นิด้า 3 เม.ย.- นักวิชาการเชื่อแม้โพลเพื่อไทยนำโด่งในปากน้ำ แต่บ้านใหญ่ยังไม่สูญพันธุ์ น่าจะฝ่ากระแสเพื่อไทยมาได้เพียงเขตเดียว
นายสุวิชา เป้าอารีย์ ผู้อำนวยการศูนย์สำรวจความคิดเห็นนิด้าโพล กล่าวถึงผลสำรวจเลือกตั้ง 66 สมุทรปราการ ของ “นิด้าโพล” พบว่าผู้มีสิทธิเลือกตั้งซึ่งมีภูมิลำเนาในพื้นที่ เทใจให้เพื่อไทยทั้งคนทั้งพรรคว่า พื้นที่สมุทรปราการอยู่ใกล้เคียงกับกรุงเทพมหานคร ดังนั้น กระแสของกรุงเทพฯ อาจจะมีผลต่อจังหวัดสมุทรปราการ และต้องยอมรับว่าพื้นที่นี้เดิมเป็นของคนเสื้อแดง ซึ่งเป็นพื้นที่ของพรรคเพื่อไทยเก่า และจากโพลที่ออกมาจะพบว่ากระแสของพรรคเพื่อไทยสูงถึงร้อยละ 44 ขณะที่กระแสของพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งมีกลุ่มปากน้ำสังกัด ยังไม่ค่อยมี
ดังนั้น ต้องดูว่ามีปัจจัยอื่น อาจจะทำให้กลุ่มปากน้ำฝ่ากระแสของพรรคเพื่อไทยเข้ามาได้บ้าง เพราะถ้าดูจากผลการเลือกตั้งปี 62 หลายพื้นที่ โดยเฉพาะเขต 1 กลุ่มปากน้ำ ชนะมาเกือบหมื่น จึงน่าจะมีคะแนนเก่าบวกกับ คนที่ลงสมัครรับเลือกตั้งก็เป็นนักการเมืองท้องถิ่น ดังนั้น ในภาพรวมยังเชื่อว่าการเมืองแบบบ้านใหญ่ในจังหวัดสมุทรปราการ ยังสามารถกลับเข้ามาได้บ้าง
“ถ้าเราดูจากตรงนี้จะเห็นว่าพรรคเพื่อไทยในจังหวัดสมุทรปราการ มีฐานเก่าพอสมควร มีคนเสื้อแดงเยอะมาก แต่ครั้งที่แล้วที่แพ้เยอะ เพราะแพ้บ้านใหญ่และกระแสเสื้อแดงไม่ค่อยแรง ขณะที่กระแสลุงตู่อาจจะแรงจากกรุงเทพฯ และส่งผลกระจายมา ยังจังหวัดสมุทรปราการ” นายสุวิชา กล่าว
ด้านนายพิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองคณบดีฝ่ายวิชาการ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) กล่าวว่า จังหวัดสมุทรปราการอยู่ใกล้กับกรุงเทพมหานคร ประชาชนรับรู้ข้อมูลข่าวสารมาก และพื้นที่สมุทรปราการถือเป็นเมืองเศรษฐกิจ จึงมีความรู้สึกไวต่อสภาวะทางเศรษฐกิจและในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา คงจะได้รับความบอบช้ำทางด้านเศรษฐกิจมาพอสมควร จึงอยากทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง และจังหวัดสมุทรปราการเป็นพื้นที่ที่มีแรงงานอยู่จำนวนมาก และนโยบายเรื่องค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท คงจะจับใจผู้ใช้แรงงาน จึงทำให้คะแนนของพรรคเพื่อไทยมีสูง
“หากดูคะแนนจากโพลที่ออกมาตอนนี้ มองว่าบ้านใหญ่จะฝ่ากระแสเพื่อไทยมาได้เพียงเขตเดียว เพราะดูจากผลคะแนน แล้วพรรคเพื่อไทยแข่งกับพรรคก้าวไกล และเมื่อดูผลคะแนนแล้ว 2 พรรครวมกันมีถึงร้อยละ 70 จึงประเมินว่าพรรคเพื่อไทยน่าจะกวาดที่นั่งได้เป็นส่วนใหญ่ ทั้งนี้ เหตุผลที่กลุ่มบ้านใหญ่มีคะแนนตาม น่าจะเกิดจากปัจจัยหลายอย่าง ส่วนหนึ่งคนอยากเห็นการเปลี่ยนแปลง และการที่นายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม แกนนำบ้านใหญ่ เสียชีวิต ทำให้สถานการณ์ที่ไม่ค่อยดีอยู่แล้วยิ่งแย่ลงไปอีก” นายพิชาย กล่าว.-สำนักข่าวไทย