กรุงเทพฯ 6 เม.ย. – “จุรินทร์” วิงวอน “ชาวประชาธิปัตย์” กลับมาหนุน “ประชาธิปัตย์ เบอร์ 26” ขอให้มั่นใจความเป็นสถาบันการเมืองที่ทำงานบนพื้นฐานความรับผิดชอบ เพื่อคนไทยทั้งประเทศ
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์เนื่องในโอกาสครบรอบ 77 ปี พรรคประชาธิปัตย์ ว่าในช่วงการเลือกตั้ง ตนในฐานะผู้บริหารพรรคต้องนำทัพประชาธิปัตย์เข้าสู่การเลือกตั้งที่จะมาถึง ซึ่งประชาธิปัตย์มีความพร้อมมาก พร้อมทั้งคน พร้อมทั้งนโยบาย และพร้อมทั้งหัวหน้าพรรคที่เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนต่อไป
สำหรับการจัดทัพในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งจะมุ่งเน้นการจัด 3 ทัพ ดังที่ย้ำไปแล้วคือ 1.ทัพหัวหน้าพรรค 2.ทัพเลขาธิการพรรค 3.ทัพอดีตหัวหน้าพรรค ที่จะออกไปหาเสียงทั่วประเทศ เรามั่นใจว่าผลการเลือกตั้งครั้งนี้ประชาธิปัตย์จะได้รับเสียงตอบรับดีขึ้นจากพี่น้องประชาชนทุกภาค ทั้งในกรุงเทพฯ เหนือ ใต้ อีสาน กลาง จากการลงพื้นที่อย่างต่อเนื่องของพวกเรา
“ตนขอถือโอกาสนี้วิงวอนพี่น้องประชาชนชาวไทยทั่วทั้งประเทศ ได้โปรดช่วยสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ โดยเฉพาะสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์จากทั่วประเทศ ซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนมากมายมหาศาล ท่านที่เคยเลือกเราคราวที่แล้วขอให้ยืนหยัดสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ต่อไป สำหรับสมาชิกพรรคที่คราวที่แล้วทิ้งเราไป แต่คราวนี้ขอเรียกร้องให้กลับมาช่วยเรา มาช่วยประชาธิปัตย์ มาช่วยกันจับมือเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับชาวประชาธิปัตย์ เพื่อพาประชาธิปัตย์ไปสู่ความสำเร็จในการเลือกตั้ง ไม่ใช่เพื่อเรา แต่เพื่ออนาคตที่ดีกว่าอย่างยั่งยืนของประเทศไทยของเรา” นายจุรินทร์ กล่าว
นายจุรินทร์ กล่าวยืนยันว่า ประชาธิปัตย์ยังยึดมั่นในอุดมการณ์การปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต และทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวม ประโยชน์ประเทศเป็นหลักสืบไป ด้วยคน นโยบาย หัวหน้าพรรคที่เป็นแคนดิเดตนายกฯ และศักยภาพของพวกเราทั้งมวล
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงจุดขายที่โดดเด่นของพรรคประชาธิปัตย์คือความเป็นสถาบันทางการเมืองที่ยาวนานถึง 77 ปี มีความแตกต่างจากพรรคการเมืองอื่นๆ นั้น นายจุรินทร์ กล่าวว่า สิ่งนี้คือจุดขายสำคัญ ถ้าประชาชนเลือกเราก็จะไม่ผิดหวังและไว้ใจได้ เพราะประชาธิปัตย์เป็นสถาบันการเมืองที่อยู่มาตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน และจะอยู่ต่อไปในอนาคต เพื่อรับใช้พี่น้องประชาชน
“ถ้าลงคะแนนเลือกประชาธิปัตย์ ครั้งหน้าประชาธิปัตย์ก็ยังอยู่ ไม่ว่าจะทำถูก ทำผิด สามารถกลับมาทวงทุกสิ่งทุกอย่างที่เราประกาศออกไป ทวงนโยบาย ทวงความรับผิดชอบ ทวงได้ทุกสิ่งทุกอย่างต่อไป เพราะประชาธิปัตย์ยังอยู่ และทุกอย่างที่เรากำหนดเป็นนโยบายเพื่อขับเคลื่อนประเทศในการหาเสียงนี้อยู่บนพื้นฐานความรับผิดชอบต่อสิ่งที่เราคิด เราทำมาแล้ว และตกผลึกมาแล้วทั้งหมด เพื่อพี่น้องคนไทยทั้งประเทศจริงๆ” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว
ส่วนที่ผู้สื่อข่าวถามความเห็นเกี่ยวกับการเปิดตัวแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคการเมืองหนึ่ง และมีการประกาศนโยบายที่อาจเข้าข่ายสัญญาว่าจะให้หรือไม่นั้น นายจุรินทร์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ ขอไม่วินิจฉัยพรรคอื่น เราทำของเรา โดยขอให้พี่น้องช่วยกันเลือกประชาธิปัตย์ ขอให้สนับสนุนเรา ส่วนพรรคอื่นจะเป็นอย่างไร ขอไม่ไปพาดพิง เพราะตนเห็นว่าสิ่งนี้เป็นวิธีการหาเสียงที่ดีที่สุด และเป็นสิ่งที่ประชาชนต้องการ
นายจุรินทร์ กล่าวอีกว่า การหาเสียงของประชาธิปัตย์จะไม่มีการพูดถึงพรรคอื่นโดยไม่จำเป็น ยกเว้นกรณีมีการกล่าวพาดพิงในลักษณะที่พรรคเกิดความเสียหาย หรือประชาชนเกิดความเข้าใจผิด หากเป็นเช่นนี้ประชาธิปัตย์ต้องชี้แจงเพื่อทำความเข้าใจ
“เรื่องนี้มีการพูดคุยกันแล้ว ขอนำเสนอแต่ทางเลือกคนเราดีกว่าอย่างไร นโยบายดีกว่าอย่างไร แคนดิเดตนายกฯ ของเราสู้คนอื่นได้อย่างไร เป็นนักประชาธิปไตยในวิถีทางที่ประเทศต้องการอย่างไร ประสบการณ์ทั้งด้านบริหารนิติบัญญัติทำมาอย่างไร สิ่งนี้เป็นสิ่งที่เราจะไปบอกกับพี่น้องประชาชนเป็นหลัก” นายจุรินทร์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงแผนการตั้งเวทีปราศรัยใหญ่ และการลงพื้นที่หาเสียงทั่วประเทศว่าจะมีขึ้นเมื่อไร หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า วางแผนไว้หลายรูปแบบ อย่างน้อย 3 ทัพจะได้ตระเวนไปทั่วประเทศ โดยได้แบ่งพื้นที่ชัดเจนแล้ว บางจังหวัดอาจมีซ้ำกัน แต่บางจังหวัดก็แบ่งกันไป และจะพยายามไปให้ทั่วถึงทั้งประเทศอีกครั้งในช่วงก่อนถึงวันเลือกตั้ง ซึ่งรูปแบบการพบปะพี่น้องประชาชนจะมีทั้งการจัดปราศรัยใหญ่ การปราศรัยย่อย รวมถึงการตระเวนในรูปแบบคาราวาน เพื่อพบปะพี่น้องประชาชนในหมู่บ้าน ชุมชน และพื้นที่ต่างๆ ตามความเหมาะสมต่อไป
ส่วนการปราศรัยใหญ่ของพรรคประชาธิปัตย์ในกรุงเทพมหานคร ที่จะจัดขึ้นที่ลานคนเมืองในวันพรุ่งนี้ นายจุรินทร์ กล่าวว่า สำหรับในพื้นที่กรุงเทพฯ คือลมหายใจของประชาธิปัตย์ เราหวังว่าเราจะได้เสียงตอบรับที่หายไปจากการเลือกตั้งครั้งที่แล้วกลับคืนมา ทั้งหมดนี้เมื่อดูจากเสียงตอบรับที่ได้ลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง และเราไม่เคยทิ้งคนกรุงเทพฯ ไปไหน ยามที่เผชิญวิกฤติโควิด ประชาธิปัตย์ก็เป็นหนึ่งในไม่กี่พรรค ที่ลงไปดูแลต่อเนื่อง ด้วยการจัดตั้งศูนย์ฉุกเฉิน สามารถเตียงให้ผู้ป่วยได้ถึง 5,000-6,000 เตียง จัดทำข้าวกล่องดิลิเวอรี่ส่งตรงถึงบ้าน ประชาธิปัตย์ก็จัดมาโดยต่อเนื่องในช่วงเวลาล็อกดาวน์ รวมทั้งถุงน้ำใจ ปชป. ที่เราทำมา ดังนั้น เมื่อถึงเวลาที่มีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. แม้เราไม่ได้รับเลือกตั้ง แต่ประชาธิปัตย์ก็มาเป็นอันดับ 2 ชนะหลายพรรคการเมืองที่ลงแข่งขัน ได้ ส.ก. ถึง 9 ที่นั่ง และได้ที่ 2 อีก 7 ที่นั่ง ทั้งหมดนี้คือเสียงตอบรับที่ดีขึ้น
“ตนลงพื้นที่ กทม. หลายพื้นที่ ต้องขอพูดซ้ำว่ามีหลายคนวิ่งมากอด แล้วมาบอกว่าขอโทษนะ คราวที่แล้วไม่ได้เลือก แต่คราวนี้ฉันจะช่วยเลือก ตนคิดว่านี่คือสัญญาณที่ดี ไม่ใช่มีคนเดียวแต่มีหลายคนทีเดียว มีหลายพื้นที่และหลายภาคทั่วประเทศ นี่คือสัญญาณที่ตนขอเรียกร้องถึงท่านที่ทิ้งเราไปคราวที่แล้ว ขอให้กลับมา มาช่วยกันสนับสนุนให้พรรคประชาธิปัตย์มีโอกาสทำเพื่อบ้านเมืองต่อไป” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว
ทุกๆ วันที่ 6 เมษายนของทุกปี พรรคประชาธิปัตย์จะจัดพิธีทำบุญครบรอบการก่อตั้งพรรคที่สำนักงานใหญ่ สำหรับปีนี้พรรคประชาธิปัตย์ครบรอบปีที่ 77 และก้าวเข้าสู่ปีที่ 78 ได้จัดพิธีทำบุญพรรคทั้ง 3 ศาสนาดังเช่นทุกครั้ง ได้แก่ พิธีทางศาสนาอิสลาม พิธีพราหมณ์บวงสรวงพระแม่ธรณีบีบมวยผม และพิธีทางศาสนาพุทธ โดยมีบุคคลสำคัญของพรรค ตั้งแต่นายชวน หลีกภัย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายบัญญัติ บรรทัดฐาน นายชำนิ ศักดิเศรษฐ์ นายนิพนธ์ บุญญามณี นายสุทัศน์ เงินหมื่น คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ น.ส.วทันยา บุนนาค นายนริศ ขำนุรักษ์ ไปจนถึงผู้สมัคร ส.ส. ทั้งจากกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด สมาชิกพรรค ผู้สนับสนุน และพี่น้องประชาชน เข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก.-สำนักข่าวไทย