6 แกนนำ รทสช. ตอกย้ำนโยบาย “ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ”

กรุงเทพ 23 เม.ย. – “ธนกร” เผย รทสช. ดึง 6 แกนนำตอกย้ำนโยบาย “ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ” ผ่านคลิปสั้น ส่งผู้สมัคร ส.ส. ปูพรมบอกต่อ ปชช. ทั้งปท. เน้นเข้าใจง่าย เห็นภาพ  
 
นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) และในฐานะหัวหน้าคณะกรรมการจัดกำหนดการหาเสียงและการปราศรัย เปิดเผยว่า รทสช. เตรียมเผยแพร่คลิปนโยบาย เพื่อให้ผู้สมัคร ส.ส.นำไปเผยแพร่บอกต่อประชาชนทั้งประเทศว่า “ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ” ตามสโลแกน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะแคนดิเดตพรรค ผ่านแล้วนำ 6 คน โดยมีนายสุพัฒนพงษ์ พันธุ์มีเชาว์  ที่ปรึกษาทีมเศรษฐกิจพรรค ม.ล.ชโยทิต กฤดากร หัวหน้าทีมเศรษฐกิจพรรค พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ประธานคณะกรรมการด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิต นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และตน  
 
นายธนกร กล่าวว่า ตนชี้แจงเรื่องโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่จะต่อยอดเป็นบัตรสวัสดิการแห่งรัฐพลัสให้ประชาชนคนละ 1000 บาท สามารถใช้บัตรนี้ไปกู้เงินฉุกเฉินได้อีก 10,000 บาท โครงการคนละครึ่งที่ทำมา 5 เฟส พรรครวมไทยสร้างชาติจะมาทำต่อโครงการคนละครึ่งภาคสอง โครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” ปี 2565 มีนักท่องเที่ยวเข้ามาถึง 11ล้านคน และปี 2566 เราตั้งเป้า 27.5 ล้านคน ซึ่งจะมีเงินเข้าประเทศถึง 2.3 ล้านล้านบาท โครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) มีการลงทุนถึง 2.2 ล้านล้านบาท และมีการจ้างงานถึง 100,000 อัตรา เป็นการรหาเงินของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ทุกนโยบาย ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ ทำสำเร็จมาแล้ว ซึ่งเราจะแตกต่างจากพรรคการเมือง


นายธนกร กล่าวว่า ส่วนนายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงนโยบายโคเงินล้าน โคล้านครอบครัว “ทำมาแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ” ซึ่งเป็นนโยบายที่ทำให้คนไทยหลุดพ้นจากความยากจนและสามารถจะเป็นคนรวยได้โดยวิธีง่าย ๆ จากการเลี้ยงโค โดยให้กู้เงินจากกองทุนหมู่บ้านวงเงิน 50,000 บาท นำมาซื้อโคไปเลี้ยง จะมีเงินล้านในระยะเวลาเพียง 6 ปีเท่านั้น  โครงการนี้ รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ได้อนุมัติ วงเงิน 5,000 ล้านบาท โดยรัฐอุดหนุนดอกเบี้ยทั้งหมด  4 ปี เป็นเงิน 600 ล้านบาท ให้กองทุนหมู่บ้านนำร่องโครงการนี้ 100,000 ครอบครัว โครงการนี้ ทำแล้ว ลองแล้ว สำเร็จแล้ว พรรครวมไทยสร้างชาติจะทำต่อจะทำให้พี่น้องพบกับความร่ำรวยไม่ขายฝัน

นายธนกร กล่าวว่า พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ประธานคณะกรรมการด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิต พรรครวมไทยสร้างชาติ จะพูดถึงนโยบายพรรครวมไทยสร้างชาติ ด้านสาธารณสุข จะมีการยกระดับในเมืองใหญ่ ประชากรหนาแน่น ในโครงการ หนึ่งเขต หนึ่งอำเภอ หนึ่งโรงพยาบาลเอกชนที่เป็นวิสาหกิจเพื่อสังคม โดยไม่สิ้นเปลืองงบประมาณแผ่นดินในการลงทุน โครงการนี้ผู้ป่วยทุกสิทธิ์ที่รักษาพยาบาลได้ประโยชน์ โดยเฉพาะผู้ป่วยบัตรทอง  สำหรับการแก้ปัญหาด้านบริการสาธารณสุข ในพื้นที่เขตชนบทอำเภอต่างๆ ในจังหวัดที่มีประชากรไม่หนาแน่น มักประสบปัญหาเรื่องขีดความสามารถทางการแพทย์ ดังนั้นการใช้วิสาหกิจเพื่อสังคมไปเติมขีดความสามารถทางการแพทย์เฉพาะสาขา แต่ละโรงพยาบาลที่ขาดแคนตามสิ่งที่เกิดขึ้นจริง จะลด อุบัติการการเสียชีวิตของผู้ป่วยในพื้นที่ชนบทได้  กรณีสถานการณ์สังคมผู้สูงอายุซึ่งเกิดขึ้นแล้ว ดังนั้นการจัดตั้งเครือข่ายศูนย์ผู้สูงอายุคนพิการและกลุ่มเปราะบางทางสังคมประจำตำบลอำเภอจังหวัดยังเป็นเครือข่ายเป็นระบบสามารถปฏิบัติได้จริงอันนี้เป็นสิ่งแรกเดือนที่รวมไทยสร้างชาติ จะทำ
 
นายธนกร กล่าวว่า นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ชี้แจงนโยบายการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ การให้ทุนการศึกษาเด็กยากจน ตั้งแต่ปี 2563 – 2566 วงเงิน 28,000 ล้านบาท  ดูแลกลุ่มผู้สูงอายุ คนพิการ ที่มีที่พักอาศัยไม่เหมาะสม โดยเข้าไปซ่อมแซมให้ 180,000 ครัวเรือน หาที่อยู่อาศัยให้กับผู้มีรายได้น้อย ทั้งในเมืองและต่างจังหวัดเดือนละ 999 บาท มี 13,000 ครอบครัว ตั้งเป้าทำให้ครบ 100,000 หลัง ดูแลกลุ่มเด็กแรกเกิดได้รับเงินเดือนละ 600 บาทช่วยเหลือค่านม เรามีศูนย์ช่วยเหลือสังคมประจำตำบล และชุมชนทั่วประเทศ 7092 ศูนย์ บูรณาการกันทุกกระทรวงเป็นแอพแจ้งเหตุปักหมุดหยุดเหตุเริ่มดำเนินการ 1 เมษายนและจะขยายไปทั่วประเทศที่โรงพักทั้งหมด 1483 โรง ร่วมกับศูนย์ชุมชนอีก 7000 แห่งประชาชนดูแลบริหารเองไม่ได้ใช้งบประมาณแม้แต่บาทเดียว ซึ่งสามารถลดความรุนแรงในครอบครัวแก้ปัญหายาเสพติดรัฐบาล
 
นายธนกร กล่าวว่า ม.ล.ชโยทิต กฤดากร หัวหน้าทีมเศรษฐกิจพรรครวมไทยสร้างชาติ ชี้แจงนโยบายหาเงินเข้าประเทศ 4 ล้านล้านบาท มาจากทำแล้วทำอยู่ทำต่อ จากการลงทุนในสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน 3 ล้านล้านบาท ทำให้มีการคมนาคมที่สมบูรณ์ทั้งระบบ การมีโครงสร้างดิจิทัลที่สมบูรณ์ ช่วยเยียวยาประชาชน ผ่านแอพระบบกระเป๋าตัง นโยบายคนละครึ่ง  การปักธงในต่างประเทศว่าไทยจะลดคาร์บอนให้เหลือศูนย์ภายในปี 2050 เพื่อเป็นฐานของอุตสาหกรรมใหม่ ขับเคลื่อนด้วยพลังงานสะอาด เรื่องไมโครชิพจะเกิดขึ้นในอุตสาหกรรมใหม่ที่จะหารายได้เข้าประเทศ นอกจากนี้จะมีเงินจากการลงทุนภายในประเทศคือเศรษฐกิจบิซีจี ระเบียงเศรษฐกิจครบสี่ภาค ภาคเหนือ ภาคกลางภาคอีสา นและภาคใต้ เรื่องการท่องเที่ยวเราได้ออกวีซ่าระยะยาว 10 ปี เพื่อชี้ชวนชาวต่างชาติที่มีศักยภาพให้มาลงทุนกินอยู่ และถ่ายทอดองค์ความรู้ให้กับคนไทย เพิ่มโอกาสของไทยในการค้าขายแล้วก็เพิ่มโอกาสในการเข้าสู่เวทีโลก
 
นายธนกร กล่าวว่า นายสุพัฒนพงษ์ พันธุ์มีเชาว์ ที่ปรึกษาทีมเศรษฐกิจพรรครวมไทยสร้างชาติ ชี้แจงนโยบายแก้ปัญหาหนี้สิน สิ่งที่ทำแล้ว อาทิ กยศ. ช่วยเหลือแล้ว 6,800,000 คน การแก้หนี้สินเชื่อเช่าซื้อ ที่มีลูกหนี้กว่า 20 ล้านราย ลดดอกเบี้ยเงินกู้แก้หนี้สหกรณ์ออมทรัพย์ครู จะทำให้มีเงินเหลือไม่ต่ำกว่า 30 เปอร์เซ็น การแก้หนี้ของโควิดที่ไม่ได้เกิดจากความผิดประชาชน จะแก้ให้เสร็จภายในหนึ่งปี สำหรับผู้กู้ 3ล้านกว่าราย การแก้ไขกฎหมายเพื่อให้เงินในส่วนการประกันตน 30 เปอร์เซ็นต์ ของแรงงานมาใช้ก่อนหรือก็บอขอของราชการ 30% ได้มีโอกาสนำมาใช้ในการลดภาระหนี้และอัตราดอกเบี้ยสูงในยามจำเป็นและฉุกเฉิน ตรงนี้เป็นสิ่งที่รวมไทยสร้างชาติเราจะทำแล้วเราทำต่อได้ช่วยเหลือพี่น้องประชาชน.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

มือมีดทำร้าย “เป๊ก ผลิตโชค” ขอโทษ อ้างป้องกันตัว

กรุงเทพฯ 3 ส.ค. – มือมีดทำร้าย “เป๊ก ผลิตโชค” ยืนยันไม่ได้ตั้งใจเอามีดฟัน อ้างไม่ใช่คู่กรณี แต่เห็นคนทะเลาะกัน เลยเข้าไปห้าม แต่ “เป๊ก” ปรี่เข้าหา จึงชักมีดพกขึ้นมาป้องกันตัว อยากขอโทษ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นช่วง 01.30 น. พนักงานสอบสวน สน.หัวหมาก รับแจ้งเหตุมีคนถูกมีดฟันบาดเจ็บในปั๊มน้ำมันซอยรามคำแหง 76 เขตบางกะปิ เมื่อเข้าไปตรวจสอบพร้อมกับสายตรวจและอาสากู้ภัย พบคนเจ็บคือ เป๊ก-ผลิตโชค อายนบุตร อายุ 40 ปี ดารานักร้องชื่อดัง ถูกมีดฟันใต้คางเป็นแผลฉกรรจ์ ทำให้ต้องเร่งปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนพาตัวส่งโรงพยาบาล ขณะที่ผู้ก่อเหตุคือ นายชุติเทพ อายุ 21 ปี ไม่ได้หนีไปไหน ยืนรอมอบตัวกับตำรวจ พร้อมอาวุธมีดยาว 20 เซนติเมตร ที่ใช้ฟันเป๊ก ผลิตโชค ตำรวจจึงคุมตัวไปสอบปากคำที่โรงพัก เบื้องต้นนายชุติเทพ ให้การอ้างขับรถไปรับแฟนออกจากที่ทำงานเพื่อกลับบ้าน แต่ขณะแวะปั๊มน้ำมันจุดเกิดเหตุ เห็นมีคนกำลังทะเลาะกัน คล้ายมีอาการมึนเมา อยู่ท้ายรถกระบะ ตนเองจึงเข้าไปช่วยเคลียร์ […]

ทบ.แจงไม่มีคำสั่งอพยพชาวสุรินทร์ ปัดข่าวลือเตรียมโจมตีกัมพูชา

กองทัพบก 3 ส.ค. – โฆษกกองทัพบก แจงไม่มีคำสั่งอพยพชาวสุรินทร์ ปัดข่าวลือเตรียมโจมตีกัมพูชา กองทัพบก ออกมาปฏิเสธข่าวลือที่แพร่สะพัดบนโซเชียลมีเดีย หลังมีการอ้างว่า “สมเด็จฮุนเซน” อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา แชร์โพสต์ของโฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ระบุว่า กองทัพบกไทยสั่งอพยพชาวจังหวัดสุรินทร์ภายในคืนนี้ เพื่อเตรียมเปิดฉากโจมตีกัมพูชา ก่อนการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ยืนยันว่า ข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง ปัจจุบันในพื้นที่ไม่ได้มีการสั่งอพยพด่วนชาวสุรินทร์อย่างที่ระบุไว้ตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด ที่ผ่านมา การนำเสนอข้อมูลของโฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ไม่มีความน่าเชื่อถือเพียงพอ ขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสารจากแหล่งข่าวทางการ และไม่หลงเชื่อหรือแชร์ข้อมูลเท็จที่อาจสร้างความตื่นตระหนกในสังคม ทั้งนี้ กองทัพบกยังคงเคารพข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด แต่ก็ได้เตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ไม่คาดคิดจากการกระทำของฝ่ายกัมพูชาที่มีแนวโน้มละเมิดข้อตกลงหยุดยิงบ่อยครั้ง รวมถึงพบว่ามีการเพิ่มเติมกำลังพลและยุทโธปกรณ์เข้ามาในพื้นที่. – สำนักข่าวไทย

พระราชทานเพลิงศพ 7 ผู้วายชนม์ เหตุปะทะไทย-กัมพูชา

3 ส.ค. – พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์ ในการพระราชทานเพลิงศพผู้วายชนม์ 7 ราย จากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา วันนี้ ครอบครัวและญาติทำพิธีฌาปนกิจผู้เสียชีวิต 7 ราย จากเหตุกัมพูชายิงใส่พื้นที่พลเรือนของไทยใน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ท่ามกลางบรรยากาศโศกเศร้า เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานพิธี เชิญกล่องเพลิงพระราชทาน ผ้าไตรพระราชทาน และช่อดอกไม้จันทน์พระราชทาน มายังศาลาพุทธคุณ วัดมหาพุทธาราม พระอารามหลวง ต.เมืองเหนือ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ เพื่อประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพผู้เสียชีวิตจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา จากนั้นมีการอ่านหมายรับสั่ง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์ ในการพระราชทานเพลิงศพผู้วายชนม์ 7 ราย ได้แก่ นางสาวรุ่งรัศ, เด็กหญิงทักษพร, เด็กชายพงศภัค, เด็กชายกิตติศักดิ์, นางสาวสาวิตรี, นางอรุณรัตน์ และนายสมศรี โดยมี 5 ราย เสียชีวิตจากเหตุกัมพูชายิงจรวด BM-21 ใส่ร้านสะดวกซื้อ ภายในปั๊มน้ำมัน อ.กันทรลักษ์ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมา ส่วนอีก […]

คนร้ายยิง M16 ถล่มกำนัน ต.นาวง ดับคากระบะ

ตรัง 3 ส.ค. – ตำรวจ สภ.ห้วยยอด พร้อมชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด ตรวจสอบรถกระบะกำนัน ต.นาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง หลังถูกคนร้ายใช้อาวุธปืน M16 ยิงถล่ม เสียชีวิตหน้าบ้านพัก เบื้องต้นตำรวจตั้งปมขัดแย้งส่วนตัว มุ่งเอาชีวิตเป็นหลัก คืบหน้าเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืน M16 ยิงถล่มรถกระบะนายบัณฑิต กำนันตำบลนาวง และประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้าน อ.ห้วยยอด จ.ตรัง เสียชีวิตหน้าบ้านพักเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ล่าสุด ตำรวจ สภ.ห้วยยอด ประสานพิสูจน์หลักฐาน พร้อมชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดศรีตรัง เข้าตรวจสอบรถกระบะของผู้เสียชีวิต พบถูกกระสุนปืน M16 ยิงใส่รถรวม 15 นัด เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตั้งประเด็นขัดแย้งส่วนตัว มุ่งเอาชีวิตเป็นหลัก เนื่องจากสภาพศพกระสุนปืนเข้าที่อวัยวะสำคัญ ทั้งศีรษะและลำตัวฝั่งขวาหลายนัด แต่ยังไม่ตัดประเด็นอื่นๆ ที่อาจเกี่ยวข้องทิ้ง ทั้ง รื่องพิพาทผลประโยชน์สวนปาล์มน้ำมันในพื้นที่วังวิเศษ หรือความเชื่อมโยงกับคดีลอบสังหาร “ทนายเหว่า” ซึ่งอยู่ระหว่างสืบสวนเชิงลึก และอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐาน เพื่อออกหมายจับ ผู้เกี่ยวข้องต่อไป.-สำนักข่าวไทย