“ศรีสุวรรณ” ร้องสอบรถหาเสียงผิดกฎหมาย

สำนักงาน กกต. 5 เม.ย.- “ศรีสุวรรณ” ร้องนายทะเบียนพรรคการเมือง ตรวจสอบพรรคการเมืองดัดแปลงกระบะ-รถยนต์หาเสียงผิดกฎหมาย จี้สั่งห้ามด่วน เกรงเป็นสองมาตรฐาน แต่ไม่แนะนำว่าให้ใช้รถอะไรแทน เชื่อพรรคการเมืองหาทางออกได้  


นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เดินทางมายื่นหนังสือขอให้นายทะเบียนพรรคการเมือง และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตรวจสอบการนำรถยนต์และรถกระบะมาดัดแปลงเป็นรถแห่หาเสียง ของพรรครวมไทยสร้างชาติ เพื่อไทย ประชาธิปัตย์ พลังประชารัฐ เสรีรวมไทย และอีกหลายพรรค หลังพบว่าการรับสมัครเลือกตั้ง ส.ส.ทั้งสองแบบ นำรถยนต์และรถกระบะมาดัดแปลงเป็นรถแห่หาเสียง 

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า การนำรถกระบะ รถปิกอัพ มาดัดแปลง ในอดีตที่ผ่านมาอาจทำได้ แต่ปัจจุบันอาจทำไม่ได้ เนื่องจากมีกฎหมายออกมาใหม่ เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2566 มีประกาศของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เรื่องเข็มขัดนิรภัย ซึ่งในประกาศดังกล่าวมีข้อกำหนดชัดเจน ห้ามมีการนั่งและยืนท้ายรถกระบะเด็ดขาด เมื่อมีกฎหมายออกมาบังคับใช้ขนาดนี้ ผู้สมัครและพรรคการเมือง ไม่สามารถที่จะใช้รถกระบะหาเสียง หรือยืนปราศรัยบริเวณท้ายรถกระบะ ไม่เช่นนั้นจะเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.จราจร พ.ศ.2522  


นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า มาตรา 22 ของ พ.ร.ป.พรรคการเมือง กำหนดไว้ชัดเจนว่า หลังจากมี พ.ร.ฎ.เลือกตั้งแล้ว เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการบริหารพรรคการเมือง ที่จะต้องควบคุมดูแลสมาชิกพรรคและผู้สมัครของพรรค ให้ทำตามกฎหมาย ไม่ละเมิด และหากกรรมการบริหารพรรครับทราบ ต้องหามาตรการแก้ไขโดยด่วน หรือถ้านายทะเบียนพรรคการเมืองแจ้งไปยังผู้บริหารพรรคการเมืองให้ยุติการฝ่าฝืนกฎหมายดังกล่าว และพรรคการเมืองต้องรายงานให้ กกต.ทราบว่าได้มีมติสั่งห้ามสมาชิกหรือผู้สมัคร ไม่ให้ฝ่าฝืนกฎหมายภายใน 7 วัน  

“หากพรรคการเมืองยังฝ่าฝืนอยู่ บทลงโทษคือ กรรมการบริหารพรรคทั้งหมดจะต้องพ้นจากตำแหน่งโดยทันที จึงร้องเพื่อให้นายทะเบียนดำเนินการบังคับใช้กฎหมายโดยเคร่งครัด ไม่เช่นนั้นจะถือว่าเป็นการเลือกปฏิบัติ เพราะอีกไม่กี่วันจะเข้าเทศกาลสงกรานต์ที่ประชาชนจำนวนมากจะเดินทางกลับภูมิลำเนา และเดินทางโดยรถกระบะกันเป็นส่วนใหญ่ และตำรวจต้องบังคับใช้กฎหมายห้ามนั่งหรือยืนท้ายรถกระบะ ซึ่งหากไม่ไปจับกุมนักการเมืองที่ยืนท้ายรถกระบะ ก็จะเป็นการเลือกปฏิบัติโดยทันที กฎหมายต้องเป็นกฎหมาย” นายศรีสุวรรณ กล่าว      

สำหรับเอกสารหลักฐานที่นายศรีสุวรรณ นำมายื่นประกอบคำร้อง เป็นภาพรถแห่ที่ดัดแปลงมาจากรถกระบะ อย่างเช่น รถแห่ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และแกนนำพรรค อยู่บนรถแห่หาเสียง พรรคเพื่อไทย ที่มี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายเศรษฐา ทวีศิลป์ นายชัยเกษม นิติสิริ พรรคก้าวไกล นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ พรรคประชาธิปัตย์ มีนายพงศกร ขวัญเมือง และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ พรรคพลังประชารัฐ นายวรพร อัศวเหม ผู้สมัคร ส.ส. และผู้สมัครพรรคเสรีรวมไทย รวมทั้งเห็นว่า การดัดแปลงดังกล่าวยังเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ.2522 และประกาศของนายทะเบียนรถยนต์ กรมการขนส่งทางบก การดัดแปลงสภาพรถผิดกฎหมาย หากจะกระทำต้องขออนุญาตก่อน 


ส่วนเมื่อถามว่า แล้วรถอะไรจะเหมาะสมกับการหาเสียง นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า เป็นเรื่องของพรรคการเมืองที่จะต้องไปคิดหาทางออกของเขา เราจะไปชี้แนะเขาไม่เหมาะสม.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ป.ป.ส. รวบ 3 นักค้ายาเสพติดต่างชาติ ที่สนามบินสุวรรณภูมิ

ป.ป.ส. รวบนักค้ายาเสพติดต่างชาติ 3 ราย ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ส่งออกไปอิตาลี-อังกฤษ เลขาฯ ป.ป.ส. เผยความสำเร็จครั้งนี้เป็นผลจากการประสานงานใกล้ชิดระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ตรวจสอบตลาดปาล์มน้ำมัน หลังราคาพุ่ง

ช่วงนี้น้ำมันปาล์มตามท้องตลาดปรับราคาแพงขึ้น จากเดิมขวดละราว 10 บาท ทำให้ผู้บริโภคถึงกับโอดครวญ ขณะที่เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน ระบุแม้ช่วงนี้ราคาปาล์มน้ำมันขายได้ราคาดีที่สุดในรอบหลายปี แต่เกษตรกรกลับไม่มีปาล์มขาย

ข่าวแนะนำ

เดินหน้าเสนอ ครม. ตั้งคณะกรรมการร่วมไทย-กัมพูชา เจรจาพื้นที่ทับซ้อน

กระทรวงการต่างประเทศ เดินหน้าเสนอ ครม. ตั้งคณะกรรมการร่วมด้านเทคนิค JTC ไทย-กัมพูชา เจรจาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลระหว่างไทยกับกัมพูชา ตามแนว MOU 2544 ยืนยันไม่ทำให้เสียเกาะกูด

เข้าสู่ฤดูหนาว

อุตุฯ ประกาศไทยเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว

กรมอุตุฯ ประกาศการเข้าสู่ฤดูหนาวของประเทศไทย ปี 2567 ตั้งแต่วันที่ 3 พ.ย. โดยเป็นการเข้าสู่ฤดูหนาวช้ากว่าปกติประมาณ 2 สัปดาห์ เนื่องจากมีพายุก่อตัวในมหาสมุทรแปซิฟิกและเคลื่อนเข้าสู่ทะเลจีนใต้ และยังมีฝนบางพื้นที่ ปีนี้จะหนาวกว่าปีที่แล้ว

ช้างพลายขุนเดช

ย้ายแล้ว “ช้างพลายขุนเดช” ไปสถาบันคชบาลแห่งชาติ จ.ลำปาง

ย้ายแล้ว “ช้างพลายขุนเดช” สู่สถาบันคชบาลแห่งชาติ จ.ลำปาง จบดราม่า หลังฝากเลี้ยงที่มูลนิธิอนุรักษ์ช้างและสิ่งแวดล้อม จ.เชียงใหม่