไฟเพื่อทำการเผารถยนต์คันนี้อยู่บริเวณใต้ท้องรถ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐานและประสานชุดสืบสวนลงพื้นที่หาเบาะแสผู้ก่อเหตุ ไม่ใช่เป็นอุบัติเหตุหรือความบกพร่องของรถแต่อย่างใด ด้านนายศิริโชค เปิดเผยว่า ตอนนี้ชัดเจนแล้วว่าเป็นการวางเพลิงโดยใช้ยางรถยนต์ ตับสิเหรง และใช้น้ำมันเบนซินราด จากที่ตนสังเกตแม้ว่าทางศูนย์หลักฐานจะยังไม่ยืนยันอย่างเป็นทางการ แต่ว่าดูจากรูปการแล้วพุ่งเป้าไปที่คนวางเพลิง ไม่ใช่ความบกพร่องของรถ แต่มีความตั้งใจที่จะให้เป็นความบกพร่องของรถเพราะเป็นรถไฟฟ้า แต่สุดท้ายจากหลักฐานที่พบบ่งชี้ไปที่การวางเพลิง มองว่ามาจากเรื่องการเมืองมากกว่าเรื่องการสร้างสถานการณ์ด้านความมั่นคงหรือเรื่องส่วนตัว เพราะตนไม่มีความแค้นส่วนตัวกับใครไม่ได้ทำธุรกิจในพื้นที่ ไม่มีเรื่องชู้สาว สิ่งที่เดียวที่มีคือการเป็นนักการเมือง […]

รวบ “สังข์” ผู้ต้องหาแหกห้องขัง สภ.เมืองสกลนคร

6 ก.ค.- ตำรวจบุกรวบ “สังข์” ผู้ต้องหาคดีอาวุธปืนและยาเสพติด หลังก่อเหตุแหกห้องขัง สภ.เมืองสกลนคร จนมุมบนขบวนรถไฟ ขณะเตรียมหลบหนีเข้ากรุงเทพฯ ตำรวจสอบสวนกลาง หรือ CIB จับกุมนายเกียรติศักดิ์ หรือ สังข์ อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาคดีอาวุธปืนและยาเสพติด ได้บนขบวนรถไฟ ขณะเตรียมหลบหนีเข้ากรุงเทพฯ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวมาลงบันทึกการจับกุมที่ สน.เตาปูน และอยู่ระหว่างการควบคุมตัวกลับมาดำเนินคดีที่ สภ.เมืองสกลนคร นายเกียรติศักดิ์ ก่อเหตุหลบหนีจากห้องควบคุม สภ.เมืองสกลนคร เมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 13 มิถุนายน เจ้าหน้าที่พบเบาะแสหลบซ่อนตัวบนเทือกเขาภูพาน ขณะเดียวกันโซเชียลพากันแชร์ภาพนายเกียรติศักดิ์ พบว่า เป็นบุคคลอันตรายที่อาจมีอาวุธ หากใครพบเห็นห้ามเข้าใกล้ ทั้งนี้ สภ.เมืองสกลนคร ได้ปูพรมค้นหาตามล่าตัวและตั้งรางวัลนำจับ เป็นเงิน 3 หมื่นบาทให้กับผู้แจ้งเบาะแส .-สำนักข่าวไทย

เจ้าอาวาสวัดดังพิษณุโลก ย่องลาสิกขา หลังพัวพันข่าวดัง

พิษณุโลก 6 ก.ค.- “พระ ส.” เจ้าอาวาสวัดดัง จ.พิษณุโลก ย่องลาสิกขาเงียบ หลังพัวพันข่าวดัง ขณะทางวัดยังไม่แถลงชี้แจงเกี่ยวกับสาเหตุ เจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่งในจังหวัดพิษณุโลก ได้ลาสิกขาอย่างเงียบ ๆ โดย พระครูวิโรจน์ธรรมากร เจ้าอาวาสวัดกรุงกรัก เจ้าคณะตำบลท่านางงาม เขต 2 เลขานุการเจ้าคณะอำเภอบางระกำ เป็นผู้ทำพิธีลาสิกขาให้พระ ส. ท่ามกลางกระแสข่าวว่าเป็นสามีคนแรกของหญิงสาวที่รู้จักในฉายา “น้องดอกไม้” หรือสีกา ก. และยิ่งได้รับความสนใจเมื่อมีข้อมูลระบุว่า น้องดอกไม้มีบุตรสาววัย 13 ปี ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ในอดีตของพระ ส. ขณะทางวัดยังไม่มีการออกแถลงชี้แจงเกี่ยวกับสาเหตุของการลาสิกขา แต่แหล่งข่าวใกล้ชิดเผยว่าเป็นการตัดสินใจส่วนตัวของเจ้าอาวาส เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของวัดและศาสนา -สำนักข่าวไทย

ไทยเปิดด่านกรณีพิเศษ ช่วยนายพลกัมพูชาป่วยฉุกเฉิน

สระแก้ว 6 ก.ค.- เพื่อมนุษยธรรม! ไทยเปิดด่านเป็นกรณีพิเศษ ช่วยเหลือนายทหารระดับสูงกัมพูชา ป่วยฉุกเฉิน ส่งรักษาโรงพยาบาล อ.อรัญประเทศ สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ยังคงตึงเครียดและมีการปิดจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ ได้เกิดภาพความประทับใจ เมื่อหน่วยงานความมั่นคงของไทย ร่วมกันตัดสินใจเปิดด่านเป็นกรณีพิเศษ เพื่อให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่นายทหารระดับสูงกัมพูชา โดยเจ้าหน้าที่ไทยจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันอำนวยความสะดวกบริเวณสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา เพื่อนำตัวส่งโรงพยาบาลเกษมราษฎร์อินเตอร์เนชั่นแนลอรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ เพื่อทำการรักษาให้ทันท่วงที ปัจจุบันด่านคลองลึก ยังคงปิดทำการจากปัญหาชายแดนที่ยังไม่คลี่คลาย แต่การดำเนินการดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า หลักมนุษยธรรมและความสัมพันธ์อันดีที่มีต่อกันนั้นอยู่เหนือปัญหาความขัดแย้งใด ๆ ทั้งปวง และยังแสดงถึงมิตรภาพที่แน่นแฟ้นของเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติงานของทั้งสองประเทศ -สำนักข่าวไทย