“เศรษฐา” ขอประชาชนเชื่อมั่นเพื่อไทยเก่งเศรษฐกิจ

กรุงเทพฯ 24 เม.ย. – กระหึ่มสะพานพระราม 8 เพื่อไทยปลุกคนกรุงหยิบปากกาฆ่าเผด็จการ อย่าให้ใครมายึดอำนาจประชาชนอีก ด้าน “เศรษฐา” ขอประชาชนเชื่อมั่นเพื่อไทยเก่งเศรษฐกิจ-ยาเสพติด จะถูกแก้ทันทีที่เป็นรัฐบาล


(24 เมษายน 2566) พรรคเพื่อไทยจัดงานปราศรัย “คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อคนกรุงเทพฯ” ณ บริเวณใต้สะพานพระราม 8 เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร นำโดยนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ขึ้นกล่าวปราศรัยภายใต้หัวข้อ “พลิกฟื้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ของกรุงเทพฯ”

นายเศรษฐา กล่าวว่า ปัญหาค่าไฟ ค่าพลังงาน ค่าน้ำมัน เป็นปัญหาใหญ่ของพี่น้องประชาชนในขณะนี้ หลายคนประสบปัญหาค่าไฟแพง ถ้าเพื่อไทยเป็นรัฐบาล การประชุมคณะรัฐมนตรีครั้งแรก ค่าไฟลดแน่นอน มีพรรคร่วมรัฐบาลมาหาเสียงบอกว่าจะลดราคาค่าไฟให้ ขอให้พี่น้องอย่าเออออ เขาเป็นรัฐบาลอยู่แล้ว ถ้าทำได้คงทำไปแล้ว ทำไมต้องคอยให้เป็นรัฐบาลใหม่อีกครั้ง ดังนั้น ขอให้พี่น้องมีความเชื่อและไว้ใจในพรรคเพื่อไทย เพราะเราคิดใหญ่ ทำเป็น พร้อมย้ำถ้าได้พรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ต่อรถเมล์อีก 10 บาท จ่ายครบจบที่ 30 บาทเท่านั้น เพิ่มรายได้เกษตรกร 3 เท่าภายในเวลา 4 ปี ที่เราเป็นรัฐบาล ค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท และปีแรกปรับขึ้นทันที 400 บาท เงินเดือนปริญญาตรี 25,000 บาทต่อเดือน เติมเงินให้ทุกครอบครัวถึง 20,000 บาททุกเดือน และเงินดิจิทัล 10,000 บาท สำหรับคนไทยอายุ 16 ปีขึ้นไป ไม่เพียงเป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชน ร้านค้าในชุมชน เอสเอ็มอี ก็ได้ประโยชน์ค้าขายไปด้วย พร้อมยกระดับ 30 บาทรักษาทุกโรค ทำนัดล่วงหน้าได้ บัตรประชาชนใบเดียวรักษาที่ไหนก็ได้


“ไม่ต้องกลัวพรรคเพื่อไทยไม่มีเงิน เรามีวินัยการเงินการคลัง จัดสรรงบประมาณส่วนนี้มาได้แน่นอน มีพรรคการเมืองบอกว่าเราทำไม่ได้ อย่าไปเชื่อ เราคิดใหญ่ ทำเป็น และทำสำเร็จมาแล้ว นี่คือนโยบายที่เราคำนึงถึงความเดือดร้อน ความไม่สะดวกสบายของพี่น้องประชาชนเป็นหลัก แต่นโยบายดีๆ เหล่านี้จะเกิดขึ้นได้เมื่อพี่น้องชาวกรุงเทพฯ ให้ความไว้วางใจผู้สมัคร ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทยทั้ง 33 คน ล้วนเป็นคนที่พรรคคัดสรรมาอย่างดี รู้ซึ้งถึงความต้องการของพี่น้องประชาชน ขยันทำงาน มีความตั้งใจจริง ขอให้เลือกทั้งคนทั้งพรรคของพรรคเพื่อไทยเข้าสู่สภาฯ” นายเศรษฐา กล่าว

ร้อยตำรวจเอกเฉลิม อยู่บำรุง แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวทักทายพี่น้องประชาชนที่มาร่วมฟังปราศรัย พร้อมกล่าวว่า ที่ผ่านมาเกือบ 10 ปี หลังการทำรัฐประหารของ คสช. ไม่ได้แก้ปัญหาความเป็นอยู่ให้พี่น้องประชาชน แต่พอถึงช่วงหาเสียงเลือกตั้งครั้งใหม่กลับมาบอกประชาชนจะแก้ปัญหา แต่ตัวเองเป็นรัฐบาลไม่เคยแก้ ย้ำเลือกตั้งครั้งนี้แบ่งใจให้ใครไม่ได้ ต้องเลือกเพื่อไทยยกแผง ให้เพื่อไทยได้เข้าไปแก้ไขปัญหายาเสพติดที่วิกฤติขึ้นทุกๆ ปี ภายใต้การบริหารของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา รวมถึงปัญหาพนันออนไลน์ และธุรกิจใต้ดินต่างๆ ที่รัฐบาลนี้ไม่สามารถแก้ได้ ต่างเป็นปัญหาที่ตนและอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ล้วนเคยแก้ไขมาแล้วในสมัยรัฐบาลพรรคไทยรักไทย โดยเฉพาะปัญหายาเสพติด ที่มีแต่พรรคเพื่อไทยเท่านั้นที่เคยทำสำเร็จ

ในปี 2562 การคอร์รัปชันไทยเข้าขั้นวิกฤติ มีการแจ้งทุจริตเกิน 10,000 เรื่อง จากข้อมูลข้อ ป.ป.ช. แต่รัฐบาลในตอนนั้นกลับชอบหยิบยกประเด็นคดีความในอดีตของพรรคเพื่อไทยมากล่าวหาว่าเราคอร์รัปชัน ทั้งๆ ที่คดีเหล่านั้นถูกยกฟ้องไปแล้ว แต่ตัวเองเป็นรัฐบาลกลับเงียบกริบ


ขอให้ประชาชนมั่นใจในพรรคเพื่อไทย ให้เราได้เป็นรัฐบาลพรรคเดียวเพื่อทำให้นโยบายต่างๆ สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ไม่ใช่แค่เพียง 250 หรือ 300 ที่นั่ง ถ้าพรรคเพื่อไทยได้ 320 ที่นั่ง ตนจะขอกราบแทบเท้าประชาชน

นายดนุพร ปุณณกัณฑ์ ประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง กทม. พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การเลือกตั้งในวันที่ 14 พฤษภาคมนี้ จะชี้ทิศทางของประเทศว่าจะไปทางไหน ต้องเลือกพรรคการเมืองที่เหมาะสมกับทิศทางนั้น ถ้าปัญหาปากท้อง เศรษฐกิจ คือปัญหาใหญ่ของพี่น้องในทุกบ้าน ทุกตรอกซอกซอย ต้องเลือกพรรคเพื่อไทยที่เก่งเศรษฐกิจ เพราะเราแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีที่ประสบความสำเร็จด้านเศรษฐกิจ เรามีผลงานพลิกฟื้นวิกฤติเศรษฐกิจที่จมลึกให้ลุกขึ้นยืนมาได้หลายครั้ง ตั้งแต่สมัยพรรคไทยรักไทย ถ้าปัญหาของพี่น้องคือยาเสพติด เราก็เคยปราบยาเสพติดจริงจัง พาลูกหลานไปบำบัดนำกลับคืนสู่ครอบครัว รัฐบาลมีเวลาเท่ากับพี่น้องประชาชนคือปีละ 365 วัน แต่ถ้าเรามีนโยบายที่ดีที่คิดไว้แล้ว มีแผนงานที่ดีที่เตรียมไว้แล้ว เมื่อเราเป็นรัฐบาลก็ลงมือทำงานได้ และทำงานอย่างหนักทุกวัน เราเชื่อว่าเศรษฐกิจพี่น้อง กระเป๋าเงินของพี่น้อง จะต้องพลิกฟื้นกลับขึ้นมามีเงินมีทอง เรามีเวลา เราจะลงมือทำงาน ไม่ใช่เอาเวลาลางานไปถีบเรือเป็ดอยู่สวนลุมพินี

นายดนุพร กล่าวอีกว่า รัฐบาลปัจจุบันนี้ไร้ศักยภาพ ไร้ประสิทธิภาพ การเลือกตั้งครั้งนี้เราแพ้ไม่ได้ ความเดือดร้อนของพี่น้องรอไม่ได้แม้แต่วันเดียว เพราะพี่น้องหิวข้าวทุกวัน การฆ่ารัฐบาลเผด็จการที่ดีที่สุดคือการฆ่าด้วยประชาธิปไตยเท่านั้น

“พลเอกประยุทธ์มาบอกว่าตนเหมือนคนขับเครื่องบินที่แก่ประสบการณ์ กัปตันต้องอายุเยอะหน่อย ขอโทษครับ ตยไม่ได้เลือกคุณให้มาขับเครื่องบิน ถ้าเลือกได้จะไม่มีนายกฯ ชื่อประยุทธ์ และสิ่งที่เขาทำคือ ขับเครื่องบินมาจอด แล้วเอารถถังปืนกลมาบังคับคนให้ไปขึ้นเครื่องบินที่เขาขับ เราจะยอมอีกไหม ถ้าไม่ยอม 14 พฤษภานี้ อย่าแบ่งคะแนนให้ใคร มุ่งมั่นตั้งใจเข้าคูหากาเพื่อไทยทั้ง 2 ใบเท่านั้น” นายดนุพร กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบแล้วบ้าน “พระอลงกต” ที่ขอนแก่น ชาวบ้านเผยเป็นคนใจดี

ขอนแก่น 25 ส.ค. – พบแล้วบ้านของ “พระอลงกต” ใน อ.เมือง จ.ขอนแก่น ตรวจสอบพบเป็นบ้านพักข้าราชการของกรมทางหลวง ชาวบ้านเผย “พระอลงกต” เป็นคนใจดี กลับมาแจกเงินทุกปี พอเห็นข่าวรู้สึกตกใจและสงสาร เพราะเที่เคยสัมผัสเป็นคนใจดี ทีมข่าวตรวจสอบข้อมูลเพื่อตามหาบ้านของพระอลงกต รู้ว่าเป็นคน จ.ขอนแก่น ตั้งแต่กำเนิด สืบค้นที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน พบระบุว่าบ้านเกิดของหลวงพ่ออลงกต อยู่ใน อ.เมือง จ.ขอนแก่น ตรวจสอบพบว่าเป็นบ้านพักข้าราชการของกรมทางหลวง และไปพบบ้านของพ่อเฉย พ่อของพระอลงกต ซึ่งทุกคนไม่ได้เรียกว่าพระอลงกต แต่จะคุ้นเคยเรียกกันว่าพระจอร์จ และนิสัยของพระพระอลงกตมีแต่เรื่องราวดีๆ มอบให้กับสังคม พระอลงกตจะแวะเวียนมาบอกบุญเสมอปีละครั้ง ในช่วงวันเกิดที่โรงเรียนแก่นนคร ที่พระอลงกตเคยศึกษา อย่างช่วงที่พ่อเฉย พ่อของพระอลงกต ยังมีชีวิต พ่อเฉยจะทำว่าวให้เด็กๆ ละแวกนี้เล่น เป็นที่รักของคนในชุมชนเช่นกัน พี่สาวของพระอลงกต ขายข้าวแกงอยู่ตรงข้ามบ้านพักข้าราชการ ซึ่งบ้านของครอบครัวพระอลงกต จะอยู่ติดกับรั้วของสำนักงานทางหลวง แต่พอครอบครัวพระอลงกตเกษียณก็พากันย้ายออกไปอยู่ที่อื่น บ้านพักปัจจุบันนี้ไม่มีใครอยู่ และบ้านส่วนตัวก็ไม่มีใครอยู่อาศัยเช่นกัน พระอลงกตออกจากบ้านไปช่วงปี 2527 แต่พระอลงกตจะกลับมาที่บ้านส่วนตัวทุกปี หลังจากเป็นเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ เพื่อมาทำบุญวันเกิดโรงเรียนแก่นนคร มอบทุนการศึกษาให้กับเด็กๆ เสมอ […]

ตำรวจแจ้งข้อหาเมาแล้วขับ “มารี เบรินเนอร์”

กทม. 24 ส.ค.-ตำรวจแจ้งข้อหาเมาแล้วขับ “มารี เบรินเนอร์” ขับรถหรูเจอด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์แล้วไม่ยอมเป่า ส่วนเพื่อนชายที่มาด้วยโวยวายและขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ คาดน่าจะเกิดจากมึนเมา กรณีนักแสดงสาว “มารี เบรินเนอร์” ขับรถหรูเจอด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์แล้วไม่ยอมเป่าวัด ส่วนเพื่อนชายที่มาด้วยได้ลงจากรถมาโวยวายขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ ทาง พ.ต.อ.เจษฎา ยางนอก ผกก.สน.วังทองหลาง เผยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ตำรวจ สน.วังทองหลาง ได้ตั้งด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์ ที่ถนนประดิษฐ์มนูธรรม ช่วงเวลาประมาณ 02.00-04.00 น. ได้ขอตรวจรถยนต์ยี่ห้อปอร์เช่ สีเขียว ปรากฏว่ามี น.ส.มารี เบรินเนอร์ นักแสดงสาว เป็นผู้ขับขี่ และมีนายอัศม์กรณ์ โดยสารมาด้วย ซึ่งนั่งข้างหน้า และมีผู้หญิงมาด้วยอีก 2 คน เมื่อขอตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ นายอัศม์กรณ์ กลับโวยวาย ขัดขวางไม่ให้ตรวจ และมีการด่าทอด้วยคำที่หยาบคาย แต่ไม่ได้มีการทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ ในที่สุดตำรวจได้คุมตัวทั้งหมดมายัง สน.วังทองหลาง พร้อมกับแจ้งข้อกล่าวหาเมาแล้วขับ กับนางสาวมารี เนื่องจากนางสาวมารี ไม่ยินยอมเป่าเครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์ จากนั้นนางสาวมารี ได้ยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสดจำนวน 20,000 บาท […]

“คาจิกิ” ทวีกำลังเป็นพายุไต้ฝุ่น ส่งผลให้ไทยฝนตกเพิ่มทุกภาค

กรุงเทพฯ 24 ส.ค.- กรมอุตุฯ ออกประกาศระบุ ช่วงเช้าที่ผ่านมา พายุโซนร้อน “คาจิกิ” ในทะเลจีนใต้ ได้ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น เตือน 57 จังหวัด เฝ้าระวังฝนตกหนักถึงหนักมาก ตั้งแต่วันที่ 24-27 ส.ค.68 นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า พายุโซนร้อน “คาจิกิ” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น “กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ค่อนไปทางเหนือเล็กน้อย และมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนเข้าสู่อ่าวตังเกี๋ย ก่อนจะขึ้นฝั่งตอนบนของ ประเทศเวียดนาม และ สปป.ลาว ในช่วงวันที่ 25–26 สิงหาคมนี้ ขอบด้านหน้าของพายุ เริ่มส่งผลกระทบต่อไทยตั้งแต่วันนี้ โดยเฉพาะพื้นที่ด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีเมฆฝนเพิ่มขึ้น จากนั้นจะมีฝนตก ก่อนขยายไปยังภาคกลาง รวมทั้ง กรุงเทพฯ และปริมณฑล ภาคตะวันออก และ ภาคใต้ ในช่วงวันถัดไป กรมอุตุนิยมวิทยาเตือนว่า อิทธิพลของพายุ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่มีกำลังแรง จะทำให้มีฝนตกเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะ […]

“จิรายุ” ย้ำคลิป “นั่งลงลูก” ในห้องพิจารณาคดี เป็นคลิปตกแต่งเสียง

ทำเนียบ 24 ส.ค.-“จิรายุ” ย้ำคลิป “นั่งลงลูก” ในห้องพิจารณาคดีศาล รธน. ที่ “ชวน” ได้ยินเป็นคลิปตกแต่งเสียง ฟังกี่รอบก็ชัดว่า “นั่งลงครับ” เตือนประชาชนบิดเบือนข้อมูลใส่ร้าย อย่าโพสต์ ไม่ชัวร์ อย่าแชร์ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี อดีตประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการฯ กล่าวถึง กรณีมีการบิดเบือนคำพูดในวันสืบพยานของนายกรัฐมนตรี โดยหลังจากนายกรัฐมนตรีกล่าวคำสาบานตนแล้ว ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญท่านหนึ่งได้กล่าวคำว่า “นั่งลงครับ” แต่กลับมีกระบวนการนำไปบิดเบือนและตกแต่งเสียง โดยกล่าวหาว่า ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญพูดว่า “นั่งลงลูก“ ซึ่งเป็นการบิดเบือน ขณะเดียวกัน ยังพบว่าอดีตประธานรัฐสภา นายชวน หลีกภัย ได้สัมภาษณ์ให้ความเห็นในกรณีดังกล่าวหลายประเด็น ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่า นายชวน หลีกภัย อาจจะยังไม่ได้ฟังคลิปเต็มๆ จริงๆ ในวันดังกล่าว หรือไม่ก็อาจจะได้ฟังจากคลิปที่ถูกบิดเบือนและตกแต่ง ซึ่งความเป็นจริงการบันทึกเสียงทั้งหมดหรือการกล่าวบนบัลลังก์ คนที่นั่งอยู่ในห้องพิจารณาก็ได้ยินตรงกันว่า “นั่งลงครับ” ทั้งสิ้น นายจิรายุ กล่าว ตนในฐานะเคยดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาลองค์กรอิสระ องค์กรอัยการฯ ติดตามการทำงานกระบวนการยุติธรรมมาโดยตลอด ไม่มีเหตุผลใดๆ ในกระบวนการยุติธรรมที่จะใช้คำพูดในลักษณะเช่นนี้ […]

ข่าวแนะนำ

จับตา “คาจิกิ” หลายจังหวัดภาคเหนือเตรียมรับมือน้ำท่วมดินถล่ม

25 ส.ค. – หลายจังหวัดทางภาคเหนือ โดยเฉพาะพื้นที่ซึ่งเคยเผชิญน้ำท่วมครั้งใหญ่ทั้งน่าน ชายแดนแม่สาย เชียงราย และเชียงใหม่ ต่างเร่งเตรียมรับมือพายุคาจิกิ ซึ่งคาดว่าจะส่งผลกระทบชัดเจนตั้งแต่พรุ่งนี้ นอกจากเสี่ยงจะเกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลากแล้ว บางพื้นที่ยังเสี่ยงดินโคลนถล่มด้วย โดยเฉพาะหมู่บ้านใกล้เชิงเขาที่จังหวัดน่าน ซึ่งเกิดดินสไลด์จนกระทบบ้านเรือนนับสิบหลังก่อนหน้านี้ ตอนนี้ต้องอพยพชาวบ้านกว่า 20 ครอบครัวออกจากพื้นที่เพื่อความปลอดภัยแล้ว .-สำนักข่าวไทย

“บ้านหนองจาน” วุ่น เขมรบุกรื้อรั้วลวดหนาม-ปาของใส่ทหารไทย

สระแก้ว 25 ส.ค. – ชายแดนสระแก้วตึงเครียด ชาวกัมพูชาบุกรื้อรั้วลวดหนาม-ปาของใส่เจ้าหน้าที่ ในพื้นที่บ้านหนองจาน ทหารไทยเจ็บ 1 นาย ด้านกองทัพภาคที่ 1 แจงเป็นความเข้าใจผิดของฝ่ายกัมพูชา สถานการณ์บริเวณแนวชายแดนไทย–กัมพูชา พื้นที่บ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ยังคงเกิดความตึงเครียดอย่างต่อเนื่อง หลังจากทางฝั่งกัมพูชาได้ประกาศเสียงตามสาย เรียกระดมชาวบ้านให้ออกมารวมตัวกันยังพื้นที่พิพาทติดแนวชายแดน โดยมีเจ้าหน้าที่ทหาร เจ้าหน้าที่ฝ่ายป่าไม้ และที่ดินของกัมพูชา เข้าร่วมอยู่ในพื้นที่ด้วย เมื่อชาวบ้านจำนวนหนึ่งเดินทางมาถึง เกิดเหตุเหตุจราจลขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากกลุ่มชาวกัมพูชาบางส่วนพากันบุกเข้ามารื้อรั้วลวดหนามที่ฝ่ายไทยขึงกั้นไว้เพื่อป้องกันการรุกล้ำ นอกจากนี้ ยังมีการขว้างปาสิ่งของเข้าใส่เจ้าหน้าที่ฝั่งไทยอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บแล้ว 1 นาย ขณะปฏิบัติหน้าที่ควบคุมสถานการณ์ ขณะเดียวกัน มีรายงานว่าประชาชนจากฝั่งกัมพูชายังคงทยอยเดินทางเข้ามาสมทบเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้บรรยากาศตึงเครียดยิ่งขึ้น ด้านกองกำลังทหารไทยจึงได้เสริมกำลังเข้าตรึงพื้นที่เพื่อควบคุมสถานการณ์และป้องกันการบานปลาย ที่น่าสังเกตคือ ฝั่งกัมพูชาได้เปิดเพลงเสียงดังสนั่น คาดว่าเป็นเพลงปลุกใจ เพื่อสร้างขวัญและกระตุ้นให้ชาวบ้านในพื้นที่มีความฮึกเหิมมากขึ้น เสียงเพลงดังกล่าวได้ถูกเปิดก้องไปทั่วบริเวณแนวชายแดน สร้างความกดดันให้กับเจ้าหน้าที่ฝั่งไทยที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ สถานการณ์ล่าสุดยังคงมีการเผชิญหน้ากันระหว่างประชาชนและเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย โดยทหารไทยยังคงตรึงกำลังแน่นหนา เพื่อเฝ้าระวังการปะทะที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ขณะที่ฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ได้ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับส่วนกลางเพื่อรายงานความคืบหน้าและเตรียมมาตรการรองรับ กองทัพภาคที่ 1 แจงแล้ว ปมชาวบ้านเขมรรื้อรั้วหนาม ล่าสุด กองทัพภาคที่ […]

ไทย-สวีเดน ลงนามซื้อ “กริพเพน” เฟสแรก 4 ลำ

สวีเดน 25 ส.ค.-ไทย-สวีเดน ลงนามซื้อ “กริพเพน” เฟสแรก 4 ลำ “มาริษ-ผบ.ทอ.” ร่วมเป็นสักขีพยาน ชูเป็นเขี้ยวเล็บป้องกันตัว พ่วง Offset Policy พัฒนาอุตสาหกรรม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 12.20 น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งตรงกับเวลา 17.20 น. ตามเวลาในประเทศไทย รัฐบาลไทยและสวีเดน ได้บรรลุข้อตกลงครั้งประวัติศาสตร์ในการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่โจมตี Gripen E/F ระยะที่ 1 จำนวน 4 เครื่อง วงเงิน 19,500 ล้านบาท โดยมี พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) เป็นผู้ลงนามฝ่ายไทย มีนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และ ดร.พอล ยอนซอน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสวีเดน ร่วมเป็นสักขีพยาน นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังพิธีว่า ข้อตกลงครั้งนี้ไม่เพียงแต่จะเสริมสร้าง “เขี้ยวเล็บ” […]

มทภ.2 ชี้หากพบกัมพูชารุกล้ำ-ลอบวางทุ่นระเบิด พร้อมใช้กำลังพลตอบโต้

เกษตรศาสตร์ 25 ส.ค.- แม่ทัพภาค 2 ชี้หากพบทหารกัมพูชารุกล้ำ-ลอบวางทุ่นระเบิด พร้อมใช้กำลังพลตอบโต้ แต่ยิงแจ้งเตือนก่อน หากยังขัดขืนสั่งยิงทันที เชื่อประชุม RBC 27 ส.ค.นี้ ราบรื่นดี มองหากกัมพูชาไม่รับเงื่อนไขเก็บทุ่นระเบิด เตรียมเก็บหลักฐานฟ้อง UN วันนี้ (25 ส.ค. 68) ที่ห้องประชุมสุธรรม อารีกุล อาคารสารนิเทศ 50 ปี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค ไทย – กัมพูชา (RBC) ในวันที่ 27 ส.ค.นี้ หากฝ่ายกัมพูชาไม่ตกลงที่จะเก็บกู้ทุ่นระเบิด ว่า ถ้าไม่เก็บกู้ก็จะรายงานไปที่ UN และทำบันทึกไว้เพื่อเป็นการประท้วง ส่วนการประชุม RBC ที่พื้นที่กองทัพภาคที่ 1 มีการตอบรับเรื่องเก็บกู้ระเบิดร่วมกัน ในส่วนของกองทัพภาคที่ 2 ควรจะมีการตอบรับด้วยหรือไม่เพื่อแสดงถึงความจริงใจ นั้น พล.ท.บุญสิน กล่าวว่า […]