ผลโพลเลือกตั้งหลายสำนัก | ความตั้งใจไปเลือกตั้ง-อาจแลนด์สไลด์หลายภาค

กทม.16 เม.ย. วันนี้ มีผลสำรวจ การเลือกตั้ง ส.ส. จากหลายสำนัก แต่ที่น่ายินดี คือ คนส่วนใหญ่กว่า ร้อยละ 70 ยืนยันจะไปเลือกตั้ง ขณะที่เก้าอี้ ส.ส. ทั่วประเทศ พบว่า อาจเกิดแลนด์สไลด์ในหลายภาค และพรรคที่ได้ ส.ส. จะกวาดทั้งแบบบัญชีรายชื่อและ ส.ส.เขต


เริ่มที่ นิด้าโพล สำรวจ “ศึกเลือกตั้ง 2566 ครั้งที่ 2” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 3-7 เมษายน 2566 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป จำนวน 2,000 หน่วยตัวอย่าง บุคคลที่ประชาชนจะสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีในการเลือกตั้งครั้งนี้
อันดับ 1 ร้อยละ 35.70 ระบุว่าเป็น น.ส.แพทองธาร ชินวัตร (พรรคเพื่อไทย)
อันดับ 2 ร้อยละ 20.25 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ (พรรคก้าวไกล)
อันดับ 3 ร้อยละ 13.60 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา (พรรครวมไทยสร้างชาติ)
อันดับ 5 ร้อยละ 6.05 ระบุว่าเป็น นายเศรษฐา ทวีสิน (พรรคเพื่อไทย)
ตามด้วย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ (พรรคไทยสร้างไทย) พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส (พรรคเสรีรวมไทย) อันดับ 8 นายอนุทิน ชาญวีรกูล (พรรคภูมิใจไทย) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ (พรรคประชาธิปัตย์) และนายกรณ์ จาติกวณิช (พรรคชาติพัฒนากล้า)

พรรคการเมืองที่ประชาชนจะเลือกให้เป็น ส.ส. แบบแบ่งเขต พบว่า
อันดับ 1 ร้อยละ 47.20 พรรคเพื่อไทย
อันดับ 2 ร้อยละ 21.20 พรรคก้าวไกล
อันดับ 3 ร้อยละ 10.80 พรรครวมไทยสร้างชาติ
ตามด้วย พรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย พรรคเสรีรวมไทย อันดับ 8 พรรคพลังประชารัฐ


พรรคการเมืองที่ประชาชนจะเลือกให้เป็น ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ พบว่า
อันดับ 1 ร้อยละ 47.00 ระบุว่าเป็น พรรคเพื่อไทย
อันดับ 2 ร้อยละ 21.85 ระบุว่าเป็น พรรคก้าวไกล
อันดับ 3 ร้อยละ 11.40 ระบุว่าเป็น พรรครวมไทยสร้างชาติ
อันดับ 4 ร้อยละ 4.50 ระบุว่าเป็น พรรคประชาธิปัตย์
อันดับ 5 ร้อยละ 3.00 ระบุว่าเป็น พรรคภูมิใจไทย
อันดับ 6 ร้อยละ 2.65 ระบุว่าเป็น พรรคเสรีรวมไทย
อันดับ 7 ร้อยละ 2.35 ระบุว่า ยังไม่ตัดสินใจ
อันดับ 8 ร้อยละ 2.10 ระบุว่าเป็น พรรคไทยสร้างไทย
อันดับ 9 ร้อยละ 1.80 ระบุว่าเป็น พรรคพลังประชารัฐ

ด้าน สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ กรณี “นายกรัฐมนตรีคนใหม่” ในสายตาประชาชน พบพบว่า เมื่อพิจารณาตามประเด็นต่าง ๆ 10 หัวข้อ คนที่เหมาะสมจะเป็นนายกรัฐมนตรีในความเห็นของประชาชน คือในเรื่อง ช่วยแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ช่วยสร้างสังคมให้มีความสุข ช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิต สวัสดิการประชาชน ช่วยพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้า เพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันกับอารยประเทศ คือ นส. แพทองธาร ชินวัตร พรรคเพื่อไทยเรื่อง ช่วยการแก้ปัญหาทุจริตคอรัปชั่น ช่วยส่งเสริมพัฒนาด้านการศึกษา คือ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ก้าวไกล ประสานระหว่างประชาชนกับทหาร ช่วยจรรโลงศาสนา พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ช่วยแก้ปัญหาความขัดแย้ง ช่วยประสานงานจัดตั้งรัฐบาลได้ราบรื่น คือ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ช่วยปราบปรามยาเสพติด คือ พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียเวส

ขณะที่ สำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เสนอผลการศึกษาต่อเนื่อง เรื่อง “โพล เลือกตั้ง ส.ส. ครั้งที่ 4 กรณีศึกษาผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ส.ส. ทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ จำนวน 6,990 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 5 – 15 เมษายน ถึงความตั้งใจจะไปเลือกตั้งของประชาชนพบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 70.5 หรือประมาณการจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งรวมทั้งสิ้น 37,431,819 คน จะไปเลือกตั้ง ในขณะที่ร้อยละ 29.5 หรือ ประมาณการจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งรวมทั้งสิ้น 15,662,959 คน จะไม่ไปเลือกตั้ง ความเป็นไปได้ของจำนวนที่นั่ง ส.ส. เขตเลือกตั้งจำนวน 400 ที่นั่ง
พรรคเพื่อไทยโดยมีความเป็นไปได้ว่าจะได้ 133 ที่นั่ง มีความเป็นไปได้ที่จะได้จำนวนที่นั่ง ส.ส. เขตเลือกตั้งแบบแลนสไลด์ในภาคอีสานและภาคเหนือ จะได้ ส.ส.เขตจำนวน 24 ที่นั่งหรือร้อยละ 64.9 ของจำนวน ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้งทั้งหมดในภาคเหนือ จะได้ ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้งจำนวน 78 ในภาคอีสาน แต่อาจจะไม่ได้ ส.ส. แบบแบ่งเขตเลือกตั้งเลยในภาคใต้ได้ 8 ที่นั่ง ในกรุงเทพมหานคร ได้ 18 ที่นั่ง ในภาคกลาง ได้ 4 ที่นั่ง ในตะวันออก และ 1 ที่นั่ง ในภาคตะวันตก


อันดับสอง พรรคภูมิใจไทย ได้ ส.ส. เขต 101 ที่นั่งมากที่สุด ในภาคตะวันตก 10 ที่นั่ง ภาคเหนือ 5 ที่นั่ง กรุงเทพมหานคร 8 อีสาน 36 กลาง 26 ภาคตะวันออก 6 ภาคใต้ 10 ที่นั่ง

พรรคพลังประชารัฐ กลับขึ้นมาเป็นอันดับสาม ส.ส.เขต 53 ที่นั่ง ภาคเหนือ 6 ที่นั่ง กรุงเทพมหานคร 2 อีสาน 10 ภาคกลาง 17 ตะวันออก 8 ตะวันตก 3 และภาคใต้ จำนวน 7 ที่นั่ง

พรรคประชาธิปัตย์ ตามมาอันดับที่สี่จำนวน ส.ส.เขต 44 ที่นั่ง 1 ที่นั่ง ภาคเหนือ 3 ที่นั่ง กรุงเทพมหานคร 2 ที่นั่ง อีสาน 1 ที่นั่ง ภาคกลาง 7 ที่นั่ง ภาคตะวันออก 2 ที่นั่ง ภาคตะวันตก และ ได้ 28 ที่นั่ง ในภาคใต้ที่อาจกล่าวได้ว่า พรรคประชาธิปัตย์ แลนด์สไลด์ในภาคใต้แบบยกจังหวัด

พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้อันดับห้าจำนวน ส.ส.เขต 35 ที่นั่ง1 ที่นั่ง ในภาคเหนือ 6 ที่นั่ง กรุงเทพมหานคร 1 ที่นั่ง อีสาน 13 ที่นั่ง ภาคกลาง 2 ที่นั่ง ภาคตะวันออก 3 ที่นั่ง ภาคตะวันตก 9 ที่นั่ง ในภาคใต้

พรรคก้าวไกล ได้อันดับที่หก จำนวน ส.ส.เขต 10 ที่นั่ง ได้ 1 ที่นั่ง ในกรุงเทพมหานคร 2 ที่นั่ง ในอีสาน 5 ที่นั่ง ภาคกลาง 2 ที่นั่งภาคตะวันออก.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร