“ก้าวไกล” ปราศรัยใหญ่สามย่าน ประชาชนแห่ฟังแน่น

กทม. 23 เม.ย.-“ก้าวไกล” ปราศรัยใหญ่สามย่าน “พิธา” ชูวาระ “9 เปลี่ยนของรัฐบาลก้าวไกล” เน้นตรงไปตรงมา เป็นความเปลี่ยนแปลงที่ประชาชนถวิลหา-ไว้ใจได้

พรรคก้าวไกลจัดการปราศรัยใหญ่โค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง เมื่อวานนี้ (22 เม.ย.66) ที่สามย่านมิตรทาวน์ มีแกนนำพรรคเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง โดยหลังจบการปราศรัยครั้งนี้ แกนนำและผู้ช่วยหาเสียงแต่ละคนจะกระจายไปหาเสียงในทุกภาคของประเทศ ก่อนกลับมารวมกันอีกครั้งในวันที่ 12 พฤษภาคม ซึ่งเป็นวันปราศรัยใหญ่ครั้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง โดยบรรยากาศการปราศรัยเป็นไปอย่างคึกคัก มีประชาชนร่วมฟังจนเต็มและล้นพื้นที่ ทำให้เก้าอี้จำนวน 1,500 ที่นั่งที่เตรียมไว้ไม่เพียงพอ ทุกที่นั่งเต็มตั้งแต่ราว 10 นาทีแรก ตลอดงานคาดว่ามีประชาชนทุกช่วงวัยมาร่วมการปราศรัยครั้งนี้ประมาณ 2,000-3,000 คน


ก่อนการปราศรัยนางสาวศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ผู้จัดการการสื่อสารและการรณรงค์นโยบายพรรคก้าวไกล และนางสาวพรรณิการ์ วานิช กรรมการมูลนิธิคณะก้าวหน้าและผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล ได้เปิดเวทีให้ประชาชนที่รอฟังการปราศรัย ถามคำถามกันสดๆ ไม่ว่าจะเป็นคำถามเกี่ยวกับนโยบายการศึกษา ชั่วโมงเรียนดีมีคุณภาพ ลดคาบเรียน-การบ้าน-การสอบ นโยบายสาธารณสุข ลดชั่วโมงการทำงานบุคลากรทางการแพทย์ นโยบายแก้ปัญหาการคอร์รัปชัน สร้างระบบที่ดีมากกว่าหวังพึ่งพาคนดี เป็นต้น

นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ผู้สมัคร ส.ส.กรุงเทพฯ เขต 27 (เขตบางบอน และเขตบางขุนเทียน) เบอร์ 1 และรองเลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ชัยชนะของพรรคอนาคตใหม่เมื่อปี 2562 ได้ทลายกำแพงไปแล้วครึ่งหนึ่ง เอาคนเข้าไปพูดในสภาฯ ได้ 81 คน ต่อมาเป็นพรรคก้าวไกล เราสร้างความเปลี่ยนแปลงได้แล้วในฝ่ายนิติบัญญัติแม้เป็นฝ่ายค้าน ดังนั้น รอบนี้จะปล่อยผ่านไปไม่ได้ เราต้องการเข้าไปทำงานอีกแบบหนึ่ง คือฝ่ายรัฐบาล วันที่ 14 พฤษภาคม ก้าวไกลต้องเป็นรัฐบาลเท่านั้นเพื่อการเปลี่ยนแปลง เพื่ออนาคตลูกหลานคนไทยทุกคน


นายเซีย จำปาทอง ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ผู้นำปีกแรงงาน กล่าวว่า หลายสิ่งในประเทศล้วนเกิดขึ้นจากฝีมือของพี่น้องแรงงาน เช่น ตึกขนาดใหญ่ พื้นที่ในห้างที่เงาวับ แต่ด้วยโครงสร้างของประเทศไทย ทำให้กรรมกรทำงาน 20-30 ปี ก็ไม่มีวันรวย มีแต่ค่าใช้จ่ายและหนี้สิน หลาย 10 ปีที่ผ่านมา พี่น้องแรงงานฝากความหวังไว้กับหลายพรรคการเมือง แต่วันนี้ตนในฐานะกรรมกรคนหนึ่งได้เข้ามาทำเอง จึงขอเชิญชวนให้ทุกคนร่วมต่อสู้กับพรรคก้าวไกล ตนจะพิสูจน์ให้เห็นว่ามือกรรมกรจะเปลี่ยนประเทศให้เป็นรัฐสวัสดิการและเป็นประชาธิปไตย กาก้าวไกล 2 ใบ แรงงานไทยไม่เหมือนเดิม

ด้านนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้าและผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ที่ผ่านมาการต่อสู้ในทางการเมืองเพื่อเปลี่ยนแปลงสังคม มักมีความโหยหาถึงเหตุการณ์การต่อสู้ในอดีต หรือเหตุการณ์ในต่างประเทศ แต่การคิดถึงอดีตเหล่านี้กลายเป็นการไปล้อมกรอบอนาคต ปิดกั้นจินตนาการใหม่ๆ ซึ่งการเลือกตั้งในวันที่ 14 พฤษภาคม นี้ ก็มีความพยายามนำพาสังคมไทยกลับไปหาอดีตเช่นกัน โดยฝ่ายหนึ่งจะพาสังคมไทยกลับไปยังยุค 2520 ส่วนอีกฝ่ายหนึ่งก็พาเรากลับไปยังยุค 2540 การเลือกตั้งที่จะถึงนี้ ต้องไม่พาประเทศกลับไปอดีต ไม่ว่าจะเป็นแบบ 2520 ที่นโยบายเศรษฐกิจนำไปสู่การส่งส่วยให้กลุ่มทุนใหญ่ ปล่อยให้ขูดรีดค่าเช่าทางเศรษฐกิจ มีพรรคจำนวนมากๆ แบบไม่มีอุดมการณ์ ตั้งพรรคมาเพื่อรวบรวม ส.ส. ให้ได้มากพอไปขอแบ่งเก้าอี้รัฐมนตรี หรือแบบ 2540 ที่นโยบายเศรษฐกิจคิดแต่เพียงกระตุ้นเศรษฐกิจ ขยายเค้กก้อนใหญ่ให้ทุนได้เติบโต แล้วค่อยแบ่งปันให้คนเล็กคนน้อยผ่านบางนโยบาย มีพรรคขนาดใหญ่พรรคเดียว เอา ส.ส. ทุกคนรวมเข้ามาโดยไม่คิดถึงอุดมการณ์ คิดแต่เพียงเพื่อเอาชนะเลือกตั้งให้เด็ดขาด เกิดวิกฤตการเมืองหรือรัฐประหารก็ย้ายข้างไปซบทหารแล้ววันหนึ่งก็กลับมาใหม่

ขอเชิญชวนประชาชนผู้ทรงอำนาจสูงสุดของประเทศทุกคน ต้องร่วมกันทลายกรอบความทรงจำของอดีตที่คอยกักขังอนาคต ร่วมมือกันสร้างอนาคตใหม่ที่จะไม่เหมือนปี 2520 และ 2540 แต่เป็นอนาคตใหม่ที่กล้าชนกับต้นตอของปัญหา กล้าเปลี่ยนโครงสร้างทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคม ใช้อำนาจสูงสุดของประชาชนในวันที่ 14 พฤษภาคมนี้ เปิดประตูจินตนาการใหม่ และความเป็นไปได้ใหม่ เลือกพรรคก้าวไกลให้ถล่มทลาย เพื่อประเทศไทยจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป


นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวว่า มีคนบอกการเมืองแบบอนาคตใหม่ การเมืองแบบก้าวไกลเป็นเรื่องเพ้อฝันเป็นไปไม่ได้ ประเทศนี้ดีพออยู่แล้ว อย่าคิดเปลี่ยนแปลงอะไร ทำไมเราต้องถูกกดบีบให้เจียมเนื้อเจียมตัว พอเพียง คิดได้ไกลที่สุดอย่างมากก็แก้ปัญหาเฉพาะหน้า ปะผุเล็กๆ น้อยๆ ตรงข้ามกับฝ่ายอนุรักษ์นิยม นี่จึงเป็นที่มาของพรรคอนาคตใหม่ และพรรคก้าวไกลในวันนี้ เพราะเราเชื่อว่าเราต้องฝัน และความฝันของเราเป็นไปได้ ตลอด 4 ปีที่ผ่านมาประชาชนจึงเห็นได้ว่าสภาผู้แทนราษฎรเปลี่ยนแปลงไปมากขนาดไหน แนวคิดนโยบายแบบยกเลิกการเกณฑ์ทหาร-ปฏิรูปกองทัพทุกพรรคถึงเอาไปแข่งกันหาเสียง นโยบายความเท่าเทียมทางเพศที่เคยถูกกดเอาไว้ ถึงกลายเป็นนโยบายที่แข่งกันผลักดันตอนนี้ ถ้าไม่กล้าคิด กล้าฝัน ไม่มีพรรคอนาคตใหม่-ก้าวไกล ลองจินตนาการว่าประเทศนี้จะเป็นอย่างไร

เราไม่เชื่อว่าประชาชนมีเจ้าของ ประชาชนไม่ใช่ปลาในบ่อใคร แต่ประชาชนเจ็บแล้วจำ ท่านเลือกแบบไหนท่านเลือกเลย สำหรับก้าวไกลเราคิดและพิสูจน์แล้ว 4 ปีที่ผ่านมา เราทำงานการเมืองอย่างตรงไปตรงมา เราพยายามทำงานอย่างคุ้มค่าที่สุดเพื่อตอบแทนทุกคะแนนเสียงที่พี่น้องประชาชนมอบให้ ไม่เกรงใจใครเกรงใจคนเดียวคือพี่น้องประชาชน ถ้าชอบการเมืองแบบนี้ 14 พฤษภาคมนี้กาก้าวไกลเพื่อไปสร้างความเปลี่ยนแปลง กาก้าวไกลเพื่อเอาประยุทธ์ออกไป เอาประวิตรออกไปด้วย กาก้าวไกลเพื่อเอาคนใหม่ไปบริหารประเทศและทำในสิ่งที่นักการเมืองเก่าทำไม่สำเร็จ

นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้าและผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ตนเดินทางไปหลายจังหวัด หลายคนบอกว่าเลือกตั้งไปทำไม เลือกใครไปก็เหมือนเดิม ชีวิตไม่เคยดีขึ้น เพราะเหตุนี้ พรรคก้าวไกลจึงใช้คำขวัญในการเลือกตั้ง 2566 ว่า กาก้าวไกลประเทศไทยไม่เหมือนเดิม เพื่อบอกว่าภาพประเทศไทยในฝันของพรรคก้าวไกล เช่น ประเทศที่เป็นประชาธิปไตย ไม่รวมศูนย์อำนาจ ไม่มีการทุจริตคอร์รัปชัน สิทธิเสรีภาพของประชาชนได้รับการรับประกัน สร้างรัฐสวัสดิการที่ดูแลคนตั้งแต่เกิดจนตายอย่างถ้วนหน้า หากประชาชนมีความฝันเดียวกับพรรคก้าวไกล ต้องกาให้พรรคก้าวไกลเข้าไปสร้างสังคมไทยผ่านการเลือกตั้งครั้งนี้ ที่ผ่านมามีคนบอกว่าพรรคก้าวไกลไม่มีประสบการณ์ ทำงานไม่เป็น แต่ผ่านมาสี่ปี พรรคก้าวไกลพิสูจน์แล้วว่าทำงานในสภาฯ โดดเด่นเหนือกว่าพรรคการเมืองอื่น บางคนบอกว่าพรรคก้าวไกลเสนอบางเรื่องเร็วเกินไป แต่ตนต้องบอกว่าความเดือดร้อนของประชาชนนั้นรอไม่ได้ บางคนบอกว่ารัฐสวัสดิการ ทำไม่ได้ แต่ตนต้องบอกว่าโจทย์ไม่ได้เริ่มต้นจากการที่บอกว่าทำได้หรือทำไม่ได้ แต่อยู่ที่จะทำหรือไม่ทำ มีเจตจำนงทางการเมืองมากพอหรือเปล่า หรือบางคนบอกว่า พรรคก้าวไกลแก้ปัญหาที่ต้นตอ จะทำให้ถูกโดดเดี่ยว แต่หากต้องโดดเดี่ยวจากนักการเมืองที่ไม่มีอุดมการณ์ แต่เป็นเพื่อนกับประชาชน พรรคก้าวไกลเลือกแบบนี้ ถ้าพรรคก้าวไกลเป็นฝ่ายบริหาร แล้วทำไม่ได้อย่างที่พูด ตนจะไม่เป็นผู้ช่วยหาเสียงให้ในการเลือกตั้งครั้งหน้า 14 พฤษภา อนาคตของประเทศไทยอยู่ในมือของทุกคน ถ้าเชื่อเหมือนกันว่าปัญหาของประเทศไทยไม่ใช่ปัญหาเชิงประเด็น แต่เป็นปัญหาเชิงโครงสร้าง จึงต้องปลดล็อกโครงสร้าง ถ้าเชื่อเหมือนกันว่านี่ไม่ใช่เวลาที่คนไทยต้องเจียมเนื้อเจียมตัว แต่เป็นเวลาที่ต้องกล้าทะเยอทะยาน ขอโอกาสพรรคก้าวไกลเป็นรัฐบาล ขอโอกาสพิธา ลิ้มเจริญรัตน์เป็นนายกรัฐมนตรี กาก้าวไกลให้ถล่มทลายทั้งสองใบ

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี คนที่ 30 ปราศรัยปิดท้ายกล่าวว่า ถ้าพรรคก้าวไกลเป็นรัฐบาล จะทำให้เกิด “9 เปลี่ยน” เป็นครั้งประวัติศาสตร์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นในประเทศไทยมาก่อน ตามยุทธศาสตร์ “การเมืองดี ปากท้องดี มีอนาคต” ประกอบด้วย (1) มีรัฐธรรมนูญของประชาชน โดยประชาชน เพื่อประชาชน เปลี่ยนจากเผด็จการจำแลงให้เป็นประชาธิปไตยเต็มใบ 2) เปลี่ยนประเทศที่ทุกอย่างถูกรวมศูนย์อยู่ที่กรุงเทพฯ ให้เป็นประเทศไทย ด้วยการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ 3) มีระบบการแก้ปัญหาทุจริต โดยพลิกโฉมเปลี่ยนจากรัฐปกปิดให้เป็นรัฐโปร่งใส

4) เปลี่ยนจากที่ดินนายทุน ขุนศึก ศักดินา ให้กลายเป็นที่ดินของประชาชน 5) สำหรับแรงงานทั่วประเทศ เปลี่ยนจากการขึ้นค่าแรงตามใจผู้มีอำนาจ เป็นการขึ้นค่าแรงที่แปรผันตามค่าครองชีพ โดยจะขึ้นทันที 450 บาท ก่อนขึ้นอัตโนมัติตามค่าครองชีพ 6) เปลี่ยนจากค่าไฟแพงให้เป็นค่าไฟแฟร์ สร้างประชาธิปไตยทางพลังงาน ด้วยเสรีโซลาร์เซลล์ 7) เปลี่ยนจากสวัสดิการแบบลุ้นโชค เหมือนในช่วงโควิดที่ฝนตกไม่ทั่วฟ้า เยียวยาไม่ทั่วถึง ชีวิตนี้รำพึงคิดถึงแต่ความตาย พลิกโฉมให้เป็นสวัสดิการถ้วนหน้าที่ไม่ต้องพิสูจน์ความจน

8) พลิกโฉมการศึกษาจากเรียนมากได้น้อย เป็นเรียนเน้นได้มาก คืนเวลาให้ครู ไม่ต้องทำงานธุรการ ไม่ต้องเฝ้าเวร ทำเรื่องที่ไม่มีประโยชน์ ให้ครูได้มีเวลาไปสอนลูกหลานของเราได้อย่างเต็มที่ และ 9) นี่จะเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ชาติไทย ที่ระบบเศรษฐกิจจะทำงานให้ทุกคนในประเทศ ไม่ใช่คนแค่ 1% ไม่ต้องรอให้เค้กโตก่อนแล้วค่อยเจียดมาแบ่งกัน แต่เราจะเริ่มแบ่งเค้กกันตั้งแต่ตอนนี้แล้วโตไปด้วยกัน ดังนั้น ถ้าชอบวิถีแบบพรรคก้าวไกล ชอบวิธีปฏิบัติแบบพรรคก้าวไกล 14 พฤษภาคม ต้องกาพรรคก้าวไกลให้คนใหม่ไปเปลี่ยนแปลงประเทศ กาก้าวไกลให้ประเทศไทยไม่เหมือนเดิม ชัยชนะของพรรคก้าวไกลจะเป็นชัยชนะที่สูงสุดของประชาชนทุกคน เรามาไกลเกินกว่าจะแพ้แล้ว ขอให้ทุกคนเดินทุกถนน เคาะทุกประตู ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลง เปลี่ยนแปลงกรุงเทพฯ เปลี่ยนแปลงประเทศไทย และเปลี่ยนโลกใบนี้ไปด้วยกัน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 แถลงผลประชุม RBC 11 ข้อ ย้ำปฏิบัติตามเงื่อนไขหยุดยิงเคร่งครัด

ศรีสะเกษ 27 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 แถลงผลประชุม RBC 11 ข้อ ที่ด่านศุลกากรช่องสะงำ จ.ศรีสะเกษ ย้ำให้ปฏิบัติตามเงื่อนไขการหยุดยิงอย่างเคร่งครัด ไม่ขยายขอบเขตความขัดแย้ง ไม่เผยแพร่ข่าวปลอม รวมถึงเห็นชอบให้ความร่วมมือปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ-แก๊งคอลเซ็นเตอร์ คำแถลงข่าวร่วมการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee : RBC) สมัยวิสามัญ ระหว่างกองทัพภาคที่ 2 ราชอาณาจักรไทย และภูมิภาคทหารที่ 4 ราชอาณาจักรกัมพูชา วันที่ 27 สิงหาคม 2568 จังหวัดศรีสะเกษ ราชอาณาจักรไทย การประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee : RBC) สมัยวิสามัญ จัดขึ้นวันที่ 27 สิงหาคม 2568 ในจังหวัดศรีสะเกษ ราชอาณาจักรไทย โดยมี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 และพลโท […]

พายุคาจิกิกระทบหลายจังหวัดเหนือ-อีสาน

27 ส.ค. – ผลกระทบจากพายุ “คาจิกิ” ส่งผลหลายจังหวัดภาคเหนือและภาคอีสาน ฝนตกหนัก อย่าง จ.แม่ฮ่องสอน น้ำป่าไหลหลากอย่างรุนแรงในพื้นที่บ้านแม่โกปี๋ ต.แม่ยวมน้อย อ.ขุนยวม ส่วน จ.เลย แม่น้ำเหืองเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ต.นาแก้ว อ.นาแห้ว ชาวบ้านต้องเร่งยกสิ่งของขึ้นที่สูง พายุคาจิกิเคลื่อนตัวสู่ จ.น่าน ทำให้ 6 อำเภอทางตอนเหนือของเมืองน่าน มีฝนตกหนักและเริ่มมีน้ำป่าหลากดินสไลด์ใน ต.ปิงหลวง อ.นาหมื่น ชาวบ้านตามชุมชนและร้านค้าต่างๆ เร่งเก็บข้าวของไว้บนที่สูง อย่างชุมชนสวนตาลล่าง ซึ่งยังไม่ทันฟื้นฟูความเสียหายจากพายุวิภาเมื่อเดือนที่แล้ว ต้องเตรียมพร้อมกันอีกรอบ อย่างร้านจำหน่ายแอร์และกล้องวงจรปิดร้านนี้ ซึ่งครั้งที่แล้วเสียหายไปกว่า 6 ล้านบาท ต้องขนสินค้าออกจากร้านและยกขึ้นชั้น 2 หวั่นเจอน้ำท่วมซ้ำอีก ขณะเดียวกันเริ่มอพยพผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดเตียงที่อยู่ในจุดเสี่ยงน้ำท่วมออกมาอยู่ที่ศูนย์พักพิงแล้วกว่า 20 ราย รวมทั้งเร่งเสริมคันดินและกระสอบทรายตามจุดเสี่ยงรอบเมือง โดยเฉพาะโรงพยาบาลน่าน ที่เคยถูกน้ำท่วมเสียหายเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งขนอุปกรณ์การแพทย์ขนาดใหญ่ไปไว้ในที่ปลอดภัย และเสริมแนวกระสอบทรายป้องกันไว้แล้ว พร้อมยกระดับยกระดับการป้องกันและรับมือกับพายุคาจิกิขั้นสูงสุด ขณะที่ จ.แม่ฮ่องสอน มีผู้ใช้โซเชียลโพสต์คลิปสถานการณ์น้ำป่าไหลหลากอย่างรุนแรงช่วงบ่ายวานนี้ (26 ส.ค.) ในพื้นที่บ้านแม่โกปี๋ ต.แม่ยวมน้อย อ.ขุนยวม […]

ทบ.ย้ำชัดกัมพูชาบิดเบือน-ให้ร้าย ตั้งชุมชนรุกล้ำผิด MOU 2000

27 ส.ค.- โฆษก ทบ.โต้กัมพูชา กล่าวหาบิดเบือนพยายามให้ร้ายฝ่ายไทย ย้ำชัดวางลวดหนาม “บ้านหนองจาน” อยู่ในเขตอธิปไตยไทย ชี้เขมรตั้งชุมชนรุกล้ำผิด MOU 2000 จากกรณีที่สำนักข่าว Fresh News รายงานว่า นายชุม ซอนรี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของกัมพูชา แถลงความคืบหน้าเกี่ยวกับการปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงระหว่างกัมพูชา–ไทย เมื่อช่วงเย็นวันที่ 26 สิงหาคม 2568 เวลา 16.00 น. โดยระบุว่า ฝ่ายไทยได้ละเมิดอธิปไตยของกัมพูชา และละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ด้วยการวางลวดหนามรุกล้ำพื้นที่บ้านเรือนและที่ดินของประชาชนในหมู่บ้านโจกเจย ตำบลโอเบยเจือน อำเภอโอโจรว จังหวัดบันเตียเมียนเจย ซึ่งสะท้อนถึงฝ่ายไทยได้ขยายพื้นที่ความขัดแย้งเข้ามาสู่เขตชุมชนพลเรือน และจากการประชุม GBC เมื่อ 7 สิงหาคม 2568 มีบันทึกความเข้าใจ 13 ข้อ ระบุว่าจะไม่มีการดำเนินการใด ๆ ที่เป็นการยั่วยุ และจะหลีกเลี่ยงการกระทำใด ๆ ที่อาจก่อให้เกิดความตึงเครียดเพิ่มขึ้น รวมถึงตามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ปี 2000 ห้ามการดำเนินการใด ๆ […]

อุตุฯ เตือนเหนือ-อีสานตอนบน ฝนตกหนักบางพื้นที่

กรุงเทพฯ 27 ส.ค. – กรมอุตุฯ เตือนประชาชนโดยเฉพาะบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ ตาก สุโขทัย อุตรดิตถ์ ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนภาคกลาง รวมทั้ง กทม.-ปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ส่วนภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ ตาก สุโขทัย อุตรดิตถ์ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมา เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณภาคเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมกำลังค่อนข้างแรงบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบน […]