เพื่อไทยชูนโยบายแจกเงินดิจิทัลคนละ 1 หมื่นบาท-อ้อนขอแลนด์สไลด์ให้สำเร็จ

ภูมิภาค 6 เม.ย. – “สมศักดิ์” ควง “สุธรรม” ปราศรัยช่วยผู้สมัคร ส.ส.นครสวรรค์-กำแพงเพชร พรรคเพื่อไทย ชูนโยบายแจกเงินดิจิทัลคนละ 10,000 บาท 54 ล้านคน เงินสะพัดกว่า 5.4 แสนล้านบาท ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน มั่นใจได้ที่นั่ง ส.ส.ปากน้ำโพเพิ่ม หลังกระแสนิยม “ทรงศักดิ์”-กระแสพรรคพุ่ง อ้อนขอแลนด์สไลด์ให้สำเร็จ ปลื้มโพลให้บัญชีรายชื่อ 60 คนแล้ว


วันที่ 6 เมษายน 2566 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำพรรคเพื่อไทย และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วยนายสุธรรม แสงประทุม แกนนำพรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่ตลาดโรงสี อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ ปราศรัยช่วยผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดนครสวรรค์ พรรคเพื่อไทย ประกอบด้วย นายกวี อัศวรัตน์ เขต 1 เบอร์ 6, นายทรงศักดิ์ ส่งเสริมอุดมชัย เขต 2 เบอร์ 5, นายสัญชัย วงษ์สุนทร เขต 3 เบอร์ 11 และ น.ส.ชุติมา เสรีรัตน์ เขต 6 เบอร์ 3 โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก มีประชาชนเดินทางมารับฟังกว่า 500 คน

นายสุธรรม กล่าวว่า เศรษฐกิจกำลังจะฟื้นตัวขึ้น หลังจากจมมาเป็นเวลากว่า 8 ปี แต่จากนี้นโยบายของพรรคเพื่อไทยจะช่วยลดรายจ่าย และเพิ่มรายได้ ทั้งลดค่าน้ำ ค่าไฟ เพิ่มรายได้ให้กับพี่น้องเกษตรกร รวมถึงจะเติมเงินในกระเป๋าดิจิทัลคนละ 10,000 บาท เพื่อใช้จ่ายในบริเวณบ้านไม่เกิน 4 กิโลเมตร ให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจในชุมชน ดังนั้น ขอเชิญชวนชาวนครสวรรค์ ช่วยกันเลือกผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยทั้งจังหวัด เพื่อให้เกิดแลนด์สไลด์ จะได้จัดตั้งรัฐบาลด้วยเสียงสนับสนุนของประชาชนได้


ด้านนายสมศักดิ์ กล่าวว่า วันนี้ตนมาให้กำลังใจผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดนครสวรรค์ พรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะเขต 2 นายทรงศักดิ์ เพราะเป็นเพื่อนของตน จึงมาร่วมมือกันช่วยเหลือพี่น้องประชาชน เนื่องจากปัจจุบันต้องยอมรับว่ามีปัญหาข้าวของราคาแพง ดังนั้น ต้องแก้ไขเรื่องเศรษฐกิจตกต่ำ ตนมั่นใจนโยบายของพรรคเพื่อไทยสามารถแก้ปัญหาได้ อย่างล่าสุดนำเสนอนโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัล ให้คนละ 10,000 บาท สำหรับผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไป ใช้ภายใน 6 เดือน ในบริเวณที่อยู่ไม่เกิน 4 กิโลเมตร เพื่อจะได้กระตุ้นเศรษฐกิจในชุมชน เพราะที่ผ่านมาเศรษฐกิจตกต่ำ ทำมาหากินลำบาก โดยเงินคนละ 10,000 บาท จะมีประชาชนได้ประมาณ 54 ล้านคน คิดเป็นเงินกว่า 5.4 แสนล้านบาท ซึ่งจะเห็นได้ว่าเงินจำนวนนี้จะสามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้กลับมาฟื้นตัวได้ เพราะพรรคเพื่อไทยต้องการให้เศรษฐกิจ กลับมาดีกว่าก่อนช่วงโควิดแพร่ระบาด

“นโยบายดีๆ ที่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจให้พี่น้องประชาชนอยู่ดีกินดีได้ จะสามารถถูกขับเคลื่อนได้นั้น ต้องช่วยกันสนับสนุนให้พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลก่อน อย่างที่จังหวัดนครสวรรค์ ขอให้เลือกทั้งคนและพรรค เบอร์ 29 เพื่อให้สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ โดยไม่ต้องพึ่งพาเสียง ส.ว. เพราะการตั้งรัฐบาลต้องใช้เสียง ส.ส. และ ส.ว. 376 เสียง ดังนั้น ถ้าพี่น้องประชาชนเลือกพรรคเพื่อไทยให้เกิดแลนด์สไลด์จะใช้แค่เสียงสนับสนุนของพี่น้องประชาชนโดยตรงจัดตั้งรัฐบาล และขับเคลื่อนนโยบายดีๆ ได้ทันที” นายสมศักดิ์ กล่าว

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ในพื้นที่จังหวัดนครสวรค์ มี 6 เขต ตนมั่นใจว่าจะสามารถชนะการเลือกตั้งได้หลายเขต เช่น เขต 2 นายทรงศักดิ์ เบอร์ 5 เพราะการเลือกตั้งปี 2562 ได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชนถึง 25,069 คะแนน ซึ่งห่างจากผู้ชนะเพียง 6,000 คะแนนเท่านั้น ทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้ที่ย้ายมาสวมเสื้อเพื่อไทยจะมีโอกาสได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชน เพราะตัวผู้สมัครก็มีคะแนนนิยมสูง ไม่เคยทิ้งพื้นที่ บวกกับกระแสพรรคเพื่อไทยที่มาแรงทุกโพล จึงทำให้มั่นใจว่าจะสามารถชนะการเลือกตั้งในจังหวัดนครสวรรค์ได้


จากนั้นนายสมศักดิ์ได้เดินทางต่อไปที่เทศบาลตำบลนิคมทุ่งโพธิ์ทะเล จังหวัดกำแพงเพชร เพื่อปราศรัยช่วยผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดกำแพงเพชร พรรคเพื่อไทย ประกอบด้วย นายวีระศักดิ์ สุ่นสา เขต 1 เบอร์ 3, นายเรวัต อินทพงษ์ เขต 2, นายจรัญ อิสระบัณฑิตกุล เขต 3 และนายฐานัน หล่าวเจริญ เขต 4 บรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคักเช่นกัน มีประชาชนเดินทางมารับฟังกว่า 500 คน

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ขณะนี้พรรคเพื่อไทยมีหลายนโยบายที่จะช่วยให้พี่น้องประชาชนอยู่ดีกินดีขึ้น ทั้งการกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้วยกระเป๋าเงินดิจิทัล ให้คนละ 10,000 บาท ค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท ซึ่งเป็นความท้าทายของพรรคเพื่อไทยที่ต้องสร้างให้เกิดการจ้างงาน 20 ล้านตำแหน่งด้วย ดังนั้น นโยบายเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้ พรรคเพื่อไทยต้องชนะแบบแลนด์สไลด์ถึงจะจัดตั้งรัฐบาลได้ และจากผลโพลสำรวจต่างๆ มีความเป็นไปได้ เพราะโพลขณะนี้พรรคเพื่อไทยมี ส.ส.บัญชีรายชื่อ ไม่ต่ำกว่า 60 คนแล้ว ดังนั้น ขอให้พี่น้องชาวกำแพงเพชร เลือกทั้งคนและพรรคเพื่อไทย เบอร์ 29 เพื่อเข้าไปขับเคลื่อนนโยบายให้กับพี่น้องประชาชน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการปราศรัยมีประชาชนได้สะท้อนปัญหาไม่มีน้ำทำนา นายสมศักดิ์จึงตอบว่าปัญหานี้ตรงกับนโยบายของพรรคเพื่อไทย ที่ต้องการเพิ่มพื้นที่ชลประทานประมาณ 40% จากเดิมมีพื้นที่ 35 ล้านไร่ เป็น 50 ล้านไร่ ซึ่งจะสามารถช่วยให้พี่น้องเกษตรกรสามารถประกอบอาชีพได้มากขึ้น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

กระดูกเทียมไทเทเนียม นวัตกรรมไทยช่วยทหารกล้าชายแดน

กรุงเทพฯ 16 ส.ค.-สินค้า IP ไทยสุดเลิศ ผลิตกระดูกเทียมและอุปกรณ์ช่วยผ่าตัด ช่วยเหลือทหารแนวหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ต่อยอดส่งออกสร้างรายได้ให้กับประเทศไทยในระยะยาว นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กรมทรัพย์สินทางปัญญา ร่วมกับบริษัท เมติคูลี่ จำกัด ผู้ผลิตกระดูกเทียมและอุปกรณ์ช่วยผู้ป่วยผ่าตัด ช่วยเหลือทหารแนวหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา จำนวน 4 ราย ซึ่งรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี และโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าตามลำดับ เพื่อให้ทหารกล้าของไทยฟื้นฟูสภาพร่างกายให้กลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีโดยเร็ว “ความร่วมมือครั้งนี้ เริ่มจากกระทรวงพาณิชย์ลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานีเยี่ยมผู้ประสบภัย ชายแดนไทย–กัมพูชา เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2568 จากนั้นได้ประสานกับ เมติคูลี่ ซึ่งได้รับเลือกจากกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ให้เป็น IP Champion ในสาขาสิทธิบัตรการประดิษฐ์ประจำปีนี้ มอบแผ่นปิดกะโหลกเทียมไทเทเนียมออกแบบเฉพาะบุคคล และกระดูก มือเทียมไทเทเนียมเฉพาะบุคคลให้ทางโรงพยาบาลเพื่อให้นายทหารที่ผ่านการผ่าตัดเปิดกะโหลกศีรษะ 3 ราย และผ่าตัดข้อมือ 1 ราย ได้รับการรักษาที่มีความแม่นยำสูง ด้วยการออกแบบกระดูกที่มีขนาดจำเพาะกับสรีระผู้ป่วย ทำให้ผู้ป่วยฟื้นฟูร่างกายได้ดีขึ้น และสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้อย่างปกติ โดยกระทรวงฯ ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากกองบัญชาการกองทัพภาคที่ 2” […]

“นราธิวาส” จับยาไอซ์ลอตใหญ่ 900 กก. ซุกรถขนผัก

กทม.16 ส.ค.-“ภูมิธรรม” เผย “นราธิวาส” จับยาไอซ์ลอตใหญ่ 900 กก. ซุกรถขนผัก สั่งการเร่งขยายผลต่อเนื่อง พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากว่าที่ร้อยตรี ตระกูล โทธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ว่าจากการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล ที่มุ่งปราบปรามยาเสพติดอย่างเด็ดขาด ในวันนี้ทางจังหวัดนราธิวาสร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ได้มีการแกะรอย และตรวจค้นรถกระบะที่มีการลักลอบขนส่งยาเสพติด บริเวณอำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส สามารถตรวจจับยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) ซุกซ่อนอยู่ในรถกระบะขนผัก จำนวน 30 กระสอบ น้ำหนักรวมประมาณ 900 กิโลกรัม และได้ทำการควบคุมตัวตัวผู้ต้องหาไว้ได้แล้ว นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า ตนได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม และนายเดชอิศม์ ขาวทอง รมช.มหาดไทย ลงพื้นที่จังหวัดนราธิวาส เพื่อติดตามการดำเนินงานและร่วมแถลงผลการจับกุมในวันที่ 16 ส.ค.นอกจากนี้ยังได้ให้กำลังใจผ่านผู้ว่าราชการจังหวัด ไปยังเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกท่านที่ทำหน้าที่อย่างเข้มข้น ตั้งใจ จนสามารถจับกุมกรณีการลักลอบขนส่งยาเสพติดล็อตใหญ่นี้ได้ และได้ให้ติดตามเพื่อขยายผลการจับกุมต่อไป.-319.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลย้ำเกษตรกรเร่งขึ้นทะเบียน-ปรับปรุงข้อมูลทางทะเบียน รับเงินช่วยเหลือ

ทำเนียบฯ 16 ส.ค. – รัฐบาลย้ำเกษตรกรเร่งขึ้นทะเบียนและปรับปรุงข้อมูลทางทะเบียนปีการผลิต 2568/69 พร้อมรอรับเงินช่วยเหลือตามนโยบายรัฐบาล นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) เห็นชอบโครงการพัฒนาศักยภาพการผลิตข้าวของเกษตรกรปลูกข้าวปีการผลิต 2568/69 และนาปรังปีการผลิต 2568 โดยจะจ่ายเงินช่วยเหลือชาวนา ไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 10 ไร่ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากปัญหาต้นทุนการผลิตสูงและราคาข้าวที่ตกต่ำ ซึ่งเกษตรกรที่ทำนาปรังและนาปี จะได้รับเงินหลังจากลงทะเบียนและตรวจสอบสิทธิแล้วเสร็จ ทั้งนี้ คาดว่าจะเกษตรกรที่ทำนาปรังจะได้รับเงินเร็วที่สุดภายในเดือนกันยายน 2568 ส่วนเกษตรกรที่ทำนาปี จะได้รับในช่วงปลายปีนี้ หรือต้นปีงบประมาณ 2569 รัฐบาลโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ขอเชิญชวนเกษตรกรทั่วประเทศ เร่งดำเนินการขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ประจำปีการผลิต 2568/69 โดยเกษตรกรสามารถขึ้นทะเบียนเกษตรกรผ่านช่องทางการบริการของรัฐโดยไม่มีค่าใช้จ่ายดังนี้ วิธีที่ 1 แจ้งกับเจ้าหน้าที่ สำหรับเกษตรกรรายเดิม แปลงเดิม สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอทุกแห่ง หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีความพร้อม และร่วมเป็นหน่วยสนับสนุนที่เกษตรกรมีพื้นที่การเกษตรอยู่ รวมถึงแจ้งข้อมูลผ่านผู้นำชุมชนหรือตัวแทนอาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน (อกม.) หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ส่วน เกษตรกรรายใหม่ และรายเดิม แต่เพิ่มแปลงใหม่ […]

“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท

รัฐสภา 15 ส.ค.-“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท ตั้งคำถามหลายรัฐวิสาหกิจมีผลกำไรดี จะมาตั้งของบอีกทำไม นายวีระ ธีระภัทรานนท์ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในเรื่องของรัฐวิสาหกิจ ว่า ในเอกสารงบประมาณที่เป็นงบประมาณรายจ่าย มาตรา 29 มีรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งของบประมาณรวมกันทั้งสิ้น 79,298 ล้านบาท แต่ค่าใช้จ่ายของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด 1.43 แสนล้านบาท ซึ่งในรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งที่ของบประมาณมาตนไม่ค่อยติดใจ เพราะมีรัฐวิสาหกิจจำนวนหนึ่งไม่มีรายได้ อีกส่วนเป็นรัฐวิสาหกิจมีรายจ่ายมากกว่ารายได้ บางรัฐวิสาหกิจมีหนี้สินจำนวนมาก เช่น ขสมก. การรถไฟแห่งประเทศไทย นายวีระ ฝากไปถึงคนที่ต้องจัดการรัฐวิสาหกิจว่า รัฐวิสาหกิจที่มีปัญหารัฐบาลต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดว่า รัฐวิสาหกิจเหล่านั้นคงอยู่ต่อไปในสภาพแบบนั้น หรือ จะดำเนินการแปรรูปให้เอกชนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อไม่ให้เกิดภาระการคลังในอนาคตอย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบัน สำหรับกรณี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูกิจการ โดยที่รัฐบาลยังถือหุ้นใหญ่อยู่ประมาณ 40% แต่ไม่มีสถานะภาพเป็นรัฐวิสาหกิจอีกต่อไป […]

ข่าวแนะนำ

ทุ่นระเบิดใหม่ตอกย้ำกัมพูชาละเมิดกติกาสากล

ศรีสะเกษ 16 ส.ค. – วันนี้ รมว.ต่างประเทศ นำคณะทูตภาคีอนุสัญญาออตตาวา ลงพื้นที่ดูปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิด บนภูมะเขือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ พร้อมเรียกร้องให้ตัดงบช่วยเหลือกัมพูชา หลังใช้เงินผิดวัตถุประสงค์ผู้บริจาค ขณะที่เจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ยืนยันเป็นทุ่นระเบิดใหม่ที่เพิ่งพบช่วงเหตุปะทะล่าสุด.-สำนักข่าวไทย

ผลถก RBC กัมพูชาเมินกู้ทุ่นระเบิด-ปราบสแกมเมอร์

ตราด 16 ส.ค. – กัมพูชายังไม่ให้ความร่วมมือเก็บกู้ทุ่นระเบิด หลังฝ่ายไทยผลักดันในเวที “RBC ไทย-กัมพูชา” พื้นที่ชายแดนจันทบุรี-ตราด พร้อมการแก้ไขปัญหาสแกมเมอร์ แขวนไว้หารือในการประชุมครั้งต่อไป พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ รองโฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า วันนี้ (16 สิงหาคม 2568) พลเรือโท อภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด และพลตรี อุย เฮียง ผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 3 ของกองทัพบกกัมพูชา ตลอดจนคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคของทั้งสองฝ่าย จัดให้มีการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ (Regional Border Committee) หรือ RBC ณ ประเทศไทย ที่บ้านทะเลภูรีสอร์ท อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด เพื่อร่วมกันหารือในการแก้ไขปัญหาต่างๆ เพื่อความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ และการดำเนินชีวิตของประชาชนทั้งสองประเทศด้วยสันติวิธี โดยได้ลงนามใน “บันทึกความตกลงการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) สมัยวิสามัญ ระหว่างกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ราชอาณาจักรไทย กับภูมิภาคที่ 3 […]

วัดเครือวัลย์ ตั้งโต๊ะแจงดำเนินคดีอดีตไวยาวัจกร ยักยอกเงินวัด 56 ล้านบาท

กทม. 16 ส.ค.-ไวยาวัจกรฝ่ายกฎหมายวัดเครือวัลย์ ตั้งโต๊ะชี้แจงการดำเนินคดีกับอดีตไวยาวัจกร ยักยอกเงินวัด 56 ล้านบาท ตรวจสอบประวัติย้อนหลัง 10 ปี พบปลอมลายมือชื่อเจ้าอาวาส 240 ครั้ง ด้านเจ้าอาวาสยอมรับเสียใจ ผิดหวังที่ไว้ใจคนใกล้ตัว ไวยาวัจกรวัดฝ่ายกฎหมาย ตั้งโต๊ะชี้แจง กรณีที่มีบุคคลภายในวัดปลอมลายมือชื่อเจ้าอาวาสวัดเครือวัลย์วรวิหาร ไปถอนเงินออกจากบัญชีวัดกว่า 240 ครั้ง ยักยอกเงินกว่า 56 ล้านบาท ตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายน ปี 67 ที่ผ่านมา ในส่วนการดำเนินการขณะนี้แบ่งเป็น 3 คดี คดีแรก พบการกระทำความผิดคือเมื่อเดือนเมษายน 2567 ทางวัดได้รับบริจาคจากกองทัพเรือเป็นแคชเชียร์เช็ค 1.5 ล้านบาท ลงวันที่ 10 เมษายน 2567 โดยในแคชเชียร์เช็คระบุว่ามอบให้ทางวัด จึงต้องเอาเข้าบัญชีวัด ทางเจ้าอาวาสจึงมีการมอบให้นายกฤษณ์ ที่เป็นไวยาวัจกรวัดในตอนนั้น เอาแคชเชียร์เช็คดังกล่าวไปขึ้นเงินและเอาเข้ายังบัญชีของวัด ต่อมาทางเจ้าอาวาสได้ทวงถามไปยังนายกฤษณ์ เพราะในขณะนั้นจำเป็นจะต้องบูรณะศาสนสถาน แต่นายกฤษณ์ อ้างว่าไม่ว่าง และได้มอบหมายให้นายชัยณรงค์ ซึ่งเป็นผู้ช่วยไวยาวัจกรในตอนนั้นนำเงินไปเข้าธนาคาร ทางเจ้าอาวาสเลยมีการติดต่อไปยังนายชัยณรงค์ เพื่อทวงถามเรื่องเงิน แต่ก็บ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด […]

“มาริษ” นำคณะทูตดูการเก็บกู้ทุ่นระเบิดบนภูมะเขือ

ศรีสะเกษ 16 ส.ค. – รมว.ต่างประเทศ นำคณะทูต 33 ประเทศ ดูการเก็บกู้ทุ่นระเบิดบนภูมะเขือ เตรียมพื้นที่บ้านภูมิซรอล หมู่ 13 ที่ถูกกระสุนจรวด BM-21 เสียหายหนัก 2 หลัง ให้คณะทูตแวะตรวจสอบหลังเสร็จสิ้นภารกิจบนภูมะเขือ หลังจากฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ในภาพรวมที่โรงเรียนภูมิซรอลวิทยา อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้นำคณะทูตประเทศภาคีอนุสัญญาออตตาวา และตัวแทนองค์กรระหว่างประเทศ รวม 33 ประเทศ ขึ้นไปสำรวจพื้นที่และดูการเก็บกู้ทุ่นระเบิดบนภูมะเขือ ที่อยู่ใกล้แนวปราสาทพระวิหาร เจ้าหน้าที่ขอความร่วมมือสื่อมวลชนที่ขึ้นภูมะเขือ งดถ่ายภาพติดพื้นที่ทหารและอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ ระหว่างทางขึ้น ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคง นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังเตรียมพื้นที่บ้านภูมิซรอล หมู่ 13 ที่ถูกกระสุนจรวด BM-21 เสียหายหนัก 2 หลัง และเพื่อนบ้านใกล้เคียง ถูกสะเก็ดเสียหายอีก 2 หลัง โดยจุดนี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 รายด้วย เพื่อให้คณะทูตแวะตรวจสอบหลังเสร็จสิ้นภารกิจบนภูมะเขือ.-สำนักข่าวไทย