กรุงเทพฯ 23 เม.ย. – “มาดามเดียร์” อ้อนคน กทม. เลือกประชาธิปัตย์ เบอร์ 26 มีอดีต ปัจจุบัน และอนาคตร่วมกับประชาชน แฉบางพรรคเอื้อนายทุนทำค่าไฟฟ้าแพง อัดนักการเมืองไม่มีสิทธิไล่ใครออกนอกประเทศ-หยุดวาทกรรม “ชังชาติ”
น.ส.วทันยา บุนนาค ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมือง กรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์ ขึ้นกล่าวปราศรัยใหญ่ฝั่งธนบุรี โดยได้ถามกับประชาชนที่มาร่วมฟังการปราศรัยว่า ร้อนไหมแต่ตนมั่นใจว่าสิ้นเดือนนี้ พวกเราทุกคนจะ หนาวเพราะได้เห็นบิลค่าไฟ และจะหนาวขึ้นเรื่อยๆ เพราะค่า FT ยังจะขึ้นต่อไปไม่จบ และไม่ใช่แค่ค่าไฟ แต่ยังมีค่าแก๊สที่พวกเราใช้ทำกับข้าวก็สูงขึ้น ข้าวของก็แพงขึ้น และของที่แพงขึ้นนี้ก็กลายเป็นรายได้ของนายทุนแค่ 10% ของประเทศ แต่ประชาชนอย่างพวกเราอีก 90% กลับจนลงๆ ทุกวัน เพราะที่ผ่านมาเรามีพรรคการเมืองบางพรรค นักการเมืองบางคน อาสาเข้ามาทำงานการเมือง แต่สุดท้ายเมื่อเข้าสู่อำนาจ เข้าสู่สภา ก็เข้าไปตักตวงประโยชน์ของตัวเอง เข้าไปช่วยนายทุนผูกขาดอำนาจ หาเงินให้แต่นายทุน แต่ไม่เห็นหัวประชาชนเลย
น.ส.วทันยา กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมามีพรรคการเมืองบางพรรค อ้างว่าตัวเองมาจากประชาชน เขาบอกว่าเขาสวมเสื้อประชาธิปไตย แต่พอเข้าไปสู่อำนาจ เข้าไปสู่สภา เข้าไปเป็นรัฐบาลกลับไปทุจริตนโยบาย หาผลประโยชน์ให้แก่พรรคพวก ขณะที่อีกฝ่ายบอกว่าต้องเข้ามา เพราะต้องเลือกความสงบ แต่ก็จบลงที่เศรษฐกิจที่เงียบสงัด ความขัดแย้งบานปลายยิ่งกว่าเดิม เราวนเวียนอยู่กับเรื่องทุจริต คอร์รัปชัน ที่นำไปสู่เงื่อนไขของรัฐประหาร และผูกขาดอำนาจ เอื้อนายทุนแล้วกลับมาสู่วงจรอุบาทว์ซ้ำซาก ดังนั้นถึงเวลาแล้วที่เราต้องเปลี่ยน และหากเราอยากได้พรรคการเมืองที่สุจริต พรรคการเมืองที่มาจากอำนาจของประชาชน พรรคนั้น คือ พรรคประชาธิปัตย์ เบอร์26
“พรรคการเมืองต้องฟังเสียงของประชาชนทุกคน เพราะประชาชนเป็นเจ้าของประเทศ เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย ถ้าเราจะต้องเสนอตัวเองเข้ามาเป็นนักการเมืองตามระบอบประชาธิปไตย สิ่งหนึ่งที่นักการเมืองคนนั้นจะต้องรู้ว่า ภายใต้สังคมไทย ภายใต้สังคมหนึ่งๆ ย่อมมีความหลากหลาย มีความเห็นแตกต่าง แต่ไม่ว่าใครจะมีความเห็นต่างอย่างไร เขาก็คือประชาชนคนหนึ่งของประเทศไทย ไม่มีสิทธิไล่ใครออกนอกประเทศ เราไม่มีสิทธิไปตราหน้าใครว่าชังชาติ และเดียร์มั่นใจว่าเขาไม่ได้ชังชาติ แต่เขาชังนักการเมืองที่คดโกงทุจริตต่างหาก” น.ส.วทันยา กล่าว
น.ส.วทันยา ยังกล่าวอีกว่า ที่มีพรรคการเมืองพยายามผลักคนเห็นต่างไปเป็นศัตรูนั้น สิ่งนี้จะไม่เกิดขึ้นกับพรรคประชาธิปัตย์ เพราะพรรคประชาธิปัตย์ฟังเสียงของคนทุกคน ทุกรุ่น ทุกกลุ่ม และเป็นพรรคการเมืองของประชาชนทุกกลุ่มอย่างแท้จริง พร้อมย้ำว่า พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคการเมืองที่ไม่มีเจ้าของ เป็นพรรคที่เกิดมาจากประชาชน มีอดีตอยู่ร่วมกับประชาชน และวันนี้เรามีปัจจุบันอยู่กับประชาชน และนับจากนี้ไปพรรคประชาธิปัตย์ก็จะมีอนาคตอยู่ร่วมกับประชาชนคนไทย เพราะฉะนั้นเมื่อเรารู้ว่าอำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชน เราต้องเลือกพรรคที่เป็นของประชาชน เคารพเสียงของประชาชนโดยไม่แบ่งแยกประชาชน เพื่อต้องการสร้างความชอบธรรมให้กับตัวเอง ดังนั้นในวันที่ 14 พ.ค.นี้ พวกเราประชาชนทุกคนจะเข้าคูหาเพื่อทวงคืนอำนาจของประชาชนที่อยู่ที่ในมือ ด้วยการเลือกพรรคประชาธิปัตย์ หมายเลข 26 กาบัตรสีเขียว
สำหรับบรรยากาศรอบบริเวณลานพระบรมราชานุสาวรีย์พระเจ้าตากสินมหาราช วงเวียนใหญ่ ในค่ำวันนี้ พี่น้องประชาชนชาวกรุงเทพฯ ทั้งจากฝั่งพระนครและฝั่งธนบุรี รวมถึงบรรดาแฟนคลับ ผู้สนับสนุนพรรคที่เดินทางร่วมรับฟังปราศรัยยังคงเหนียวแน่นอยู่ฟังการปราศรัยเต็มพื้นที่ .-สำนักข่าวไทย