ชทพ.ปราศรัยแปดริ้ว อ้อนขอคะแนน ชูนโยบายเกษตร-น้ำบาดาล

ฉะเชิงเทรา 19 เม.ย. – “ชาติไทยพัฒนา” ปราศรัยเวทีแปดริ้ว “ประภัตร” ขอคะแนนให้ผู้สมัคร พร้อมโอ่เป็นผู้แทนที่ดี ติดดิน เข้าหาง่าย ด้าน “วราวุธ” อ้อนขอคะแนน-เลือกผู้สมัครของพรรคไปแก้ปัญหา พร้อมชูนโยบายเกษตร-น้ำบาดาล ทำได้จริง เชื่อคนแปดริ้วยี้นโยบายแจกเงิน ที่สร้างหนี้-ก่อภาระลูกหลาน พร้อมย้ำจุดยืนตั้ง ส.ส.ร. จากตัวแทนประชาชน เพื่อแก้ รธน.ให้เป็นของประชาชน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 เม.ย.66) พรรคชาติไทยพัฒนา นำโดย นายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรค, นายประภัตร โพธสุธน เลขาธิการพรรค, นายสันติ กีระนันทน์ รองหัวหน้าพรรค และนางนันทพร ดำรงพงศ์ รองเลขาธิการพรรค ลงพื้นที่เขต 1 จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อช่วยนายเฉลิง จูจำรัส ผู้สมัคร ส.ส.ฉะเชิงเทรา เขต 1 พรรคชาติไทยพัฒนา เบอร์ 8 หาเสียงกับประชาชนในพื้นที่ ผ่านการตั้งเวทีปราศรัยที่บริเวณสามแยกบางขวัญ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งถือเป็นการปราศรัยใหญ่ครั้งแรกของพรรคชาติไทยพัฒนา ในการเลือกตั้ง 2566

สำหรับบรรยากาศของเวทีปราศรัยเป็นไปอย่างคึกคัก มีประชาชนหลายพันคนเข้าร่วม เพื่อฟังนโยบายของพรรค รวมถึงรับฟังวิสัยทัศน์ของนายวราวุธ ในฐานะแคนดิเดตนายกฯ และคำปราศรัยของนายเฉลิง


โดยนายประภัตร กล่าวบนเวทีปราศรัยตอนหนึ่งว่า เวทีปราศรัยที่ จ.ฉะเชิงเทรา เป็นการชี้ชะตาผู้สมัคร ส.ส. หากคนไม่มี ต้องกลับบ้าน ทั้งนี้ พรรคไม่เคยจัดเวทีปราศรัยในช่วงเย็น แต่เวลานี้ต้องยอมรับว่า คนฟังปราศรัยไม่น้อย 4,000-5,000 คน นายเฉลิงได้เป็นผู้แทนแน่นอน ทั้งนี้ เหตุที่พรรคชาติไทยพัฒนาต้องเลือกนายเฉลิงลงเลือกตั้ง เพราะนางวรรณี จูจำรัส ภรรยาของนายเฉลิง เป็นคน อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี

“พรรคชาติไทยในอดีต เคยมีผู้แทน จ.ฉะเชิงเทรา คือ นายสุชาติ ตันเจริญ ดังนั้น พรรคชาติไทยพัฒนาไม่ใช่พรรคใหม่ในพื้นที่ฉะเชิงเทรา ดังนั้น ผู้แทนที่พรรคเสนอตัวให้ลงเลือกตั้ง ขอให้จำเบอร์ให้ดี อย่าสับสนกับเบอร์พรรคที่ได้หมายเลข 18 สำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้ต้องเลือกคนเพื่อใช้งาน ไม่ใช่ว่า 4 ปีไม่เคยเห็นว่าอยู่ไหน แต่นายเฉลิงไม่เคยทิ้งชาวบ้าน เป็นคนติดดิน เสียสละเวลา เสียสละเงินทอง พบง่าย และมีเวลาให้ประชาชน ซึ่งเป็นวิสัยของผู้แทนราษฎรที่ดี” นายประภัตร กล่าว

ด้านนายวราวุธ ปราศรัยว่า พรรคชาติไทยพัฒนามาขอคะแนนให้พรรค และนายเฉลิง ในฐานะผู้สมัคร ส.ส.ฉะเชิงเทรา เขต 1 ในการเลือกตั้งครั้งนี้ มีหลายพรรคนำเสนอหลายนโยบาย วันนี้ (​19 เม.ย.) มีหลายพรรคหาเสียง และตั้งเวทีใกล้เคียงกัน แต่เวทีของพรรคชาติไทยพัฒนามีคนฟังปราศรัยมากกว่า ส่วนนโยบายที่พรรคการเมืองนำเสนอมีหลากหลาย รวมถึงการให้เงิน แต่ให้ลูกหลานใช้หนี้แทน ทั้งนี้ ตนมองว่า นโยบายที่ดีคือการแก้ปัญหาให้วันนี้และอนาคต ไม่ทิ้งภาระหนี้สินให้คนในอนาคต ตนเชื่อว่านโยบายแจกเงินวันนี้ เป็นหนี้ในวันหน้า คนฉะเชิงเทราไม่ต้องการแน่นอน


“วันนี้เอาเงินก่อน แต่โยนภาระหนี้ให้คนรุ่นต่อไป ผมเชื่อว่าไม่มีใครอยากได้แน่นอน สำหรับนโยบายของพรรคชาติไทยพัฒนาที่จะมอบให้ ทั้งแจกพันธุ์ข้าวปลูกฟรี พัฒนาแหล่งน้ำ ทั้งบนดินและใต้ดิน โดยเฉพาะในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก พรรคพร้อมจะมอบน้ำบาดาลเพื่อการเกษตรและอุปโภคบริโภคในทุกตำบล เพราะพื้นที่นี้มีแหล่งน้ำที่สมบูรณ์ หากได้เป็นรัฐบาล รวมถึงขยายเขตการไฟฟ้าที่ราคาถูก หน่วยละ 2 บาท สิ่งที่พรรคจะมอบให้ น้ำ ไฟฟ้าราคาถูก พันธุ์ข้าวปลูก จะเปลี่ยนชีวิตของเกษตรกร” นายวราวุธ กล่าว

นายวราวุธ กล่าวว่า สำหรับบัตรเลือกตั้งในการเลือกตั้งวันที่ 14 พฤษภาคม มี 2 ใบ 2 สี คือ สีเขียว สำหรับเลือกพรรคการเมือง ดังนั้น บัตรสีเขียวให้เลือกพรรคชาติไทยพัฒนา เบอร์ 18 ตรงช่องลงคะแนน ไม่ใช่กาคะแนนตรงหมายเลข หรือสัญลักษณ์พรรค ขณะที่บัตรสีม่วง สำหรับเลือก ส.ส.เขต ดังนั้น ต้องหาเบอร์ 8 เพื่อเลือกนายเฉลิง ตนขอโอกาสให้พรรคได้มี ส.ส.ฉะเชิงเทรา เพื่อทำงานแก้ปัญหาให้ประชาชน แม้การเลือกตั้งจะมีการแข่งขันกันสูง

นายวราวุธ กล่าวว่า นโยบายของพรรคชาติไทยพัฒนาที่ประกาศ เคยทำสำเร็จมาแล้ว โดยเฉพาะการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นของประชาชน เพราะรัฐธรรมนูญมีความสำคัญกับการขับเคลื่อนประเทศไปข้างหน้า ในสมัยนายบรรหาร ศิลปอาชา ได้ฝากเป็นมรดกชิ้นสำคัญให้กับคนไทย คือ รัฐธรรมนูญปี 2540 เพราะเมื่อปี 2538 สมัยที่นายบรรหาร เป็นนายกฯ มีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) หาตัวแทนประชาชนจากทุกจังหวัด ทุกสาขาอาชีพ ทุกเพศทุกวัย เข้ามาเป็นผู้แทนร่างรัฐธรรมนูญ จนได้รัฐธรรมนูญที่ดีที่สุดเป็นรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนอย่างแท้จริง และตั้งแต่นั้นมีรัฐธรรมนูญปี 2550 และปี 2560 แต่เป็นที่แปลกว่า ยิ่งแก้ยิ่งแย่ลง ยิ่งทำให้ปวดหัวมากขึ้น ดังนั้น วันนี้พรรคชาติไทยพัฒนา หากมีโอกาสเข้ามาทำงาน รัฐธรรมนูญฉบับประชาชนต้องกลับมาอีก จะต้องเปลี่ยนแปลง เสนอโดยคนทั้ง 66 ล้านคน ในนาม ส.ส.ร. คือสิ่งที่เราทำมาแล้ว และจะขอโอกาสจากประชาชน โดยเฉพาะเขต 1 ฉะเชิงเทรา ให้โอกาสพรรคอีกครั้ง โดยเลือกนายเฉลิงให้เข้ามา แล้วจะนำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เพื่อแก้ปัญหาให้เกษตรกร เรื่องน้ำ เรื่องไฟฟ้า พันธุ์ข้าว สุขภาพอนามัย ดูแลคนชรา ผู้สูงอายุ. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

แม่น้ำยมล้นพนังกั้นน้ำ ชาวบ้าน-พระ เดือดร้อน

สุโขทัย 28 ส.ค. – หลายพื้นที่เมืองสุโขทัย จมอยู่ใต้น้ำและขยายวงกว้าง แม่น้ำยมล้นพนังกั้นน้ำ ด้านหลังวัดปากแคว พระและชาวบ้าน ช่วยกันขนสิ่งของหนีน้ำ ภาพมุมสูง เผยให้เห็นสภาพน้ำท่วมสูงภายในวัดปากแคว และบริเวณโดยรอบ ทหารนำกำลังพล 22 นาย ลงพื้นที่ช่วยเหลือ พระวัดปากแคว ชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 2 หมู่ 4 ต.ปากแคว 4 ชุมชน ในเขตเทศบาลเมืองสุโขทัยธานี ถูกน้ำท่วมขยายวงกว้าง รถยนต์จมน้ำหลายคัน ด้านหลังวัดปากแคว อำเภอเมือง แม่น้ำยมผนังกั้นน้ำล้นตลิ่ง มวลน้ำมหาศาล ทะลักเข้าท่วมเต็มพื้นที่ ระดับน้ำสูงรอบวัดเกือบ 2 เมตร ทะลักเข้าท่วม ไหลข้ามถนนจรดวิถีถ่อง ระยะทางกว่า 500 เมตร ต้องปิดกั้นถนนห้ามสัญจรไปมา พระครูปลัดสุวัฒนสาธุคุณ (พระอาจารย์นาค) เจ้าคณะตำบลบ้านกล้วย เจ้าอาวาสวัดพายชุมพล หลังทราบข่าว ระดับน้ำท่วม ในวัดปากแคว รีบนำอาหารกล่องพร้อมทั้งถุงยังชีพ เข้าไปถวายพระสงฆ์ 18 รูป ที่จำพรรษาอยู่ในวัดปากแคว เร่งหาผู้สูญหายที่แม่ฮ่องสอน […]

เร่งค้นหาอีก 3 ผู้สูญหายดินถล่มปางอุ๋ง ท่ามกลางความหวังของญาติ

28 ส.ค. – เข้าสู่วันที่ 2 ของเหตุดินโคลนถล่มบ้านปางอุ๋ง หมู่บ้านกลางหุบเขา อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ยังคงปฏิบัติการค้นหาผู้สูญหายอีก 3 ราย โดยระดมกำลังนับร้อยนายพร้อมเครื่องจักรเดินหน้าค้นหา ท่ามกลางบรรดาญาติที่เฝ้ารอด้วยความหวัง ล่าสุดวันนี้พบร่างผู้เสียชีวิตอีก 2 ราย ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้เพิ่มเป็น 6 ราย และยังสูญหายอีก 3 คน ขณะที่หลายครอบครัวต้องสูญเสียบ้านที่อยู่มาหลายสิบปีและยังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นสร้างขึ้นใหม่ได้อย่างไร.-สำนักข่าวไทย

ประชุม ก.ตร. ล่ม เลื่อนไป 31 ส.ค. โผนายพล 136 ตำแหน่งสะดุด

กทม. 28 ส.ค.-ประชุม ก.ตร. ล่ม เลื่อนไป 31 ส.ค. หลัง “ภูมิธรรม” ถกลับ ผบ.ตร. นานหลายชั่วโมง เหตุมีหนังสือร้องเรียนจำนวนมาก ทำโผนายพล 136 ตำแหน่งสะดุด ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. เป็นประธานการประชุม ก.ตร.ครั้งที่ 7/2568 ณ ห้องประชุมศรียานนท์ ชั้น 2 อาคาร 1 มีระเบียบวาระการประชุม 5 วาระ ประกอบด้วย วาระที่ 1 เรื่องที่ประธานแจ้งให้ที่ประชุมทราบ /วาระที่ 2 รับรองรายงานการประชุม ก.ตร.ครั้งที่ 6/2568 /วาระที่ 3 เรื่องที่เสนอเพื่อทราบ เรื่องที่ 1 รายงานการดำเนินการของ อ.ก.ตร.สืบสวนสอบสวน ที่ ก.ตร. มอบหมายให้ทำการแทน […]

กองทัพไทย เคาะสร้างรั้วชายแดนไทย-กัมพูชา เขต อ.อรัญประเทศ

สระแก้ว 23 ส.ค.-กองทัพไทย เคาะสร้างรั้วชายแดนไทย-กัมพูชา จุดแรกบริเวณหลักเขตที่ 50-51 เขต อ.อรัญประเทศ ระยะทาง 10 กม. เชื่อเริ่มดำเนินการได้เป็นรูปธรรมภายในปีนี้ พลเอกมนัส จันดี เสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทยพร้อมคณะลงพื้นที่เพื่อสำรวจแนวชายแดนตั้งแต่หลักเขตที่สี่ 48 ต่อเนื่องถึง 51 บริเวณพื้นที่บ้านป่าไร่ ถึงบ้านท่าข้าม ในเขต อ.อรัญประเทศ โดยการสำรวจดังกล่าวเพื่อเตรียมสร้างแนวกำแพงแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้ข้อสรุปเบื้องต้นบริเวณหลักเกณฑ์ที่ห้า 50 และ 51 ซึ่งไทยและกัมพูชาเห็นตรงกันแล้วในเรื่องเขตแดน จะสร้างเป็นรั้วถาวรเป็นจุดแรกระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร ขณะบริเวณอื่นๆ ซึ่งยังมีการอ้างสิทธิ และยังไม่มีข้อสรุปเรื่องเขตแดนที่ชัดเจน เบื้องต้นก็จะสร้างเป็นแนวรั้วชั่วคราวด้วยวิธีการตัดถนนเลียบตลอดแนวชายแดนและวางรั้วลวดหนามหีบเพลงสามชั้น พร้อมติดกล้องวงจรปิดในจุดที่สามารถดำเนินการได้ ทั้งนี้เชื่อว่าการดำเนินการดังกล่าวจะเกิดประโยชน์ในการเคลื่อนย้ายกำลัง รวมไปถึงการลาดตระเวนตรวจตรา นอกจากนี้การปรับพื้นที่ให้โล่งก็จะทำให้การลักลอบผ่านแดนตามช่องทางธรรมชาติยากขึ้น ซึ่งถือเป็นการสกัดกั้นทั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์และปัญหาสแกมเมอร์ ได้ โดยการดำเนินการจะเริ่มต้นทันทีที่นำเรื่องเข้าขออนุมัติจากสภาความมั่นคงแห่งชาติและไม่ได้ติดขัดในเรื่องงบประมาณแต่อย่างใด เชื่อว่าภายในปีนี้น่าจะเห็นแนวรั้วกำแพงชายแดนไทย-กัมพูชา เริ่มต้นเกิดขึ้นได้ ซึ่งขั้นตอนต่อจากนี้จะมีการลงในรายละเอียดพื้นที่ต่างๆ เพื่อทำความเข้าใจกับประชาชนตามแนวชายแดนที่บางส่วนอาจได้รับผลกระทบบ้าง แต่ก็เชื่อว่าประชาชนพร้อมที่จะเสียสละเพื่อความมั่นคงปลอดภัยของส่วนรวม พลตรี วันชนะ สวัสดี ผู้อำนวยการสำนักงานประสานภารกิจด้านความมั่นคงกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กรมยุทธการทหาร กล่าวเพิ่มเติมว่า การทำรั้วตลอดแนวชายแดนไทยกัมพูชาเกิดขึ้นจากข้อเรียกร้องของประชาชน […]