ปลัด มท. สั่งบังคับใช้กฎหมายเข้มข้น ดูแลความปลอดภัยเดินทางกลับ

กรุงเทพฯ 16 เม.ย. – ปลัด มท. สั่งการผู้ว่าฯ นายอำเภอ ทั่วประเทศ บูรณาการอำนวยความสะดวกและบังคับใช้กฎหมายเข้มข้นทุกเส้นทางถนนสายหลัก สายรอง รวมถึงรถสาธารณะ เพื่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนที่เดินทางกลับจากเทศกาลสงกรานต์ พร้อมเน้นย้ำสายด่วนนิรภัย 1784 รับแจ้งเหตุตลอด 24 ชั่วโมง


วันนี้ (16 เม.ย. 66) นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทยในฐานะรองประธานกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยได้ติดตามการปฏิบัติงานศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2566 ร่วมกับภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง นับตั้งแต่การเปิดศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2566 เมื่อวันที่ 11 เมษายน ที่ผ่านมา โดย พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะผู้อำนวยการ ศปถ. ซึ่งได้มีการรณรงค์ภายใต้แนวคิด “ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่อย่างปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ” โดยกำชับไปยังท่านผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจังหวัด และท่านนายอำเภอในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการความปลอดภัยทางถนนอำเภอ รวมถึงผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการความปลอดภัยทางถนนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้ดำเนินมาตรการทั้งการป้องกัน ป้องปราม และการบังคับใช้กฎหมายในทุกเส้นทางทั้งถนนสายหลัก ถนนสายรอง และถนนในความรับผิดชอบขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

ทั้งนี้ จากรายงานของศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2566 พบว่า มีสถิติอุบัติเหตุทางถนนสะสม 5 วัน (วันที่ 11 – 15 เมษายน 2566) เกิดอุบัติเหตุรวม 1,744 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 197 ราย ผู้บาดเจ็บ 1,738 คน โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ น่าน (59 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร (15 ราย) และจังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ น่าน (59 คน) จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต 7 จังหวัด


“ในวันนี้ เป็นวันหยุดช่วงท้ายของเทศกาลสงกรานต์ 2566 ซึ่งพี่น้องประชาชนที่ได้เดินทางกลับไปเยี่ยมญาติผู้ใหญ่ รวมถึงที่เดินทางไปท่องเที่ยวทัศนาจรยังสถานที่ต่าง ๆ อยู่ระหว่างการเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร รวมถึงจังหวัดต่าง ๆ เพื่อเตรียมทำงาน ประกอบอาชีพ จึงทำให้ปริมาณยานพาหนะในถนนทุกสายของวันนี้มีจำนวนมาก รวมทั้งในช่วงวันหยุดที่ผ่านมา อาจมีพี่น้องประชาชนหลายท่าน ใช้เวลาร่วมกับครอบครัว ร่วมกับญาติมิตรเพื่อนฝูง เฉลิมฉลองสังสรรค์ ซึ่งอาจส่งผลทำให้ร่างกายไม่ได้รับการพักผ่อนที่เพียงพอ ดังนั้น กระทรวงมหาดไทย จึงได้เน้นย้ำไปยังท่านผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ได้บูรณาการทีมจังหวัด และทีมอำเภอในพื้นที่ ทั้งภาคราชการ ภาคเอกชน ฯลฯ ดูแลและอำนวยความสะดวกในการเดินทางกลับของประชาชนอย่างเข้มข้น จัดจุดบริการประชาชนเพื่อดูแลความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน มีกาแฟ น้ำดื่ม ของว่าง ไว้บริการให้กับพี่น้องประชาชน ซึ่งในบ้างพื้นที่ ด้วยความสมัครสมานสามัคคีของภาคีเครือข่าย ได้มีบริการอาหารหลัก อาหารว่างสำหรับผู้ใช้รถใช้ถนน จึงขอให้ท่านที่หากง่วงนอน หรืออ่อนเพลียในระหว่างขับรถ แวะพักได้ตามจุดบริการประชาชนที่มีกระจายอยู่ทุกเส้นทาง ทุกพื้นที่อำเภอ ตำบล ในถนนทุกสาย นอกจากนี้ ยังได้เน้นย้ำให้ทุกด่านเพิ่มความถี่เรียกตรวจในเส้นทางเสี่ยงอุบัติเหตุและถนนทางตรง อีกทั้งเข้มงวดบังคับใช้กฎหมายกับผู้กระทำผิด โดยเฉพาะไม่พกใบอนุญาตขับขี่ ขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ดื่มแล้วขับ มีจำนวนผู้โดยสารเกินที่กฎหมายกำหนด และไม่ใช้อุปกรณ์นิรภัย พร้อมทั้งเตรียมพร้อมด้านการแพทย์ฉุกเฉินให้สามารถเข้าถึงจุดเกิดเหตุโดยทันที เพื่อดูแลประชาชนให้เดินทางถึงจุดหมายอย่างปลอดภัยที่สุด และสำหรับจังหวัดที่มีจุดตัดทางรถไฟ จังหวัดที่มีพื้นที่ชายฝั่ง ให้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามอำนาจหน้าที่ ดูแลอำนวยการความปลอดภัยในทุกจุด และสำหรับอำเภอให้สั่งใช้สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน (อส.) และสั่งการกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฝ่ายปกครอง คณะกรรมการหมู่บ้าน (กม.) กวดขันการใช้จักรยานยนต์ที่ไม่ปลอดภัยของกลุ่มวัยรุ่น กลุ่มเด็กและเยาวชนที่อาจจะใช้รถไม่ปลอดภัยก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของตนเองรวมถึงส่วนรวมด้วย รวมทั้งกวดขันการจอดรถริมทางซื้อของฝากและร้านค้าที่วางสิ่งของล้ำช่องทางจราจร เพื่ออำนวยการจราจรให้คล่องตัวและป้องกันอุบัติเหตุจากการแซงริมไหล่ทาง” นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวเน้นย้ำ

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า ในด้านการให้บริการรถสาธารณะและเครื่องบิน ได้กำชับให้ผู้ว่าราชการจังหวัด และนายอำเภอ ประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ ได้ตรวจสอบความพร้อมของยวดยานพาหนะ ความพร้อมของพนักงานขับรถ รวมถึงตรวจตราพื้นที่นั่งพักคอยภายในบริเวณสถานีขนส่ง สถานีรถไฟ และอาคารท่าอากาศยาน เพื่ออำนวยความสะดวก สร้างความปลอดภัยให้กับประชาชนผู้ใช้บริการ และจากสภาพอากาศที่ได้ติดตามร่วมกับกรมอุตุนิยมวิทยาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพบว่าในวันนี้บางพื้นที่จะเกิดฝนฟ้าคะนอง ซึ่งจะทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนนจากสภาพถนนเปียกลื่นและทัศนวิสัยในการมองเห็นเส้นทางจำกัด จึงขอให้ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนได้เพิ่มความระมัดระวังในการใช้รถใช้ถนนเป็นพิเศษ ใช้อุปกรณ์นิรภัย ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด เพื่อให้การเดินทางถึงจุดหมายอย่างปลอดภัย

“หากพี่น้องประชาชนพบเห็นอุบัติเหตุบนท้องถนน หรือหากยานพาหนะขัดข้อง ต้องการขอรับความช่วยเหลือ ขอให้ได้ติดต่อแจ้งสายด่วนนิรภัย 1784 เพื่อเจ้าหน้าที่และพี่น้องอาสาสมัครได้เข้าให้การช่วยเหลืออย่างทันท่วงที และในส่วนของท่านที่เดินทางด้วยรถโดยสารสาธารณะ หากพบว่าสภาพรถไม่พร้อม หรือผู้ขับขี่มีสภาพร่างกายผิดปกติ คาดว่าจะทำให้ไม่ได้รับความปลอดภัย ขอให้ได้แจ้งเจ้าหน้าที่นายท่ารถประจำสถานี หรือโทรสายด่วนกรมการขนส่งทางบก หมายเลข 1584 แล้วแจ้งทะเบียนรถ จุดที่กำลังเดินทาง เพื่อเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องตามกฎหมายจะได้ดำเนินการเพื่อดูแลความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชน หรือแจ้งเหตุทาง LINE “ปภ.รับแจ้งเหตุ1784” โดยเพิ่มเพื่อน ค้นหา Line ID @1784DDPM ตลอด 24 ชั่วโมง” นายสุทธิพงษ์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ พล.ท.บุญสิน เป็นทหารราชองครักษ์พิเศษ

กทม. 27 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายทหาร-นายตำรวจ เป็นราชองครักษ์พิเศษ 38 นาย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 อยู่ในลำดับที่ 20 เมื่อวันที่ 27 ก.ย.2568 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ จำนวน 38 นาย อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติการถวายความปลอดภัย พ.ศ. 2560 มาตรา 6 มาตรา 7 และมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติราชองครักษ์ พุทธศักราช 2480 มาตรา 4 มาตรา 5 และมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัตินายตำรวจราชสำนัก พ.ศ. 2495 และข้อ 6 ของระเบียบกระทรวงกลาโหมว่าด้วยการแต่งตั้งราชองครักษ์ พ.ศ.2559 .-313.-สำนักข่าวไทย

ไฟไหม้ จยย. ลามวอดทั้งลานจอด

กทม. 27 ก.ย.-วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟไหม้รถจักรยานยนต์ที่ลานจอด ก่อนลุกลามระเบิดวอดรถจักรยานยนต์ 29 คัน รถยนต์ 3 คัน และจักรยาน 3 คัน วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟเริ่มลุกไหม้รถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ด้านในสุด ก่อนจะลุกลามมาคันข้างๆ และระเบิด จนควันปกคลุมไปทั่ว แล้วไฟได้ลุกลามไปอย่างรวดเร็ว ทำให้รถจักรยายนต์ที่จอดอยู่เสียหายถึง 29 คัน รถยนต์ 2 คัน รถกระบะ 1 คัน และจักรยานอีก 3 คัน เหตุการณ์เกิดขึ้นเวลาประมาณ 01.40 น. เช้าวันนี้ (27 กย.68) ที่ลานจอดรถ ของพี.อาร์.เค แมนชั่น ใกล้ปากซอยสุขสวัสดิ์ 17 เเขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ ตำรวจพร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเร่งเข้าช่วยเหลือฉีดน้ำสกัดท่ามกลางเปวดพลิงที่และกำลังลุกลามต่อเนื่องไปยังลานจอดรถยนต์ด้านในอาคาร โดยใช้เวลานานกว่า 20 นาที จึงควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ ซึ่งรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่เสียหายทั้งหมด เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุ ต้องรอให้เจ้าหน้าส่วนเกี่ยวข้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง แต่โชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย

กัมพูชาเปิดฉากยิงป่วน 2 พื้นที่ ปราสาทตาควาย-ช่องบก

26 ก.ย. – กัมพูชาเปิดฉากยิงไทยแล้ว 2 จุด บริเวณพื้นที่ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ และเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี เวลาประมาณ 16.40 น. รับแจ้งจากหน่วยทหารในพื้นที่ ระบุว่า บริเวณเนิน 350 พื้นที่ประสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ ได้ยินเสียงระเบิด 1 ครั้ง และพื้นที่ “จุ๊บอั่งกุย” ได้ยินเสียงปืนเล็ก 5-6 นัด คาดว่าเป็นการก่อเหตุยั่วยุจากทางฝั่งกัมพูชา ล่าสุดเหตุการณ์กลับสู่ภาวะปกติ อยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติมจากหน่วยทหารในพื้นที่ ขณะที่บริเวณเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยอมรับว่า ไทยถูกกัมพูชายิงระเบิดใส่จริง ขณะนี้กำลังเร่งตรวจสอบ เก็บหลักฐานไปประท้วง พร้อมขอให้ประชาชนช่วยรักษาความลับราชการ ไม่เผยแพร่ภาพพิกัดยุทโธปกรณ์ของทหาร.-สำนักข่าวไทย

กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกช่วยงานประธานรัฐสภา

กทม 26 ก.ย.- กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกไปช่วยงานประธานรัฐสภา ชี้นโยบายชัด ปลัดอำเภอใหม่ต้องปฏิบัติงานในพื้นที่จริง เพื่อสั่งสมประสบการณ์ นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ รองอธิบดี ปฏิบัติราชการแทน อธิบดีกรมการปกครอง ทำหนังที่ มท 302.13481 ถึงเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เรื่องขอยืมตัวข้าราชการช่วยราชการ โดย อ้างถึง หนังสือสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ด่วนที่สุด ที่ สผ001.02/479 ลงวันที่ 25 กันยายน 2568 โดยมีรายละเอียดว่า ตามหนังสือที่อ้างถึง สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร แจ้งว่า มีความประสงค์ขอยืมตัวข้าราชการสังกัดกรมการปกครองราย ร้อยตำรวจเอกหญิง อาทิติยา เบ็ญจะปัก ตำแหน่ง นักประชาสัมพันธ์ปฏิบัติการ ส่วนประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมการปกครอง มาช่วยราชการที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในส่วนงานของประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย อีกหน้าที่หนึ่ง โดยไม่ขาดจากตำแหน่งหน้าที่เดิม ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่1ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป นั้น กรมการปกครอง ขอเรียนว่า […]

ข่าวแนะนำ

ผู้สมัคร “ภูมิใจไทย” ประกาศชัยชนะ เลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ เขต 5

28 ก.ย. – “จินณ์ตวรรณ” ผู้สมัครหมายเลข 2 จากพรรคภูมิใจไทย ประกาศชัยชนะ หลังทราบผลคะแนนเลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ เขต 5 อย่างไม่เป็นทางการ นำคู่แข่งจากพรรคเพื่อไทย ขอบคุณประชาชนที่ไว้วางใจให้เข้าไปทำหน้าที่ สำหรับผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ ณ เวลา 19.40 น. หมายเลข 1 ภูริกา สมหมาย พรรคเพื่อไทย ได้คะแนน 24,681 คะแนนหมายเลข 2 จินณ์ตวรรณ ไตรสรณกุล พรรคภูมิใจไทย ได้คะแนน 31,653 คะแนน.-สำนักข่าวไทย

เร่งเคลียร์เศษวัสดุในหลุม คืนผิวจราจร 8 ต.ค.

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – แก้ถนนทรุดคืบหน้า จนท.ยุติการเทปูนแล้ว เร่งเคลียร์เศษวัสดุในหลุมออก เพื่อถมทรายผสมปูนอีก 5 เมตร คาดหากไม่มีอุปสรรคเพิ่ม จะคืนผิวจราจรได้อย่างน้อย 2 ช่องทาง 8 ต.ค.นี้.-สำนักข่าวไทย

“สีหศักดิ์” ย้ำจุดยืน ไทยยึดสันติภาพ โต้ถ้อยแถลงกัมพูชา

พรรคภูมิใจไทย 28 ก.ย. – “สีหศักดิ์” ย้ำจุดยืน ไทยยึดสันติภาพ โต้ถ้อยแถลงกัมพูชา มองโอกาสนำไทยสู่จอเรดาร์โลก นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ก่อนการเดินทางกลับจากการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UNGA) ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีการพูดถึงถ้อยแถลงในที่ประชุม ประเด็นเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างไทยและกัมพูชา รวมถึงบทบาทของไทยในเวทีสหประชาชาติ (ยูเอ็น) นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า การเดินทางเข้าร่วมการประชุม UNGA ในครั้งนี้ ต้องการให้ประเทศต่างๆ เห็นว่า การต่างประเทศของไทยกำลังขับเคลื่อนประเทศไทย และไทยจะมีบทบาทสำคัญในเวทีโลก ถึงแม้รัฐบาลชุดนี้จะอยู่แค่ 4 เดือน แต่จะใช้ช่วงเวลานี้ให้มีความหมาย สำหรับประเด็นเกี่ยวกับสถานการณ์ระหว่างไทย-กัมพูชา นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า เดิมทีจะใช้ถ้อยแถลงใน UNGA เพื่อบอกว่าไทยอยากเห็นแนวทางในการแก้ไขปัญหานี้ เพราะช่วงที่ผ่านมาก็มีการประชุมที่ประเทศมาเลเซีย ที่มีการบรรลุข้อตกลงหยุดยิง และการประชุมของคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ทำให้เกิดข้อตกลงเรื่องการรักษาข้อตกลงหยุดยิง การเก็บกู้ทุ่นระเบิด การถอนอาวุธหนัก และการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ เป้าหมายของไทยคือ การสร้างความปลอดภัยและนำความสงบมาสู่ชายแดน หากต่างฝ่ายต่างมีความจริงใจและมุ่งมั่นทำให้ข้อตกลงต่างๆ เป็นรูปธรรม ก็คิดว่าไทยจะดำเนินการเป็นขั้นตอนในการปรับความสัมพันธ์ อย่างไรก็ตาม นายปรัก สุคน […]

นายกฯ พร้อมแถลงนโยบาย 29-30 ก.ย. มองผลโพลเหมือนน้ำทิพย์ชโลมใจ

พรรคภูมิใจไทย 28 ก.ย. – นายกฯ พร้อมแถลงนโยบาย 29-30 ก.ย. มองผลโพลเหมือนน้ำทิพย์ชโลมใจ แต่ขณะเดียวกันก็กดดันความคาดหวังประชาชน ย้ำต้องทำงานหนักตอบแทน ไม่ให้กลายเป็นยาพิษ ยันยึดสันติแก้ชายแดน บอกไทยนี้รักสงบ แต่ถ้ารบก็ลองดู ลั่นที่ผ่านมาเห็นความอัปยศอดสู วันนี้จะไม่มีวันให้เกิดขึ้นกับประเทศไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ความพร้อมในการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาในวันที่ 29-30 ก.ย.นี้ว่า ร่างนโยบายได้ส่งให้ทุกฝ่ายศึกษาแล้ว พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) ตามรัฐธรรมนูญ นายกรัฐมนตรีต้องลุกขึ้นอ่านนโยบายต่อที่ประชุมรัฐสภาให้ได้รับทราบ ส่วนถามว่ามีความกังวลหรือไม่ด้วยระยะเวลาที่มีอยู่อย่างจำกัด นายอนุทิน กล่าวว่า จริงๆ แล้วเราไม่ได้เพิ่งเข้ามาทำงานใหม่ สำหรับพรรคภูมิใจไทยทำงานต่อเนื่องมากกว่า 6 ปีแล้ว เพิ่งไปพักร้อนช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ดังนั้น สิ่งที่ยังทำค้างอยู่ในช่วง 2 เดือนที่หยุดไป คงไม่ถึงขั้นที่ต้องทำให้ยกเลิก สิ่งที่เราอยากจะทำอะไรไป เราสามารถสานต่อ และมีนโยบายใหม่ๆ ในฐานะที่เรามาเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะสามารถใช้นโยบายเพื่อช่วยเหลือประชาชน กระตุ้นเศรษฐกิจได้เพิ่มมากขึ้น หลายคนมีความคาดหวังกับรัฐบาลใหม่ และผลโพลหลายสำนัก คะแนนความนิยมในตัวนายกรัฐมนตรีเพิ่มสูงขึ้น จะสอดคล้องกับนโยบายและเป็นความคาดหวังให้กับประชาชนได้มากน้อยแค่ไหนนั้น […]