เลือกตั้งครั้งนี้พบเฟคนิวส์น้อยกว่าครั้งที่แล้ว

สำนักงานกกต. 24 เม.ย.-เลขาธิการ กกต. เผยเลือกตั้งครั้งนี้พบเฟคนิวส์น้อยกว่าครั้งที่ผ่านมา การแจงนโยบายและที่มางบประมาณ หากพรรคการเมืองทำครบเงื่อนไข ก็ไม่น่าเข้าข่ายหลอกลวง ปกปิดข้อเท็จจริง


นายแสวง บุญมี เลขาธิการกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ชี้แจงที่มาการจัดทำนโยบายหาเสียงของพรรคการเมืองทั้ง 70 พรรคหลังจากที่ทุกพรรคส่งครบแล้วว่า ตามกระบวนการมีกฎหมาย 2 ฉบับ คือ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง กำหนดพรรคแจงนโยบายหาเสียงที่ต้องใช้จ่ายงบประมาณต้องดำเนินการให้ครบเงื่อนไข   ซึ่งจะหมายถึงนโยบาย ส่วนจะเข้าข่ายกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งตามมาตรา 73 หรือไม่ต้องพิจารณาว่า นโยบายนั้นทำได้หรือเข้าข่ายการปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งหรือไม่ ซึ่งอาจจะเข้าข่ายการหลอกลวง ตาม (5 ) ของมาตรา 73 ได้  

เลขาธิการกกต กล่าวว่า ช่วง  20 วันก่อนเลือกตั้ง 14 พฤษภาคม เริ่มมีคำร้องเกี่ยวกับการเลือกตั้งเข้ามาที่อาจทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริตและเที่ยงธรรมทำให้การเลือกตั้งไม่เรียบร้อย เช่น วันเลือกตั้งอาจมีการทำลายบัตรเลือกตั้ง ต้องสืบสวนว่ามาจากฝ่ายไหน ซึ่งกกต.ประสานสำนักงานตำรวจแห่งชาติดูแลกรณีการทำลายบัตรอย่างใกล้ชิด ส่วนการเลือกตั้งไม่สุจริตและเที่ยงธรรมมีบ้างที่เป็นข่าวไปแล้วและกกต.กำลังบริหารสถานการณ์อยู่


“กรณีที่เป็นข่าวที่เราได้ตรวจสอบ บางทีเป็นการสร้างคอนเท้นท์สร้างความสับสนมี 2-3 แห่งที่ตรวจสอบ เราต้องดำเนินการว่าเรื่องแบบนี้เข้าข่ายผิดกฎหมายอะไรหรือไม่ ส่วนกรณีที่ฝ่าฝืนกระทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริตและเที่ยงธรรม สำนักงานกกต.มีมาตรการร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และเครือข่ายที่จะทำให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความเรียบร้อยจนถึง 14 พฤษภาคม” นายแสวง กล่าว

เลขาธิการกกต กล่าวว่า กกต.มีชุดเคลื่อนที่เร็วของสำนักงาน กกต. ชุดเคลื่อนที่เร็วของตำรวจ ชุดป้องปราม ชุดหาข่าว ผู้ตรวจการเลือกตั้งและภาคประชาชน เข้ามามีส่วนร่วม เชื่อว่าองค์ประกอบนี้จะทำให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความเรียบร้อย มั่นใจด้วยมาตรการเช่นนี้จะสามารถบริหารสถานการจัดการเลือกตั้งได้ถึงวันที่ 14 พฤษภาคม ขอบคุณสื่อโซเชียลจากบริษัทไลน์  ติ๊กต๊อกประเทศไทย เฟซบุ๊ก และกูเกิ้ล ร่วมรณรงค์ประชาสัมพันธ์จัดการเลือกตั้ง ซึ่งขณะนี้พบว่ามีปัญหาเฟคนิวส์น้อยกว่าการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา กรณีการให้ร้ายพรรคการเมืองและผู้สมัคร ซึ่งถือว่ายังเป็นไปด้วยดี.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก