ผู้สมัคร กทม. 33 เขต ร่วมประกาศเจตจำนงสุจริต

ศูนย์ราชการฯ 8 เม.ย.- กกต. นำผู้สมัคร กทม. ทั้ง 33 เขต ร่วมประกาศเจตจำนงสุจริตในการเลือกตั้ง สร้างความเข้าใจที่ถูกต้องต่อวิธีปฏิบัติตามกฎหมาย นำไปสู่การเมืองใสสะอาด ส่งผลต่อการพัฒนาประเทศในทุกด้าน


นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการปฏิรูปการเมืองสุจริตบนฐานของการเลือกตั้ง กิจกรรมการเลือกตั้งเชิงสมานฉันท์ สำหรับผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กทม. แบบแบ่งเขต ทั้ง 33 เขต เพื่อแนะนำแนวทางปฏิบัติในการหาเสียงให้กับผู้สมัคร และพรรคการเมือง รวมถึงให้ข้อมูลเกี่ยวกับค่าใช้จ่าย และการยื่นบัญชีรายรับ และรายจ่ายในการเลือกตั้งของ ส.ส. และบอกข้อควรระวังเกี่ยวกับความผิด และโทษตามกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส.

นายแสวง กล่าวว่า โครงการนี้เป็นโครงการที่ดีและมีความสำคัญเป็นอย่างมากในการทำความเข้าใจ กติกาการแข่งขัน สำหรับนักกีฬาก่อน กระบวนการเลือกตั้ง และมีความสำคัญของผู้เล่น ซึ่งประกอบด้วย ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ผู้สมัครรับเลือกตั้ง พรรคการเมือง ผู้จัดการเลือกตั้ง ผู้สนับสนุนการเลือกตั้ง วัฒนธรรมทางการเมือง การบังคับใช้กฎหมายและปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีกมากมาย ดังนั้น ทุกความสัมพันธ์ย่อมมีความสำคัญในตัวเอง มีความเชื่อมโยงกัน เพื่อให้กระบวนการเลือกตั้งประสบความสำเร็จ และเป็นที่ยอมรับทั้งในระดับประเทศและในระดับสากล ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง ที่จะต้องจัดการเลือกตั้งให้เป็นที่ยอมรับในระดับประเทศและระดับสากลอย่างมืออาชีพ เพื่อธำรงไว้ซึ่งระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ทั้งนี้ หากการเลือกตั้งเป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรมย่อมจะทำให้การเมืองใสสะอาด ส่งผลต่อการพัฒนาประเทศในทุกๆ ด้านต่อไป


นายแสวง กล่าวว่า การจัดโครงการในวันนี้ เป็นการสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องต่อกฎหมาย ระเบียบและวิธีปฏิบัติที่เกี่ยวข้องในการเลือกตั้ง ยอมรับในเรื่องการรับรู้ รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย และรู้รักสามัคคี เพื่อธำรงรักษาความเป็นมิตร เป็นเพื่อน พี่ น้องไว้ ทั้งก่อนและหลังการเลือกตั้ง รวมทั้งลดการกระทำผิดตามกฎหมายเลือกตั้ง ระหว่างผู้สมัครและผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย เพื่อให้เข้าสู่กระบวนการสร้างความสมานฉันท์ ซึ่งนับว่าเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง ได้มีมุมมองต่อการดำเนินชีวิตให้ปฏิบัติตามกฏเกณฑ์และมีน้ำใจเอื้ออารีต่อกัน เป็นวัฒนธรรมที่งดงาม เพื่อการพัฒนาชุมชนและสังคมบนหลักการของประชาธิปไตยที่มีลักษณะสร้างสรรค์

ทั้งนี้ เลขาธิการ กกต. ยังกล่าวนำผู้สมัครทั้ง 33 เขต ประกาศเจตจำนงสุจริตในการเลือกตั้ง ที่มีเนื้อหาว่า จะพิทักษ์รักษาไว้ ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข จะถือปฏิบัติตามกฎหมายเลือกตั้ง และระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด จะแข่งขันเลือกตั้งตามกติกา รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย และรู้รักสามัคคี จะดำรงรักษาความเป็นมิตร เป็นเพื่อนบ้าน ความเป็นญาติ เป็นพี่เป็นน้องในท้องถิ่น ทั้งก่อนและหลังการเลือกตั้ง จะไม่ร่วมมือ หรือสนับสนุนการทุจริตเลือกตั้ง และซื้อสิทธิขายเสียงทุกรูปแบบ และให้คำมั่นสัญญาว่าจะแข่งขันเลือกตั้งในครั้งนี้ ให้เป็นเยี่ยงอย่างที่ดีของประเทศ รวมทั้งจะเป็นองคาพยพที่สำคัญในการพัฒนาการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขให้มั่นคง ยั่งยืนสืบต่อไป .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ข่าวแห่งปี 2567 : รวมฉ้อโกง “ดารา-คนดัง” ไม่รอด

ตลอดปี 2567 ยังมีผู้คนตกเป็นเหยื่อของกลโกง มิจฉาชีพ ที่มาในรูปแบบต่างๆ รวมถึงการลงทุนรูปแบบใหม่ๆ บางคนถึงขั้นสิ้นเนื้อประดาตัว และที่น่าตกใจเริ่มมีคนดังเข้ามาเกี่ยวข้องกับคดีมากขึ้น

หมอชิต 2 คึกคัก ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาฉลองปีใหม่

บรรยากาศการเดินทางหมอชิต 2 คึกคัก ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวในช่วงหยุดยาวปีใหม่ ด้าน รฟท. คาดผู้โดยสารเดินทางขาออกวันนี้ 1 แสนคน

รถเริ่มแน่น! สายเหนือ-อีสาน การจราจรชะลอตัว

ประชาชนทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนา หยุดยาวปีใหม่ ถ.พหลโยธิน มุ่งหน้าสายอีสาน รถแน่น ส่วนถนนสายเอเชีย ขึ้นเหนือ รถเคลื่อนตัวได้ช้า