“พล.อ.ประยุทธ์” ปราศรัยอุดรธานี อ้อนคนอุดรฯ รักแล้ว รักอยู่ รักต่อ

อุดรธานี 24 เม.ย. – “พล.อ.ประยุทธ์” เดินสายปราศรัยอุดรธานี “พีระพันธุ์” ปลุกคนอีสานเลือกผู้สมัคร ส.ส.พรรครวมไทยสร้างชาติ เพื่อให้มีเสียงมากพอเป็นแกนนำตั้งรัฐบาล หนุน “ลุงตู่” เป็นนายกฯ อ้อนคนอุดรฯ เป็นลูกข้าวนึ่ง รักแล้ว รักอยู่ รักต่อ


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) พร้อมด้วยนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค นายธนกร วังบุญคงชนะ นายอนุชา บูรพชัยศรี นายชัชวาลล์ คงอุดม รองหัวหน้าพรรค เดินทางมาปราศรัยจุดที่ 2 บริเวณสวนสาธารณะหนองไผ่ ต.หนองเม็ก อ.หนองหาร จ.อุดรธานี

พล.อ.ประยุทธ์ ขึ้นเวทีปราศรัยกล่าวถึงนโยบายที่จะมาช่วยสนับสนุนให้กับประชาชนในทุกระดับทุกวัย ทั้งเรื่องของกองทุนประชาชน การแก้หนี้สิน การดูแลประชาชนในทุกกลุ่ม พร้อมระบุว่า เงินในอากาศจับต้องไม่ได้มีแต่ลม แต่เงินที่อยู่ในบัตรสวัสดิการพลัสเป็นเงินที่จับต้องได้ เป็นเงินจริงๆ และยังคงย้ำให้ประชาชนเลือกกัปตันเครื่องบินที่มีประสบการณ์ที่จะนำพาประเทศไทยต่อไป พร้อมกับอ้อนว่าตนเป็นคนรักจริง ดังนั้น ถ้ารักใครก็รักจริง อย่าทิ้งกันนะ ตนเป็นลูกข้าวนึ่งอย่างแท้จริง รักแล้ว รักอยู่ รักต่อ


พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า ขอให้ผู้ที่สนับสนุนตนเลือกทั้งพรรคเบอร์ 22 และทั้งผู้สมัครเขต เพราะถ้าหากได้เข้าไปเยอะๆ จะสามารถดำเนินการตามนโยบายได้อย่างราบรื่น เพราะเป็นรัฐบาลเดียว โดย พล.อ.ประยุทธ์ ยังได้แนะนำตัวผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค จาก จ.นครพนม และสกลนคร ที่มาร่วมต้อนรับด้วย

จากนั้นเวลา 16.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ และคณะ เดินทางต่อมายังโรงแรมสยามแกรนด์ อ.เมือง จ.อุดรธานี เพื่อปราศรัยในจุดที่ 3 ทันทีที่ พล.อ.ประยุทธ์ และคณะ ลงจากรถ มีผู้สนับสนุนชาว จ.อุดรธานี ต่างส่งเสียงเชียร์และต้อนรับ “ลุงตู่สู้ๆ” ดังสนั่น และมีประชาชนมารอฟังการปราศรัยเต็มห้องประชุมกว่า 5,000 คน

นายพีระพันธุ์ ได้ขึ้นเวทีเป็นคนแรก กล่าวว่า ตนตั้งใจทำพรรคการเมืองเพราะตั้งใจจะทำให้พี่น้องประชาชนอยู่ดีกินดี โดยผู้ที่คิดชื่อพรรครวมไทยสร้างชาติคือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา วันนี้หมดเวลาแตกแยก มีแต่ความสามัคคี วันที่ 14 พฤษภาคม จะเป็นการรวมใจของทุก คนนั่นคือการรวมไทยสร้างชาติ การที่เราจะเดินหน้าประเทศได้จะต้องมีผู้นำที่ดี และผู้นำนั้นจะเป็นใครไปไม่ได้ นอกจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือลุงตู่ คนเดียวเท่านั้น


นายพีระพันธุ์ กล่าวต่อว่า 8 ปีที่ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีมา ท่านพิสูจน์ให้เห็นว่าได้ทำเพื่อประชาชนเท่านั้น วันนี้พรรครวมไทยสร้างชาติดีใจที่มี พล.อ.ประยุทธ์ มาเป็นผู้นำร่วมทำงานด้วยกันอีกครั้งหนึ่ง และวันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ก็ตั้งใจจะทำงานต่อไป

สำหรับนโยบายของพรรครวมไทยสร้างชาติมีทุกเรื่อง โดยเฉพาะบัตรสวัสดิการพลัส ที่จะเพิ่มเงินเป็น 1,000 บาท และใช้เป็นหลักประกันในการกู้เงินได้อีกด้วย เพื่อไม่ให้ประชาชนไปเป็นหนี้นอกระบบ แต่สิ่งสำคัญเหนือสิ่งอื่นใดคือ ชาติบ้านเมือง บรรพบุรุษของเราสร้างแผ่นดินนี้ เสียสละเลือดเนื้อเชื้อไขมาเป็นร้อยเป็นพันปี และแผ่นดินนี้จะต้องอยู่ต่อไป ถ้าไม่มีแผ่นดินนี้ก็ไม่มีประโยชน์ที่จะทำอะไร และเราจะรักษาแผ่นดินนี้ไว้สำหรับลูกหลานของเรา ภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

“วันที่ 14 พฤษภาคมนี้ ต้องกาบัตร 2 ใบ เลือกพรรคเบอร์ 22 และเลือก ส.ส.เขตตามเบอร์ที่กำหนด เพื่อจะให้มี ส.ส. ไปยกมือโหวตให้ลุงตู่เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป” นายพีระพันธุ์ กล่าว

จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ขึ้นเวทีปราศรัย โดยย้ำถึงนโยบายหลักๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการแก้ไขปัญหาปากท้อง เศรษฐกิจฐานราก การเพิ่มเงินในบัตรสวัสดิการพลัส การสนับสนุนเงินเบี้ยผู้สูงอายุ การแก้ปัญหาที่ดินทำกิน พร้อมทั้งเรียกร้องให้ประชาชนเลือกผู้สมัครของพรรครวมไทยสร้างชาติ เพื่อให้มีเสียงมากพอเพื่อสนับสนุนตนเองเป็นนายกฯ

“ที่ตนบอกว่าอยู่ที่ใจความตั้งมั่นที่จะทำ ตนตั้งใจมานานแล้ว ทำมาทั้งชีวิต สิ่งที่ตนคิดอยู่เสมอคือความตั้งใจ ตายเมื่อไรช่างมัน แต่ตนขอทำหน้าที่ของตนให้สมบูรณ์” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ใช้เวลาปราศรัยในจุดที่ 3 ประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้ไปขึ้นเวทีปราศรัยเพื่อแนะนำผู้บริหารพรรค และผู้สมัคร ส.ส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ใน จ.อุดรธานี นครพนม และสกลนคร

สำหรับรายชื่อผู้สมัคร ส.ส.อุดรธานี ทั้ง 10 เขต ประกอบด้วย
เขต 1 นายสถาพร โคตรบุตร เบอร์ 9
เขต 2 นายองอาจ วิเศษ เบอร์ 4
เขต 3 นายอัครพนธ์ บุญพาสิริสกุล เบอร์ 10
เขต 4 นายสังคม สอนบุญ เบอร์ 1
เขต 5 นายมานิต อินทร์อำคา เบอร์ 2
เขต 6 นายหนูพิศ สีดามาตย์ เบอร์ 13
เขต 7 นางสาวอรัญญา ใจมั่น เบอร์ 2
เขต 8 นายผดุงศักดิ์ หันจันทร์ เบอร์ 2
เขต 9 นายนิธิศ ประกอบใส เบอร์ 10
เขต 10 นายทรงกิตติ สุวรรณทอง เบอร์ 2

ผู้สมัคร ส.ส.นครพนม มีผู้สมัคร 4 เขต ประกอบด้วย
เขต 1 นายธงทิพย์ชลิต แห่สถิตย์ เบอร์ 8
เขต 2 นางสาวศศิธร นิกรกุล เบอร์ 6
เขต 3 นายธงชัย พานิชดี เบอร์ 6
เขต 4 นายสมชอบ นิติพจน์ เบอร์ 4

ผู้สมัคร ส.ส.สกลนคร มีผู้สมัคร 7 เขต ประกอบด้วย
เขต 1 นายบุญญามี วงศ์สีดา เบอร์ 4
เขต 2 นายชาญชัย งอยผาลา เบอร์ 10
เขต 3 นายดำเกิง วงศ์กาฬสินธุ์ เบอร์ 5
เขต 4 นายชิตพล สุระเสียง เบอร์ 1
เขต 5 นางสาวธัญญ์ลภัสส์ โสรินทร์ เบอร์ 2
เขต 6 นายวัชรินทร์ ศรีถาพร เบอร์ 10
เขต 7 นายสิงห์โต ฮกทวายทา เบอร์ 6 .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ลิณธิภรณ์” แจงปมสะกดคำผิด ยอมรับผิดพลาดพร้อมแก้ไข

กระทรวงวัฒนธรรม 4 ก.ค.- “ลิณธิภรณ์” ยอมรับดรามาใช้ภาษาไทยสะกดคำผิด พร้อมแก้ไขปรับปรุงตัว รับปากจะไม่ให้เกิดขึ้นอีก บอก บางครั้งรีบพิมพ์ไม่ได้ตรวจทาน ทำเกิดผลเสียทุกวันนี้ แจงมีปัญหาสุขภาพ อาจทำให้ออกเสียงควบกล้ำไม่ได้ น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ให้สัมภาษณ์ถึงดรามาเรื่องการใช้ภาษาไทยในโซเชียลมีเดีย ว่า ตนขอยอมรับอย่างซื่อตรง ว่าบางครั้งในการสะกดคำของตนเองก็มีความผิดพลาด ซึ่งบางครั้งใช้การพิมพ์ด้วยเสียงผ่านโทรศัพท์มือถือ และได้โพสต์ข้อความไปแล้ว ก่อนจะมารู้ตัวอีกทีก็ผ่านไป 2-3 ชั่วโมง มันเป็นความผิดพลาด อันนี้ตนยอมรับด้วยความจริงใจ และวันนี้ตนก็เข้าใจดีว่าเมื่อมานั่งตำแหน่งตรงนี้ สิ่งที่จำเป็นต้องทำ คือต้องปรับปรุง และคิดว่าหลังจากนี้ความผิดพลาดเหล่านี้ก็จะไม่เกิดขึ้น เพราะตนก็อยากเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเด็กและเยาวชน ของประเทศเหมือนกัน รวมถึงอีกสิ่งที่ตนอยากจะบอกคือการออกเสียงควบกล้ำ ซึ่งเป็นผลกระทบ จากปัญหาสุขภาพ แต่ส่วนหนึ่งตนก็จะพยายามทำให้ดีที่สุด น.ส.ลิณธิภรณ์ กล่าวว่า วันนี้ตนเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในภาพนโยบายใหญ่ คงต้องขึ้นอยู่กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาฯ ซึ่งตอนนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยใน รายละเอียดที่ชัดเจน และจะเข้ากระทรวงพร้อมกันในวันที่ 8 กรกฎาคม สำหรับตนหากใครที่เคยติดตาม ก็เคยเป็นคนหนึ่งที่ พูดเรื่องการศึกษาในส่วนของพรรคเพื่อไทยมาโดยตลอด ตั้งแต่เป็นโฆษกพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะเรื่องการลดค่าสอบทีแคส (TCAS) รวมถึงเรื่องการทำโครงการ ด้านสุขภาพภาวะจิต และอาจจะเป็นโครงการหนึ่งที่ตนจะสานต่อ […]

มอบ “จิราพร” เข้าร่วมประชุมผู้นำ BRICS ที่บราซิล

ทำเนียบ 3 ก.ค.-มอบ “จิราพร” เข้าร่วมประชุมผู้นำ BRICS ครั้งที่ 17 ที่บราซิล 6-7 ก.ค.นี้ นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จะเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมผู้นำกลุ่ม BRICS ครั้งที่ 17 ระหว่างวันที่ 6 – 7 กรกฎาคม 2568 ร่วมกับผู้นำจาก 10 ประเทศสมาชิกกลุ่ม BRICS และประเทศหุ้นส่วนจากหลากหลายประเทศ ที่นครรีโอเดจาเนโร สหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล โดยไทยเข้าร่วมในฐานะประเทศหุ้นส่วนของกลุ่ม BRICS (Partner Country) สำหรับการประชุมผู้นำกลุ่ม BRICS จะจัดขึ้นภายใต้หัวข้อ “เสริมสร้างความร่วมมือโลกใต้เพื่อการสร้างธรรมาภิบาลที่ครอบคลุมและยั่งยืนยิ่งขึ้น โดยบราซิลในฐานะประธานกลุ่ม BRICS ปีนี้ ให้ความสำคัญกับประเด็นหลัก 6 ด้าน ได้แก่ (1) สาธารณสุข (2) การค้า การลงทุน และการเงิน (3) การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (4) ธรรมาภิบาลของปัญญาประดิษฐ์ […]

Hun Sen, at event marking ruling party's 74th founding anniversary

ฮุน เซน เรียกร้องปั๊ม ปตท. งดนำเข้าน้ำมันจากไทย

พนมเปญ 3 ก.ค.- นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ยังคงเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเรียกร้องให้เจ้าของปั๊ม ปตท.เลิกนำเข้าน้ำมันจากไทย และหันไปนำเข้าจากประเทศอื่นแทน สื่อของกัมพูชารายงานว่า นายฮุน เซน พูดถึงเรื่องนี้ในระหว่างการประชุมกับครูและนักเรียนที่ศูนย์การศึกษาและฝึกอบรมในจังหวัดไพรแวงในวันนี้ เรียกร้องให้เจ้าของปั๊มน้ำมัน ปตท.ทุกแห่งในกัมพูชาเลิกนำเข้าน้ำมันจากไทย และหันไปนำเข้าน้ำมันจากประเทศอื่น ๆ แทน ไม่ว่าจะเป็นจากเวียดนาม  มาเลเซีย หรือสิงคโปร์ โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนชื่อปั๊ม แม้ว่า ปตท.จะเป็นรัฐวิสาหกิจของไทยก็ตาม นอกจากนี้นายฮุน เซนยังพูดถึงเรื่องที่ไทยเคยขู่ว่าจะตัดไฟฟ้า ตัดอินเทอร์เน็ต ห้ามขายเชื้อเพลิง และอื่นๆ ให้กัมพูชาด้วยว่า เมื่อไทยขู่มากัมพูชาก็ตอบโต้ทันที กัมพูชาต้องพึ่งพาตนเองให้ได้เพื่อรับมือกับภัยคุกคามในอนาคตเหมือนกับที่กำลังเผชิญจากไทยในเวลานี้ แม้ว่าจะมีแรงกดดันจากไทย แต่กัมพูชาก็ได้ดำเนินการไปแล้ว ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและความสามารถในการพึ่งพาตนเองได้ของกัมพูชา ประธานวุฒิสภากัมพูชาเน้นย้ำว่า มาตรการทั้งหมดที่กัมพูชาได้ดำเนินไปนั้นเป็นการตอบโต้โดยตรงกับภัยคุกคามจากฝ่ายไทย รวมทั้งการที่ไทยปิดด่านพรมแดนแต่เพียงฝ่ายเดียว เขาแสดงท่าทีอย่างชัดเจนว่า การเจรจากับไทยจะเริ่มขึ้นได้ ต่อเมื่อฝ่ายไทยจะต้องยอมเปิดด่านทุกจุดอย่างเต็มรูปแบบเหมือนที่เคยทำก่อนวันที่ 7 มิถุนายนแล้วเท่านั้น.-816(814).-สำนักข่าวไทย

เปิด 7 จุดยืน “ปชน.” ทางออกประเทศหาก “แพทองธาร” พ้นเก้าอี้

กรุงเทพฯ 4 ก.ค. – พรรคประชาชนโพสต์เฟซบุ๊กแสดง 7 จุดยืน หาก “แพทองธาร” พ้นตำแหน่ง เปิดเงื่อนไขโหวตนายกฯ คนใหม่ พรรคประชาชนโพสต์เฟซบุ๊กแสดง 7 จุดยืน หาก “นายกฯ แพทองธาร” พ้นจากตำแหน่ง เพื่อนำพาประเทศไปสู่ทางออกที่จะเป็นประโยชน์ที่สุดสำหรับประชาชนทุกคน ดังนี้ 1.สิ่งที่ประเทศต้องการมากที่สุด คือรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ มีความชอบธรรม และสามารถตั้งทีมบริหารจากความรู้ความสามารถ ไม่ใช่จากการต่อรองผลประโยชน์ทางการเมือง2.รัฐบาลที่จะมีคุณสมบัติดังกล่าวจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้จากสภาชุดปัจจุบัน ทางออกสำหรับประเทศจึงเป็นการจัดให้มี “การเลือกตั้งใหม่” โดยเร็ว3.รักษาการนายกฯ ควรประกาศให้ชัดเจนว่าจะใช้อำนาจที่ตนเองมี ในการเดินหน้าสู่การยุบสภา เพื่อคืนอำนาจให้กับประชาชนผ่านคูหาเลือกตั้ง4.หากรักษาการนายกฯ ไม่ทำ และมีเหตุใดที่ทำให้นายกรัฐมนตรีแพทองธาร พ้นจากตำแหน่ง กระบวนการในการเลือกนายกฯ คนใหม่ จะต้องนำไปสู่การได้มาซึ่งนายกฯ ที่พร้อมเดินหน้าสู่การยุบสภา5.เพื่อให้ประเทศไม่ถูกบีบไปสู่ทางตันหรือการใช้อำนาจนอกครรลองประชาธิปไตย เราพร้อมจะพิจารณาลงมติให้กับผู้เสนอตัวเป็นนายกฯ คนใหม่คนใดก็ตาม ที่ยอมรับ “เงื่อนไข” ในการเป็นรัฐบาลชั่วคราว โดยทางพรรคประชาชนจะไม่เข้าร่วมรัฐบาลและจะไม่มีใครจากพรรคประชาชนไปเป็นรัฐมนตรี 6.“เงื่อนไข” ในการเดินหน้าสู่การยุบสภา สำหรับนายกฯ คนใหม่ จะต้องประกอบไปด้วยอย่างน้อย6.1 การประกาศเส้นตายว่าจะยุบสภาภายในสิ้นปี6.2 การยืนยันภารกิจเฉพาะหน้าที่จะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาดังกล่าว (เช่น การดำเนินการให้มีการจัดประชามติพร้อมกับการเลือกตั้ง เพื่อถามประชาชนเรื่องการมี […]

ข่าวแนะนำ

ไฟไหม้รถยนต์ อดีต สส.ศิริโชค วอดทั้งคัน

สงขลา 5 ก.ค.-“ศิริโชค” อดีต สส.ปชป. เผยเหตุระทึก รถยนต์ PHEV ไฟลุกไหม้วอดทั้งคันกลางดึก ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ ภาพคลิปเหตุการณ์ไฟไหม้รถยนต์ส่วนตัวของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งจอดอยู่บริเวณบ้านพักที่ อ.นาทวี จ.สงขลา ช่วงตี 3 เมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา (5 ก.ค.68) โดยเพจเฟซบุ๊ก “ศิริโชค โสภา” ได้โพสต์คลิปเหตุการณ์ พร้อมระบุข้อความว่า “อุทาหรณ์สยอง! ผมตื่นมากับเปลวเพลิงกลางดึก-ไฟลุกท่วมรถ PHEV ทั้งคัน ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ! เช้ามืดวันนี้ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมเสียง “ปะทุ” ดังสนั่นกลางความเงียบของตีสาม…เมื่อรีบวิ่งออกมาดู สิ่งที่ผมเห็นคือเปลวไฟสีส้มแดงกำลังลุกโชนอย่างบ้าคลั่งจากรถยนต์ PHEV ที่จอดนิ่งหน้าบ้าน ตอนนั้นผมไม่ได้เสียบชาร์จไว้ด้วยซ้ำ-จอดไว้เฉยๆ แต่จู่ๆ ไฟกลับลุกขึ้นมาเอง โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าแม้แต่นิดเดียว รถดับเพลิงต้องใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะควบคุมเพลิงได้ และเมื่อไฟดับลง… สิ่งที่เหลืออยู่คือซากรถที่ไหม้เกรียมทั้งคันนี่ไม่ใช่แค่ความเสียหาย แต่คือคำเตือนที่น่ากลัวสำหรับผู้ใช้รถ EV และ PHEVแม้ไม่ได้ชาร์จ แม้จอดนิ่ง แบตเตอรี่ก็ยังมีโอกาสลุกไหม้ได้เองโดยไม่ทันตั้งตัว ไฟฟ้าเงียบ-แต่มันเผาผลาญทุกอย่างได้ในพริบตา ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ […]

เด้ง 5 เสือ สน.บางเขน เซ่นจับบ่อนสะพานใหม่

กทม. 5 ก.ค. – สั่งเด้ง 5 เสือ สน.บางเขน เซ่นจับบ่อนสะพานใหม่ ขณะที่เช้านี้เจ้าหน้าที่คุมตัว 72 นักพนัน ไปฝากขังศาลแขวงดอนเมือง พบส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.เสกสิทธิ์ สุภาอ้วน รอง ผบก.น.2 รรท.ผบก.น.2 ลงนามในคำสั่ง กองบังคับการตำรวจนครบาล 2 ที่ 183/2568 เรื่อง ให้ข้าราชการตำรวจปฏิบัติราชการ และแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีเมื่อวันที่ 4 ก.ค.68 เวลาประมาณ 14.00 น. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้เข้าทำการสืบสวนสถานที่ต้องสงสัย ซึ่งคาดว่าเป็นบ่อนการพนัน บริเวณอาคารพาณิชย์ กลางซอยพหลโยธิน 52 แยก 3 แขวงคลงถนน เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร และได้จับกุมผู้ต้องหากับพวกในข้อหา “ร่วมกันเป็นผู้จัดให้มีการเล่นการพนันไฮโล เพื่อพนันเอาทรัพย์สินกัน โดยไม่ได้รับอนุญาต”และ “ร่วมกันเข้าเล่นหรือเล่นการพนันโฮโลเพื่อพนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาต” ซึ่งเหตุดังกล่าวเป็นเขตพื้นที่รับผิดชอบของสน.บางเขน เพื่อให้การบริหารงานในภาพรวมของ กองบังคับการตำรวจนครบาล 2 เป็นไปอย่างต่อเนื่อง และเรียบร้อย […]

ค้นบ้านพักสีกา คนสนิท “ทิดอาชว์” พบจีวรหลายผืน

กทม. 5 ก.ค.-“บิ๊กเต่า” รับเมื่อวาน ปปป. พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำหมายศาลค้นบ้านพักสีกา ก.ไก่ คนสนิท “ทิดอาชว์” อดีตเจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพ พบภายในบ้านมีจีวรหลายผืน เวลา 10.00 น. พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง หรือ บช.ก. เปิดเผยถึงความคืบหน้า การสืบสวนสอบสวนหาข้อมูลและหลักฐาน ที่เกี่ยวข้องกับวัดตรีทศเทพ ว่าเมื่อวานที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้นำหมายศาลเข้าตรวจค้นบ้านพักหลังหนึ่งในหมู่บ้านดังของสีกาไฮโซ อักษรย่อ ก.ไก่ หญิงสาวคนสนิทของทิดอาชว์ เพื่อค้นหาพยานหลักฐาน พร้อมสอบปากคำสีกาคนดังกล่าว จากการตรวจค้นภายในบ้านพัก พบพยานหลักฐานจำนวนหนึ่ง โดย 1 ในนั้นเป็นจีวรพระหลายพื้น แต่จะเป็นของพระรูปไหนอย่างไร ยังไม่ทราบ เพราะเจ้าตัวยังไม่เปิดเผย จากการสอบปากคำสีกา ก. ให้การเป็นประโยชน์เป็นที่น่าพอใจ สามารถขยายผลนำไปสู่การสืบสวนสอบสวนคดีทุจริตในอนาคตได้ นอกจากนี้ สีกาไฮโซ ก. ยินยอมให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อมูลในโทรศัพท์ได้ ซึ่งถือว่าเป็นให้ความร่วมมือในทิศทางที่ดี อย่างไรก็ตาม หลังหมดเวลาตรวจค้น 18.00 น. เจ้าหน้าที่ได้เชิญตัว […]

‘ทรัมป์’ ฉลองวันชาติสหรัฐด้วยการลงนามร่างกฎหมายสำคัญ

วอชิงตัน 5 ก.ค. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง เมลาเนีย ทรัมป์ ได้ร่วมฉลองวันประกาศอิสรภาพของสหรัฐเมื่อวานนี้ ด้วยการแสดงพลุไฟตระการตาเหนือน่านฟ้ากรุงวอชิงตัน นายทรัมป์จัดพิธีฉลองวันชาติที่สนามหญ้าด้านทิศใต้ของทำเนียบขาวในวันหยุดเพื่อรำลึกวันประกาศอิสรภาพ 4 กรกฎาคม โดยมีการแสดงการบินของเครื่องบินทิ้งระเบิดล่องหนและเครื่องบินขับไล่ คล้ายกับที่เครื่องบินที่ใช้ในการโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ในอิหร่านเมื่อเร็วๆ นี้ มีผู้สนับสนุนนายทรัมป์หลายร้อยคนเข้าร่วม รวมถึงเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาว สมาชิกสภาคองเกรส และครอบครัวทหาร ก่อนหน้านั้น นายทรัมป์ลงนามบังคับใช้ แพ็กเกจกฎหมายขนาดใหญ่ว่าด้วยการลดภาษีและการใช้จ่าย ในพิธีที่จัดขึ้นที่ทำเนียบขาว เพียงหนึ่งวันหลังจากที่สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งพรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมาก ได้อนุมัติร่างกฎหมายสำคัญนี้ไปอย่างฉิวเฉียด ซึ่งถือเป็นกฎหมายสำคัญประจำวาระที่สองของรัฐบาลทรัมป์ ร่างกฎหมายฉบับนี้จะใช้เพื่อเป็นเงินทุนสำหรับการปราบปรามการเข้าเมืองของนายทรัมป์ ทำให้การลดภาษีในปี 2017 ของเขาเป็นไปแบบถาวร และคาดว่าจะทำให้ ชาวอเมริกันหลายล้านคนถูกตัดสิทธิ์จากการประกันสุขภาพ โดยร่างกฎหมายผ่านสภาฯ ด้วยคะแนนเสียง 218 ต่อ 214 หลังจากการอภิปรายที่เข้มข้นในสภา การผ่านร่างกฎหมายนี้ถือเป็นชัยชนะครั้งใหญ่สำหรับทรัมป์และพันธมิตรพรรครีพับลิกัน ซึ่งโต้แย้งว่ากฎหมายจะช่วยกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ ขณะเดียวกันก็มองข้ามการวิเคราะห์ที่เป็นกลางซึ่งคาดการณ์ว่ากฎหมายจะเพิ่ม หนี้ของประเทศอีกกว่า 3 ล้านล้านดอลลาร์ จากหนี้ปัจจุบันที่ 36.2 ล้านล้านดอลลาร์ แม้ว่าสมาชิกสภาบางคนจากพรรคของนายทรัมป์จะแสดงความกังวลเกี่ยวกับต้นทุนของร่างกฎหมายและผลกระทบต่อโครงการดูแลสุขภาพ แต่สุดท้ายแล้วมีเพียง ส.ส. รีพับลิกันเพียงสองคนจากทั้งหมด 220 […]