ชี้ พท.ประกาศไม่ร่วมวง “พปชร-รทสช.” หลังคะแนนนิยมลด

นิด้า 24 เม.ย. –นักวิชาการนิด้า มอง “เศรษฐา-แพทองธาร”ประสานเสียงประกาศจุดยืนไม่จับขั้ว พปชร.-รทสช. กังวลหลังคะแนนนิยมลดลง อาจส่งผลเป้าหมายแลนด์สไลด์ ตั้งข้อสังเกตเกิดกลยุทธ์จับมือทิ้งพรรค 2 ลุง ขณะที่ตัวเปลี่ยนเกมคือ ปชป.


นายพิชาย  รัตนดิลก ณ ภูเก็ต ผู้อำนวยการหลักสูตรการเมืองและยุทธศาสตร์การพัฒนา สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) กล่าวถึงกรณีที่นายเศรษฐา ทวีสินและน.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ประกาศจุดยืนชัดเจนไม่จับมือร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐและพรรครวมไทยสร้างชาติ ว่า พรรคเพื่อไทยคงมีความกังวล หลังช่วงกลางเดือนเมษายนมีคะแนนความนิยมลดลง ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากความไม่ชัดเจนเรื่องจุดยืนจะไม่ร่วมรัฐบาลกับพปชร.และรทสช.ทำให้เกิดคำถามอย่างต่อเนื่อง และกังวลว่าจากความไม่ชัดเจนนี้ประชาชนจะหันไปเทคะแนนให้กับพรรคก้าวไกล ซึ่งส่งผลกระทบกับเป้าหมายแลนด์สไลด์ได้ เช่นคะแนนลดลงไป 4-5 % จากที่ปัจจุบันมีคะแนน 47 % จะลงไปอยู่ที่ 42% จะทำให้เป้าหมายแลนด์สไลด์ยากขึ้นดังนั้นจึงต้องปรับตัว ทั้งนี้ไม่แน่ใจว่าการประกาศจุดยืนชัดจะทำให้คะแนนเพิ่มขึ้นหรือไม่  

 เมื่อถามว่าจุดยืนที่ชัดเจนเรื่องการจับขั้วรัฐบาลส่งผลต่อคะแนนนิยมระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกลหรือไม่ นายพิชาย กล่าวว่า ที่ผ่านมาจุดยืนพรรคก้าวไกลชัดเจนมาตั้งแต่แรกว่าต้องการให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ส่วนพรรคเพื่อไทยยังไม่ชัดเจนจนสุดท้ายต้องประกาศความชัดเจน แต่คนก็ยังไม่เชื่อมั่นเพราะผู้ที่ประกาศคือ นายเศรษฐา ซึ่งคนยังสงสัยว่าจะเป็นตัวจริงหรือไม่ที่จะมีอำนาจในการตัดสินใจ ทำให้น.ส.แพทองธาร ต้องออกมายืนยันเพิ่มอีกเสียง แต่สุดท้ายต้องดูว่าใครจะเป็นคนที่มีอำนาจในการตัดสินใจอย่างแท้จริงซึ่งอาจจะไม่ได้อยู่ในประเทศไทย 


 ด้านนายสุวิชา เป้าอารีย์ ผู้อำนวยการศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” มองว่าการออกมาประกาศจุดยืนไม่จับมือตั้งรัฐบาลของ 2 แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย อาจมีแผนอะไรหรือไม่ ตนเคยให้ความเห็นเรื่องให้รัฐบาลระวังยุทธการปราบ 3ป. คือ พรรคเพื่อไทยพยายามที่จะทำอย่างไรก็ได้ที่ไม่ต้องอาศัยเสียง ส.ว.ดังนั้นหลังการเลือกตั้งหากพรรครวมไทยสร้างชาติ และ พรรคพลังประชารัฐได้คะแนนเสียงรวมกันได้เยอะไม่พอ ยกตัวอย่างได้เสียง 120 เสียง ส่วนอีกฝั่งรวมกันได้ 380เสียง ถ้าเกิดการจับมือรวมกันได้แล้วโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี จากพรรคเพื่อไทยโดยไม่ต้องอาศัยเสียง ส.ว. และทิ้งพรรคของ 2 ป.เป็นฝ่ายค้าน จึงต้องลองดูให้ดีว่าจะมีกลยุทธนี้เกิดขึ้นหรือไม่ 

“กลยุทธ์นี้จะเกิดขึ้นได้ พรรคเพื่อไทยต้องไปจับมือกับอีกหนึ่งพรรคให้ได้ คือพรรคประชาธิปัตย์ คำถามคือจะกล่อมได้หรือไม่ เพราะพรรคประชาธิปัตย์คงต้องระวังตัวเอง เนื่องจากคะแนนไม่ค่อยดี อีกทั้งจะส่งผลกับการเลือกตั้งครั้งหน้าทันทีและไม่ว่าพรรคการเมืองจะตัดสินใจอย่างไรคงต้องรอติดตามดู แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเหมือนเป็นการส่งสัญญาณไปยังพรรคพลังประชารัฐ และ พรรครวมไทยสร้างชาติ ให้สังเกตกลยุทธ์นี้ไว้ด้วย ย้ำว่ากลยุทธ์นี้จะเกิดได้ขึ้นอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ หากตัดสินใจไม่ร่วมกลยุทธ์นี้ก็เกิดขึ้นไม่ได้แน่นอน” นายสุวิชา กล่าว

เมื่อถามว่าพรรคภูมิใจไทยจนถึงเวลานี้ก็ยังไม่ประกาศชัดเจนและดูเหมือนไม่ปิดประตูตายกับพรรคเพื่อไทย นายสุวิชา กล่าวว่า หากดูจากนายเนวิน ชิดชอบ ก็เปิดประตูกว้างเรื่องนี้ตั้งแต่ก่อนเลือกตั้งโดยบอกว่าไม่มีความเกี่ยวข้องกับพรรคภูมิใจไทย ส่วนนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ก็ออกมาย้ำเสมอว่ามีคอนเนคชันที่ดีกับคนแดนไกล ซึ่งการเมืองไทยไม่มีมิตรแท้และศัตรูที่ถาวร จึงเป็นไปได้ว่าอาจมีการพูดคุยกันมาแล้ว เพียงแต่ต้องรอความชัดเจนของตัวเลขอีกครั้ง มองว่าการเลือกตั้งรอบนี้มีหลายสูตรทางการเมืองในการจับขั้วรัฐบาล ยอมรับว่าการเลือกตั้งปี66 อะไรก็เกิดขึ้นได้ และทายยากว่าฝ่ายไหนจะได้จัดตั้งรัฐบาล ซึ่งฝ่ายรัฐบาลเดิมคงทุ่มทุกสรรพกำลังเพื่อให้ได้กลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้งเพราะเชื่อมั่นว่าจะสามารถฝ่ากระแสพรรคเพื่อไทยมาได้ ส่วนพรรคเพื่อไทยก็ใช้กระแสที่มีป้องกันทุกทางเพื่อเป้าหมายแลนด์สไลด์    


เมื่อถามว่าการที่หลายพรรคการเมืองกล้าตัดสินใจประกาศความชัดเจนทางการเมืองเป็นเพราะ ส.ว.เหลือวาระอีกเพียง 1 ปีหรือไม่ นายสุวิชา กล่าวว่า ใช่ เพราะอำนาจที่ยังมีเหลืออีก 1 ปี และต้องมาดูอีกว่า ส.ว.จะเอนไปทางไหน จะตัดสินใจอย่างไร และมี ส.ว.เพียงไม่กี่คนที่ออกมาแสดงความคิดเห็นเรื่องนี้ และส่วนตัวมองว่า ส.ว.ส่วนหนึ่งอาจตัดสินใจไปแล้ว.-สำนักข่าวไทย        

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”