จ.สงขลา 24 เม.ย.- “อนุชา” ลงพื้นที่ จ.สงขลา ดัน “อาชีพปศุสัตว์” ช่วยเกษตรกรหลุดพ้นความยากจน ย้ำประชาชนมีโอกาสจับเงินแสน เงินล้านจากโครงการ “โคล้านครอบครัว”
นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรัฐมนตรีที่กำกับดูแลสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (สทบ.) เป็นประธานเปิดงาน “สร้างเศรษฐกิจฐานราก สร้างชาติมั่นคง” ภายใต้โครงการเสริมสร้างเศรษฐกิจฐานราก เพื่อการพัฒนาหมู่บ้านและชุมชนเข้มแข็งอย่างยั่งยืน ที่โรงเรียนสทิงพระ อำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา
นายอนุชา เปิดเผยว่า แม้ผลผลิตของภาคอุตสาหกรรมทำให้สัดส่วน GDP เศรษฐกิจโดยรวมของประเทศไทยสูงขึ้น แต่เป็นการเติบโตขึ้นเพียงส่วนเดียว ซึ่งทางรัฐบาลต้องการทำให้ GDP เศรษฐกิจโดยรวมของประเทศมีความมั่นคง เดินหน้าไปพร้อมกันแบบยกแผงทั้งประเทศ รัฐบาลให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชากรในทุกมิติ โดยเริ่มต้นจากประชากรที่อยู่ในระดับฐานราก คือ กลุ่มเกษตรกร-ปศุสัตว์ ซึ่งถือเป็นกลุ่มคนจำนวนมากของประเทศ
โดยผ่านกลไกการบริหารงานของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ ที่มีบทบาทใกล้ชิดประชาชน โดยผลักดันให้ประชาชนดำเนินโครงการตามความต้องการของชุมชน เพื่อเป็นอาชีพเสริมหรือพัฒนาสู่อาชีพหลักที่สร้างรายได้ให้กับชุมชนต่อไป จึงเกิดเป็น “โครงการเสริมสร้างเศรษฐกิจฐานราก เพื่อการพัฒนาหมู่บ้านและชุมชนเข้มแข็งอย่างยั่งยืน” เพื่อต้องการเสริมสร้างกระบวนการพึ่งพาตนเองของหมู่บ้านและชุมชนเมืองในด้านการเรียนรู้ การพัฒนาความคิดริเริ่ม และการแก้ไขปัญหาทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม ของประชาชนในหมู่บ้านและชุมชนเมือง พร้อมทั้งสร้างการเรียนรู้ และพัฒนาหมู่บ้านและชุมชนให้มีขีดความสามารถ ทั้งภาคเกษตร-ปศุสัตว์ หรือท่องเที่ยว ให้เหมาะสมกับท้องถิ่นทั่วทุกภูมิภาคของไทย ก่อเกิดเศรษฐกิจหมุนเวียนในชุมชนที่ดี ชาวบ้านได้กินดีอยู่ดี ส่งผลดีต่อประเทศ เกิดการพัฒนาอย่างทั่วถึงและยั่งยืน
นายอนุชา กล่าวว่า ประเทศไทยมีภูมิศาสตร์ทางกายภาพที่เหมาะสมกับการทำการเกษตรและเลี้ยงสัตว์ ถือเป็นโอกาสที่ดีของพี่น้องสมาชิกกองทุนหมู่บ้านฯ ที่ทางธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรสนับสนุนสินเชื่อให้กับกองทุนหมู่บ้านฯ เพื่อเป็นแหล่งทุนให้พี่น้องสมาชิกฯ กู้ยืมสำหรับเลี้ยงโค กระบือ แพะ และแกะ ครอบครัวไม่เกิน 50,000 บาท คาดว่า 3 ปี จะสามารถคืนทุนได้ โดยตั้งแต่ปีที่ 4 เป็นต้นไป จะเป็นกำไรของพี่น้องประชาชน ซึ่งการเลี้ยงโคเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงน้อย มีความคุ้มทุนสูง เมื่อเทียบกับการประกอบอาชีพอื่นๆ และที่สำคัญโคกินแต่หญ้าที่สามารถหาได้ตามพื้นที่ในชุมชน
“ขอให้พี่น้องประชาชนช่วยกันมาเปลี่ยนหญ้าให้เป็นทอง เชื่อว่าหากพี่น้องประชาชนมีความอดทน ตั้งใจเลี้ยงโค ในอนาคตข้างหน้าจะสบาย เพราะโคจะเลี้ยงเราแทน พี่น้องประชาชนจะนำรายได้ที่ได้จากการเลี้ยงวัวมาเป็นค่าใช้จ่ายในครอบครัว หากขยายพันธุ์โคไปเรื่อยๆ จะช่วยให้มีเงินแสนและเงินล้าน ช่วยสร้างความมั่นคงในชีวิตและครอบครัว ใช้เวลาอยู่กับครอบครัวมากขึ้น ไม่ต้องเดินทางไปทำงานไกลบ้าน ห่างลูกห่างหลาน” นายอนุชา กล่าว
นายอนุชา ย้ำว่า กองทุนหมู่บ้านฯ ยุคใหม่ ต้องการยกระดับความเป็นอยู่ให้ดีขึ้นของสมาชิกกองทุนฯ ให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจฐานราก ซึ่งเป็นฐานสำคัญ ขอให้สมาชิกร่วมมือกันเปลี่ยนประเทศ ให้หลุดพ้นจากความยากจน ไปสู่ความร่ำรวย สร้างชาติให้เจริญก้าวหน้าอย่างมั่นคง สร้างอนาคตสร้างความเป็นอยู่ที่ดีให้กับลูกหลานของเราต่อไป.-สำนักข่าวไทย