กทม. 15 เม.ย.- โฆษกรัฐบาลเผย ตลอด 3 ปี โครงการ “พาณิชย์ลดราคา ช่วยประชาชน” ส่งผลกระตุ้นการซื้อขาย ช่วยลดภาระค่าครองชีพประชาชนได้กว่า 16,498 ล้านบาท
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า โครงการ “พาณิชย์ลดราคา ช่วยประชาชน” ตลอดระยะเวลา 3 ปี ซึ่งเริ่มตั้งแต่ปี 2563 เพื่อลดภาระ บรรเทาค่าครองชีพให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ระบาดนั้น รัฐบาลโดยกระทรวงพาณิชย์ได้ดำเนินโครงการเพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชนในช่วงวิกฤติโควิด-19 ระลอก 1 ระลอก 2 ระลอก 3 ตั้งแต่ปี 2563 อย่างต่อเนื่อง ซึ่งโครงการนี้ได้รับความร่วมมือจากผู้ผลิต ห้างค้าปลีกค้าส่ง ห้างสรรพสินค้า ห้างท้องถิ่น แพลตฟอร์มออนไลน์ ร้านสะดวกซื้อ นำสินค้ามาลดราคาทั้งออฟไลน์และออนไลน์ เริ่มดำเนินการตั้งแต่ มีนาคม 2563 จนถึง มกราคม 2566 ลดราคาสินค้าและบริการมาแล้วทั้งหมด 23 ครั้ง รวมทั้งสิ้น 33,485,560 รายการ และบริการรวมทั้งสิ้น 1,674 รายการ โดยลดราคาสินค้าตั้งแต่ 32-87% สินค้าที่นำมาลดราคาเป็นสินค้าที่จำเป็นต่อการอุปโภคบริโภค เช่น อาหาร วัตถุดิบ ผัก ผลไม้ ข้าวสาร สินค้าเกษตร ผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ อุปกรณ์การเรียนการสอน เป็นต้น ทั้งในห้างท้องถิ่น ห้างค้าปลีกค้าส่ง ตลาดสด ตลาดกลาง รวมถึงการซื้อสินค้าและบริการบนแพลตฟอร์มออนไลน์ ซึ่งจากการดำเนินโครงการนี้ที่ผ่านมาสามปี สามารถช่วยประชาชน ลดค่าใช้จ่ายไปได้กว่า 16,498 ล้านบาท
“โครงการพาณิชย์ลดราคา ช่วยประชาชน ที่สามารถช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายของประชาชนได้เป็นจำนวนมาก ในช่วงเวลาที่ประเทศประสบกับความท้าทาย รัฐบาลเข้าใจประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มเปราะบาง จึงได้มีแนวทางเพื่อช่วยเหลือประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเพื่อกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยภายในประเทศ เพิ่มปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจไทย” นายอนุชา กล่าว .-สำนักข่าวไทย