“สมชัย” ติง กกต.บินดูงานเมืองนอกไม่เหมาะ อ้างประชุมทางไกลฟังไม่ขึ้น

กรุงเทพฯ 13 เม.ย. – “สมชัย” ติง กกต.บินดูงานเมืองนอกไม่เหมาะสม ทั้งเวลา สถานที่ แก้อะไรไม่ได้ ข้ออ้างประชุมทางไกลฟังไม่ขึ้น ไร้ผลงานแก้ปัญหาระบบลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้าล่ม-ไร้วินิจฉัยนโยบายการเมือง ขอเร่งประสานเรื่องดีเบต


วันนี้ (13 เม.ย.) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบาย พรรคเสรีรวมไทย และอดีต กกต. กล่าวถึงกรณี กกต. 6 คน บินไปดูงานต่างประเทศ ทำให้ไม่สามารถพิจารณาปัญหาระบบลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้าล่ม และวินิจฉัยนโยบายพรรคการเมืองได้ ว่า กรณีระบบลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้าล่ม ถือได้ว่าประชาชนยังไม่เสียสิทธิในการเลือกตั้ง เพราะยังมีการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 14 พ.ค.66 แต่ก็ทำให้ประชาชนมีความลำบาก ต้องเดินทางไปเลือกที่หน่วยเลือกตั้งตามทะเบียนบ้าน ซึ่งก้ำกึ่งว่า กกต. เป็นคนทำให้ประชาชนเสียสิทธินี้ ซึ่งประชาชนสามารถฟ้องดำเนินคดีทางแพ่งกับ กกต. ว่าทำให้ประชาชนเกิดความเสียหาย อยู่ที่ว่าศาลจะพิจารณาอย่างไร หรืออาจจะฟ้องทางอาญาว่า กกต.ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งพูดยาก เพราะ กกต.เองก็ทำตามหน้าที่ เพียงแต่มีเหตุขัดข้องเกิดขึ้น และถ้าเป็นเรื่องจริยธรรมก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ว่า กกต.ทำงานเต็มความสามารถหรือไม่ ไม่ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่เต็มความสามารถหรือไม่ อาจจะเป็นจริยธรรมของคนดำรงตำแหน่งทางการเมือง ก็ร้องเพื่อถอดถอนได้ แล้วแต่ว่าประชาชนคิดเห็นอย่างไร

“คนมีอำนาจจะเห็นว่าเป็นเรื่องที่มีความรุนแรงหรือไม่ อย่างไร ซึ่งในองค์กรอิสระและการเมืองจะมีจริยธรรมอยู่ว่า คุณต้องทำงานเต็มความสามารถ ซึ่งตรวจสอบได้ เช่น แทนที่จะอยู่กันครบถ้วน หรืออยู่กันครึ่งหนึ่ง เพื่อที่จะหาทางแก้ไขปัญหา ก็กลับไปอยู่ต่างประเทศ ก็พูดได้ว่าไม่ตั้งใจทำเต็มความสามารถ” นายสมชัย กล่าว


นายสมชัย ยังกล่าวว่า จนถึงวันนี้ยังไม่เห็นความพยายามในการแก้ปัญหาเยียวยาสิทธิประชาชนจากเหตุระบบลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้าล่มเลย เพราะไม่มีคำตอบใดๆ จาก กกต. มีแต่คำขอโทษจากเลขาธิการ กกต. เท่านั้น และวันนี้ก็เลยเวลาที่จะแก้ไขแล้ว ผ่านวันที่ 9 เมษายน มากว่า 3-4 วันแล้ว กว่า กกต.จะกลับมาก็วันที่ 25 เมษายน เลยจากกรอบเวลาที่จะทำอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้แล้ว เพราะวันที่ 25 เมษายน บางครั้งการเลือกตั้งล่วงหน้าในต่างประเทศเรียบร้อยแล้ว การที่บอกว่า จะตรวจสอบว่าในวันที่ระบบล่มนั้นมีคนเข้าไปค้างในระบบเท่าไหร่ แล้วจะเยียวยาให้ ถือว่าอย่างน้อยก็สามารถทำให้คนจำนวนหนึ่งที่ประสบปัญหาในช่วงเวลาดังกล่าวสามารถใช้สิทธิเลือกตั้งนอกเขต แต่ก็ต้องมีคำตอบว่า ท่านได้ทำจริงแล้ว ไม่ใช่พูดไปเฉยๆ แล้วไม่ได้ทำอะไร ต้องมีตัวเลขคนที่ประสบปัญหามีเท่าไหร่ แต่ตอนนี้ก็ยังไม่เห็นมีคำตอบ

นายสมชัย กล่าวต่อถึงกรณี กกต. 6 คน บินไปดูงานต่างประเทศ ว่า หากเป็นการเดินทางวันหยุดแล้วใช้เงินส่วนตัวไป คงไม่มีใครว่า แต่ท่านใช้เงินของราชการไปตรวจการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร ทำให้เกิดข้อวิพากษ์วิจารณ์ เพราะไปพร้อมกันในประเทศที่จำเป็นต้องไปหรือไม่ เช่น ประเทศที่มีปัญหา มีคนไทยอาศัยจำนวนมาก แล้ว กกต.เคยประสบปัญหาในการอำนวยความสะดวกมาก่อน และไปในจังหวะเวลาที่จะทำให้เห็นปัญหาการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรจริงหรือไม่ ซึ่งการไปในวันหยุดก็จริง ใช้เวลาราชการน้อยก็จริง แต่ถามว่ามันเป็นจังหวะเวลาที่เราจะเห็นภาพของการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรที่ชัดเจนหรือไม่ คำตอบคือไม่เลย เพราะมันเป็นภาพที่ยังไม่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเลือกทางไปรษณีย์ การเลือกตั้งที่สถานทูตก็ยังไม่เกิด จะเป็นเพียงการไปฟังบรรยายสรุปของสถานทูตต่างๆ ซึ่งหากแค่ฟังสรุป ก็ไม่ต้องเดินทางไปก็ได้ ฟังผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ผ่านระบบซูมก็ได้ แต่ถึงฟังแล้วก็ยังไม่สามารถแก้ปัญหาอะไรได้ เพราะมันแก้ไม่ได้แล้ว เนื่องจากมีการวางระบบต่างๆ ไปแล้ว ทุกอย่างมันจบเมื่อวันที่ 9 เมษายนแล้ว ดังนั้น ทั้งสถานที่และเวลาอาจจะไม่เหมาะ

นายสมชัย กล่าวว่า ในห้วงเวลานับตั้งแต่เริ่มกระบวนการที่จะนำไปสู่การเลือกตั้งนั้น โดยพื้นฐานเวลาประชุมก็จะใช้องค์ประชุมเกินครึ่ง ดังนั้น ถ้าจะไปไหนก็แล้วแต่ ต้องเหลือไว้ครึ่งหนึ่ง เผื่อหากเกิดความจำเป็นจะได้เรียกประชุมได้ แล้วประธาน กกต. มีบทบาทรักษาการตามกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้ง หากเกิดปัญหาอะไรต้องดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้อง ดังนั้น ประธานจะไปไหนไม่ได้ หากต้องไปก็ต้องมอบหมาย กกต.ท่านใดท่านหนึ่งเป็นรักษาการ ดังนั้น ขณะนี้หาก กกต.ไปหมดพร้อมกันในเวลาเดียวกันก็เป็นปัญหา ทั้งนี้ แม้การนับองค์ประชุมจะนับรวมการประชุมทางอิเล็กทรอนิกส์ และเลขาฯ กกต. บอกว่า มีการประชุมทางไกลกันอยู่นั้น ซึ่งท่านเองคงพยายามหาคำตอบให้ดูดี เพียงแต่ต้องดูสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นจริง ว่ามีการประชุมกันจริงหรือไม่ มีมติอะไรเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างทันท่วงทีหรือไม่ อย่างระบบล่มเมื่อวันที่ 9 เมษายน วันที่ 10 เมษายน มีการประชุมหรือไม่ มีการรายงานกรรมการทุกคนทราบ เพื่อแก้ไขปัญหาหรือไม่ หรือปล่อยผ่านไปเรื่อยๆ จนถึงวันหยุดราชการ ไม่มีใครทำอะไรแล้วตอนนี้ เปิดอีกทีวันที่ 18 เมษายน รอ กกต.ครบกันวันที่ 25 เมษายน ดังนั้นจึงเหมือนว่าการประชุมคอนเฟอเรนซ์ต่างๆ ไม่ได้เกิดขึ้นจริง


“ผมไม่ทราบว่าตอนนี้ กกต.ทำงานกันหรือเปล่าในช่วงสงกรานต์ เพราะตอนนี้มีหลายๆ เรื่องที่เป็นคำถามของพรรคการเมือง ที่เราสงสัยว่าตกลงท่านจะเอายังไง เช่น มีการนัดหมายพรรคการเมืองไปดีเบตกัน ซึ่งจัดโดย กกต. ในวันที่ 17 เม.ย.นี้ ผมก็ยังไม่ได้รับคำตอบว่าคอนเฟิร์มหรือไม่ เพราะว่าเอกสารก็ยังไม่มา มีการไปประชุมกัน นัดหมายกันโดยวาจา แต่หนังสือยังไม่มา ขณะนี้ยังตามหาไม่เจอว่าจะต้องโทรไปถามที่ไหน เพราะสำนักงานก็หยุด และอีกหลายเรื่อง ซึ่งรวมถึงข้อเรียกร้องให้มีการวินิจฉัยนโยบายเงินดิจิทัล” นายสมชัย กล่าว. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดเนื้อหาหนังสือแจง UNSC กัมพูชาวางทุ่นระเบิด-เริ่มยิงก่อน

25 ก.ค.- เปิดเนื้อหาหนังสือจากผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติที่นิวยอร์ก เพื่อชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทย ประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ส่งหนังสือชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ระบุว่า ขอแจ้งให้ท่านและสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติทุกท่านทราบ ถึงสถานการณ์อันร้ายแรงที่ส่งผลกระทบต่ออธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย อันเป็นผลจากการรุกรานทางทหารของประเทศกัมพูชา โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 1.     เมื่อวันที่ 16 และ 23 กรกฎาคม ค.ศ. 2025 ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารไทยกำลังลาดตระเวนตามเส้นทางปกติที่กำหนดไว้ ซึ่งอยู่ภายในอาณาเขตของประเทศไทย ทหารได้เหยียบทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 ส่งผลให้ทหาร 2 นาย ได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสส่งผลถึงขั้นพิการถาวร ขณะที่ทหารนายอื่น ๆ ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทุ่นระเบิด PMN-2 ทั้งหมดที่พบอยู่ในสภาพใหม่ ยังมีเครื่องหมายที่มองเห็นได้ชัดเจน หลักฐานบ่งชี้ว่าทุ่นระเบิดเหล่านี้เพิ่งถูกวางใหม่ ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นรัฐภาคีของอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ไทยได้ยื่นรายงานประจำปีเกี่ยวกับความโปร่งใสในการดำเนินการตามพันธกรณีในอนุสัญญาดังกล่าว ตามมาตรา 7 ของอนุสัญญาฯ อย่างต่อเนื่อง รายงานดังกล่าวระบุว่าประเทศไทยได้ทำลายทุ่นระเบิดในคลังทั้งหมดแล้วตั้งแต่ปี ค.ศ. 2003 และต่อมา ได้ทำลายทุ่นระเบิดทั้งหมดที่เก็บไว้เพื่อการฝึกอบรมและการวิจัยในปี ค.ศ. […]

“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน”

ก.มหาดไทย 25 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน” ชี้รับฟังทุกความไม่พอใจ แต่ทุกอย่างเป็นไปตามยุทธวิธี ให้ทหารมีอิสระในการทำงาน มอง “ก่อแก้ว” ขอศาล รธน. คืนอำนาจให้ “แพทองธาร” เป็นความเห็นเหมือนประชาชนจำนวนมาก แต่ให้เป็นตามกระบวนการยุติธรรม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ ระบุถึง อยากให้กองทัพสั่งสอนความเจ้าเล่ห์ของฮุนเซนก่อน ว่า ก็เหมือนประชาชนทั่วไป ที่เวลานี้มีความรู้สึกเช่นนั้น หลายคนแสดงความเห็นให้ทำแบบนู้นแบบนี้ เราก็รับฟังความห่วงใยความไม่พอใจที่เราถูกกระทำ ตนเข้าใจความรู้สึกเหล่านั้น และเห็นว่าเป็นจุดมุ่งหมายเดียวกัน เพราะเรื่องอธิปไตยของประเทศ การรุกล้ำเข้ามา กระทบประชาชนเรายอมไม่ได้ ซึ่งที่ผ่านมาทุกฝ่ายจะเห็นว่าเราประนีประนอม (Compromise) ให้มากที่สุด แต่เมื่อสิ่งดังกล่าวไม่เกิดขึ้น และเป็นปัญหา วันนี้จึงได้สั่งการให้ทหารมีอิสระในพื้นที่ โดยผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นผู้คุมยุทธการ ปฏิบัติได้ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงได้มีการทำความเข้าใจกับ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีการโทรคุยกับผู้บัญชาการทหารสูงสุด […]

เข้าสู่วันที่ 2 กัมพูชาเปิดฉากตั้งแต่เช้ามืด ที่ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 25 ก.ค.-เข้าสู่วันที่ 2 เหตุปะทะไทย-กัมพูชา เริ่มเปิดฉากยิงกันตั้งแต่เช้ามืด บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ขณะนี้เสียงยังดังต่อเนื่อง ก่อนขยายการสู้รบไปตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านอีสานใต้ อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เป็นพื้นที่แรกที่ฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงก่อนด้านปราสาทตาเมือนครับ เช้ามืดวันนี้ ราวตี 5 ครึ่ง ก็เริ่มปะทะกันอีก ขณะนี้ก็มีเสียงดังอย่างต่อเนื่อง เส้นทางจากอำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เข้าสู่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ แม้สายแล้ว ก็มีรถสัญจรไปมาค่อนข้างน้อย เนื่องจากเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยการสู้รบ โดยอำเภอพนมดงรักเป็นหนึ่งใน 4 อำเภอ ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ประกาศให้ผู้ที่ไม่มีความจำเป็นเข้าพื้นที่ร่วมกับอำเภอกาบเชิง บัวเชดและสังขะ โดยตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา ในพื้นที่ตามแนวชายแดนได้ยินเสียงการปะทะด้วยกระสุนปืนใหญ่ดังอย่างต่อเนื่อง ผู้นำหมู่บ้านบันทึกสถิติเฉพาะฝั่งไทยตอบโต้เกินกว่า 100 ลูกแล้ว บ้านหนองแรด ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ที่จรวดหลายลำกล้อง BM 21 ตกเยอะสุด 10 ลูก วานนี้โดยรอบหมู่บ้าน โชคดีไม่ลงบ้านเรือน มีกระจกแตกเล็กน้อยจากแรงอัดลูกจรวดเท่านั้น วันนี้ ยังมีชาวบ้านอยู่นับร้อยคนหลบอยู่ในหลุมหลบภัย จากทั้งหมด […]

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

9 ทันโลก : แจงด่วน! คณะมนตรีความมั่นคง ไทยนี้รักสงบ

25 ก.ค. – นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะร่วมประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ตามที่กัมพูชาร้องขอไว้ รายงาน 9 ทันโลก พาไปติดตามบทบาทและโอกาสของไทยบนเวทีสำคัญนี้ ไทยในฐานะสมาชิกสหประชาชาตินานเกือบ 80 ปี จะได้แสดงบทบาทอีกครั้งในคณะมนตรีความมั่นคง ซึ่งเป็นโอกาสสำคัญในการสื่อสารกับประชาคมโลก ถึงการกระทำของกัมพูชา ซึ่งเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศหลายด้าน รวมถึงกฎบัตรสหประชาชาติที่ไทยยึดมั่น ในห้องประชุมนี้ ไทยในฐานะสมาชิกสหประชาชาติ ลำดับที่ 55 จะทำหน้าที่อีกครั้งในภารกิจด้านสันติภาพ ตั้งแต่เข้าเป็นสมาชิกเมื่อปี 2489 ที่นี่ไทยเคยทำหน้าที่ประธานการประชุมคณะมนตรีความมั่นคง โดยพลอากาศเอก สิทธิ เศวตศิลา และหม่อมหลวง พีระพงศ์ เกษมศรี ทำหน้าที่สองวาระ ในปี 2528 และ 2529 ในเวลาที่สงครามเย็นคุกรุ่น มาในวันนี้ไทยกำลังจะมีโอกาสอันดีที่ได้ใช้ช่องทางการทูตสำคัญ เสาหลักความมั่นคงของสหประชาชาติ ในอีกบทบาทหนึ่งที่ยังคงอยู่บนพื้นฐานการแสวงหาสันติภาพตามกลไกนี้ เมื่อประเทศสมาชิก ในกรณีนี้คือกัมพูชา ร้องขอให้เปิดประชุมเร่งด่วน สมาชิกคณะมนตรีซึ่งมีสมาชิกถาวร 5 ประเทศ และสมาชิกไม่ถาวร 10 ประเทศ พิจารณากรณีที่เป็นภัยคุกคามใดต่อสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ เช่น กรณีการปะทะระหว่างไทยกับกัมพูชา […]

น่านยังอ่วม บางจุดน้ำท่วมสูงเกือบ 2 เมตร

น่าน 25 ก.ค. – เข้าสู่วันที่ 3 น้ำท่วมใหญ่เป็นประวัติการณ์ของเมืองน่าน แม้ระดับน้ำลดลงบ้างแล้ว แต่ในตัวเมือง-เขตเศรษฐกิจยังท่วมสูง บางจุดระดับน้ำเกือบ 2 เมตร ขณะที่ “บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์” นำทีมกู้ภัยฝ่ากระแสน้ำเชี่ยวเข้าช่วยเหลือชาวบ้าน .-สำนักข่าวไทย

มีผลทันที! ประกาศกฎอัยการศึก 8 อำเภอ “จันทบุรี-ตราด”

25 ก.ค.- กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ประกาศใช้กฎอัยการศึกบางพื้นที่ มีผลทันที กองทัพเรือ โดย กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด “ประกาศใช้กฎอัยการศึก” บางพื้นที่ ดังนี้ ตามที่ได้มีประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ลงวันที่ 19 กันยายน 2549 ให้ใช้กฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 19 กันยายน 2549 เวลา 21.05 นาฬิกา ซึ่งต่อมาได้มีพระบรมราชโองการเลิกใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่ และให้ใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่ ลงวันที่ 31 ธันวาคม 2550 นั้น โดยที่ปรากฏว่าประเทศกัมพูชาได้ใช้กำลังและอาวุธรุกรานเข้ามาในราชอาณาจักรไทยตลอดแนวชายแดน จึงมีความจำเป็นโดยมิอาจหลีกเลี่ยงได้ที่ต้องใช้กำลังทหาร ตำรวจ พลเรือน ตลอดจนประชาชนชาวไทยทุกคน เพื่อป้องกันประเทศให้พ้นจากภัยคุกคามอันมีที่มาจากภายนอกราชอาณาจักรดังกล่าว เพื่อรักษาไว้ซึ่งอธิปไตยของชาติและบูรณภาพแห่งดินแดน ตลอดจนชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนชาวไทย และจำเป็นต้องประกาศใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่เพิ่มเติม อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 176 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ประกอบกับมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก พุทธศักราช 2457 จึงให้ใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่เพิ่มเติม ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 จังหวัดจันทบุรี อำเภอเมืองจันทบุรี […]

จรวด BM-21 ตกในพื้นที่สุรินทร์ 6 ลูก เร่งอพยพคนเพิ่ม

สุรินทร์ 25 ก.ค. – กระสุนของฝั่งกัมพูชามาตกไกลกว่าเหตุปะทะปี 2554 ตามที่เจ้าหน้าที่คาดการณ์ ล่าสุดมีจรวด BM-21 จำนวน 6 ลูก ตกในพื้นที่ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ เตรียมอพยพประชาชนไปยังที่ปลอดภัยกว่า .-สำนักข่าวไทย