ชทพ.ปราศรัยแปดริ้ว อ้อนขอคะแนน ชูนโยบายเกษตร-น้ำบาดาล

ฉะเชิงเทรา 19 เม.ย. – “ชาติไทยพัฒนา” ปราศรัยเวทีแปดริ้ว “ประภัตร” ขอคะแนนให้ผู้สมัคร พร้อมโอ่เป็นผู้แทนที่ดี ติดดิน เข้าหาง่าย ด้าน “วราวุธ” อ้อนขอคะแนน-เลือกผู้สมัครของพรรคไปแก้ปัญหา พร้อมชูนโยบายเกษตร-น้ำบาดาล ทำได้จริง เชื่อคนแปดริ้วยี้นโยบายแจกเงิน ที่สร้างหนี้-ก่อภาระลูกหลาน พร้อมย้ำจุดยืนตั้ง ส.ส.ร. จากตัวแทนประชาชน เพื่อแก้ รธน.ให้เป็นของประชาชน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 เม.ย.66) พรรคชาติไทยพัฒนา นำโดย นายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรค, นายประภัตร โพธสุธน เลขาธิการพรรค, นายสันติ กีระนันทน์ รองหัวหน้าพรรค และนางนันทพร ดำรงพงศ์ รองเลขาธิการพรรค ลงพื้นที่เขต 1 จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อช่วยนายเฉลิง จูจำรัส ผู้สมัคร ส.ส.ฉะเชิงเทรา เขต 1 พรรคชาติไทยพัฒนา เบอร์ 8 หาเสียงกับประชาชนในพื้นที่ ผ่านการตั้งเวทีปราศรัยที่บริเวณสามแยกบางขวัญ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งถือเป็นการปราศรัยใหญ่ครั้งแรกของพรรคชาติไทยพัฒนา ในการเลือกตั้ง 2566

สำหรับบรรยากาศของเวทีปราศรัยเป็นไปอย่างคึกคัก มีประชาชนหลายพันคนเข้าร่วม เพื่อฟังนโยบายของพรรค รวมถึงรับฟังวิสัยทัศน์ของนายวราวุธ ในฐานะแคนดิเดตนายกฯ และคำปราศรัยของนายเฉลิง


โดยนายประภัตร กล่าวบนเวทีปราศรัยตอนหนึ่งว่า เวทีปราศรัยที่ จ.ฉะเชิงเทรา เป็นการชี้ชะตาผู้สมัคร ส.ส. หากคนไม่มี ต้องกลับบ้าน ทั้งนี้ พรรคไม่เคยจัดเวทีปราศรัยในช่วงเย็น แต่เวลานี้ต้องยอมรับว่า คนฟังปราศรัยไม่น้อย 4,000-5,000 คน นายเฉลิงได้เป็นผู้แทนแน่นอน ทั้งนี้ เหตุที่พรรคชาติไทยพัฒนาต้องเลือกนายเฉลิงลงเลือกตั้ง เพราะนางวรรณี จูจำรัส ภรรยาของนายเฉลิง เป็นคน อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี

“พรรคชาติไทยในอดีต เคยมีผู้แทน จ.ฉะเชิงเทรา คือ นายสุชาติ ตันเจริญ ดังนั้น พรรคชาติไทยพัฒนาไม่ใช่พรรคใหม่ในพื้นที่ฉะเชิงเทรา ดังนั้น ผู้แทนที่พรรคเสนอตัวให้ลงเลือกตั้ง ขอให้จำเบอร์ให้ดี อย่าสับสนกับเบอร์พรรคที่ได้หมายเลข 18 สำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้ต้องเลือกคนเพื่อใช้งาน ไม่ใช่ว่า 4 ปีไม่เคยเห็นว่าอยู่ไหน แต่นายเฉลิงไม่เคยทิ้งชาวบ้าน เป็นคนติดดิน เสียสละเวลา เสียสละเงินทอง พบง่าย และมีเวลาให้ประชาชน ซึ่งเป็นวิสัยของผู้แทนราษฎรที่ดี” นายประภัตร กล่าว

ด้านนายวราวุธ ปราศรัยว่า พรรคชาติไทยพัฒนามาขอคะแนนให้พรรค และนายเฉลิง ในฐานะผู้สมัคร ส.ส.ฉะเชิงเทรา เขต 1 ในการเลือกตั้งครั้งนี้ มีหลายพรรคนำเสนอหลายนโยบาย วันนี้ (​19 เม.ย.) มีหลายพรรคหาเสียง และตั้งเวทีใกล้เคียงกัน แต่เวทีของพรรคชาติไทยพัฒนามีคนฟังปราศรัยมากกว่า ส่วนนโยบายที่พรรคการเมืองนำเสนอมีหลากหลาย รวมถึงการให้เงิน แต่ให้ลูกหลานใช้หนี้แทน ทั้งนี้ ตนมองว่า นโยบายที่ดีคือการแก้ปัญหาให้วันนี้และอนาคต ไม่ทิ้งภาระหนี้สินให้คนในอนาคต ตนเชื่อว่านโยบายแจกเงินวันนี้ เป็นหนี้ในวันหน้า คนฉะเชิงเทราไม่ต้องการแน่นอน


“วันนี้เอาเงินก่อน แต่โยนภาระหนี้ให้คนรุ่นต่อไป ผมเชื่อว่าไม่มีใครอยากได้แน่นอน สำหรับนโยบายของพรรคชาติไทยพัฒนาที่จะมอบให้ ทั้งแจกพันธุ์ข้าวปลูกฟรี พัฒนาแหล่งน้ำ ทั้งบนดินและใต้ดิน โดยเฉพาะในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก พรรคพร้อมจะมอบน้ำบาดาลเพื่อการเกษตรและอุปโภคบริโภคในทุกตำบล เพราะพื้นที่นี้มีแหล่งน้ำที่สมบูรณ์ หากได้เป็นรัฐบาล รวมถึงขยายเขตการไฟฟ้าที่ราคาถูก หน่วยละ 2 บาท สิ่งที่พรรคจะมอบให้ น้ำ ไฟฟ้าราคาถูก พันธุ์ข้าวปลูก จะเปลี่ยนชีวิตของเกษตรกร” นายวราวุธ กล่าว

นายวราวุธ กล่าวว่า สำหรับบัตรเลือกตั้งในการเลือกตั้งวันที่ 14 พฤษภาคม มี 2 ใบ 2 สี คือ สีเขียว สำหรับเลือกพรรคการเมือง ดังนั้น บัตรสีเขียวให้เลือกพรรคชาติไทยพัฒนา เบอร์ 18 ตรงช่องลงคะแนน ไม่ใช่กาคะแนนตรงหมายเลข หรือสัญลักษณ์พรรค ขณะที่บัตรสีม่วง สำหรับเลือก ส.ส.เขต ดังนั้น ต้องหาเบอร์ 8 เพื่อเลือกนายเฉลิง ตนขอโอกาสให้พรรคได้มี ส.ส.ฉะเชิงเทรา เพื่อทำงานแก้ปัญหาให้ประชาชน แม้การเลือกตั้งจะมีการแข่งขันกันสูง

นายวราวุธ กล่าวว่า นโยบายของพรรคชาติไทยพัฒนาที่ประกาศ เคยทำสำเร็จมาแล้ว โดยเฉพาะการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นของประชาชน เพราะรัฐธรรมนูญมีความสำคัญกับการขับเคลื่อนประเทศไปข้างหน้า ในสมัยนายบรรหาร ศิลปอาชา ได้ฝากเป็นมรดกชิ้นสำคัญให้กับคนไทย คือ รัฐธรรมนูญปี 2540 เพราะเมื่อปี 2538 สมัยที่นายบรรหาร เป็นนายกฯ มีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) หาตัวแทนประชาชนจากทุกจังหวัด ทุกสาขาอาชีพ ทุกเพศทุกวัย เข้ามาเป็นผู้แทนร่างรัฐธรรมนูญ จนได้รัฐธรรมนูญที่ดีที่สุดเป็นรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนอย่างแท้จริง และตั้งแต่นั้นมีรัฐธรรมนูญปี 2550 และปี 2560 แต่เป็นที่แปลกว่า ยิ่งแก้ยิ่งแย่ลง ยิ่งทำให้ปวดหัวมากขึ้น ดังนั้น วันนี้พรรคชาติไทยพัฒนา หากมีโอกาสเข้ามาทำงาน รัฐธรรมนูญฉบับประชาชนต้องกลับมาอีก จะต้องเปลี่ยนแปลง เสนอโดยคนทั้ง 66 ล้านคน ในนาม ส.ส.ร. คือสิ่งที่เราทำมาแล้ว และจะขอโอกาสจากประชาชน โดยเฉพาะเขต 1 ฉะเชิงเทรา ให้โอกาสพรรคอีกครั้ง โดยเลือกนายเฉลิงให้เข้ามา แล้วจะนำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เพื่อแก้ปัญหาให้เกษตรกร เรื่องน้ำ เรื่องไฟฟ้า พันธุ์ข้าว สุขภาพอนามัย ดูแลคนชรา ผู้สูงอายุ. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย